ช่วงเย็น
ที่บ้าน
หลินเซวียนมองหลินเยวียนด้วยความขบขัน “นายได้คู่กับพี่ห่าวอวิ้นเลยเหรอ ตอนหน้าจะเล่นต่อยังไง…”
สมาชิกในครอบครับของหลินเยวียนตามรายการเพลงของเรา
เมื่อเห็นว่านักร้องซึ่งคู่กับหลินเยวียนคือพี่ห่าวอวิ้น หลินเซวียนก็มีปฏิกิริยาเหมือนกับชาวเน็ต
ถึงขั้นที่ออกจะเกินจริงไปสักหน่อย
หัวเราะกันจนปอดโยก
เป็นเหยาเหยาที่จิตใจดี อุตส่าห์กินผักไปตั้งหลายคำ น้องสาวคนนี้จะออกตัวกินผักมากสักหน่อยก็ต่อเมื่อเธอรู้สึกสงสารพี่ชาย
ถ้าหากเหยาเหยาเหลือไข่แดงให้หลินเยวียน ก็ยิ่งไม่ต้องคิดเลย
ต้องเป็นเพราะเหยาเหยาคิดว่าพี่ชายกำลังเสียใจอย่างมาก จึงพยายามปลอบใจ
แม่เอ่ยอย่างไม่พอใจ “แม่ว่าเว่ยห่าวอวิ้นร้องเพลงเพราะมาก”
หลินเซวียนดีใจยิ่งกว่าเดิม “งั้นในเน็ตก็พูดไว้ไม่ผิด ผู้ชมอย่างแม่เราชอบพี่ห่าวอวิ้น กลุ่มคนที่ดาวน์โหลดเพลงของพี่ห่าวอวิ้นส่วนมากคือคนรุ่นพ่อแม่ เพลงแบบนี้น้องชายเราเล่นไม่ไหวหรอก”
ใครบอกกัน?
หลินเยวียนอยากเถียง
หนานจี๋เห่าโฮ่งๆ เถียงแทนหลินเยวียน
หลินเยวียนลูบหัวหนานจี๋ ให้รางวัลหนานจี๋ด้วยเนื้อหนึ่งก้อน
เป็นเช่นนี้
คืนหนึ่งผ่านไป
วันต่อมาหลินเยวียนมายังกองถ่าย และพบว่าเว่ยห่าวอวิ๋นกำลังยืนใจลอยอยู่หน้าประตูห้องสีชมพู
“ทำไมไม่เข้าไปล่ะครับ”
หลินเยวียนเปิดประตูห้องรับรองของตน
เว่ยห่าวอวิ้นโค้งคำนับ ก่อนจะยิ้มอย่างขมขื่น “อาจารย์เซี่ยนอวี๋ ขอโทษนะคะ…”
หลินเยวียนประหลาดใจ “เกิดอะไรขึ้นครับ”
เว่ยห่าวอวี้สีหน้าเศร้าสร้อย “คู่กับฉัน จะทำให้คุณรู้สึกลำบากใจ…”
คนอื่นอยากคู่กับเซี่ยนอวี๋
แต่เว่ยห่าวอวิ้นไม่อยาก
พูดให้ชัดก็คือ ไม่ใช่เว่ยห่าวอวิ้นไม่อยากคู่กับเซี่ยนอวี๋
เธอเองก็อยากร่วมงานกับเซี่ยนอวี๋ แต่ขณะเดียวกันเธอก็ไม่กล้าร่วมงานกับเซี่ยนอวี๋
เพราะสไตล์ของเธอ ถูกใครหลายคนแดกดันว่าเชย ไม่มีระดับมากพอ แต่ภาพจำที่โลกภายนอกของเซี่ยนอวี๋ สถานะของเขาสูงมาโดยตลอด
ทีมงานรายการจัดให้ตนคู่กับอาจารย์เซี่ยนอวี๋
อาจารย์เซี่ยนอวี๋กำลังมองตน คงรู้สึกว่าน่ารำคาญมากเลยใช่ไหม?
