จางเหม่ยมาถึงอย่างรวดเร็ว โชคดีที่แพทย์เหล่านี้ได้นำอุปกรณ์ทางการแพทย์มาด้วยทั้งหมด ตอนที่มาทำการรักษาซ่งชิงจู๋ เมื่อจางเหม่ยมาถึง เธอได้เลือกแพทย์สองคนเป็นลูกมือ
เซี่ยงเส้าหลงมองอยู่ด้านข้างด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดใจ
จางเหม่ยค่อย ๆ จัดการกับบาดแผลบนร่างกายของอวิ๋นเสว่เหยน โดยเฉพาะตอนที่ทำความสะอาดแผลที่แขนซ้ายของเธอ ถึงแม้ว่าอวิ๋นเสว่เหยนจะยังไม่ได้สติในระหว่างการทำความสะอาดบาดแผล แต่เธอขมวดคิ้วและครางเบา ๆ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบาดแผลที่แขนนั้นทำให้เธอเจ็บปวดเป็นอย่างมาก!
เซี่ยงเส้าหลงแอบกำหมัดไว้แน่น เมื่อเธอเจ็บปวด หัวใจของเขาก็เจ็บปวดเช่นกัน!
หลังจากได้ทำความสะอาดเช็ดคราบเลือดบนแขนเสร็จแล้ว บาดแผลเล็ก ๆ มากมายก็ปรากฏขึ้นบนแขนขาวนวลของเธอ ซึ่งมันน่าเกลียดราวกับใยแมงมุม ทำให้ใบหน้าของเซี่ยงเส้าหลงเคร่งขรึมเป็นอย่างมาก!
เจตนาฆ่าที่รุนแรงปรากฏอยู่ในดวงตาของเขา ทำให้อุณหภูมิในห้องลดลงหลายองศา!
จากนั้นเขาก็ถามว่า “คุณจาง เป็นไปได้ไหมที่บาดแผลเหล่านี้บนแขนของเหยนเหยนจะไม่เป็นรอยแผลเป็น?”
จางเหม่ยลังเลเล็กน้อยแล้วพยักหน้า “ถ้าใช้ยาทั่วไป จะเกิดรอยแผลเป็นไม่มากก็น้อย อย่างไรก็ตาม ตระกูลจางของฉันมีสูตรยาหนึ่งสูตร ไม่ว่ารอยแผลเป็นชนิดใด ก็สามารถลบได้อย่างสมบูรณ์ และผิวหนังสามารถหายกลับไปเป็นเหมือนเดิม เพียงแต่ยาสูตรนี้มีเฉพาะในตระกูลจางเท่านั้น ยากที่ที่อื่นนั้นจะมี ดังนั้นจะต้องไปรักษาด้วยตนเองที่ตระกูลจางเท่านั้น!”
เซี่ยงเส้าหลงพยักหน้าโดยไม่ลังเล “ไม่มีปัญหา หลังจากจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้ว ผมจะพาเหยนเหยนไปที่ตระกูลจาง!”
“เอาล่ะ เธอไม่ได้เป็นอะไรมาก เธอแค่โดนน้ำสาด แล้วก็ถูกลมเย็น จนทำให้เธอหมดแรงและหมดสติไปชั่วคราว ฉันได้สั่งยาจีนให้เธอสองสามชุด หลังจากกินเข้าไปแล้ว เธอก็จะตื่นขึ้นมาเอง!”
“ขอบคุณ คุณจางมาก!”
หลังจากทำความสะอาดแผลให้อวิ๋นเสว่เหยนแล้ว จางเหม่ยออกจากห้อง ส่วนเซี่ยงเส้าหลงนั้นไม่ไปไหน เขาดึงเก้าอี้แล้วนั่งอยู่ข้างเตียงและมองอวิ๋นเสว่เหยนอย่างเงียบ ๆ เหมือนรูปปั้น เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด ทันใดนั้นอวิ๋นเสว่เหยนก็ส่งเสียงฮัมเบา ๆ เซี่ยงเส้าหลงลืมตาขึ้นทันที อวิ๋นเสว่เหยนกะพริบตาเบา ๆ และค่อยๆ ลืมตาขึ้น เมื่อเธอเห็นสีหน้าที่กังวลของเซี่ยงเส้าหลงปรากฏอยู่ตรงหน้า อวิ๋นเสว่เหยนอยากจะขยับ แต่ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกเจ็บปวดไปทั่วร่างกาย คร่ำครวญและนอนลงบนเตียงอีกครั้ง
“อย่าเพิ่งขยับ!”
เซี่ยงเส้าหลงรีบช่วยพยุงเธอ กล่าวอย่างกังวลและตำหนิว่า “ตอนนี้ร่างกายของคุณอ่อนแอมาก! อย่าเพิ่งขยับ ต้องนอนพักผ่อนอย่างว่าง่าย!”
อวิ๋นเสว่เหยนมองเซี่ยงเส้าหลงราวกับฝัน เวลาผ่านไปนานก่อนที่เธอจะกล่าวอย่างช้า ๆ ว่า “เซี่ยงเส้าหลง ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม ฉันยังไม่ตายหรือ?”
เซี่ยงเส้าหลงลูบผมของเธอเบา ๆ ด้วยความรัก “เด็กโง่! คุณจะตายได้อย่างไร?”
“มีผมอยู่ตรงนี่ ถึงแม้ว่ายมบาลจะต้องการชีวิตคุณ ก็ต้องถามว่าผมยินยอมหรือไม่!”
อวิ๋นเสว่เหยนรู้สึกอบอุ่น เธอกำลังจะลุกขึ้นนั่ง แต่เธอรู้สึกเจ็บแขนซ้าย เซี่ยงเส้าหลงรีบช่วยพยุงแขนซ้ายของอวิ๋นเสว่เหยนที่พันด้วยผ้าพันแผล เขาจับเบา ๆ ขมวดคิ้วแล้วถามว่า “เจ็บไหม?”
อวิ๋นเสว่เหยนขมวดคิ้ว แล้วมองเขาอย่างด้วยแววตาน่าสงสาร “เจ็บ!”
“สมน้ำหน้า! ผมจะคอยดูว่าต่อไปคุณจะกล้ายุ่งเรื่องของคนอื่นอีกหรือไม่!”
เซี่ยงเส้าหลงเบิกตากว้าง และฮึ่มประโยคหนึ่งด้วยความโกรธ
เมื่อฟังความกังวลอย่างเกรี้ยวกราดของเซี่ยงเส้าหลง อวิ๋นเสว่เหยนร้องไห้ออกมาด้วยความคับข้องใจ ราวกับหญิงสาวที่เสียใจและรอการปลอบโยนจากคนรัก
หลังจากประสาตาเป็นเวลาสามวินาที เซี่ยงเส้าหลงติดหลุมพรางของเธอ เขาถอนหายใจ เสียงของเขาก็อ่อนลง และกล่าวต่อไปว่า “จำไว้ต่อไปถ้าคุณอยากจะเข้าไปยุ่งเรื่องของคนอื่น คุณต้องดูว่ามีผมอยู่เคียงข้างหรือไม่!”
“จางเหม่ยได้รักษาบาดแผลให้คุณแล้ว บาดแผลไม่ได้ร้ายแรงอะไร ทั้งหมดเป็นอาการบาดเจ็บที่ผิวหนังเท่านั้น แต่อาจมีรอยแผลเป็นที่แขน”
“ห๊ะ? แผลเป็นเหรอ? ไม่มั้ง…”
อวิ๋นเสว่เหยนมุ่ยปาก สำหรับผู้หญิงที่รักสวยรักงามแล้ว การมีรอยแผลเป็นบนส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายถือเป็นความจริงที่ทนไม่ได้!
เมื่อเห็นท่าทางของเธอ เซี่ยงเส้าหลงแอบยิ้มในใจและลูบหัวเล็ก ๆ ของเธอ “วางใจเถอะ เมื่อสักครู่จางเหม่ยบอกผมว่าเธอมียาดี ที่สามารถลบรอยแผลเป็นทุกชนิดได้!”
“เมื่อคุณหายดีแล้ว พวกเราจะไปที่ตระกูลจาง!”
“จริงหรือ?”
อวิ๋นเสว่เหยนมองเขาด้วยความปีติยินดี “คุณไม่ได้โกหกฉันใช่ไหม”
เซี่ยงเส้าหลงยิ้มเบา ๆ “ผมจะโกหกคุณได้อย่างไร เด็กโง่!”
ใบหน้าของอวิ๋นเสว่เหยนแดงก่ำ บรรยากาศในห้องก็กลายเป็นซับซ้อนขึ้นมา ขณะนี้พวกเขาทั้งสองเป็นเหมือนคู่รักที่อยู่ในช่วงความรักร้อนแรง อ่อนโยนและอ่อนหวาน
หลังจากผ่านไปนาน อวิ๋นเสว่เหยนก็บ่นว่า “ถ้าคำเหล่านี้ ถูกพูดในโรงภาพยนตร์มันคงจะดีไม่น้อย……”
เซี่ยงเส้าหลงมองเธอ “เมื่อคุณหายจากอาการบาดเจ็บแล้ว ผมสัญญาว่าจะพาคุณไปดูหนัง!”
“ดูหนังที่มีแต่เราสองคน!”
“จริงหรือ?!”
“ผมเคยโกหกคุณเมื่อไหร่?”
“โอเค งั้นพวกเราพูดคำไหนคำนั้น!”
“คำไหนคำนั้น”
“แต่ตอนนี้ คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง”
“รู้สึกดีขึ้นแล้วหรือยัง?”
“งั้นก็ลุกขึ้น ไปกันเถอะ!”
อวิ๋นเสว่เหยนมองเขาด้วยความสงสัย “คุณจะทำอะไร?”
ใบหน้าที่อ่อนโยนของเซี่ยงเส้าหลงเปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยมทันที สายตาของเขาหันไปทางหน้าต่าง และดวงตาของเขาเปล่งประกายเจตนาฆ่าที่รุนแรง และกล่าวว่า “ฆ่าคน!”