ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 753 บทส่งท้าย

ตอนที่ 753 บทส่งท้าย

เมื่อถึง​เทศกาล​ตรุษจีน​ซี​หนิง​ปี​ที่สาม​ ​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​คึกคัก​กว่า​แต่ก่อน​ไม่น้อย​

เรื่อง​แรก​คือ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ถูก​แต่งตั้ง​ให้​เป็น​ราชครู​ไท่​จื่อ​ ​กลายเป็น​ขุนนาง​ใหญ่​ของ​ต้า​โจว​ ​ต่อมา​สวี​ลิ่ง​ควน​ที่​ดำรงตำแหน่ง​เป็น​องครักษ์​วัง​หลวง​มานาน​เกือบ​ยี่สิบ​ปี​เลื่อน​ตำ​แหน่​เป็น​ผู้บัญชาการ​กอง​ปัญจ​ทิศ​รักษา​นคร​ ​ถึงแม้​จะ​ดูแล​เรื่อง​ทั่วไป​แต่​ก็​เป็น​ขุนนาง​ระดับ​สาม​ ​เมื่อถึง​เทศกาล​โคมไฟ​ ​สวี​ซื่อ​เซิ​นก​็​ถูก​แต่งตั้ง​เป็น​ผู้บัญชาการ​ทหาร​รักษาการณ์​ขุนนาง​ระดับ​สี่

หน้า​ประตู​จวน​สกุล​สวี​มี​รถม้า​ที่​ตกแต่ง​ด้วย​ม่าน​สีฟ้า​ปัก​ลาย​มังกร​ ​ไม่​ก็​ม่าน​สีขาว​ปัก​ลาย​หัว​สิงโต​ไป​ๆ​ ​มา​ๆ​ ​ไม่ขาดสาย

สวี​ซื่อ​จิ​่​นอด​ไม่ได้​ที่จะ​เกา​หัว​ตัวเอง​ ​“​กลางเดือน​สอง​แล้ว​ ​เหตุใด​คน​ถึง​เยอะ​ขนาด​นี้​”

เขา​สวม​ชุด​คลุม​เผา​จื่อ​สีเขียว​อม​ม่วง​ ​เนื่องจาก​เดินทาง​ทั้งวันทั้งคืน​ ​เนื้อตัว​เลย​ดู​มอมแมม​ ​ถึงแม้​เนื้อตัว​จะ​เต็มไปด้วย​คราบ​ฝุ่น​ ​แต่​ดวงตา​ของ​เขา​กลับ​ดู​สดใส​ ​สีหน้า​ของ​เขา​มี​ความ​น่าเกรงขาม​ ​แค่​ดูก​็​รู้​ว่า​ไม่ใช่​คน​ทั่วไป​ ​ยาม​ที่​เขา​เดิน​เข้ามา​ ​ทุกคน​ล้วน​ต้อง​หันมา​มอง​

“​ได้ยิน​ว่า​ท่าน​โหว​ ​คุณชาย​ห้า​และ​คุณชาย​น้อย​เจ็ด​เลื่อนตำแหน่ง​ไม่ใช่​หรือ​ขอรับ​”​ ​เห็น​ประตู​ใหญ่​ที่​คุ้นเคย​ ​ฉั​งอา​นก​็​ยิ้ม​อย่าง​มีความสุข​ ​“​คงจะ​เป็น​ผู้คน​ที่มา​แสดงความยินดี​ขอรับ​!​”

เขา​ช่วย​สวี​ซื่อ​จิ​่​นลา​กม​้า​ ​ถึงแม้​พวกเขา​สอง​คน​จะ​แต่งตัว​เหมือนกัน​ ​รูปร่าง​สูง​และสง่า​งาม​เหมือนกัน​ ​สีหน้า​ของ​สวี​ซื่อ​จิ​่น​ดู​ผ่อนคลาย​และ​มั่นใจ​ ​แต่​ท่าที​ของ​เขา​กลับ​ดูระ​มัด​ระวัง​ ​สายตา​ของ​ทุกคน​จึง​มอง​มาที​่​สวี​ซื่อ​จิ​่น​เป็น​คน​แรก

ทันใดนั้น​ก็​มี​คน​เห็น​สวี​ซื่อ​จิ​่น

“​คุณชาย​น้อย​หก​ ​คุณชาย​น้อย​หก​ขอรับ​…​”​ ​ผู้ดูแล​ที่อยู่​หน้า​ประตู​ทิ้ง​บรรดา​ที่ปรึกษา​และ​ผู้ดูแล​ที่​นำ​เทียบ​เชิญ​มาส​่ง​แล้ว​ยิ้ม​อย่าง​ประจบสอพลอ​อยู่​ตรงนั้น​ ​จากนั้น​ก็​รีบ​วิ่ง​เข้ามา​ ​“​ไอ​๊​หยา​ ​คุณชาย​น้อย​หก​จริงๆ​ ​ด้วย​!​”​ ​ผู้ดูแล​คน​นั้น​พูด​พร้อมกับ​โค้ง​คำนับ​สวี​ซื่อ​จิ​่น​ ​“​คุณชาย​น้อย​หก​…​”​ ​ยัง​ไม่ทัน​ได้​พูด​อะไร​ ​เขา​ก็​ตบ​ปาก​ตัวเอง​เบา​ๆ​ ​“​ดูปาก​ของ​บ่าว​สิ​ขอรับ​ ​คารวะ​ท่านปั​๋ว​ขอรับ​ ​บ่าว​พูด​ไม่เก่ง​ ​ตอนนี้​เรียก​ท่าน​ว่า​คุณชาย​น้อย​หก​ไม่ได้​แล้ว​ ​ต้อง​เรียกว่า​อู่​จิ้นปั​๋ว​ต่างหาก​”​ ​พูด​จบ​ก็​โค้ง​คำนับ​สวี​ซื่อ​จิ​่​นอี​กค​รั้ง​ ​“​สุขสันต์​วัน​ปีใหม่​ขอรับ​!​ ​ขอให้​ท่าน​มีโชค​ลาภ​ ​เจริญก้าวหน้า​…​”

เขา​ยัง​พูด​ไม่ทัน​จบ​ ​คน​เฝ้า​ประตู​ที่​ได้ยิน​เสียง​การเคลื่อนไหว​ก็​พากั​นวิ​่​งก​รู​เข้ามา​

“​ท่านปั​๋ว​ ​บ่าว​คือ​โก่งฝู​ ​สุขสันต์​วัน​ปีใหม่​ขอรับ​!​”

“​ท่านปั​๋ว​ ​บ่าว​คือ​จี๋​เฉียง​ ​ท่าน​จำได้​หรือไม่​ ​พี่​หญิง​ของ​บ่าว​เป็นสาว​ใช้​ของฮู​หยิน​สี่​ ​สุขสันต์​วัน​ปีใหม่​ขอรับ​!​”

เสียงดัง​เอะอะโวยวาย​ ​ราวกับ​ตลาดสด​ก็​ไม่​ปาน

สวี​ซื่อ​จิ​่น​หัวเราะ​ ​หันไป​บอก​ฉั​งอาน​ ​“​ตกรางวัล​ให้​พวกเขา​!​”

ฉั​งอาน​ยิ้ม​แล้ว​หยิบ​ถุงเงิน​ปัก​ตัวอักษร​สมพร​ปรารถนา​ที่​ใช้​มอบ​รางวัล​ให้​บ่าว​รับใช้​โดยเฉพาะ​ออกมา​ ​เจอ​หน้า​ใคร​ก็​ตกรางวัล​ให้​พวกเขา