ต้องเข้าใจว่าต่อให้เป็นนักประพันธ์เพลง บางคนก็ไม่ถูกใจเว่ยห่าวอวิ้น เพราะฉะนั้นเว่ยห่าวอวิ้นจึงรู้สึกว่าเซี่ยนอวี๋ก็อาจดูถูกสไตล์เพลงของตนเช่นกัน
แต่ถึงอย่างนั้น หลินเยวียนกลับยิ้ม เอ่ยว่า “เข้าไปคุยข้างใน”
เว่ยห่าวอวิ้นทำได้เพียงเดินเข้าไป
หลังจากเชิญอีกฝ่ายเข้าไปนั่งแล้ว หลินเยวียนจึงบอกว่า “เตรียมเพลงให้คุณเสร็จแล้ว”
เว่ยห่าวอวิ้นตกใจ ทันใดนั้นก็ลุกพรวดขึ้นมาอีกครั้ง “ฉันจะร่วมมือกับสไตล์เพลงของอาจารย์เซี่ยนอวี๋ จะแก้ไขวิธีการร้องให้ดี ลำบากอาจารย์เซี่ยนอวี๋แล้ว…”
หลินเยวียนขมวดคิ้ว “คุณไม่ชอบสไตล์ของตัวเองเหรอครับ?”
หลังจากเงียบลงไปชั่วขณะ เว่ยห่าวอวิ้นจึงเอ่ยตอบอย่างจริงจัง “ชอบค่ะ”
หลินเยวียนยิ้ม “งั้นทำไมต้องแก้ไขล่ะครับ?”
เว่ยห่าวอวิ้นชะงักไปชั่วครู่
ในเวลานั้นหลินเยวียนยื่นโน้ตเพลงไปตรงหน้าเว่ยห่าวอวิ้นแล้ว
เว่ยห่าวอวิ้นมองไปยังโน้ตเพลง ลองร้องทำนองในใจ ทันใดนั้นสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป
เพลงนี้!
คือสไตล์เพลงของฉัน!
เว่ยห่าวอวิ้นมั่นใจ!
นี่ไม่ใช่สไตล์ดนตรีก่อนหน้าของอาจารย์เซี่ยนอวี๋ ดูเหมือนว่าเพลงนี้ของอาจารย์เซี่ยนจะออกแบบมาเพื่อตนเอง!
เธอถึงกับอึ้ง!
หลินเยวียนตอบ “เพลงนี้ร้องคนเดียวได้ แต่ใส่ร้องคลอไปด้วยจะยิ่งดี เมื่อถึงตอนนั้นผมจะร่วมมือกับคุณ”
เว่ยห่าวอวิ้น “…”
เธอตกตะลึงในทันใด
หลายคนดูถูกสไตล์ดนตรีของเธอ แม้ว่าเพลงของเธอจะได้รับความนิยมมากในบางกลุ่ม แต่เว่ยห่าวอวิ้นนึกไม่ถึงว่าบุคลากรระดับสูงอย่างพ่อเพลงเขียนซึ่งมีดนตรีซึ่งโลกภายนอกมองว่า ‘เชย’ ถึงเพียงนี้เพื่อเธอ!
ถึงขั้นที่…
อาจารย์เซี่ยนอวี๋เต็มใจร้องคลอให้ตนด้วย!
เขาไม่รังเกียจความ ‘หยาบกระด้าง’ ของดนตรีประเภทนี้!
ในเวลานี้ เว่ยห่าวอวิ้นใบหน้าแดงก่ำ รู้สึกว่าหัวใจของเธอกำลังเดือดพล่านอยู่ในอก!
