ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี – บทที่ 171 ครั้งแรกที่ได้ยินชื่อโรงที่หนึ่ง

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

“คุณ……คุณหนูหู?”

มังกรเขียวตกตะลึงตาค้างไป เขาคาดไม่ถึงว่า เจ้าของโรงที่หนึ่งจะมาปรากฏตัวที่นี่จริงๆ ถึงแม้แก๊งมังกรเขียวของเขาจะเป็นใหญ่ในทิศตะวันตกของเมือง แต่ว่าถ้าอยู่ในเมืองซูหัง ก็เป็นได้แค่ส่วนเล็กๆ เท่านั้น ผู้หญิงตรงหน้ามีฐานะสูงส่งขนาดนั้น ไม่ใช่คนที่เขาสามารถเชิญมาได้ง่ายๆ

ตอนที่เห็นใบหน้าของเธออย่างชัดเจนนั้น สีหน้าของเซี่ยงเส้าหลงก็ดูตื่นเต้นมาก เพราะคนตรงหน้าไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นผู้หญิงที่เขาเจอเมื่อคืนนี้ เธอคือหูเม่ยเอ๋อ!

แต่พอหูเม่ยเอ๋อแต่งหน้าแต่งตัวสวยสง่าแบบนี้ เทียบกับเมื่อคืนแล้ว ก็ยิ่งดูมีเสน่ห์มากกว่าเดิม ทั้งสายตาและก็รอยยิ้ม ล้วนยั่วยวนใจของผู้ชายทุกคนในนี้

แม้แต่คนซื่อบื้ออย่างหลิวต้าหู่ พอเห็นหูเม่ยเอ๋อก็จ้องมองไม่ละสายตาเหมือนกัน แม้กระทั่งเลือดไหลลงมาอาบใบหน้าแล้ว ก็ยังไม่รู้สึกตัว

หูเม่ยเอ๋อเดินมาตรงหน้าเซี่ยงเส้าหลง แล้วยิ้มให้เขาอย่างมีเลศนัย จากนั้นก็เปลี่ยนมุมมองไป เธอก้มเหลือบมองไปที่มังกรเขียว “เมื่อครู่นี้เหมือนฉันได้ยินแกพูดว่า แกเป็นคนของฉันงั้นหรือ?”

“คุณหนูหู คือผม……ผมเป็นลูกน้องพี่ไท่ ก็……ก็ถือว่าเป็นคนของโรงที่หนึ่ง……”

ขณะที่มังกรเขียวพูด เขาก็มองสำรวจสีหน้าของหูเม่ยเอ๋อไปด้วย เพราะถึงอย่างไร สำหรับผู้หญิงเจ้าเล่ห์คนนี้ เขารู้สึกกดดันด้วยสัญชาตญาณ

ชื่อเสียงโรงที่หนึ่งในเมืองซูหัง แม้กระทั่งทั่วประเทศ ก็มีชื่อเสียงโด่งไม่น้อยเลย!

ภายนอก ที่นี่เป็นแค่โรงที่หนึ่งธรรมดา แต่โรงที่หนึ่งแห่งนี้ เป็นศูนย์รวมผู้หญิงสวยๆ มากมาย แม้แต่ผู้หญิงข้างนอกที่ถูกเชิดชูให้สวยเหมือนนางฟ้า แต่ว่าในโรงที่หนึ่งนี้ กลับมีนับไม่ถ้วน!

ไม่เหมือนกับผู้หญิงที่สวยแค่หน้าตา แต่ผู้หญิงในโรงที่หนึ่ง ทั้งสวยทั้งฉลาด กิริยามารยาทก็ดูเป็นคุณหนูผู้ดี นี่จึงทำให้ชื่อเสียงโด่งดังมาก จนทำให้เศรษฐีจากทั่วประเทศยอมลงทุนมาเที่ยว เพียงเพราะอยากมีโอกาสได้สัมผัสกับสาวสวยคนใดคนหนึ่งเท่านั้น!

ในโรงที่หนึ่ง มีสาวสวยราวกับนางฟ้าทั้งหมดเก้าสิบเก้าคน ล้วนแต่ใช้ชื่อดอกไม้แทนตัวเอง ส่วนหูเม่ยเอ๋อก็คือเจ้าของโรงที่หนึ่ง เป็นดอกไม้ที่เบ่งบานสง่ามากที่สุดในบรรดาดอกไม้ทั้งหมด นั่นก็คือดอกกุหลาบ!