ทันใดนั้น​ก็​มี​คนพูด​ว่า​ ​“​ไอ​๊​หยา​ ​พี่​ฉั​งอาน​ ​บุตรชาย​ผู้ดูแล​ว่าน​ไม่ใช่​หรือ​ ​เป็น​คน​ของ​ท่านปั​๋ว​ ​หาก​เจอ​บน​ท้องถนน​ ​เกรง​ว่า​คงจะ​ไจำ​ไม่ได้​!​ ​“

ฉั​งอาน​ยิ้ม​อย่าง​แผ่วเบา​ ​แต่​ไม่ได้​ปริปาก​พูด​อะไร

บรรดา​ที่ปรึกษา​และ​ผู้ดูแล​ที่มา​ส่ง​เทียบ​เชิญ​ล้วนแต่​เป็น​คนฉลาด​ ​พวกเขา​เดิน​เข้ามา​ ​เมื่อ​บ่าว​รับใช้​สกุล​สวี​เริ่ม​สงบ​ลง​ ​พวกเขา​ก็​จัด​เสื้อผ้า​ตัวเอง​แล้ว​เดิน​เข้ามา​คำนับ​สวี​ซื่อ​จิ​่น

สวี​ซื่อ​จิ​่​นพูด​คุย​กับ​พวกเขา​อย่าง​มีมา​รยาท

มีบ​่า​วรับ​ใช้​ที่​ไหวพริบดี​รีบ​วิ่ง​ไปรา​ยงาน​ไท่ฮู​หยิน​ ​สือ​อี​เหนียง​และ​สวี​ลิ่ง​อี๋

ผ่าน​ไป​ไม่นาน​ ​พ่อบ้าน​ไป๋​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​และ​คนอื่นๆ​ ​ก็​ออกมา​ต้อนรับ

“​น้อง​หก​!​”​ ​ใบหน้า​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​เต็มไปด้วย​ความ​งุนงง​ ​“​บอกว่า​จะ​กลับมา​ปลายเดือน​สอง​ไม่ใช่​หรือ​ ​เหตุใด​วันที่​สิบ​เดือน​หนึ่ง​ก็​กลับมา​แล้ว​เล่า​”

“​รีบ​เดินทาง​ขอรับ​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จิ​่​นพูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​คำนับ​สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​จากนั้น​ก็​ชี้​ไป​ที่​รถม้า​เจ็ด​แปด​คันที​่​อยู่​ข้างหลัง​ ​“​ข้างใน​ล้วนแต่​เป็น​สิ่งของ​ที่​นำมา​ให้​ทุกคน​ ​พี่​สี่​บอก​ให้​คน​มา​เก็บ​เถิด​ ​ข้า​ไปหา​ท่าน​แม่​กับ​ท่าน​ย่า​ก่อน​!​”

“​คุณชาย​น้อย​ไป​กัน​เถิด​!​”​ ​พ่อ​บ่าน​ไป๋​เอ่ย​ขึ้น​อย่างเอาใจใส่​ ​“​เรื่อง​ที่นี่​บ่าว​กับ​ฉั​งอาน​จัดการ​เอง​ขอรับ​!​”

สวี​ซื่อ​จิ​่​นพ​ยัก​หน้า​ ​จากนั้น​ก็​พูด​กับ​ฉั​งอา​นว​่า​ ​“​ให้​พ่อ​บ่าน​ไป๋​จัดการ​ ​เจ้า​กลับ​ไป​พักผ่อน​เถิด​ ​คนใน​ครอบครัว​คง​คิดถึง​เจ้า​อยู่​”​ ​พูด​จบ​ก็​เดิน​ไป​ลาน​หลัง​กับ​สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​

“​เป็น​เช่นไร​บ้าง​ ​เจ้า​อยู่​ที่​กุ้ย​โจว​สบายดี​หรือไม่​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ยิ้ม​แล้ว​ถาม​เขา​ ​“​ดูท่า​ที​ของ​เจ้า​แล้ว​ ​ไม่เลว​เลย​ทีเดียว​!​”

“​แน่นอน​ขอรับ​”​ ​สวี​ซื่อ​จิ​่น​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ท่าน​เห็น​ข้า​เป็น​คน​ยอม​เสียเปรียบ​อย่างนั้น​หรือ​”

เพิ่งจะ​พูด​จบ​ก็​มี​คน​วิ่ง​เข้ามา​สอง​คน​ ​“​พี่​หก​ ​พี่​หก​…​”

พวกเขา​คือ​สวี​ซื่อ​เซิ​นกั​บส​วี​ซื่อ​เฉิง

“​น้อง​เจ็ด​ ​น้อง​แปด​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จิ​่น​เดิน​เข้าไป​โอบ​ไหล่​สวี​ซื่อ​เซิน​ด้วย​ท่าที​สนิทสนม​ ​“​ข้า​ยัง​กลัว​ว่า​เจ้า​จะ​เดินทาง​ไป​เหอ​หนาน​แล้ว​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​เจ้า​ยังอยู่​ที่​จวน​ ​ได้ยิน​ว่า​เจ้า​ถูก​แต่งตั้ง​เป็น​ผู้บัญชาการ​ทหาร​รักษาการณ์​ ​ยินดี​ด้วย​!​”​ ​พูด​จบ​ ​เขา​ก็​ปล่อยมือ​แล้ว​มอง​สวี​ซื่อ​เซิน​ตั้งแต่​หัว​จรด​เท้า​ ​หยอกล้อ​เขา​ ​“​ไม่เลว​ๆ​ ​ไม่​เจอกัน​แค่​ประเดี๋ยวเดียว​ ​เจ้า​เปลี่ยนไป​ไม่น้อย​”​ ​เขา​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​ประเดี๋ยว​ข้า​ไป​เลี้ยง​ยินดี​ให้​เจ้าที่​หอ​ชุน​ซี​”​ ​จากนั้น​ก็​มอง​ไป​ที่​สวี​ซื่อ​จุน​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​และ​สวี​ซื่อ​เฉิง​ที่อยู่​ใน​เหตุการณ์​ ​แล้ว​พูด​อย่างตรงไปตรงมา​ ​“​ถึง​ตอนนั้น​ทุกคน​ต้อง​ไป​ด้วย​ ​เรา​จะ​ดื่ม​กัน​ให้​เต็มที่​”​ ​เขา​พูด​ด้วย​ท่าที​เคร่งขรึม​ ​มีกลิ่น​อาย​ของ​การ​เป็น​ผู้บังคับบัญชา

น้องชาย​ที่​ยัง​ต้อง​ให้​เขา​ดูแล​เมื่อ​วันวาน​ ​ราวกับ​กลายเป็น​ผู้ใหญ่​ในทันที​ ​ไม่เพียงแต่​ทำให้​ปีก​ที่​กาง​ออกมา​ของ​เขา​ดู​อ่อนแอ​ไร้​เรี่ยวแรง​ ​ซ้ำ​ยัง​ราวกับว่า​ต้อง​ให้​เขา​เป็น​คนดู​แลตัว​เอง​…​การเปลี่ยนแปลง​ที่​กะทันหัน​ทำให้​สวี​ซื่อ​จุน​ไม่​คุ้นชิน​ ​เขามอง​น้องชาย​ตัวเอง​ด้วย​สายตา​ที่​สลับซับซ้อน​ ​ทันใดนั้น​ก็​เงียบเสียง​ไป

สวี​ซื่อ​เฉิง​มอง​สวี​ซื่อ​จิ​่น​ด้วย​สายตา​ที่​เต็มไปด้วย​ความนับถือ

หลังจาก​พี่​หก​เข้ามา​สอบ​ใน​เมืองหลวง​ ​เขา​ก็​ต้อง​ไป​กุ้ย​โจว​กับ​พี่​หก​!​ ​พี่​หก​เป็น​คนตรง​ไป​ตรง​มา​ ​เป็น​ลูกผู้ชาย​ที่แท้​จริง​ ​เขา​ต้อง​เป็น​เหมือน​พี่​หก​ให้​ได้