……
หลายวันต่อจากนั้นจะเป็นการฝึกซ้อม
ครั้งนี้ไม่มีวิดีโอเบื้องหลัง ทีมงานเพียงแค่บันทึกฉากที่น่าสนใจไว้บางส่วนเท่านั้น เมื่อถึงช่วงเวลาถ่ายทอดสด จึงตัดแทรกเข้าไปให้ผู้ชมดู
เป็นเช่นนี้
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป
การถ่ายทอดสดรอบที่สอง ในที่สุดก็มาถึง!
‘มาแล้วพี่ชาย!’
‘ในที่สุดก็เริ่มแล้ว!’
‘รายการนี้อัปเดตตอนใหม่ช้ามาก คนดูก็เร่งไปสิ น่าโมโห!’
‘ถือโอกาสที่ไม่มีใครสนใจ แอบไปหาของกินนิดหน่อยคงไม่มีใครเห็นใช่ไหม?’
‘แถวหน้ามีเมล็ดแตงโมกับข้าวโพดคั่วขาย พี่ชายชั้นบนอย่าสำลัก เอาเครื่องดื่มสักหน่อยไหม’
‘พวกคุณพอเถอะ อย่ารบกวนพี่ห่าวอวิ้นร้องเพลง!’
‘พ่อเพลงอวี๋: เพลงของพี่ห่าวอวิ้น ผมเขียนไม่ได้จริงๆ ต้องเชิญพ่อเพลงหยางแล้วไหม?’
‘เดาเลยว่ารอบนี้พ่อเพลงอวี๋ต้องคุกเข่า!’
‘ฮ่าๆๆๆๆ พี่ห่าวอวิ้นอาจเป็นผู้หญิงคนเดียวที่พ่อเพลงอวี๋รับมือไม่ไหว!’
‘…’
การจับคู่ในตอนที่แล้ว ก่อให้เกิดการถกเถียงในหมู่ชาวเน็ตจำนวนมาก
การ ‘ก่อเรื่อง’ ของทีมงานรายการทำให้เกิดความครึกครื้นในเว็บบอร์ดต่างๆ หลายคนต่างคาดหวังว่าคู่ซึ่งไม่เข้ากันแม้แต่น้อยจะจุดประกายไฟในการทำงา นร่วมกันได้อย่างไร
ในนั้น…
การร่วมงานระหว่างเซี่ยนอวี๋และพี่ห่าวอวิ้น คือความบันเทิงครั้งใหญ่ของผู้ชม
ประการแรกเนื่องจากเซี่ยนอวี๋โด่งดังมาก ประการที่สองเนื่องจากพี่ห่าวอวิ้นมีเอกลักษณ์ชัดเจนมาก ทุกคนนึกไม่ออกว่าสไตล์ของพี่ห่าวอวิ้นจะเป็นอย่างไรเมื่อเธอร้องเพลงของเซี่ยนอวี๋…
มีคนหยอกล้อว่า
ถ้าพี่ห่าวอวิ้นร้องเพลง ‘ปลายักษ์’
เช่นนั้นชื่อเพลงคงต้องเปลี่ยนเป็น ‘ฉลามขาวยักษ์’
เสียงของพี่ห่าวอวิ้น ไม่ได้มีสิ่งที่เรียกว่าความ ‘กังวานใสประหนึ่งไร้ตัวตน’
ในขณะนั้น
อันหงขึ้นมาบนเวที หลังจากกล่าวเปิดเวทีอย่างคล่องแคล่ว รายการในวันนี้ก็เริ่มต้นขึ้น
ในรอบนี้ อิ่นตงคู่กับนักร้องซึ่งมีชื่อว่าซ่าปั๋ว
สไตล์ของซ่าปั๋วคนนี้นี้มีความหนักแน่นและฮึกเหิม ในขณะที่ดนตรีของอิ่นตงส่วนมากจะไพเราะนุ่มนวล ดังนั้นการรวมตัวกันของทั้งสองก็เป็นผลมาจาก ‘การก่อเรื่อง’ ของรายการ
อย่างไรก็ตาม…
เมื่อซ่าปั๋วเริ่มร้อง บรรดาชาวเน็ตจึงได้ฤกษ์สรวลเสเฮฮาขึ้นมาทันใด!