“อาไท่เป็นลูกน้องของฉัน ถ้าอย่างนี้ แกก็ถือว่าเป็นคนของโรงที่หนึ่ง……”

ไพอด้ยินหูเม่ยเอ๋อพูดออกมาแบบนี้ มังกรเขียวค่อยโล่งอกไปหน่อย คนทั้งโลกรู้ว่าเจ้าของโรงที่หนึ่งปกป้องลูกน้องตัวเองมาก ขอแค่หูเม่ยเอ๋ออยากปกป้องเขา ต่อให้เซี่ยงเส้าหลงเป็นเทวดา วันนี้เขาก็ต้องปลอดภัยแน่นอน!

โรงที่หนึ่งไม่มีอำนาจอะไรเลย แต่บรรดาเบื้องหลังผู้หญิงเหล่านั้น ล้วนแต่เป็นผู้มีอำนาจที่สูงส่งทั้งนั้น

โรงที่หนึ่งที่มีอำนาจเหล่านี้ ต่อให้มีแค่มือเปล่า ก็ไม่มีใครกล้าหาเรื่องแน่นอน!

ใครจะรู้ ยังดีใจได้ไม่นาน น้ำเสียงของหูเม่ยเอ๋อก็เปลี่ยนไป ในแววตาก็แฝงไปด้วยความเยือกเย็น “ในเมื่อเป็นคนของโรงที่หนึ่งของฉัน แล้วแกรู้หรือเปล่า ถ้าเป็นหนอนบ่อนไส้ จะมีจุดจบอะไร!?”

ประโยคนี้ ทำให้มังกรเขียวอึ้งไปเลย พร้อมรีบคุกเข่าลงทันที “คุณหนูหู คุณพูดอะไรกันครับ ให้ความกล้ากับผมขนาดไหน ผมก็ไม่กล้าทรยศเป็นหนอนบ่อนไส้หรอกครับ!”

“งั้นเหรอ? ใช่สิ ลืมบอกอะไรแกไป ผู้บริหารลึกลับของกุหลาบกรุ๊ป จริงๆ แล้ว คือฉันเอง!”

เสียงดังโครม!

เหมือนโดนฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ มังกรเขียวอึ้งนิ่งอยู่กับที่!

ผู้บริหารของกุหลาบกรุ๊ปกับเจ้าของโรงที่หนึ่ง เป็นคนคนเดียวกันงั้นหรือ?!

พระเจ้า ทำไมถึงเล่นตลกอะไรแบบนี้?!

มังกรเขียวคิดอยากจะตายเสียตอนนี้เลย!

ถ้าเขารู้ว่าหูเม่ยเอ๋อเป็นเจ้าของทั้งธุรกิจทั้งสองแห่ง อย่าว่าแต่เงินสองแสนที่ฟางหวาให้เขาเลย ต่อให้เขาสักสองพันล้าน เขาก็คงไม่กล้าไปหาเรื่องกุหลาบกรุ๊ปหรอก!

พอคิดได้แบบนี้ สีหน้าของเขาก็ซีดขาว แล้วรีบก้มหัวขอร้อง “คุณหนูหู! ผมผิดไปแล้วครับ! ผมผิดไปแล้ว! เห็นแก่ที่ผมทำงานกับคุณมาตั้งนาน ผมขอร้องคุณให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะครับ!”

บนใบหน้าของหูเม่ยเอ๋อ แฝงไปด้วยความเลือดเย็น “ในเมื่อทำงานกับฉันมาตั้งนาน แม้แต่กฎของโรงที่หนึ่งก็ลืมงั้นหรือ?”

“ขอแค่เป็นคนของโรงที่หนึ่ง ถ้าไม่ได้รับอนุญาต ห้ามเกี่ยวข้องกับอำนาจใดๆ ทั้งสิ้น ห้ามไปหาเรื่องกับอำนาจใดๆ ด้วย!”