“​ยัง​จะ​มาดื​่ม​ให้​เต็มที่​อีก​!​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ยิ้ม​แล้ว​ตำหนิ​สวี​ซื่อ​จิ​่น​ ​“​ระวัง​ท่าน​แม่​รู้​แล้ว​จะ​โกรธ​เจ้า​!​”

สวี​ซื่อ​จิ​่น​หัวเราะ​

มี​ชาย​อายุ​ราว​สี่​สิบ​ปี​สอง​คนที​่​สวม​ชุด​เครื่องแบบ​ขุนนาง​ระดับ​สี่​เดิน​เข้ามา​ ​โค้ง​คำนับ​พวกเขา​ ​“​นี่​คือ​ท่าน​ซื่อ​จื่อ​กับ​คุณชาย​น้อย​เจ็ด​ไม่ใช่​หรือ​…​”​ ​พอ​เหลือบ​ไป​เห็น​สวี​ซื่อ​จิ​่​นพ​วก​เขา​ก็​ตกใจ​ ​จากนั้น​ก็​รีบ​พูด​ ​“​ใต้เท้า​สวี​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​จะ​พบ​หน้า​กันที่​นี่​ ​เพิ่ง​กลับมา​จาก​กุ้ย​โจว​หรือ​”​ ​เขา​รีบ​แนะนำตัว​เอง​ ​“​ข้ามี​่​นาม​ว่า​โจว​จิ​่ง​ ​รอง​ผู้บัญชาการ​ของ​ค่าย​ใหญ่​ซี​ซาน​ ​เมื่อก่อน​เคย​เป็น​สหาย​ร่วมงาน​กับ​ใต้เท้า​หลิน​ ​คน​นี้​คือ​สหาย​ของ​ข้า​ ​ซุน​หมิง​ ​ผู้บัญชาการ​กอง​ปัญจ​ทิศ​รักษา​นคร​ตอนเหนือ​”

สวี​ซื่อ​จิ​่น​ยิ้ม​แล้ว​พยักหน้า

โจว​จิ​่ง​รีบ​เชิญ​เขา​อย่าง​เป็นมิตร​ ​“​เชื้อเชิญ​ไม่​สู้​พบกัน​โดยบังเอิญ​ ​เรา​มี​วาสนา​กับ​ใต้เท้า​เช่นนี้​ ​หาก​ไม่รังเกียจ​ ​ข้า​กับ​น้อง​ซุน​อยาก​เลี้ยง​ต้อนรับ​ท่าน​ที่​หอ​ชุน​ซี​ ​โปรด​ท่าน​ไว้หน้า​เรา​ด้วย​”​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​เรา​ล้วนแต่​เคย​เป็น​คน​ของ​องครักษ์​วัง​หลวง​ ​เป็น​สหาย​กับ​คุณชาย​ห้า​ ​ครั้งนี้​จึง​มา​แสดงความยินดี​ที่​เขา​ได้​เลื่อนตำแหน่ง​!​”

“​ถึง​ตอนนั้น​ค่อย​ว่า​กัน​เถิด​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จิ​่น​ตอบกลับ​อย่าง​อ้อมค้อม​ ​“​ข้ามี​สอบ​กลางเดือน​สาม​ ​ที่​ข้า​กลับมา​ก่อน​ล่วงหน้า​ก็​เพราะ​อยาก​มารับ​ใช้​ผู้อาวุโส​สัก​สอง​สาม​วัน​!​”​ ​ไม่​สูญเสีย​ความเป็นมิตร​ต่อ​สหาย​ร่วมงาน​ ​แล้วยัง​มี​ความสง่างาม​ของ​ผู้บังคับบัญชา

“​ย่อม​ได้​แน่นอน​!​”​ ​พวกเขา​สอง​คน​รีบ​พูด​ด้วย​ความเคารพ​ ​แต่​ใน​สายตา​กลับ​มีความผิด​หวัง

มี​คน​เดิน​เข้ามา​ช้าๆ​ ​แล้วยัง​สวม​ชุด​เครื่องแบบ​ขุนนาง​สีแดง​ ​คนที​่​อยู่​ข้างๆ​ ​เหมือน​จะ​เป็น​สวี​ลิ่ง​ควน

สวี​ซื่อ​จิ​่​นรู​้​สึก​แปลกใจ

ชุด​เครื่องแบบ​ขุนนาง​สีแดง​ ​อย่างน้อย​ก็​ต้อง​เป็น​ขุนนาง​ระดับ​สาม​ ​มีส​วีลิ​่​งค​วน​อยู่​ข้างๆ​ ​ต้อง​เป็น​คนที​่​มีอำนาจ​แน่นอน​ ​หาก​เจอ​เขา​ ​เกรง​ว่า​คง​ต้อง​ทักทาย​กัน​อีก​นาน​

เขา​อยาก​ไปหา​ท่าน​แม่​เร็ว​ๆ​!

ความคิด​นี้​ผุด​ขึ้น​มา​ ​สวี​ซื่อ​จิ​่​นข​ยิบตา​ให้​สวี​ซื่อ​จุน​ ​บอก​ให้​เขา​ช่วยตัวเอง​ต้อนรับ​โจว​จิ​่​งกับ​ซุน​หมิง​ ​จากนั้น​ก็​พูด​กับ​พวกเขา​สอง​คน​ ​“​ใต้เท้า​ทั้งสอง​ท่าน​ ​ข้า​เพิ่ง​มาถึง​ ​ยัง​ไม่ได้​ไป​คารวะ​ท่าน​พ่อ​กับ​ท่าน​แม่​ ​ข้า​ขอตัว​ก่อน​ขอรับ​!​”

สอง​คน​นั้น​เป็น​คนฉลาด​ ​ไม่​รอ​ให้​สวี​ซื่อ​จุน​พูด​อะไร​ ​เขา​ก็​พูดว่า​ ​“​ใต้เท้า​สวี​เชิญ​เถิด​ ​เรา​ก็​กำลังจะ​ขอตัว​ลา​พอดี​!​”

เห็น​คนที​่​สวม​ชุด​เครื่องแบบ​ขุนนาง​สีแดง​เดิน​เข้ามา​ใกล้​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​สวี​ซื่อ​จิ​่​นรีบ​ตอบรับ​ ​จากนั้น​ก็​ทิ้ง​พี่ชาย​กับ​น้องชาย​อยู่​ตรงนั้น​ ​ตัวเอง​รีบ​เดิน​ไป​ที่​ลาน​หลัก​

สวี​ซื่อ​จุน​และ​คนอื่นๆ​ ​ตกใจ​ ​จากนั้น​ก็ได้​ยิน​เสียง​ของ​สวี​ลิ่ง​ควน​ ​“​คน​เมื่อ​ครู่​ดูเหมือน​จิ​่น​เกอ​…​”

พี่น้อง​สอง​สาม​คน​รีบ​หันไป​ตอบ​ ​“​ขอรับ​”​ ​ส่วน​สวี​ซื่อ​จิ​่น​เข้าไป​ใน​ประตู​ฉุนฮ​วา​แล้ว​ ​เขา​รีบ​เดิน​เข้าไป​จน​เกือบจะ​ชน​เข้ากับ​ป้า​ซ่ง​ที่​กำลัง​ออกมา​สืบ​ข่าว

“​ไอ​๊​หยา​!​”​ ​ป้า​ซ่ง​จับตัว​สวี​ซื่อ​จิ​่น​ด้วย​ความตื่นเต้น​ ​“ฮู​หยิน​กำลัง​คิดถึง​ท่าน​อยู่​เลย​เจ้าค่ะ​…​”

ทาง​ที่​ดี​ต้อง​รีบ​ไปหา​ท่าน​แม่​ ​ประเดี๋ยว​จะ​ถูก​เรียก​เอา​ได้​!