เพลงนี้มีชื่อว่า ‘ปีกแห่งความรัก’ ฟังท่อนอินโทรแล้วให้ความรู้สึกนุ่มนวลอ่อนหวาน
นี่คือสไตล์ที่อิ่นตงถนัดที่สุด
แต่ถึงกระนั้น ซ่าปั๋วกลับร้องเพลงนี้ออกมาด้วยความรู้สึกหยาบกระด้าง!
นี่มัน ‘ปีกแห่งความรัก’ ที่ไหนกัน
นี่มัน ‘ปีกแห่งเหล็กกล้า’ ชัดๆ !
ไพเราะไหม?
เหมือนจะได้อยู่นะ
ตลกไหม
ตลกสุดๆ ไปเลย!
ความย้อนแย้งที่รุนแรงเช่นนี้ กลับกระตุ้นให้เกิดเคมีอันน่าอัศจรรย์ ไม่ทันไรทั้งหน้าจอก็เต็มไปด้วยคำว่า ‘เจ๋งงงง’ !
‘พี่ตงเปลี่ยนไป!’
‘เพลงของกระต่ายเมื่อรอบที่ผ่านมาว่างงแล้วนะ รอบนี้มาแบบงงกว่าเดิมอีก อิ่นตงได้เอฟเฟ็กต์ความบันเทิงมาจากรายการที่แล้วปะเนี่ย!’
‘พ่อเพลงอิ่นถูกปณิธานลูกคนรองตลอดกาลกระตุ้นเหรอ?’
‘เพลงนี้ติดหูอยู่นะแก’
‘ผมคิดว่าเพราะมาก หรือว่าผมแปลก?’
‘พี่ชายคอมเมนต์บน ไม่ใช่คุณคนเดียวที่คิดว่าเพลงนี้เพราะ’
‘…’
บนโลก
เถิงเก๋อเอ่อร์[1]ร้องเพลง ‘ปีกล่องหน[2]’ จนจางเสาหาน[3]งุนงน ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัยในชีวิต
และในขณะนั้น
เพลง ‘ปีกล่องหน’ ซึ่งซ่าปั๋วขับร้องกลับให้ความรู้สึกแตกต่างอย่างประหลาด จนผู้ชมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรประเมินว่าอย่างไร แต่กลับได้ความบันเทิงไปเต็มเปี่ยม!
……
ในห้องรับรองหลังเวที
เจิ้งจิงหัวเราะจนตัวโยน “ตอนนี้พี่ตงกลายเป็นนักประพันธ์เพลงเพื่อความบันเทิงไปแล้วใช่ไหม?”
หยางจงหมิง “…”
มันจะโลดโผนไปหน่อยไหม!
เมื่อก่อนอิ่นตงคือนักประพันธ์เพลงผู้เคร่งขรึม ถือกำเนิดมาพร้อมกับอำพาตใบหน้า
แต่มาตอนนี้ ในรายการนี้ เขาเล่นเสียสนุกเชียว
ต่อจากนั้น
มีคู่ซึ่งสไตล์ไม่เข้ากันอีกหลายคู่
ผลปรากฏว่าทุกการแสดงซึ่งสไตล์เพลงไม่เข้ากัน สุดท้ายแล้วกลับเรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชมได้อย่างต่อเนื่อง
จะพูดยังไงดีล่ะ
ไม่ถึงขั้นรถชนคว่ำหรอก
แต่เป็นความรู้สึกขัดแย้งกัน!
ความรู้สึกขัดแย้งกันนี้ทำให้บรรยากาศของการถ่ายทอดสดนี้แปลกพิลึก
ทุกครั้งที่ความรู้สึกขัดแย้งนี้ระเบิดขึ้น ทั้งห้องส่งจะระเบิดเสียงหัวเราะเช่นกัน!