“ถึงแม้กุหลาบกรุ๊ปจะเป็นธุรกิจของฉัน แต่ว่าถ้าไม่ใช่ล่ะ? อยู่ดีๆ แกก็ไปหาเรื่องเศรษฐีอันดับสองในเมืองซูหังมาให้โรงที่หนึ่ง ถ้าเกิดความขัดแย้งกันขึ้นมา ผลที่ตามมา แกจะรับผิดชอบไหวเหรอ?”

“ใครก็ได้ ลากตัวมันออกไป แล้วลงโทษตามกฎของโรงที่หนึ่ง!”

มังกรเขียวถูกลากตัวไปด้วยสีหน้าสิ้นหวัง จากนั้นสายตาของหูเม่ยเอ๋อก็หันไป แล้วมองไปทางหลิวต้าหู่ที่กำลังตกตะลึง พร้อมเอ่ยพูดว่า “แกเป็นผู้จัดการฝ่ายรักษาความปลอดภัยของกุหลาบกรุ๊ปใช่ไหม?”

หลิวต้าหู่จะยังตั้งสติไม่ได้ จนกระทั่งฝ่ามือของเซี่ยงเส้าหลงตบมาที่ไหล่ของเขา เขาจึงสะดุ้งขึ้น แล้วใบหน้าก็ร้อนแดงขึ้นมาทันที พร้อมพูดอย่างติดๆ ขัดๆ ว่า “ครับ……ผมเองครับ!”

“คุณก็คือผู้บริหารของพวกผมนี่เอง สวย……สวยมากจริงๆ เลยนะครับ……”

หูเม่ยเอ๋อเม้มปากยิ้ม ท่าทางแบบนั้น ดูมีเสน่ห์จนหมู่จันทร์หลบโฉมสุดาหมู่ผาอายนางได้เลย

“ทำดีมาก บอกฝ่ายHR ขึ้นเงินเดือนให้หนึ่งขั้น ถือว่าเป็นรางวัล!”

จากนั้น ก็เหลือบมองเซี่ยงเส้าหลงอย่างเจ้าเล่ห์ แล้วเอ่ยว่า “ออกไปให้หมด ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณชายคนนี้สองต่อสอง”

ทุกคนถอยออกไป ในห้องจึงเหลือแค่พวกเขาสองคน หูเม่ยเอ๋อเดินไปตรงหน้าโซฟา แล้วนอนลงอย่างไม่สนใจภาพลักษณ์อะไรทั้งนั้น พร้อมบิดขี้เกียจอย่างอิดโรย แสงส่องลงมาที่เรียวขายาวๆ ทั้งสองข้าง สะท้อนจนทำให้ตาพร่ามัว

เซี่ยงเส้าหลงสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วสายตาก็มองไปที่เธออย่างนิ่งๆ “ตอนนี้ คุณจะอธิบายกับผมฟังได้หรือยัง?”

“เฮ้อ เซี่ยงเส้าหลงนายพลน้อยแห่งชายแดนเหนือ เทพรบผู้น่าเกรงขาม บุตรภรรยาหลวงตระกูลเซี่ยง ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไร ถึงต้องให้ผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างฉันอธิบายให้ฟังหรือคะ?”

เซี่ยงเส้าหลงหัวเราะในลำคอ เวลาแค่คืนเดียว ก็สามารถสืบเรื่องตัวเองได้ละเอียดขนาดนี้ สมกับเป็นเจ้าของโรงที่หนึ่ง!

โรงที่หนึ่งแห่งนี้ เขาก็เคยได้ยินมาบ้าง แต่ว่าสิ่งที่ทำให้เขาตื่นเต้นไม่ใช่เหล่าผู้หญิงสวยๆ พวกนั้น แต่กลับเป็นความสามารถของเส้นสายแหล่งข่าวของโรงที่หนึ่งที่คนอื่นเทียบเคียงไม่ได้ต่างหาก!

ความลับบนโลกใบนี้ อยู่แค่ในมือของคนกลุ่มเล็กๆ คนกลุ่มเล็กๆ ที่พูดถึงนั้น ล้วนแต่เป็นแขกวีไอพีของโรงที่หนึ่ง!

