ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี – บทที่ 160 วัฏจักรนักล่า

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

เซี่ยงเวิ่นเหอตาแทบถลนออกจากเบ้า ดูป้ายคำสั่งในมือเซี่ยงเส้าหลง แล้วก็ดูที่อยู่ในมือตัวเองอีก ตัวสั่นระริก หน้าตาสับสนทำอะไรไม่ถูก “จะ…จะมีป้ายคำสั่งสองอันได้ยังไง? ไม่! ไม่ถูก! เท่าที่รู้ ป้ายประกาศิตมีแค่อันเดียวนี่!”

“ฉันรู้แล้ว! ของแกเป็นของปลอม!”

และทันใดนั้นเซี่ยงเวิ่นเหอก็หัวเราะเสียงดัง “เซี่ยงเส้าหลง! แกคิดว่าทำป้ายปลอมแล้วจะหลอกทุกคนได้เหรอ?!”

“ฉันจะบอกให้นะ ป้ายประกาศิตอยู่ที่ฉันมาตลอด มีแต่ที่อยู่ในมือฉันเท่านั้นที่เป็นของจริง!”

“องครักษ์ปาอ๋อง ยังรออะไรอยู่อีก! ฉันสิถึงจะเป็นเจ้านายตัวจริงของพวกแก! ไปฆ่ามันเร็ว!”

“เหรอ?”

เซี่ยงเส้าหลงเล่นป้ายคำสั่งในมือ ยิ้มมุมปาก “แล้วแกรู้ได้ยังไงว่าป้ายในมือฉันเป็นของปลอม?”

ว่าแล้วก็ทำเสียงเข้ม แผ่ความเย็นยะเยือกไปทั่ว “องครักษ์ปาอ๋อง!”

“ครับ!”

เสียงขานรับเป็นระเบียบของทั้งห้าสิบเสียงดังขึ้นพร้อมกันราวกับนักรบเรือนพัน กึกก้องอยู่ในตึงร้างราวกับบทเพลงที่มาจากนรกภูมิ!

“นี่…นี่มันเป็นไปได้ยังไง?!”

เซี่ยงเวิ่นเหอตะลึงงัน ผ่านไปหลายวินาทีแล้วใบหน้าก็เหงื่อชุ่ม มองเซี่ยงเส้าหลงที่เดินมาทางเขาทีละก้าวๆ เซี่ยงเวิ่นเหอไหนเลยจะโอหังเหมือนเมื่อครู่อีก ถอยหลังไปทีละก้าวๆ และจู่ๆ ก็สะดุดล้มโครมอยู่ที่พื้น เซี่ยงเส้าหลงแลมองจากที่สูง ค้อมตัวลงแล้วยิ้มตาหยีมองเขา “เมื่อกี้แกว่าอะไรนะ? จะส่งพวกเราสองพี่น้องลงนรกเหรอ?”

อึก!

เซี่ยงเวิ่นเหอกลืนน้ำลายลงอึก หวาดกลัวเป็นที่สุด “แก…แกอย่าเข้ามานะ!”

“จะ…จะเป็นไปได้ยังไง? ฉันเก็บป้ายประกาศิตไว้เองนี่ นอกจากฉัน…ขนาดท่านแม่ยังไม่รู้เลยว่าเก็บไว้ที่ไหน แก…แกขโมยไปตั้งแต่เมื่อไหร่?!”

“เหรอ? งั้นแกเคยคิดไหม ว่าป้ายประกาศิตมันไม่ใช่ของจริงตั้งแต่แรกแล้ว?”

“เป็นไปไม่ได้!”

เซี่ยงเวิ่นเหอปฏิเสธ “ก็ฉันขโมยมาจากมือไอ้แก่นั่นเอง…”

เมื่อพูดถึงตรงนี้แล้วก็หยุดกึก

ถึงเซี่ยงเวิ่นเหอจะโอหัง แต่ก็ไม่โง่ จริงอยู่ที่ขโมยป้ายคำสั่งมาจากคุณท่านเซี่ยง แต่ตอนนี้พอนึกย้อนดูแล้ว ป้ายคำสั่งนี้ก็เหมือนได้มาง่ายเกินไปหน่อย

องครักษ์ปาอ๋อง เป็นองครักษ์คนสนิทของผู้นำตระกูลเซี่ยง ฐานะไม่ธรรมดา ดังนั้นป้ายคำสั่งจึงเป็นสมบัติล้ำค่าของตระกูล แต่ตอนที่ตนรื้อห้องคุณท่านเซี่ยง ก็เจอได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องลำบากอะไรเลย อย่างกับ…วางทิ้งไว้เพื่อรอตนมาขโมยอย่างนั้น

ดะเดี๋ยวๆ!