สนุกมาก!
นี่คือรายการเพลงจริงหรือเปล่า?
เหมือนรายการ ‘นักประพันธ์เพลงชวนขำ’ แล้วไหม?
โชคดี
ที่ไม่ใช่ทุกคู่จะให้ความรู้สึกขัดแย้ง
ไมค์กับหูเฟิง คนหนึ่งประพันธ์เพลงอิเล็กทรอนิกส์ อีกคนหนึ่งเป็นเบลคานโต สุดท้ายแล้วก็ร่วมงานได้เป็นอย่างดี ถึงแม้สไตล์จะประหลาด ทว่าบทเพลงก็ไพเราะอย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อเพลงนี้จบลง ถึงแม้เสียงหัวเราะของผู้ชมจะไม่ดังนัก แต่เสียงปรบมือกลับดังสนั่น!
ในที่สุด…
ถึงคราวของหลินเยวียนและเว่ยห่าวอวิ้น
คู่นี้คือไฮไลท์ของวัน เป็นการแสดงคู่สุดท้าย!
ในเวลานี้
คอมเมนต์บนหน้าจอถล่มทลาย
‘พี่ห่าวอวิ้นมาแล้ว!’
‘พ่อเพลงอวี๋เตรียมเพลงอะไรให้พี่ห่าวอวิ้นนะ’
‘เดาว่าเพลงปลาฉลามยักษ์!’
‘ฮ่าๆๆๆ อารมณ์ประมาณปีกแห่งเหล็กกล้า?’
‘รอบนี้ตลกมาก!’
‘นั่งรอพ่อเพลงอวี๋ได้ที่โหล่!’
‘พ่อเพลงอวี๋: เพื่อนพ้องน้องพี่ที่น่ารัก ไม่ใช่ผมที่ไม่ได้เรื่อง แต่ทีมงานต่างหากที่หาเรื่องให้ผม’
‘…’
คอมเมนต์หลั่งไหลเข้ามา
และผู้ชมเป็นต้องตกตะลึง เมื่อเห็นหลินเยวียนหยิบไมโครโฟน เดินขึ้นไปบนเวที
‘พ่อเพลงอวี๋ขึ้นไปทำไมน่ะ’
‘เฮือก!’
‘เขาจะร้องเพลงด้วยเหรอ?’
‘นี่คือเพลงที่เขาเตรียมไว้ให้พี่ห่าวอวิ้นร้อง?’
‘ดูรายการบังคับให้พ่อเพลงอวี๋ต้องเป็นแบบนี้!’
‘แชมป์รายการราชาหน้ากากนักร้องมาแล้ว ยังต้องเล่นอะไรอีก?!’
‘พ่อเพลงอวี๋ทุ่มเกิน!’
‘…’
ทุกคนนึกไม่ถึงว่าเซี่ยนอวี๋จะลงสนามด้วย!
กล้องจับไปยังใบหน้าของนักร้องคนอื่นๆ
สีหน้าของพวกเขาประหนึ่งเห็นผี
อะไรกันเนี่ย
พ่อเพลงอวี๋ขึ้นไปทำไม
อย่างไรก็ตาม อันหงไม่ได้ห้ามปราม หนำซ้ำยังกล่าวอย่างยิ้มแย้ม “ขอเชิญทั้งสองเริ่มการแสดงครับ”
หลินเยวียนพยักหน้าให้เว่ยห่าวอวิ้น
เว่ยห่าวอวิ้นหยิบไมโครโฟนขึ้นมา
ทันใดนั้นเสียงดนตรีดังกระหึ่มด้วยจังหวะอันรุนแรงหนักแน่น ราวกับเพลงแดนซ์ลูกทุ่งซึ่งได้ยินกันบ่อยครั้งในดิสโกเธค
หลังจากนั้น
เสียงของเว่ยห่าวอวิ้นดังขึ้น แฝงไปด้วยความรู้สึกดิบเถื่อนและกล้าหาญ
“ความรักของฉันคือผืนฟ้ากว้างใหญ่!”