“​ข้า​รู้​แล้ว​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จิ​่น​ไม่​รอ​ให้​นาง​พูด​จบ​ ​รีบ​เดิน​ไป​ทางเรือน​หลัก​ทันที

ป้า​ซ่ง​ยิ้ม​แล้ว​เดินตาม​เขา​ไป

ถึงแม้​จะ​เป็นช่วง​ต้น​ฤดูใบไม้ผลิ​ ​แต่​อากาศ​ที่​เยี​่​ยน​จิง​ยัง​หนาวเย็น​ ​ดอก​ไห่​ถัง​และ​เถาวัลย์​องุ่น​ก็​ยัง​ไม่​เบ่งบาน​ ​พลอย​ทำให้​ดู​ว่างเปล่า​ ​แต่​ใน​สายตา​ของ​สวี​ซื่อ​จิ​่น​ ​เขา​กลับ​รู้สึก​อบอุ่น

สาวใช้​รีบ​ตะโกน​ขึ้น​ว่า​ ​“​คุณชาย​น้อย​หกกลับ​มา​แล้ว​”​ ​จากนั้น​ก็​ช่วย​เปิดม่าน​ให้​เขา

สือ​อี​เหนียง​รีบ​เดิน​ออกมา​ทันที

“​จิ​่น​เกอ​!​”​ ​นางน้ำ​ตา​คลอ​เบ้า​

“​ท่าน​แม่​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จิ​่น​โอบกอด​นาง​ ​“​ท่าน​สบายดี​หรือไม่​”

“​ข้า​สบายดี​ ​ข้า​สบายดี​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​กอด​บุตรชาย​ตัวเอง

มีเสียง​กระแอม​เบา​ๆ​ ​ดัง​มาจาก​ข้างหลัง

“​ในเมื่อ​กลับมา​แล้ว​ ​ก็​เข้ามา​นั่ง​ข้างใน​เถิด​!​”

สวี​ซื่อ​จิ​่​นม​อง​ออก​ไป​ก็​เห็น​ใบหน้า​ที่​เคร่งขรึม​แต่กลับ​มี​ความปิติ​ของ​บิดา​

“​ท่าน​พ่อ​ขอรับ​!​”​ ​เขา​เดิน​เข้าไป​คำนับ​สวี​ลิ่ง​อี๋

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​เข้าไป​ข้างใน​ห้อง

ท่าน​พ่อ​ยังคง​เหมือนเดิม

ไม่ว่า​จะ​ดีใจ​แค่ไหน​ ​ก็​ต้อง​ทำ​หน้า​เคร่งขรึม​ตลอด

สวี​ซื่อ​จิ​่​นล​อบ​กลอกตา​ให้​มารดา

สือ​อี​เหนียง​เบิกตา​ใส่​เขา

เขา​เบะ​ปาก​แล้ว​เดิน​เข้าไป​ข้างใน​กับ​บิดา

สอง​พ่อ​ลูก​นั่งลง​บน​เตียง​เตา​ข้างหน้า​ต่าง​ใน​ห้อง​ปีก​ทิศตะวันตก​ ​สือ​อี​เหนียง​ชงชา​ให้​พวกเขา​ด้วยตัวเอง​

“​ข้า​เอง​ขอรับ​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จิ​่​นรี​บลุก​ขึ้น​รับ​ถ้วยชามา​จาก​มารดา​ ​พลาง​จับจ้อง​ใบหน้า​ของ​นาง​ ​ก็​เห็น​ว่านา​งดู​อวบ​อิ่ม​และ​ดู​มีชีวิตชีวา​มากกว่า​ตอนที่​เขา​ออก​ไป​เสียอีก​

เขา​กำลังจะ​หยอกล้อ​มารดา​ ​ใน​ห้อง​ก็​มีเสียง​เด็กทารก​ร้อง​ราวกับ​เสียง​แมว​ดัง​ขึ้น​มา​

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​อย่าง​เขินอาย​ ​จากนั้น​ก็​พูด​เบา​ๆ​ ​“​น้องสาว​ของ​เจ้า​!​”​ ​จากนั้น​นาง​ก็​รีบ​เดิน​เข้าไป​ห้อง​ข้างใน

สวี​ซื่อ​จิ​่​นอึ​้ง​ตะลึง​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​“​น้องสาว​?​”

เหตุใด​ถึง​ไม่เคย​มี​ใคร​บอก​ตน

สวี​ลิ่ง​อี๋​ตอบกลับ​ ​“​อืม​”​ ​อย่าง​ไม่​เป็นตัว​เอง

สวี​ซื่อ​จิ​่​นก​ระ​โดด​ขึ้น​มารา​วกับ​แมว​ที่​ถูก​เหยียบ​หาง​ ​“​ท่าน​พ่อ​ ​ท่าน​รับ​อนุภรรยา​ตั้งแต่​เมื่อไร​!​”​ ​เขามอ​งบิ​ดา​ตาโต​

สวี​ลิ่ง​อี๋​พูดไม่ออก​ไป​ชั่วขณะ

สวี​ซื่อ​จิ​่​นพูด​ขึ้น​ ​“​ไม่เช่นนั้น​ ​ข้า​จะ​มีน​้​อง​สาว​ได้​เช่นไร​ขอรับ​”

“​พูดจา​อะไร​เหลวไหล​”​ ​สือ​อี​เหนียง​อุ้ม​บุตรสาว​ที่​อายุ​เพียง​สี่​สิบสอง​วัน​ออกมา​ ​นาง​พูด​อย่าง​แผ่วเบา​ ​“​น้องสาว​ที่​มีมา​รดา​คนเดียว​กัน​กับ​เจ้า​!​”

ใบหน้า​สวี​ซื่อ​จิ​่น​เต็มไปด้วย​ความ​ตกตะลึง​ ​ชี้​ไป​ที่​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ท่าน​…​ท่าน​คลอด​น้องสาว​ตั้งแต่​เมื่อไร​ ​ทำไม​…​ทำไม​ข้า​ถึง​ไม่รู้​”​ ​ขณะที่​พูด​ก็​อด​หันไป​มอง​ทารก​น้อย​ที่อยู่​ใน​ห่อ​ผ้าไหม​สีแดง​ใน​อ้อมแขน​ของ​สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้

สือ​อี​เหนียง​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​“​ตอนนั้น​เจ้า​กำลัง​ต่อสู้​กับ​เผ่า​ตาด​มองโกล​อยู่​ไม่ใช่​หรือ​”​ ​นาง​อุ้ม​บุตรสาว​ให้​บุตรชาย​ดู​ ​“​เจ้า​กลับมา​พัก​ที่​เรือน​สอง​วัน​ก็​ไป​แล้ว​ ​จึง​ไม่มี​โอกาส​บอก​เจ้า​เลย​…​”

สวี​ซื่อ​จิ​่​นบุ​้​ยปา​กด​้วย​ความไม่พอใจ

โอกาส​เป็น​สิ่ง​ที่​คน​หา​เอง​ได้​ ​ไม่ใช่​สิ่ง​ที่​สวรรค์​ให้​มา​…​แต่​จาก​การ​ที่​สือ​อี​เหนียง​เข้ามา​ใกล้​ ​สายตา​ของ​เขา​ได้​จ้องมอง​ไป​ที่​ใบหน้า​ของ​เด็กทารก​ใน​ผ้าอ้อม​ที่​กำลัง​มอง​เขา​ด้วย​ดวงตา​ดำกลม​โต