ดวงตาเซี่ยงเวิ่นเหอเบิกโพลง ถ้ามีคนชักใยเรื่องทั้งหมดจริง เช่นนั้นก็มีแค่คนคนเดียวเท่านั้นที่ทำได้!

นั่นก็คือคุณท่านเซี่ยงที่เป็นอัมพาตนอนติดเตียงมานับสิบปี!

แต่ถ้าเป็นความจงใจของไอ้แก่นั่นจริง งั้นก็ไม่น่าให้พวกเขาควบคุมตระกูลเซี่ยงได้ง่ายอย่างนี้นี่!

นอกเสียจาก…ทั้งหมดนี้เป็นแค่หนึ่งในแผนการของไอ้แก่นั่นเท่านั้น!

แต่แผนการนี้ยังหวังผลอะไรอีกล่ะ?

ตระกูลเสิ่นใช้ท่านแม่เป็นเครื่องมือ คิดจะฮุบตระกูลเซี่ยง หรือว่า…ไอ้แก่นั่นจะวางแผนซ้อนแผน ใช้ท่านแม่เป็นเครื่องมือยึดครองตระกูลเสิ่นด้วย?

ไม่พูดไม่ได้เลย การคิดของเซี่ยงเวิ่นเหอ เพียงชั่วครู่เดียวก็ร้อยเรียงได้ชัดแจ้ง เขายิ่งคิดก็ยิ่งหวั่น ยิ่งคิดก็ยิ่งกลัว… ถ้าเป็นอย่างที่เขาคิดจริง เช่นนั้นความแนบเนียนไร้ที่ติของพวกเขาเมื่อก่อนหน้านั้นก็เป็นแค่เรื่องน่าขันนะสิ!

เดิมคิดว่าตระกูลเซี่ยงเป็นเหยื่อ แต่คิดไม่ถึงว่าตระกูลเซี่ยงจะกลายเป็นเสือไปนานแล้ว เฝ้ามองทุกความเคลื่อนไหวของพวกเขาที่เป็นจิ้งจอกอยู่นานแล้ว!

“แก…แกได้เจอกับ…ไอ้แก่นั่นแล้ว?”

เซี่ยงเวิ่นเหอพูดแบบตะกุกตะกัก

“โอ้โห…”

เซี่ยงเส้าหลงเลิกคิ้วเล็กน้อย “ตอนนี้ฉลาดขึ้นมาแล้วนี่!”

คำพูดเพียงประโยคเดียวราวกับคำตัดสิน เซี่ยงเวิ่นเหอหน้าซีดเผือดไปทันที

“สะ…เส้าหลง ปะ…ปล่อยฉันไปได้ไหม?!”

ทันใดนั้นเซี่ยงเวิ่นเหอมองเซี่ยงเส้าหลงด้วยความหวัง เต็มไปด้วยความเว้าวอน “ฉันรับรองว่าจะไปจากเมืองอ๋องเซี่ยงเดี๋ยวนี้เลย แล้วจะไม่โผล่มาให้เห็นหน้าอีก เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นที่นี่ ฉันจะไม่บอกพวกเขาแม้แต่คำเดียว!”

“ขอร้องล่ะ! ปล่อยฉันไปเถอะ!”

เมื่อเห็นเซี่ยงเวิ่นเหอน้ำหูน้ำตาไหลอ้อนวอนแล้ว เซี่ยงเส้าหลงก็ยิ้มมุมปาก “ไม่สนใจแม่แก พี่ชายแกแล้วเหรอ?”

เซี่ยงเวิ่นเหอส่ายหน้าหนัก “พวกเขาตั้งตัวเป็นปรปักษ์ ตายไปก็สมควรแล้ว! ฉันแค่ทำตามคำสั่ง ไม่เกี่ยวกับฉันเลย!”

“เหอะๆ…”

เซี่ยงเส้าหลงหัวเราะเสียงเบา ทุกสิ่งล้วนเป็นไปตามลิขิตสวรรค์และกฎแห่งกรรม

ผู้ไม่นับญาติ ญาติย่อมไม่เหลียวแลเช่นกัน!

เสิ่นเสว่เหลียน ดูลูกชายของคุณสิ นี่แหละคือกรรมตามสนอง!

“ลุกขึ้นมาเถอะ”

ใบหน้าเซี่ยงเวิ่นเหอเผยความดีใจทันที “รับ…รับปากจะปล่อยฉันไปแล้วใช่ไหม?”

เซี่ยงเส้าหลงส่ายหน้า พูดด้วยความเย็นชา “ก็แค่…อยากให้นายไปอย่างมีศักดิ์ศรีหน่อยเท่านั้นเอง”

เซี่ยงเวิ่นเหอตะลึงงัน จากนั้นความเจียมตัวเมื่อก่อนหน้าก็กลายเป็นความโหดร้าย “แกจะเอาชีวิตฉันให้ได้ใช่ไหม?!”