“เชิงเขาขจีมีหมู่บุปผาแมกไม้!”
“ส่ายเอวกันให้เต็มที่ ต้องร้องเพลงจังหวะใด!”
“เพลิดเพลินกันเต็มที่ต้องร้องเพลงแบบไหน!”
ชั่วพริบตา
ทุกคนต่างตกตะลึง
ฮะ?
เพลงอะไร
ทั้งหยาบกระด้างทั้งแตกต่าง?
ความเชยแบบนี้จริงจังหรือเปล่า?
นี่คือเพลงที่เซี่ยนอวี๋เขียนออกมา!?
ตึ่งๆ ต๊ะ ตึ่งๆ ต๊ะ จังหวะติดหูจนล้างสมอง ความถี่ของเสียงดนตรีกระหึ่ม เสียงผู้หญิงทรงพลังดังขึ้นอย่างไม่อาจพรรณาได้
สายธารอันคดเคี้ยวจากนภาแสนไกล
ทะเลหมื่นสีสันผืนน้ำยังรินไหล
ตั้งตารอเพลงมันมันเพราะเราจะโยกย้าย
เดินทอดน่องร้องเพลงไปได้ผ่อนคลาย
อยากร้องเพลงก็ร้องเพลงทั้งอิ่มอกทั้ง! อิ่ม! ใจ!”
“…”
ผู้ชมทั้งห้องส่งตะลึงงัน
เซี่ยนอวี๋เขียนเพลงแบบนี้ออกมาหรือ?
เซี่ยนอวี๋เขียนเพลงที่เข้ากับสไตล์ของเว่ยห่าวอวิ้น?
แม่เจ้าโว้ย!
ปลาตัวนี้นึกคึกขึ้นมาแล้ว!
เว่ยห่าวอวิ้นยิ่งร้องยิ่งมีทิศทาง เสียงของเธอเปี่ยมไปด้วยความห้าวหาญ
“สำหรับฉันเธอคือหมู่เมฆสดใส!”
“ฉันจะเก็บเธอไว้สุดหัวใจ!”
หลินเยวียนหยิบไมโครโฟนขึ้นมา
แววตาของผู้ชมเป็นประกายขึ้นทันใด
ถึงแม้เพลงนี้จะไม่เข้ากับสไตล์ที่เซี่ยนอวี๋คุ้นเคย แต่ทุกคนอยากฟังเซี่ยนอวี๋ร้องเพลง!
ปรากฏว่า…
หลินเยวียนตะโกนสามคำต่อหน้าทุกคน “สุด! หัว! ใจ!”
และต่อจากนั้น…
เขาลดไมโครโฟนลง
แววตาของผู้ชมสับสนอย่างเห็นได้ชัด
อะไรนะ?
หมดแล้ว?
แค่สามคำ?
สุดหัวใจ?
ไม่มีใครกล้าไล่คุณไปไหนหรอก
เว่ยห่าวอวิ้นร้องเพลงต่อ ทันใดนั้นหลินเยวียนจึงหยิบไมโครโฟนออกมา และตะโกนท่ามกลางสายตาคาดหวังของผู้คนมากมาย
“สุด! หัว! ใจ!”
ร้องจบ หลินเยวียนจึงเก็บไมโครโฟนลงอย่างชำนาญ
ผู้ชมงุนงง
ทันใดนั้น
โสตประสาทของทุกคนก็ถูกครอบงำด้วยเสียงปีศาจของเว่ยห่าวอวิ้น และสามคำล้างสมองของเซี่ยนอวี๋ซึ่งยกไมโครโฟนขึ้นมาตะโกนเป็นครั้งคราว
“สุด! หัว! ใจ!”
หลังเวที นักร้องต่างหัวเราะกันจนน้ำหูน้ำตาไหล!
บนเวที
ทันใดนั้นก็มีคุณป้ากลุ่มหนึ่งปรากฏตัวขึ้นบนเวที พวกเธอเต้นรำอย่างแคล่วคล่อง ปล่อยใจอย่างอิสระไปพร้อมกับบทเพลง!
“อ่า!”
“มีเต้นประกอบเพลงด้วย!”
เจิ้งจิงสนุกสนานเต็มที่ เธอลุกขึ้นเต้นตามอยู่ในห้องรับรอง!
ด้านข้าง
หยางจงหมิงยกมือขึ้นปิดหน้าอย่างอดไม่ได้ ไหล่ของเขาสั่นเทิ้มราวกับกำลังกลั้นหัวเราะไม่ไหว
“พระเจ้าช่วย!”
“อะไรกันเนี่ย!”
“เพลงนี้ปังนะ!”
“ตอนนี้ในสมองของผมมีแต่เพลงนี้ เอาออกไปไม่ได้!”
“ช่วยด้วย!”
“อยากลุกขึ้นมาเต้น…”
“คุณป้าบนเวทีก็สนุกไปอีก!”
“…”
ทุกคนถูกล้างสมองไปแล้ว!
ทุกคนติดเชื้อกันหมดแล้ว!
นักร้องด้านหลังเวทีเต้นกันวุ่นวาย!
นี่คือครั้งที่โกลาหลที่สุดนับตั้งแต่มีการบันทึกเทปรายการเพลงของเรา!
ร้องเสียงของเว่ยห่าวอวิ้น นำพามนตร์สะกดอัศจรรย์ ผ่านวิธีการขับร้องที่เรียบง่ายที่สุด และท่วงทำนองที่ซ้ำไปมา!
ในที่สุดเซี่ยนอวี๋ก็เปลี่ยนเนื้อร้องแล้ว
เขาร้องด้วยรูปแบบการร้องคลอ “โย่ว…โย่ว…ลองฟังดู…โย่ว…โย่ว”
ในขณะที่ทุกคนคิดว่าในที่สุดเซี่ยนอวี๋ก็จะเริ่มการแสดงของเขา อย่างเป็นทางการ ทันใดนั้นเขาก็ลากเสียงตะโกนออกมา
“สุด! หัว! ใจ!”
และเก็บไมโครโฟนกลับไปอย่างชำนาญ
สุดหัวใจ?
สุดหัวใจอะไรอีก!
แคร็กๆ !
ผู้ชมแทบล้มทั้งยืน!
นี่คือเซี่ยนอวี๋ตัวจริงใช่ไหม?
นี่คือเพลงที่เซียนอวี๋เขียน?
ฉันไม่เชื่อหรอก!!!
[1] เถิงเก๋อเอ่อร์ (Tenger) นักร้องและนักประพันธ์เพลงชาวจีนเชื้อสายมองโกล จากมองโกเลียใน
[2] ปีกล่องหน (Invisible Wings) ขับร้องโดยจางเสาหาน คำร้องและทำนองโดยหวังหย่าจวิน เวอร์ชันต้นฉบับเป็นเพลงช้า ขับร้องด้วยเสียงกังวานใส ให้ความรู้สึกซาบซึ้ง ภายหลังเถิงเก๋อเอ่อร์นำมาขับร้องเป็นเพลงเร็วบนเวที กอปรกับวิธีการขับร้องอันเป็นเอกลักษณ์ ให้ความรู้สึกสนุกสนานและฮึกเหิม แตกต่างจากต้นฉบับอย่างสิ้นเชิง
[3] จางเสาหาน (Angela Chang) นักร้องชาวไต้หวัน เป็นนักร้องต้นฉบับเพลงปีกล่องหน