นาง​ตัวเล็ก​มาก

คาด​ว่า​ใบหน้า​คง​ไม่​ใหญ่​เท่า​ฝ่ามือ​ของ​เขา

ผม​สีดำ​ขลับ​เหมือน​ท้องฟ้า​ยาม​ราตรี​ ​ริมฝีปาก​แดง​เหมือน​ผล​อิง​เถา​ ​ผิวขาว​ละมุน​ ​งดงาม​ราวกับ​หิมะ​แรก​ก็​ไม่​ปาน​ ​โดยเฉพาะ​ดวงตา​คู่​นั้น​ที่​จ้องมอง​มาที​่​เขา​ ​อาจ​เป็น​เพราะ​พึ่ง​ร้องไห้​ไป​เมื่อ​ครู่​ ​ยังคง​มี​คราบ​น้ำตา​อยู่เล็ก​น้อย​ ​ใสสะอาด​ดั่ง​น้ำพุ​ที่​ผุด​จาก​ลำธาร​ ​พลอย​ทำให้​ใจ​คน​รู้สึก​ผ่องใส

นี่​ ​คือ​น้องสาว​ของ​เขา​…​น้องสาว​ร่วมท้อง​…

สวี​ซื่อ​จิ​่​นอด​ไม่ได้​ที่จะ​ยื่น​นิ้ว​ไป​แตะ​ที่​แก้ม​ของ​นาง​

แต่​หาก​ปลายนิ้ว​ที่​หยาบกร้าน​ไป​สัมผัส​อาจ​ทำให้​ผิว​บอบบาง​ของ​นาง​เป็น​รอย​เอา​ได้

เขา​ดึง​มือ​กลับ

กลัว​ว่านาง​จะ​ถูก​ตัวเอง​ทำให้​ได้รับบาดเจ็บ​ ​กลัว​ว่า​ตัวเอง​จะ​ทำลาย​ผิว​ที่​เนียน​ละเอียด​ของ​นาง​ ​เป็นครั้งแรก​ที่​สวี​ซื่อ​จิ​่น​ต้อง​เผชิญหน้า​กับ​เด็กทารก​ที่​ไม่รู้​เรื่อง​อะไร​ ​จึง​ทำให้​รู้สึก​ตื่นตระหนก​เล็กน้อย​

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​กว้าง

สอง​คน​พ่อ​ลูก​ช่าง​เหมือนกัน​เสีย​จริง​!

จนถึง​วันนี้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยังคง​ไม่​ค่อย​กล้า​อุ้ม​บุตรสาว​ ​ราวกับ​กลัว​ว่า​หาก​ไม่ทัน​ระวัง​จะ​ทำนาง​หล่น​มือ​ ​ไม่​เหมือน​ตอนที่​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​ที่​กล้า​โยน​ขึ้นไป​กลางอากาศ​…

นาง​ยื่น​บุตรสาว​ให้​บุตรชาย​ ​“​เจ้า​อยาก​ลอง​อุ้ม​ดูหรือ​ไม่​”

“​ไม่เอา​ ​ไม่เอา​ขอรับ​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จิ​่​นก​้าว​ถอยหลัง​ไป​สอง​ก้าว​ ​รู้สึก​ราวกับว่า​มี​เหงื่อ​ออก​เต็ม​หน้าผาก

สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​รู้สึก​แบบ​เดียวกัน​ ​รีบ​พูด​ช่วย​แก้ไข​สถานการณ์​ให้​บุตรชาย​ ​“​เอาล่ะ​ ​เจ้า​พึ่ง​กลับมา​ ​ทั้ง​เนื้อตัว​มี​แต่​คราบ​ฝุ่น​ ​ไป​อาบน้ำ​ก่อน​เถิด​ ​แล้ว​พวกเรา​ค่อย​ไป​พบ​ท่าน​ย่า​ของ​เจ้า​ด้วยกัน​”

สวี​ซื่อ​จิ​่น​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​ ​เหลือบมอง​น้องสาว​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​ขานรับ​อย่างนอบน้อม

เกิด​เสียงดัง​ขึ้นอยู่​ด้านนอก

คนใน​ห้อง​รู้สึก​ประหลาดใจ​เล็กน้อย

เสียง​นั้น​ดัง​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​และ​ใกล้​เรือน​หลัก​เข้ามา​เรื่อยๆ​ ​ได้ยิน​เสียง​ห้าม​รางๆ​ ​ว่า​ ​“​เจ้า​เข้าไป​ไม่ได้​”

สือ​อี​เหนียง​ขมวดคิ้ว​มุ่น

มี​คน​เปิดม่าน​แล้ว​เดิน​เข้ามา

“​สวี​ซื่อ​จิ​่น​ ​เจ้า​รับปาก​ข้าว​่า​จะ​พา​ข้ามา​เล่น​ที่​จวน​เจ้า​ ​แต่​เหตุใด​เจ้า​จึง​ได้​ทิ้ง​ข้า​ไว้​กับ​ผู้ดูแล​เหล่านั้น​!​”

เด็กสาว​อายุ​ราว​สิบเอ็ด​สิบสอง​ปี​ยืน​อยู่​ตรงหน้า​สวี​ลิ่ง​อี๋​กับ​สือ​อี​เหนียง

สวี​ลิ่ง​อี๋​กับ​ภรรยา​ตกตะลึง

แม้ว่า​เด็กสาว​ผู้​นั้น​จะ​ยัง​เด็ก​ ​แต่​หน้าตา​งดงาม​ ​ดวงตา​สดใส​ ​เกล้าผม​ขึ้น​สอง​ข้าง​ ​สวม​เสื้อกั๊ก​ยาว​สีน้ำเงิน​ปัก​ลาย​ดอก​ท้อ​ ​สวม​สร้อยคอ​เขา​วัว​ที่​ทำ​จาก​เงิน​ ​แม้ว่า​จะ​สวยงาม​มาก​แต่​ดู​ไม่​เรียบร้อย

แต่​ทั้งคู่​ไม่ใช่​คนธรรมดา​ ​พวกเขา​รู้​ได้​ทันที​ว่า​สร้อยคอ​ทรง​เขา​วัว​นั้น​คือ​เครื่องประดับ​ของ​ชน​เผ่า​เหมียว

เด็กสาว​ผู้​นี้​เกรง​ว่า​จะ​เป็น​ชาว​เหมียว

ทั้งสอง​คน​อด​มองหน้า​กัน​ไม่ได้​ ​จากนั้น​ก็​มอง​ไป​ที่​สวี​ซื่อ​จิ​่น​

สีหน้า​สวี​ซื่อ​จิ​่น​ดู​คาดไม่ถึง​ ​แต่กลับ​มีท​่า​ทาง​สงบ​ ​“​อามู​่​ ​ข้า​บอก​เจ้า​แล้ว​ไม่ใช่​หรือว่า​ให้​เจ้า​รอ​อยู่​ข้างนอก​ ​พอ​ข้า​รายงาน​ท่าน​พ่อ​กับ​ท่าน​แม่​แล้ว​ย่อม​ต้อง​แนะนำ​เจ้า​อย่างแน่นอน​ ​นี่​คือ​เยี​่​ยน​จิง​ไม่ใช่​กุ้ย​โจว​ ​เจ้า​เอง​ก็​สัญญา​กับ​ข้า​แล้ว​ว่า​เมื่อ​เข้า​เมือง​ตา​หลิ่ว​ต้อง​หลิ่วตา​ตาม​”

เด็กสาว​ที่​สวี​ซื่อ​จิ​่น​เรียกว่า​อามู​่​มีสี​หน้า​รู้สึก​ผิด​ทันที​ ​นาง​ก้มหน้า​พูด​พึมพำ​ว่า​ ​“​ก็​ผู้ดูแล​จวน​พวก​เจ้า​บอกว่า​ข้า​เข้า​จวน​ของ​พวก​เจ้า​ไม่ได้​ ​รอ​อยู่​ที่​ห้องครัว​ก็​ไม่ได้​ ​จะ​ให้​ข้า​ไป​อยู่​เรือน​อื่น​ที่​เรียกว่า​ตรอก​จิน​อวี​๋​…​”​ ​นาง​พูด​พลาง​เงยหน้า​ขึ้น​ ​มอง​ไป​ที่​สวี​ซื่อ​จิ​่น​ด้วย​น้ำตา​คลอ​ ​“​ข้า​ ​ข้า​กลัว​!​”

ให้​ไป​อยู่​เรือน​ของ​ท่าน​แม่​…​นี่​เป็นความ​คิด​งี่เง่า​ของ​ใคร​กัน​!