แต่ว่า เซี่ยงเส้าหลงก็ไม่ได้เกรงกลัว พร้อมใช้สายตาที่รุ่มร้อนจ้องมองเธออยู่ แล้วพูดอย่างไม่เกรงใจว่า “ในเมื่อนี่เป็นเรื่องส่วนตัวของพวกคุณ จะให้ผมออกหน้าแทนทำไม? หรือว่า เพื่อที่จะลองใจผม ดูว่าผมมีคุณสมบัติที่จะทำเงื่อนไขสามข้อที่ตกลงคุณได้หรือไม่ ใช่ไหม?”

“ช่างเป็นผู้ชายที่ฉลาดจริงๆ ”

หูเม่ยเอ๋อยอมรับอย่างเปิดเผย แววตาก็เป็นประกายมากกว่าเดิม “เคยได้ข่าวคราวความน่าเกรงขามของนายพลน้อยแห่งชายแดนเหนือมาบ้าง วันนี้ได้เจอด้วยตัวเอง ถึงรู้ว่าน่าสนใจกว่าในข่าวเสียอีก……”

เซี่ยงเส้าหลงขมวดคิ้วแน่น เขาไม่ชอบมากๆ ความรู้สึกที่โดนหลอกใช้นี้ ความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อหูเม่ยเอ๋อจึงลดลงไปไม่น้อย และมองเธออย่างเย็นชา “เพราะฉะนั้น เรื่องทั้งหมด เป็นแผนที่คุณวางไว้ตั้งแต่แรกใช่ไหม?”

หูเม่ยเอ๋อแสดงสีหน้าน้อยใจ “นายพลน้อยเซี่ยง คุณเข้าใจฉันผิดแล้วล่ะค่ะ ฉันกับคุณ ก็แค่เคยเจอกันเมื่อคืนเองนะคะ!”

เซี่ยงเส้าหลงยิ้มอย่างเยือกเย็นในใจ แล้วเอ่ยพูดตรงๆ ว่า “บอกเงื่อนไขอีกสองข้อที่เหลือมาเถอะครับ!”

“เฮ้อ เป็นผู้ชายที่ไม่น่าตื่นเต้นเอาซะเลย……”

หูเม่ยเอ๋อยิ้มอ่อน พร้อมเอ่ยตอบว่า “เงื่อนไขข้อที่สองนั้นง่ายมาก คุณชายฟางหวาของบริษัท ต้าหวา จำกัดชอบมาตอแยฉัน ช่วยฉันจัดการคนน่ารังเกียจอย่างหมอนั่นได้ไหม!”

ถ้าผู้ชายทั่วไปได้พอได้ยินน้ำเสียงที่ออดอ้อนแบบนี้ คงต้องตอบตกลงอย่างไม่ต้องคิดอะไรมากแน่นอน แต่เซี่ยงเส้าหลงกลับยิ้มอย่างเยือกเย็นในใจ นี่เหมือนเอาตัวเองไปเป็นที่หลบภัย แล้วเป็นการสร้างศัตรูให้ตัวเองไม่ใช่เหรอ?

“ขอโทษนะครับ เงื่อนไขนี้ของคุณ ผมตกลงไม่ได้!”

“หา? ยอมรับไม่ได้จริงๆ เหรอคะ?”

แววตากลมโตเป็นประกายของหูเม่ยเอ๋อเอาแต่จ้องมองเขา

เซี่ยงเส้าหลงหันหน้าหนี “ไม่ได้!”

“ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ!”

พูดจบ เขาก็เปิดประตูออกไปโดยที่ไม่หันหน้ากลับมาเลย

ส่วนหูเม่ยเอ๋อก็ยังอยู่ท่าเดิม จนกระทั่งเซี่ยงเส้าหลงเดินจากไปนานแล้ว ดวงตาของเธอจึงยิ้ม “ไม่ได้เจอผู้ชายที่น่าสนใจแบบนี้นานแล้ว แต่ว่าเรื่องนี้ ไม่ว่ายังไง นายจะยอม จะไม่ยอมก็ต้องยอมอยู่ดี……”

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

Status: Ongoing
ลูกสาวถูกขายให้เป็นเจ้าสาวเด็ก ภรรยาตกเป็นหมากให้คนอื่น เซี่ยงเส้าหลงกลับมาพร้อมกับความโกรธ รวบอำนาจแห่งความยิ่งใหญ่ เทพสงครามเดือดผนึกโลก ยกกองทัพออกศึกสะท้านปฐพี

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท