ในฐานะเส้นถนนแข่งสำหรับประชาชนที่ใหญ่ที่สุดในเมืองซูหัง เขามังกรขดช่างสมกับชื่อเลย ประดุจมังกรใหญ่นอนขด เป็นสนามแข่งเฉพาะทางที่ตื่นเต้นที่สุดใหญ่ที่สุดภายในทั่วทั้งเมืองซูหัง!
ที่นี่ทุกวันมักจะดึงดูดคนที่ชื่นชอบการแข่งรถมากมายมารวมตัวกัน และในฐานะเทพรถที่มีชื่อเสียงของเมืองซูหัง การแข่งของเถียนเซิ่งกับเซี่ยงเส้าหลงต้องดึงดูดสายตาคนจำนวนมากอยู่แล้ว!
รถแข่งสองคันมาถึงเส้นเริ่มต้น ยังไม่ทันเริ่มก็มีเสียงหัวเราะดังครืนลอยมา!
“ฉันไม่ได้ตาฝาดใช่ไหม! การแข่งรถของVolkswagen BeetleกับFerrari? ไอ้หนุ่มนั่นเอาความกล้าหาญมาจากไหนกัน? เทพเจ้าหรอไง?
“เหอะเหอะ การแข่งที่รู้ผลแน่นอนอยู่แล้วแบบนี้ ไม่จำเป็นต้องแข่งเลยนี่นา!”
ทุกคนต่างพากันโห่ใส่เซี่ยงเส้าหลง ตอนนี้ร่างแน่งน้อยที่ทำให้ผู้ชายทุกคนหยุดหายใจเดินเข้ามา จากนั้นท่ามกลางสายตาทุกคน เธอเปิดประตูรถVolkswagen Beetle ก้าวขึ้นไปนั่งบนรถ
หลังจากความเงียบงันหลายวินาที ความโกลาหลเกิดขึ้นทันที!
“พระเจ้า! เมื่อกี้ฉันตาฝาดไปหรือไง?”
“ทำไมถึงเห็นสาวสวยสุดฮอตคนหนึ่งขึ้นไปนั่งบนรถVolkswagen Beetleคันนั้น?”
“ไอ้หนูนั่นมีสิทธิ์อะไร กล้าเอารถทุเรศแบบนี้มารับสาวสวยขนาดนั้น?”
ถึงจะกั้นด้วยกระจก แต่คำวิพากษ์วิจารณ์และความริษยาของทุกคนยังลอยเข้าหูเซี่ยงเส้าหลงอยู่ดี เขาเหล่หูเม่ยเอ๋อที่อยู่ข้างๆ พลางถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจ “คุณจะสร้างปัญหาให้ผมน้อยๆหน่อยไม่ได้หรือไง?”
หูเม่ยเอ๋อรัดเข็มขัดนิรภัยเสร็จ มองเขาด้วยสายตาน้อยใจว่า “หรือว่า ในฐานะคู่หมั้นคุณแล้ว ฉันไม่ควรสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับคุณหรือไง?”
เซี่ยงเส้าหลงไม่มีอะไรจะพูดเลย ส่วนเถียนเซิ่งที่อยู่ข้างๆเห็นเทพธิดาสาวประจำใจตนนั่งที่นั่งข้างคนขับในรถคนอื่น ความริษยาเข้มข้นพุ่งสูงอย่างบ้าคลั่ง เขาจับพวงมาลัยแน่นมาก แอบสาบานในใจเงียบๆว่า จะต้องให้เซี่ยงเส้าหลงชดใช้อย่างสาสมแน่!
“ทั้งสองฝ่ายพร้อม!”
ตามหลังเสียงร้องบอกของพริตตี้คนหนึ่ง รถสองคันค่อยๆเคลื่อนตัวไปอยู่ที่จุดเริ่มต้น
เถียนเซิ่งเลื่อนกระจกรถลง มองเซี่ยงเส้าหลงอย่างเหยียดหยามว่า “ไอ้หนู ยอมแพ้ตอนนี้ก็ยังทันนะ!”
“ถ้าถึงตอนที่ตามท้ายรถฉันยังไม่ทันแล้วอยากยอมแพ้ มันจะไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกนะ!”
เซี่ยงเส้าหลงเลื่อนกระจกรถขึ้นอย่างเฉยเมย ไม่แม้แต่จะมองมาทางเขาเลยสักนิด!
เจอเซี่ยงเส้าหลงเมินเฉยใส่แบบนี้ สีหน้าเถียนเซิ่งแดงก่ำขึ้นด้วยสีเลือดหมู ตามหลังการโบกธงในมือพริตตี้สะบัดลง เถียนเซิ่งเหยียบคันเร่งจนมิด ตะคอกดังว่า “เซี่ยงเส้าหลง ไอ้ขยะอย่างแก ลองรับรู้ว่าอะไรเรียกว่าความเร็วของความสิ้นหวังดูหน่อยเถอะ!
จากนั้นFerrariทะยานออกไปเห็นเป็นแสงสีแดง ประสานกับเสียงแตรสนั่นหวั่นไหว เร็วจนถึงหนึ่งร้อยเมตรไม่ถึงสี่วินาที เสียงบรื้นดังขึ้น พุ่งทะยานออกไปเลย!
มองผ่านกระจกหลัง พบว่าVolkswagen Beetleสีชมพูคันนั้นกำลังค่อยๆขับเคลื่อนด้วยความเร็วประหนึ่งหอยทาก แต่แค่พริบตาเดียวก็ทิ้งระยะห่างกันไม่น้อยเลย!
เถียนเซิ่งยิ้มมุมปาก “Volkswagen BeetleจะมาเทียบFerrariได้ยังไง? อย่าล้อเล่นน่า! รถขยะแบบนั้น ความเร็วสูงสุดก็แค่สองร้อยต้นๆ ส่วนรถตัวเองความเร็วสูงสุดได้ถึงสี่ร้อย แค่จุดนี้ การแข่งนี้ก็ชนะขาดแล้ว!”
เมื่อเผชิญหน้ากับFerrariที่หายวับไปจากสายตาเธอ เซี่ยงเส้าหลงกลับไม่ร้อนรนเลย ในขณะเดียวกันที่รักษาระดับความนิ่งของรถตนไว้ ก็ค่อยๆเพิ่มความเร็วขึ้น เห็นท่าทางมั่นคงนิ่งเฉยของเขาแล้ว หูเม่ยเอ๋อมองเขาอย่างไม่เข้าใจ ถามกระเซ้า “ทำไม? นี่เตรียมยอมแพ้แล้วหรอ?”
เซี่ยงเส้าหลงเลิกคิ้วขึ้น “การแข่งพึ่งจะเริ่มต้น ทำไมจะยอมแพ้แล้วหรือไง?”
หูเม่ยเอ๋อชี้ไปด้านหน้าอย่างหน่ายใจ “คุณไม่เห็นหรือไงว่า รถเถียนเซิ่งห่างไปไม่เห็นเงาแล้วหรือไง?”
“ดูจากความเร็วคุณตอนนี้ อย่าว่าแต่ไฟท้ายเขาเลย ต่อให้มีท่อไอเสียอยู่ด้านหลังก็คงไม่ได้กลิ่นหรอก!”
เซี่ยงเส้าหลงยิ้มมุมปาก “คุณให้ผมเอาVolkswagen Beetleไปแข่งทางตรงกับFerrari? ล้อเล่นอะไรน่ะ! ต่อให้ผมเร่งความเร็วจนเจ๊ง ก็ไล่ตามFerrariไม่ทันหรอก!”
หูเม่ยเอ๋อกะพริบตาปริบๆ พูดอย่างไม่เข้าใจว่า “งั้นคุณ…”
เซี่ยงเส้าหลงยิ้มอย่างมั่นใจว่า “อย่าใจร้อนสิ! ให้เขาวิ่งไปก่อน!”
การที่เขามังกรขดมีชื่อเสียง เป็นเพราะเส้นทางคดเคี้ยวเป็นขดยืดยาวไม่สิ้นสุดของมัน ตอนนี้เถียนเซิ่งกำลังเข้าสู่ทางเลี้ยวที่หนึ่ง เริ่มลดความเร็วลง เขาเปิดอินเตอร์คอมไร้สาย และถามขึ้น “นี่ ไอ้หนูนั่นเป็นยังไงบ้างละ?”
ลูกน้องที่คอยดูตลอดทางพูดอย่างดูถูกว่า “อย่าพูดเลยครับ! คุณชายเถียน! ตอนนี้หมอนั่นยังขับเคลื่อนด้วยความเร็วร้อยกิโลเมตรต่อชม.อยู่เลย คาดว่าคุณคงต้องจอดรถรอสักห้านาที มันถึงจะได้เห็นไฟท้ายรถคุณ!”
“ฮะฮะ…”
แววตาเถียนเซิ่งบ้าคลั่งสุดๆ “ฉันก็ว่าแล้ว นั่นน่ะขยะที่แกล้งโอ้อวดไปงั้นแหละ!”
ความเร็วของเขาเริ่มทยอยลดลงมา เขาจงใจรอเซี่ยงเส้าหลง รอจนมันผ่านตนไป จะได้เหยียดให้สะใจสักรอบ จากนั้นก็จะใช้ฝีมือจริงๆกดมันให้จมดินไม่เหลือซากเลย!
ส่วนอีกด้าน เซี่ยงเส้าหลงที่เห็นโค้งแรกในที่สุด จู่ๆก็กลับทำหน้าประหลาดใจขึ้นมากะทันหัน
สายตาเขาฉายแวววิบวับนับไม่ถ้วน เขายิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์ขึ้น พูดว่า “คุณหนูหู! คุณต้องจับพนักให้มั่นเลยนะ!”
พอเห็นท่าทีเขาแบบนี้แล้ว หูเม่ยเอ๋อกระตุกใจ คว้าจับพนักที่นั่งอัตโนมัติ มองเขาด้วยสีหน้าตื่นเต้น
“Ferrariเป็นราชารถแข่ง แต่Volkswagen Beetleมีข้อดีอยู่อย่างที่ไม่ว่าจะทำยังไงเขาก็ทาบไม่ติดเลย!”
“ก็คือฐานล้อ!”
“ฐานล้อที่ยิ่งสั้น ก็แสดงถึงว่าเวลาเลี้ยวก็จะยิ่งเข้าใกล้วงในมากขึ้น และก็จะประหยัดเวลาได้มากด้วย!”
“ดังนั้นหมายถึง…”
สายตาเขาวาบขึ้น เหยียบคันเร่งจนมิด “ทางเลี้ยว! ถึงจะเป็นที่ที่ตัดสินแพ้ชนะกัน!”
“ความเร็วกับความตื่นเต้น กำลังจะเริ่มต้นขึ้น!”
วินาทีนี้Volkswagen Beetleคันน้อยน่ารักนี่ทำตัวประหนึ่งสัตว์ป่าดุร้ายที่นอนหลับใหลมาช้านาน พลันตื่นขึ้น ประสานเสียงแตรลั่นสนั่น รถคันน้อยเร่งทะยานด้วยความเร็วอย่างหาใครเปรียบไม่ได้ออกไป!
แค่ไม่ถึงสามวินาที เร็วเกินร้อย เขาเข้าทางโค้งตอนเร็วถึงระดับเก้าสิบ เซี่ยงเส้าหลงกลับไม่ได้ลดทอนความเร็วลงเลย อาศัยฝีมือสุดยอด รถแนบติดวงในของภูเขา ประหนึ่งดาวตกที่เกิดขึ้นแล้ววาบผ่านหายไป!
หูเม่ยเอ๋อที่อยู่ด้านข้างนิ่งอึ้งไปเลย เธอเองก็มีรถแข่ง และเคยเล่นรถแข่งที่ผ่านการปรับแต่งมาก่อน แต่นักแข่งรถที่ฝีมือประณีตแบบนี้อย่างเซี่ยงเส้าหลง อย่าว่าแต่เคยเห็นเลย ได้ยินยังไม่เคยเลยด้วยซ้ำ!
พริบตาเดียว ดวงตางามฉายแวววิบวับขึ้น หนุ่มน้อย เธอยังมีเซอร์ไพรส์อะไรให้ฉันอีกเนี่ย…
Volkswagen Beetleจะสามารถนำหน้าFerrariได้จริงๆหรอ?
ส่วนหลายคนที่คอยจับตาดูทิศทางการบังคับของเซี่ยงเส้าหลงอยู่อีกด้าน พอเห็นVolkswagen Beetleทะยานไปไม่เห็นเงา ก็ตกใจอึ้งไปเลย พวกเขาอึ้งไปหลายวินาที ก็รีบเปิดโดรนติดตามตัว พอพวกเขาเห็นความเร็วในตอนนี้ของVolkswagen Beetle แต่ละคนอ้าปากค้างไปตามๆกัน!
“นี่… Volkswagen Beetleจริงหรอ?”
“สวรรค์…ความเร็วสูงสุดของVolkswagen Beetleแค่สองร้อยต้นๆเองไม่ใช่หรอ? ตอนนี้ยังไง ความเร็วของVolkswagen Beetleคันนี้ไม่ต่ำกว่าสามร้อยแล้วนะ!”
พอเห็นฉากนี้ บรรดาลูกน้องรีบรายงานทุกอย่างที่เห็นให้กับเถียนเซิ่ง พอได้ยินอย่างนั้น เถียนเซิ่งดวงตาแทบถลนออกมา เขาตะคอกดังเลยว่า “พวกแกโง่หรือเปล่า! นั่นน่ะVolkswagen Beetleนะ! Volkswagen Beetleรู้ไหม?!”
“แกเคยเห็นVolkswagen Beetleที่เร็วเกินสามร้อยหรือไงหะ? แถมความเร็วในการเลี้ยวยังไม่ต่ำกว่าสองร้อยด้วย? ทำไมแกไม่บอกว่ามันบินผ่านทางเลี้ยวไปเลยล่ะ!”
เถียนเซิ่งไม่เชื่อเลยสักนิด เขาในฐานะนักแข่งรถคนหนึ่ง เคยศึกษารถมาหลากหลายชนิดแล้ว รถอย่างVolkswagen Beetle ไม่มีสิทธิ์เป็นรถแข่งเลยด้วยซ้ำ!
ในตอนนี้เอง เสียงแตรดังสนั่นหวั่นไหวดังมาจากด้านหลังเขา เถียนเซิ่งเกร็งสายตา มองผ่านกระจกหลัง เงารถสีชมพูผ่านทางเลี้ยวฉับพลัน แถมเพราะความเร็วสุดนั่นอีก ล้อรถสองล้อแทบจะลอยกลางอากาศ พอเลี้ยวแล้ว ก็ลงพื้นอย่างมั่นคง ไม่มีแววหยุดเลยสักนิด ประหนึ่งฟ้าแลบแวบผ่านเถียนเซิ่งไป!
พริบตาเดียวก็เข้าทางเลี้ยวต่อไป หายวับไปไร้ร่องรอย!
เถียนเซิ่งเบิกสองตากว้าง เขาขยี้ตาตัวเองอย่างไม่เชื่อสายตา รถสีชมพู?
คันที่พึ่งผ่านไปเมื่อกี้คงไม่ใช่Volkswagen Beetleของเซี่ยงเส้าหลงหรอกนะ?