เซี่ยงเส้าหลงมองเขาอย่างเย็นชา “ถ้าเรามาเปลี่ยนบริบทกัน ป่านนี้ฉันกับพี่ก็คงได้ไปปรโลกนานแล้ว!”

“ฮ่าๆ… ฮ่าๆ…”

เซี่ยงเวิ่นเหอแหงนหน้าขึ้นฟ้าหัวเราะ “เซี่ยงเส้าหลง! แผนการตระกูลเสิ่นที่ทำมาเป็นสิบปี อนาคตรุ่งโรจน์ของพวกเราแม่ลูกกลับถูกทำลายด้วยน้ำมือแก!”

“ถ้าตอนแรกตระกูลเซี่ยงเห็นความสามารถล้นฟ้านี้ของมึง ตระกูลเสิ่นจะหลงลงมือกับตระกูลเซี่ยงง่ายๆ แบบนี้ได้ยังไง!”

“วันนี้ฉันคงหนีไม่พ้นความตายแล้ว แต่ช่างเถอะ ถึงยังไงก็กินข้าวตระกูลเซี่ยงโตมา ก่อนตายฉันจะบอกความลับกับแกเรื่องหนึ่ง!”

“มานี่ มึงเข้ามาใกล้ๆ!”

เซี่ยงเส้าหลงพ่นลมออกมุมปาก แล้วเดินตรงไปทางเขา เขาไม่กลัวว่าอีกฝ่ายจะเล่นลูกไม้อะไร เพราะถึงเขาชักปืนออกมาในเวลานี้ ด้วยระยะห่างนี้ ที่ตายก็ต้องเป็นตัวเขาเองอยู่แล้ว

สี่ก้าว สามก้าว สองก้าว…

เมื่อเห็นเซี่ยงเส้าหลงเดินเข้ามาจะถึงตัวแล้ว ดวงตาเซี่ยงเวิ่นเหอก็แวบความเย็นยะเยือกที่บ้าคลั่ง เมื่อมือลูบไปเครื่องจุดชนวนระเบิดสีแดงก็ปรากฏอยู่ในมือทันที ระเบิดที่อยู่ใต้ร่มผ้าเต็มตัวก็เริ่มเกิดประกายสีแดง!

วินาทีถัดมา เขาก็ก้าวขึ้นหน้ามาแล้วยื่นมือมากอดเซี่ยงเส้าหลงไว้ ตะโกนอย่างเสียสติ “อยากเอาชีวิตฉันนัก งั้นก็ตายเป็นเพื่อนฉันก็แล้วกัน! ฮ่าๆ…”

เงาในดวงตาใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ใบหน้าเซี่ยงเส้าหลงตึงเครียดทันที ขณะที่เท้ากำลังจะยืดออกไปก็มีร่างหนึ่งเข้าแทรกขั้นกลางพวกเขาทันที กอดรัดเซี่ยงเวิ่นเหอแน่น!

“เส้าหลง! หลบไป!”

“เซี่ยงเส้าจุน แกไสหัวออกไป!”

เซี่ยงเวิ่นเหอตะคอกด้วยความคลุ้มคลั่ง

ถูกต้อง คนที่แทรกเข้ามากะทันหันนั้นคนนั้นก็คือเซี่ยงเส้าจุนที่สังเกตการณ์อยู่ด้านข้างมาตลอดนั่นเอง

แต่สิ่งที่สะท้อนเข้าดวงตาเขากลับเป็นความมุ่งมั่นแน่วแน่ ไม่เพียงไม่หลบ ทั้งยังรัดเขาแน่นกว่าเดิม นัยน์ตาทั้งคู่แดงก่ำ พูดเสียงกร้าว “นายอย่าฝันว่าจะทำร้ายคนตระกูลเซี่ยงของได้ฉันอีก!”

“อ๊า…!!!”

จากนั้นก็ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี ดันเขาถอยหลังไปอย่างเร็ว

“อย่า!”

เร็ว…เร็วเหลือเกิน…

เร็วจนเซี่ยงเส้าหลงคิดไม่ทัน

ท่ามกลางความมืดมิด จากตึกร้างชั้นสิบเจ็ด…เซี่ยงเส้าจุนก็ผลักเซี่ยงเวิ่นเหอหายวับไปต่อหน้าตา!

สายลมอันหนาวเอย…ราวกับแช่แข็งหัวใจของเซี่ยงเส้าหลงในเวลานี้

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

Status: Ongoing
ลูกสาวถูกขายให้เป็นเจ้าสาวเด็ก ภรรยาตกเป็นหมากให้คนอื่น เซี่ยงเส้าหลงกลับมาพร้อมกับความโกรธ รวบอำนาจแห่งความยิ่งใหญ่ เทพสงครามเดือดผนึกโลก ยกกองทัพออกศึกสะท้านปฐพี

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท