“เซี่ยงเส้าหลง คุณ……”
“ฉิวหนิว!”
เซี่ยงเส้าหลงไม่ให้โอกาสซ่งจ้านพูดเลย และยังคงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้างว่า “กองทัพเทียนซ่าอยู่ที่ไหน?”
เพื่อที่จะค้นหาอวิ๋นเสว่เหยน เซี่ยงเส้าหลงระดมกองทัพเทียนซ่าที่ดีที่สุดของกองทัพชายแดนเหนือมาค้นหาที่เมืองซูหางทันที!
“เรียนนายพลน้อย กองทัพเทียนซ่ามาถึงแล้ว พร้อมรับคำสั่งของนายพลน้อยครับ!”
“คอยจับตาดูทุกคนที่อยู่ที่นี่ ถ้าใครกล้าตุกติก ฆ่าทันที!”
ประโยคนี้ ทำให้สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปอย่างมาก!
ความเยือกเย็นที่แผ่ออกมาจากคำประโยคนั้น เหน็บหนาวกว่าสายลมยามค่ำคืนนี้!
เมื่อมีคำสั่งลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทุกคนเริ่มเคลื่อนไหว เซี่ยงเส้าหลงมองอวิ๋นเสว่เหยนที่อยู่ในอ้อมแขนของตนเอง แก้มที่แดงและบวมช้ำของเธอ ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างอธิบายไม่ถูก และเสื้อผ้าที่ถูกฉีกขาดบนหน้าอกของเธอแยงตาเป็นอย่างมาก เขาอยากรู้ แต่เขาไม่กล้าถามว่าอวิ๋นเสว่เหยนผ่านอะไรมาบ้าง? สุดท้ายเขาก็ฮึ่มประโยคหนึ่งด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิด ถอดเสื้อคลุมของตนเองออกและคลุมร่างกายอันบอบบางของอวิ๋นเสว่เหยนไว้ แสงเยือกเย็นในดวงตาของเขามากขึ้นกว่าเดิม!
“เซี่ยงเส้าหลง พวกเราจำเป็นต้องคุยกัน!”
เมื่อเห็นว่าเซี่ยงเส้าหลงมีเจตนาสังหารจริงจัง สีหน้าของซ่งจ้านเปลี่ยนไป เขาครุ่นคิด และเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาก่อน
เซี่ยงเส้าหลงเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง และกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “เจ้าบ้านซ่งอย่าใจร้อน สักครู่ผมจะให้เวลาคุณพูด!”
“เซี่ยงเส้าหลง คุณมันบังอาจ!”
“ถึงอย่างไรผมก็เป็นเชื้อสายราชวงศ์ แม้ว่าคุณจะเป็นนายพลน้อย แต่คุณเป็นแค่ทหาร คุณมีสิทธิ์อะไรมากักบริเวณผม!”
“สำหรับผมแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องพิจารณาว่ามีหรือไม่มี เพียงแค่ต้องพิจารณาต้องการหรือไม่ต้องการเท่านั้น!”
“เซี่ยงเส้าหลง!”
ซ่งจ้านหรี่ตาแล้วมองไปที่เขา “ตระกูลซ่งของผมมีเพื่อนสนิทอยู่ที่กองทัพหลายคน คุณเชื่อหรือไม่ว่าผมจะไปฟ้องคุณที่กองทัพ ก็สามารถส่งคุณขึ้นศาลทันที!”
ดวงตาของเซี่ยงเส้าหลงหรี่ลง เปล่งประกายแสงเยือกเย็น เขาไม่รู้สึกกลัวอิทธิพลของซ่งจ้านแม้แต่น้อย “ขอแค่คุณสามารถออกจากที่นี่ได้อย่างปลอดภัย ก็แล้วแต่คุณ!”
ซ่งจ้านส่ายหน้า “คุณหมายความว่ายังไง? คุณจะเอาชีวิตของผมหรือ?”
สีหน้าของเซี่ยงเส้าหลงเย็นชา “ไม่เพียงแต่คุณ ทุกคนที่อยู่ที่นี่ คืนนี้อาจจะไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้!”
“ฮ่า ๆ ๆ” ซ่งจ้านหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เคราปลิวไสว ดวงตาคมราวกับกระบี่ ทันใดนั้นเขาก็ดึงปืนออกมาจากเอวของผู้คุ้มกัน และเล็งตรงไปที่เซี่ยงเส้าหลง “ได้ยินมาว่าเมื่ออยู่ในสนามรบเซี่ยงเส้าหลงเป็นคนเลือดเย็นและโหดเหี้ยม ฆ่าคนไปมากมาย วันนี้ให้ผมได้เปิดหูเปิดตาว่าคุณจะเอาชีวิตของผมอย่างไร?!”
“เจ้าบ้านซ่งดึงดันจะทำตามใจตนเองโดยไม่ฟังข้อเสนอของคนอื่นหรือ?”
“เซี่ยงเส้าหลง คุณรังแกคนมากเกินไปแล้ว!”
“ผมรังแกคนมากเกินไป?”
“ฮ่า ๆ!…….”
ด้วยเสียงหัวเราะที่ยาว จากนั้นคำพูดที่เย็นชาก็ดังก้องไปทั่วคฤหาสน์ “แฟนของผมถูกทรมานจนเกือบตายในบ้านตระกูลซ่งโดยไม่มีเหตุผล การที่ผมไม่ได้ฆ่าคนทั้งหมดของตระกูลซ่ง ถือว่าได้ระงับอารมณ์ไว้สุดขีดแล้ว ซ่งจ้าน คุณคิดว่าสถานะเชื้อสายราชวงศ์ของคุณ จะสามารถข่มขู่ผมได้หรือ?!”
คำพูดหยิ่งผยองดังก้องไปทั่ว อวิ๋นเสว่เหยนเงยหน้าขึ้น คำพูดของเขาทำให้คนฟังรู้สึกเวียนหัวตาลาย ทุกคนมองไปที่อวิ๋นเสว่เหยนด้วยความริษยา ในโลกนี้คนที่กล้าพูดกับเชื้อสายราชวงศ์ด้วยคำพูดเช่นนี้เพียงเพื่อผู้หญิงคนเดียว มีเพียงเซี่ยงเส้าหลงคนเดียวเท่านั้น!
และอวิ๋นเสว่เหยนเป็นผู้หญิงคนเดียวที่มีสิทธิ์นี้เท่านั้น!
“เรียนนายพลน้อย!”
ขณะนี้ เลี่ยหลงมารายงานว่า “นายน้อยตระกูลซ่งกำลังพักฟื้นอยู่บนห้องพักชั้นสามของคฤหาสน์!”
“ผมเคยบอกแล้วว่า นำคนรวมตัวที่นี่ทั้งหมด!”
“ไม่! เซี่ยงเส้าหลงคุณทำแบบนี้ไม่ได้!”
เมื่อเกี่ยวกับหลานชายของตนเอง ซ่งจ้านตื่นตระหนกทันที “ชิงจู๋เพิ่งจะทำแผลเสร็จ บาดแผลยังไม่หายดี เขายังไม่ได้สติ และยังไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ เขาต้องการพักผ่อน เซี่ยงเส้าหลง คุณห้ามยุ่งกับหลานชายของผมเด็ดขาด!”
“ซ่งชิงจู๋และแฟนของผมได้รับความทุกข์ทรมานเช่นนี้ ซึ่งเขามีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันโดยตรง ถ้าเขาไม่ออกหน้า แล้วใครจะออกหน้าล่ะ!”
“เลี่ยหลง นำตัวซ่งชิงจู๋ออกมา!”
บางทีหลังจากเวลาผ่านไปนาน หลายคนอาจลืมไปแล้วว่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ เป็นคนที่ฆ่าคนมาแล้วนับหมื่นคน!
เมื่อเทียบกับความโหดเหี้ยมแล้ว เซี่ยงเส้าหลงก็ไม่แพ้ใครเช่นกัน!
สำหรับเขาแล้วชีวิตความเป็นความตายของผู้อื่นก็ไม่ต่างไปจากมด!
“เซี่ยงเส้าหลง! นายพลน้อยเซี่ยง!”
เสียงของซ่งจ้านแผ่วลง “หลานชายผมก็เป็นเหยื่อเช่นกัน เขาถูกลอบสังหารโดยไม่มีสาเหตุ จนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด เรื่องทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลย!”
“คุณหมอ! คุณหมอ! รีบพูดอะไรบ้าง!”
หมอหลายคนที่ถูกซ่งจ้านลากออกมาจากบ้านกลางดึก ตกใจกลัวการต่อสู้ที่ดุเดือดเช่นนี้ หลังจากได้ยินคำพูดของซ่งจ้าน แพทย์อาวุโสคนหนึ่งกัดฟันเดินออกมา หันหน้าไปทางเซี่ยงเส้าหลง กล่าวเสียงสั่นว่า “คุณ…คุณชายท่านนี้ คนไข้เพิ่งได้รับการเย็บแผลเมื่อสักครู่ ยังขยับไม่ได้จริง ๆ มิเช่นนั้นจะทำให้เลือดออกเป็นครั้งที่สอง เมื่อเป็นเช่นนั้น เกรงว่าจะบาดเจ็บหนักยิ่งขึ้นไปอีก!”
ขณะนี้ อวิ๋นเสว่เหยนดึงแขนเสื้อของเซี่ยงเส้าหลง และกล่าวเบา ๆ ว่า “เซี่ยงเส้าหลง ผู้ชายคนนั้นไม่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องนี้ คุณอย่าทรมานเขาเลย!”
เซี่ยงเส้าหลงจ้องเธออย่างดุดัน “ดูสภาพของคุณตอนนี้สิ แล้วยังมีใจไปห่วงคนอื่นอีก? ฮึ่ม! คุณชอบทำตัวเป็นคนดี แต่คุณมักจะพบกับคนชั่วช้าเลวทราม!”
สีหน้าของซ่งจ้านอึดอัด เขารู้ว่าคำพูดของเซี่ยงเส้าหลงนั้นกล่าวพาดพิงถึงใคร ตอนนี้เขารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ถ้าเขาสุขุมอีกนิดและไม่หยิ่งผยอง บางทีเขาอาจจะสามารถสร้างมิตรภาพที่ดีกับเซี่ยงเส้าหลงเพราะเรื่องนี้ก็ได้!
ตอนนี้ตระกูลซ่งต้องการความช่วยเหลือจากภายนอก ไม่ใช่ต้องการศัตรูที่แข็งแกร่ง!
แต่ทั้งหมดนี้มันสายเกินไปแล้ว!
“ผม……”
อวิ๋นเสว่เหยนมุ่ยปากเบา ๆ เหมือนต้องการจะกล่าวอะไรบางอย่าง แต่ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกเวียนศีรษะ ดวงตาของเธอพร่ามัว และเธอก็หมดสติไปทันที เซี่ยงเส้าหลงกอดอวิ๋นเสว่เหยนเอาไว้ แล้วนั่งลงจากนั้นก็วางศีรษะอวิ๋นเสว่เหยนบนตักของตนเอง และใช้มือข้างหนึ่งหนุนหลังศีรษะของเธอไว้ ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล “เหยนเหยน! เหยนเหยนคุณเป็นอะไร?! รีบตื่นเถอะ!”
ไม่ว่าเขาจะเรียกอย่างไร อวิ๋นเสว่เหยนยังคงแนบนิ่ง แม้แต่ลมหายใจของเธอก็อ่อนลงมาก
“อิ่งทู่!””
“เร็ว! รีบไปเชิญจางเหม่ยมา!”
“เร็วเข้า!”
“พวกคุณตามผมไป!”
ขณะพูด เซี่ยงเส้าหลงกอดอวิ๋นเสว่เหยนอย่างอ่อนโยน และกล่าวกับหมอ จากนั้นเขาก็เหลือบมองเลี่ยหลงอีกครั้งด้วยเจตนาฆ่าที่รุนแรงและกล่าวว่า “ดำเนินการตามคำสั่งของผมเมื่อสักครู่ ก่อนที่ผมจะกลับมาไม่อนุญาตให้ใครออกจากที่นี่ ถ้าใครกล้าบุ่มบ่ามก็……”
ภายใต้เมฆดำที่ปกคลุมดวงจันทร์ ถ้อยคำอันเย็นเยียบดังก้อง!
“ฆ่า!”