สวี​ซื่อ​จิ​่​นขมวด​คิ้ว​ ​แววตา​เผย​ให้​เห็น​ความโกรธ​อยู่​แวบ​หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​มีท​่า​ทาง​เหมือน​กลัว​ว่า​ท่าน​พ่อ​กับ​ท่าน​แม่​จะเข้า​ใจ​ผิด​ ​จึง​รีบ​อธิบาย​กับ​ท่าน​แม่​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​ ​นี่​คือ​แม่นาง​อามู​่​ ​บุตรสาว​ของ​หัวหน้า​เผ่า​ซา​เป่า​ใน​ซือ​หนาน​ ​ข้า​อยู่​ที่​กุ้ย​โจว​ ​ได้รับ​การ​ดูแล​จาก​เผ่า​ซา​เป่า​มากมาย​ ​เข้า​เมืองหลวง​ครั้งนี้​ ​อามู​่​เลย​งอแง​อยาก​จะ​มา​เที่ยว​ที่​เยี​่​ยน​จิง​ ​ข้า​จึง​พานา​งมา​ด้วย​…​ ​”

ไม่​รอ​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​กับ​สือ​อี​เหนียง​พูด​อะไร​ ​อามู​่​ก็​รีบ​เข้าไป​คำนับ​ด้วย​ท่าทาง​แปลก​ๆ​ ​“​อาปั​๋ว​ ​อาหมู​่​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​รู้สึก​โกรธ​เล็กน้อย​แต่​ยังคง​ฝืน​พยักหน้า​ให้​อามู​่​ ​สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​รู้สึก​ว่า​เรื่อง​นี้​ไม่​ค่อย​เหมาะสม​ ​แต่​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​เด็กสาว​ผู้​นี้​ติดตาม​บุตรชาย​ตัวเอง​มา​ไกล​หลาย​พัน​ลี้​จนถึง​เยี​่​ยน​จิง​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​สีหน้า​ดู​ไม่ดี​ ​หาก​ตัวเอง​ยัง​มีท​่า​ทาง​เย็นชา​แข็งกระด้าง​ ​จะ​ทำให้​ดู​เฉยชา​เกินไป​ ​และ​ดู​จาก​ท่าทาง​ของ​บุตรชาย​แล้ว​ ​ไม่​เหมือน​คนที​่​มี​ความสัมพันธ์​เกินเลย​กับ​เด็กสาว​ผู้​นี้​…

“​เมื่อมา​แล้วก็​คือ​แขก​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​กำชับ​หู่​พั่ว​ ​“​เจ้า​ไป​ทำความสะอาด​เรือน​ที่​จิ​่น​เกอ​เคย​อยู่​ให้​แม่นาง​อามู​่​พักผ่อน​”

อามู​่​ได้ยิน​ดังนั้น​ ​ก็​ยิ้ม​ตาหยี​จน​ดวงตา​เป็น​รูป​พระจันทร์​เสี้ยว​ทันที​ ​พูด​กับ​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​“​อาหมู​่​ ​ท่าน​ช่าง​ดีจริง​ๆ​!​”​ ​จากนั้น​ก็​ก้าว​ไป​ข้างหน้า​ด้วย​ความกล้า​พลาง​สำรวจ​ดู​เด็กน้อย​ที่อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​นาง​ ​“​นี่​คือ​น้องสาว​ของ​ใต้เท้า​สวี​หรือ​ ​หน้าตา​งดงาม​ยิ่งนัก​!​ ​แต่ว่า​ไม่​เหมือนกับ​ใต้เท้า​สวี​เลย​”​ ​นาง​พูด​พลาง​สังเกต​สือ​อี​เหนียง​อย่างละเอียด​ ​“​เหมือน​อาหมู​่​ ​โต​ขึ้น​จะ​ต้อง​เป็น​หญิง​งาม​อย่างแน่นอน​!​”

เมื่อ​สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​คนชม​บุตรสาว​ก็​อด​ยิ้ม​ไม่ได้​ ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​อามู​่​ก็​เป็น​หญิง​งาม​เช่นกัน​”

“​จริง​หรือ​”​ ​อามู​่​จับ​หน้า​ตัวเอง​ด้วย​ความประหลาดใจ​และ​ดีใจ​ ​“​อาหมู​่​ก็​คิด​ว่า​ข้า​สวย​หรือ​ ​ท่าน​พ่อ​ก็​พูด​เช่นนี้​เหมือนกัน​ ​แต่​ใต้เท้า​สวี​บอกว่า​หน้าตา​อย่าง​ข้า​หา​ได้​ทั่วไป​ใน​บ้านเกิด​ของ​เขา​”​ ​น้ำเสียง​แฝง​ไว้​ด้วย​ความ​แง่งอน​เล็กน้อย

สือ​อี​เหนียง​อด​มอง​บุตรชาย​ด้วย​รอยยิ้ม​ไม่ได้

สวี​ซื่อ​จิ​่​นพ​ลัน​รู้สึก​อึดอัด​เป็นอย่างมาก​ ​จ้อง​อามู​่​ด้วย​สายตา​ดุเดือด​ ​“​ท่าน​แม่​ข้า​ให้​เจ้า​ไป​พักผ่อน​ ​เจ้า​ไม่เข้าใจ​หรือ​ ​เหตุใด​ถึง​ได้​พูดมาก​แบบนี้​!​”

อามู​่​ไม่​กลัว​เลย​แม้แต่น้อย​ ​ทำ​หน้าตา​ล้อเลียน​ใส่​สวี​ซื่อ​จิ​่น​ ​พูด​กับ​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​“​อาหมู​่​ ​พอ​ข้า​อาบน้ำ​เสร็จ​แล้ว​จะ​มาช​่วย​ท่าน​เลี้ยง​น้องสาว​ ​ข้ามี​หลานสาว​เจ็ด​คน​ ​ข้า​เลี้ยงเด็ก​เป็นอยู่​แล้ว​”​ ​จากนั้น​ก็​เดินตาม​หู่​พั่ว​ที่​สีหน้า​เต็มไปด้วย​ความกังวล​ไป

สวี​ซื่อ​จุน​รีบ​เดิน​เข้ามา​ทันที​ ​“​ท่าน​แม่​ ​อาลักษณ์​ลู่​มา​เยี่ยม​ท่าน​อา​ห้า​ ​เมื่อ​ได้ยิน​ว่าน​้​อง​หกกลับ​มา​แล้วจึง​อยาก​ขอ​พบ​น้อง​หก​!​”

“​ถูก​เขา​รู้​เข้า​จนได้​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จิ​่​นพูด​พึมพำ​เบา​ๆ​ ​พลาง​คำนับ​บดา​มารดา​ ​“​ท่าน​พ่อ​ ​ท่าน​แม่​ ​ข้า​ไป​ครู่เดียว​ ​ประเดี๋ยว​กลับมา​ขอรับ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่พอใจ​กับ​การปรากฏ​ตัวอย่าง​กะทันหัน​ของ​อามู​่​ ​ตอบ​เพียง​ ​“​อืม​”​ ​ด้วย​ใบหน้า​เย็นชา

สวี​ซื่อ​จุน​รีบ​ลาก​สวี​ซื่อ​จิ​่​นอ​อก​ไป

“​เจ้า​คิด​อะไร​อยู่​ถึง​ได้​พา​หญิงสาว​ชาว​เหมียว​กลับมา​ด้วย​”​ ​เขา​เดินตาม​สวี​ซื่อ​จุน​ออกมา​พลาง​พูดเสี​ยง​เบา​ว่า​ ​“​ท่าทาง​นาง​ดูเหมือน​มี​ความสัมพันธ์​ที่​ไม่ธรรมดา​กับ​เจ้า​ ​ทำเอา​บรรดา​ผู้ดูแล​จะ​ขวาง​ก็​ไม่ได้​ ​ไม่​ขวาง​ก็​ไม่ได้​ ​รีบ​ไปรา​ยงา​นข​้า​ ​แต่​ก็​ยังคง​ช้า​ไป​หนึ่ง​ก้าว​…​ท่าน​พ่อ​ไม่มีทาง​ยอมให้​เจ้า​แต่งงาน​กับ​หญิงสาว​ชาว​เหมียว​แน่นอน​”

“​ใคร​บอกว่า​ข้า​จะ​แต่ง​กับ​นาง​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จิ​่น​ท่าทาง​น้อยใจ​ ​“​ตอนที่​ข้า​ออกจาก​กุ้ย​โจว​มา​แล้วจึง​ได้​พบ​ว่า​อามู​่​ซ่อนตัว​อยู่​ใน​รถม้า​ของ​ข้า​แล้ว​ ​ซ้ำ​ตอนที่​นาง​ถูก​คน​พบเห็น​นั้น​นาง​ยัง​ไม่ได้​ทาน​อะไร​มา​ห้าวัน​ห้า​คืน​ ​ร่างกาย​อ่อนแรง​ ​ข้า​จะ​ให้​คน​ส่ง​นาง​กลับ​ไป​ ​นาง​ก็​ขู่​ข้าว​่า​จะ​ฆ่าตัวตาย​ ​นาง​เป็น​คนฉลาด​ ​คนธรรมดา​ทั่วไป​เอา​นาง​ไม่อยู่​หรอก​ ​ข้า​ก็​กลัว​ว่า​จะ​เกิด​อะไร​ขึ้นกับ​นาง​จริงๆ​…​หาก​เป็น​เช่นนั้น​แล้ว​ข้า​จะ​อธิบาย​กับ​บิดา​ของ​นาง​อย่างไร​!​”​ ​ขณะที่​พูด​เขา​เหมือน​นึก​อะไร​บางอย่าง​ออก​ ​รีบ​ดึง​แขน​เสื้อ​สวี​ซื่อ​จุน​ ​“​พี่​สี่​ ​ท่าน​คุ้นเคย​กับ​สกุล​ใหญ่​ใน​เยี​่​ยน​จิง​หรือไม่​”

“​โดยทั่วไป​ก็​คุ้นเคย​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​มอง​น้องชาย​ ​ถาม​ด้วย​ความสงสัย​ว่า​ ​“​เจ้า​จะ​ทำ​อะไร​”

“​เปล่า​ ​ไม่มี​อะไร​ขอรับ​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จิ​่​นพู​ดอย​่าง​ตะกุกตะกัก​ว่า​ ​“​คือ​ว่า​…​คือ​ว่า​ตอนที่​ข้า​เข้า​เมือง​มา​ ​เห็น​คน​เข้าไป​ใน​เมือง​เซียง​หุย​…​ฟัง​จาก​ใน​รถม้า​ ​ได้ยิน​เสียง​ที่​ไพเราะ​…​”​ ​ปรากฏ​ใบหน้า​สีแดง​ที่​ทำให้​คน​รู้สึก​สงสัย​ ​“​จึง​บุกเข้าไป​ใน​รถม้า​ของ​นาง​…​”

สวี​ซื่อ​จุน​ตกตะลึง​ ​“​เจ้า​ ​เจ้า​คง​ไม่​…​”

หลังจากที่​พูด​ออกมา​ ​สวี​ซื่อ​จิ​่​นก​็​รู้สึก​โล่งใจ​เหมือนว่า​ ​‘​เรื่อง​มาถึง​ขั้น​นี้​แล้ว​ ​ไม่มี​อะไร​แย่​ไป​กว่านี​้​แล้ว​’​ ​เขา​ยิ้ม​พลาง​จับ​ไหล่​สวี​ซื่อ​จุน​ ​“​พี่​สี่​ ​ตอนนี้​ข้า​อยู่​ใน​พื้นที่​ชนบท​ที่​กุ้ย​โจว​ ​ไม่​เหมือน​ท่าน​ ​เกิด​ที่​เยี​่​ยน​จิง​ ​โต​ที่​เยี​่​ยน​จิง​ ​คนใน​เยี​่​ยน​จิง​ท่าน​ล้วน​รู้จัก​ทั้งหมด​ ​ท่าน​ช่วย​ข้า​หน่อย​เถิด​!​ ​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​ข้า​จะ​ซื้อ​โคมไฟ​จาก​ชาว​เหมียว​ใน​กุ้ย​โจว​ให้ท่าน​สัก​สอง​สาม​อัน​ ​รับรอง​ว่า​ไม่​เหมือนกับ​โคมไฟ​ใน​เยี​่​ยน​จิง​แน่นอน​!​”

เมื่อ​สวี​ซื่อ​จุน​ได้ยิน​เรื่อง​โคมไฟ​ก็​ใจเต้น​ ​แต่​ไม่นาน​ก็​แสดงท่าที​เคร่งขรึม​ออกมา​ ​“​ไม่ได้​ ​คำสั่ง​ของ​ท่าน​พ่อ​กับ​ท่าน​แม่​ ​พ่อสื่อ​แม่สื่อ​ไม่​ควร​กระทำ​โดยพลการ​เช่นนี้​”

“​ไอ​๊​หยา​ ​ก็​ข้า​ไม่มีทาง​เลือก​แล้ว​”​ ​สวี​ซื่อ​จิ​่น​เกลี้ยกล่อม​สวี​ซื่อ​จุน​ ​“​ท่าน​เป็น​พี่ชาย​ข้า​ ​หาก​เรื่อง​แค่นี้​ก็​ยัง​ไม่​ช่วย​ข้า​ ​แล้ว​จะ​ยัง​มี​ใคร​ช่วย​ข้า​อีก​ ​อีก​อย่าง​ข้า​ก็​ใช่​ว่า​หมั้น​หมาย​แล้ว​จะ​ทำการ​ยกเลิก​การ​หมั้น​หมาย​ ​อีกทั้ง​คุณหนู​สกุล​หวัง​ก็​ยัง​ไม่มี​คู่​หมาย​”

“​คุณหนู​สกุล​หวัง​?​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​จับไต๋​ของ​สวี​ซื่อ​จิ​่น​ ​“​คุณหนู​สกุล​หวัง​ไหน​ ​หรือว่า​เจ้า​ไป​สืบมา​ชัดเจน​นาน​แล้ว​”

สวี​ซื่อ​จิ​่น​หัวเราะ​เบา​ๆ​ ​“​เป็น​น้องสาว​ของ​หวัง​อวิ​่น​สหาย​รัก​ของ​ท่าน​!​ ​บุตรสาว​คนโต​ของ​ใต้เท้า​หวัง​!​”

“​ไม่ได้​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ส่ายหน้า​ระรัว​ราวกับ​กลอง​ป๋อง​แป​๋​งก​็​ไม่​ปาน​ ​“​ท่าน​พ่อ​บอก​แล้ว​ว่า​จะ​หาบุ​ตร​สาว​แม่ทัพ​ให้​เจ้า​ ​สกุล​พวกเขา​เป็น​ขุนนาง​พลเรือน​ ​อีก​อย่าง​ใต้เท้า​หวัง​เกิด​ใน​พื้นเพ​ที่ต่ำ​ต้อย​ ​มี​เพียง​หนึ่ง​บุตรชาย​กับ​อีก​หนึ่ง​บุตรสาว​ ​มี​คนใน​สกุล​ไม่​มาก​ ​อย่า​ว่าแต่​ท่าน​พ่อ​เลย​ ​แม้แต่​ข้า​เอง​ก็​ไม่มีทาง​ตกลง​!​”

“​ท่าน​ไม่​ตกลง​หรือ​…​”​ ​สวี​ซื่อ​จิ​่​นก​อด​อก​แล้ว​พูด​ช้าๆ​ ​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​ ​เช่นนั้น​ข้า​คง​ทำได้​เพียง​ไป​ที่​จวน​เอง​แล้ว​!​”

“​เจ้า​ ​เจ้า​…​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ไม่รู้​ว่า​จะ​พูด​อย่างไร​ดี​ ​ข่มอารมณ์​อยู่นาน​ก่อน​จะ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​เจ้า​อย่า​ลืม​สิ​ ​ตอนนี้​เจ้า​เป็น​ผู้บัญชาการ​ทหาร​กุ้ย​โจว​ ​เป็น​ขุนนาง​ชั้นสูง​ระดับ​สาม​ ​ไม่ใช่​เซิน​เกอ​ ​เฉิง​เกอ​ ​ที่​เวลา​เกิดเรื่อง​แล้ว​ทุกคน​จะ​คิด​ว่า​เป็น​เพราะ​พวกเขา​ยัง​เด็ก​จึง​ไม่รู้​ความ​ ​หาก​เจ้า​ทำ​เรื่อง​ขายหน้า​ขึ้น​มา​ ​แล้ว​ท่าน​พ่อ​กับ​ท่าน​แม่​จะ​เอาหน้า​ไป​ไว้​ที่ไหน​!​”

“​ถ้าอย่างนั้น​ท่าน​ก็​ช่วย​ข้า​เถิด​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จิ​่​นพู​ดอย​่าง​ไม่ใส่ใจ​ว่า​ ​“​มิเช่นนั้น​ข้า​จะ​รู้​ได้​อย่างไร​ว่า​ข้า​ควรจะ​ทำ​อย่างไร​”

เจ้า​น้องชาย​ผู้​นี้​ ​ดื้อรั้น​มาตั​้ง​แต่​เด็ก​ ​เมื่อ​โต​ขึ้น​ทุกอย่าง​ก็​เป็นไป​อย่างที่​ใจหวัง​ตลอด​ ​หาก​เขา​ดึงดัน​ขึ้น​มา​ ​ไม่แน่​อาจจะ​บุก​ไป​เสนอตัว​ถึง​จวน​สกุล​หวัง​จริงๆ​ ​ก็ได้​…​สวี​ซื่อ​จุน​พลัน​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​ตอน​เด็ก​ๆ​ ​สวี​ซื่อ​จิ​่น​ถูก​ท่าน​แม่​ปล่อย​ให้​ตากลม​ตากฝน​อยู่​ข้างนอก​สอง​ชั่ว​ยาม​ก็​ยัง​ไม่​ขอ​ความเมตตา​ ​เพียงแค่​คิด​ก็​รู้สึก​ปวดหัว​ขึ้น​มา​ ​“​เจ้า​ให้​ข้า​คิดดู​ก่อน​ ​ให้​ข้า​คิดดู​อย่างละเอียด​ก่อน​!​”​ ​น้ำเสียง​อ่อน​ลง​ไม่น้อย

แววตา​สวี​ซื่อ​จิ​่น​เผย​ให้​เห็น​ความ​เจ้าเล่ห์​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​ยิ้ม​พลาง​โอบ​ไหล่​สวี​ซื่อ​จุน​ ​“​ได้​เลย​ขอรับ​ ​ข้า​จะ​ได้​แต่งงาน​หรือไม่ก็​ขึ้นอยู่กับ​ท่าน​แล้ว​!​”

ทันใดนั้น​ใบหน้า​เคร่งขรึม​ของ​บิดา​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​หัว​ของ​สวี​ซื่อ​จุน

เขา​อด​ตัวสั่น​สะท้าน​ไม่ได้

ทาง​ด้าน​สวี​ลิ่ง​อี๋​กับ​สือ​อี​เหนียง​กำลัง​กลุ้มใจ​เรื่อง​อามู​่

“​หาก​บุตรชาย​ชอบ​ ​ข้า​ก็​ชอบ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ตบ​ก้น​บุตรสาว​เบา​ๆ​ ​“​แต่​อามู​่​จะ​เต็มใจ​จาก​กุ้ย​โจว​หรือไม่​ ​จิ​่น​เกอ​คง​ไม่​สามารถ​อยู่​กุ้ย​โจว​ได้​ตลอดชีวิต​หรอก​กระมัง​”​ ​ท่าทาง​กังวลใจ​เล็กน้อย

บุตรชาย​กับ​บุตรสาว​นั้น​นิสัย​แตกต่าง​กัน​ ​คน​หนึ่ง​ดื้อรั้น​ ​คน​หนึ่ง​เชื่อฟัง

สวี​ลิ่ง​อี๋​เอา​มือ​ไขว้หลัง​เดิน​ไปมา​อยู่​ใน​ห้อง​ ​“​แค่​เขา​ชอบ​ก็​พอแล้ว​นั่น​หมายความว่า​อย่างไร​ ​เขา​อายุ​ยังน้อย​ ​จะ​รู้​ได้​อย่างไร​ว่า​อะไร​คือ​ชอบ​ ​อะไร​คือ​ไม่​ชอบ​ ​เรื่อง​นี้​จะ​ตามใจเขา​ไม่ได้​ ​จะ​สู่ขอ​ชาว​เหมียว​มา​เป็น​สะใภ้​ ​ข้า​ไม่เห็นด้วย​เด็ดขาด​…​”

“​คนเรา​เกิด​มามี​อายุ​เพียง​ไม่​กี่​สิบ​ปี​ ​ยาก​นัก​ที่จะ​ได้​พบ​คนที​่​ใจตรงกัน​ ​หาก​จิ​่น​เกอ​ชอบ​ ​ข้า​ย่อม​ตกลง​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ไม่สน​ใจความ​โกรธ​ของ​เขา​ ​อุ้ม​บุตรสาว​ที่​กำลัง​หลับ​อยู่​เข้าไป​ใน​ห้อง​ชั้นใน​อย่าง​ช้าๆ​ ​“​ท่าน​บอก​เอง​ไม่ใช่​หรือว่า​จิ​่น​เกอ​จะ​แต่ง​กับ​ใคร​ล้วน​ให้​ข้า​เป็น​คน​ตัดสินใจ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​มอง​แผ่น​หลัง​ของ​ภรรยา​ ​เงียบ​ไป​อยู่​พักใหญ่​ ​ใน​ใจคิด​หาวิ​ธี​ที่จะ​ทำให้​ภรรยา​เปลี่ยนใจ​ ​โดย​ไม่รู้​เลย​ว่า​ตอนนี้​สวี​ซื่อ​จุน​กำลัง​เจอ​กับ​ปัญหา​อะไร​…

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท