บทที่ 11 เธอมีสิทธิ์อะไร
เมื่อออกมาจากสตูดิโอถ่ายหนัง ซูสือเยว่เดินไปตลาดสดละแวกนั้น
เธอไม่ลืมว่าคืนนี้ต้องทำมื้อค่ำให้ ซิงหยุนเเละซิงเฉิน
“คุณชาย เธอไปซื้อกับข้าวแล้ว”
เบนท์ลีย์คันสีดำจอด ไป๋ลั่วมองไปยังชายที่นั่งอยู่เบาะหลัง ” เราจะรอต่อไปหรือว่า… ”
ฉินโม่หานวางโทรศัพท์ลง ก่อนจะลดกระจก มองตามแผ่นหลังของหญิงสาว
จนถึงตอนนี้ เขารู้ถึงความสัมพันธ์ของกับสองคนนั้นแล้ว
เเฟนกับเพื่อนรัก รวมหัวกับทำเรื่องพวกนั้นลับหลังเธอ แต่ก็ยังเชิดหน้าชูคอต่อหน้าเธอได้
เขาคิดว่า จากคืนนั้นท่าทางของเธอที่เมาเหล้าดูเศร้าเกินจะบรรยาย เรื่องที่เกิดขึ้นคงทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดไม่น้อย
แต่….
เขามองหญิงสาวที่เดินสาวเท้าอย่างเริงร่า เธอฮัมเพลงเบาๆ และมุ่งไปยังตลาดสด คิ้วเข้มของเขาขมวดขึ้นเล็กน้อย
*
หลังจากที่ ซูสือเยว่ซื้อวัตถุดิบทำอาหารที่ตลาดสดให้กับลูก ๆ ทั้งสองแล้ว ก็เดินผ่านแผงขายปลาข้างทาง
เธอนึกขึ้นได้ว่า ก่อนหน้านี้เธอเคยถามพ่อบ้านว่า ฉินโม่หานชอบกินอะไรเป็นพิเศษไหม
พ่อบ้านบอกเธอว่าเขาชอบกินปลา
จริง ๆ เเล้วซูสือเยว่ไม่ชอบทำเมนูปลา เพราะว่าเฉิงเซวียนกลัวปลา กลัวขนาดที่ว่าทำออกมาเป็นจานแล้วก็ยังไม่กล้าแตะต้องมัน เขาเป็นมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
ซูสือเยว่เลยรู้สึกไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตชนิดนี้ไปเลยปริยาย
แต่ฉินโม่หานกลับชอบกินมัน
เธอเลือกซื้อปลาตัวที่ดูสดจากแผงขายปลาอย่างตั้งใจ จากนั้นให้ร้านฆ่าเเล้วทำความสะอาดให้เรียบร้อยจึงเอากลับไป
ซื้อวัตถุดิบเสร็จ หญิงสาวก็หิ้วถุงที่ใส่ของเต็ม ๆ สองใบแล้วออกจากตลาด
หลังจากออกมาจากตลาดแล้ว ก็ถูกผู้ช่วยของเฉิงเซวียนลากตัวเข้าไปในตรอก
” เจอตัวสักทีนะ ”
เฉิงเซวียนยืนพิงประตูรถ สายตาที่มองซูสือเยว่ดูเย็นชาเหลือเกิน “ให้ผมไปส่งคุณกลับบ้านเถอะ “
ซูสือเยว่กวาดตามองรถด้านหลังเขา ก่อนจะยิ้มน้อย ๆ เเล้วตอบกลับว่า ” ไม่จำเป็นแล้วล่ะ ”
” ตอนนี้ฉันกับสามีของฉันอยู่คฤหาสน์ของเมืองฝั่งตะวันตกน่ะ รถกระจอก ๆ ของคุณ ฉันคงจะนั่งไม่ลง ”
” คุณก็รู้อยู่เเล้วว่าฉันแต่งงานกับท่านชายฉิน ก็ชัดเจนแล้วว่า ทรัพย์สินที่เขามี ทั้งชีวิตของคุณก็ไม่สามารถหามันมาได้ ”
สีหน้าของเฉิงเซวียนเปลี่ยนไปจนแทบจะดูไม่ได้ เขาถลึงตาใส่ ซูสือเยว่ ” เพราะแบบนี้สินะ เธอเลยยอมแต่งงานกับท่านชายฉินเเค่เพราะว่าอยากจับคนรวย ๆ น่ะเหรอ”
ซูสือเยว่ยิ้มเเล้วตอบ
” ใช่ ”
เธอมองไปที่ เฉิงเซวียน ในตาของเธอปราศจากเเววตาที่คลั่งรักเเละหลงใหลเขาเหมือนเมื่อก่อน
ตอนนี้ชายตรงหน้าทำมห้เธอรู้สึกขยะแขยง ” ฉันเกลียดที่คุณมันจนยังไงล่ะ เกลียดที่คุณไม่ได้รวยเท่าท่านชายฉิน ได้คำตอบแบบนี้แล้วพอใจรึยัง ”
“คุณโกหก ”
เฉิงเซวียนจ้องไปที่หน้าของซูสือเยว่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มออกมา ” ผมรู้ว่าคุณไม่ใช่คนประเภทนั้น ”
เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า ” สือเยว่คุณยังโมโหกับเรื่องที่พึ่งเกิดขึ้นอยู่อีกเหรอ ”
” เมื่อกี้อารมณ์ทุกคนไม่ค่อยดี ถ้าไปทำอะไรให้กระทบเธอละก็ ผมต้องขอโทษคุณด้วยจริง ๆ ”
” เเต่ในเมื่อคุณไม่ยอมให้ผมไปส่งคุณ ถ้างั้นผมขอพูดอะไรสักหน่อย ไม่ยาวหรอก ”
ชายหนุ่มถอนหายใจอีกครั้ง ” เมื่อกี้หวั่นฉิงมาร้องไห้เสียใจกับผม เธอจ่ายเงินให้คุณถึงสามเท่า เพื่อให้คุณมาเป็นสตั๊นท์เเมนของเธอ เเต่คุณก็ยังทำผิดพลาดหลายต่อหลายครั้ง จนหัวหน้าผู้กำกับมีปัญหากับเธอ ”
ซูสือเยว่ยิ้มอย่างเย็นชา
ทำไมหัวหน้าผู้กำกับถึงต้องมีปัญหากับหวั่นฉิงล่ะ
มันไม่ใช่เพราะหล่อนเป็นคนตะบี้ตะบันสั่งให้เธอต้องถ่ายฉากตบซ้ำ ๆ หรอกเหรอ
กลับกลายเป็นว่าเธอเป็นคนผิดเสียอย่างนั้น!
” ผมหวังว่าคุณจะตั้งใจทำงานมากกว่านี้ เเยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวด้วยล่ะ ”
เฉิงเซวียนเม้มปากเเน่น ” ผมรู้ว่าคุณไม่มีทางรับเรื่องที่ผมกับหวั่นฉิงนั้นคบกัน ”
” แต่พวกเรารักกันด้วยใจจริง ”
” ถ้าคุณจะกล่าวโทษล่ะก็ ให้มันเป็นผมที่ผิดเถอะ ”
” เป็นเพราะผมเองที่ปิดบังมัน ผมทนไม่ได้ที่เห็นคนที่ตัวเองรักไปมีลูกให้คนอื่น ผมก็เลยไปมีอะไรกับหวั่นฉิงตอนที่คุณคลอดลูกเมื่อห้าปีก่อน ”
ซูสือเยว่ผงะไปชั่วขณะ
วันนั้นเมื่อห้าปีก่อน เธอประสบอุบัติเหตุรถชน เธอยื้อชีวิตของตัวเองเต็ม ๆ หนึ่งวันหนึ่งคืน สุดท้ายก็เสียลูกที่กำลังจะคลอดไป
หมอบอกว่าเธอโชคดีมาก ถ้าร่างกายอ่อนแอกว่านี้อีกนิดเดียว เธอคงตายอยู่ในห้องผ่าตัดไปแล้ว
แต่ตอนนี้เฉิงเซวียนกำลังบอกเธอว่า ขณะที่เธอทำเพื่อเขา ขณะที่เธอเกือบจะตายในห้องผ่าตัด เขากลับไปมีอะไรกับหวั่นฉิง
เธอยิ้มอย่างเยือกเย็น พูดด้วยน้ำเสียงเศร้าใจว่า ” คุณกับเซี่ยงหวั่นฉิง คงจะมีอะไรกันมาก่อนห้าปีที่เเล้วอีกสินะ ”
” คุณอย่าพูดจาน่ารังเกียจไปหน่อยเลย ”
เฉิงเซวียนย่นคิ้ว ” ผมจะทำหรือไม่ได้ทำ มันก็ชัดเจนอยู่เเล้วว่าคุณหักหลังผม ”
” ไม่มีผู้ชายคนไหนหรอกที่จะรับได้ว่าเเฟนของตัวเอง… ”
“เพี๊ยะ! ”
ฝ่ามือของซูสือเยว่สะบัดออกไป
ฝ่ามือนี้เธอหวดลงไปอย่างสุดเเรง จนทำให้เฉิงเซวียนถึงกับต้องถอยหลังไปหนึ่งก้าว
“ห้าปีก่อนฉันทำงานหาเงินเพื่อให้คุณเอาไปลบล้างชื่อเสียงเเย่ ๆ นั่น เเต่คุณไม่เคยบอกฉัน คุณทิ้งฉัน เเล้วไปอยู่กับเซี่ยงหวั่นฉิง ”
เธอกัดปากอย่างเเรง ” เอาเงินของฉันไปทำให้ตัวดูขาวสะอาด ดื่มด่ำกับความรุ่งโรจน์ที่ฉันนำพามันมาให้คุณคุณทิ้งฉันเหรอ เฉิงเซวียน คุณมีสิทธิ์อะไร! ”
สีหน้าของเฉิงเซวียนดูกำกวมสับสน สายตาดูเย็นชา ” คุณไปมีลูกกับคนอื่น ทำผิดยังไม่รู้จักละอายเเก่ใจที่จะคบกับผมต่อผมใช้เงินของคุณบ้างจะเป็นอะไรไป ”
หัวใจของ ซูสือเยว่เหมือนตกลงไปยังก้นบึ้งของในโพรงน้ำเเข็ง
ความรู้สึกของเธอตลอดห้าปี ที่เธอทุ่มเทไปมันไม่ทำให้เธอเสียใจอีกเเล้ว สุดท้ายก็เป็นเธอที่เลี้ยงจิ้งจอกตาขาว เจ้าเล่ห์ ไม่รู้จักถึงบุญคุณ!
ทันใดนั้น เธอก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองพึ่งซื้อปลามา
เฉิงเซวียน กลัวปลาที่สุด
ซูสือเยว่กัดฟันเเน่น ก่อนจะเอาปลาที่ชุ่มไปด้วยเลือดสาดลงไปบนตัวของเฉิงเซวียน
ปลาตัวนั้นพุ่งไปตกกลางหน้าอกของเฉิงเซวียนแบบพอดิบพอดี ” ถือว่าให้แล้วกันนะ ไม่ต้องขอบคุณ! ”
ชายหนุ่มตะโกนเรียกชื่อออกมาเสียงแหลม ” ซูสือเยว่ ”
” เธอบ้าไปเเล้วเหรอ ”
” ผู้ช่วย! คุณเอาปลานี่ออกไปที ”
หญิงสาวใช้มือหิ้วของที่ซื้อมา ก่อนสาวเท้าออกจากตรอก ขึ้นรถแท็กซี่เเล้วจากไป
” ซูสือเยว่ ผมจะไม่มีวันให้อภัยคุณเเน่! ”
จากนั้น เสียงของชายหนุ่มก็ดังห่างออกไปเรื่อย ๆ
ซูสือเยว่นั่งพิงเบาะหลังบนรถเเท็กซี่ เธอใช้มือกุมดวงตาของตัวเองเอาไว้
แต่น้ำตาของเธอก็ยังไหลออกมาตามร่องนิ้วของเธอแบบไม่ขาดสาย
บนโลกนี้คงไม่มีใครโง่ไปกว่าเธออีกแล้ว
ที่โดนคนสารเลวอย่างเฉิงเซวียนกับเซี่ยงหวั่นฉิง ปั่นหัวมาห้าปีเต็ม ๆ
ยามเย็นเป็นช่วงที่รถติดมาก
กว่าเเท็กซี่จะถึงคฤหาสน์ขอบตระกูลฉิน ซูสือเยว่ก็ร้องไห้จนน้ำตาเเห้งเเล้ว
เธอจัดการกับอารมณ์ของตัวเองเเล้วลงจากรถ
ตรงประตูทางเข้าบรอเวณระเบียงทางเดินที่ปูไปด้วยดอกไม้ ฉินโม่หานกำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่
ขาทั้งสองข้างอันเรียวยาวนั้นถูกห่อหุ้มไปด้วยกางเกงสเเล็คสีขาว เขายืนพิงระเบียงทางเดินในขณะที่ปากคาบบุหรี่อยู่สูบบุหรี่ไปด้วย และคุยโทรศัพท์กับใครคนนึงในเวลาเดียวกัน
เเสงเเดดที่ตกกระทบของดวงอาทิตย์ในช่วงเย็นเเละควันบุหรี่ที่ลอยคละคลุ้ง ยิ่งทำให้ร่างของเค้าดูเด่นขึ้นมาอีก ดูเคร่งขรึมน่าเกรงขาม
บนร่างของชายหนุ่มโชว์ให้เห็นถึงความเป็นชายหนุ่ม ที่ทำให้ใจของซูสือเยว่อดไม่ได้ที่จะเต้นระรัว
มือนั้นหิ้วของที่พึ่งซื้อมา เธอเดินผ่านไป เพราะรู้ว่าเขากำลังยุ่งอยู่ จึงเดินเเนบไปกับระเบียงทางเดินอีกฝั่ง
จังหวะที่กำลังเดินผ่าน เขาได้วางสายจากโทรศัพท์พอดี ก่อนจะยกมือขึ้นมาขวางเธอเอาไว้
ชายหนุ่มเหลือบตามองคู่หนึ่งก่อนจะทักขึ้น ” ในมือคืออะไร ”
” ตอนค่ำว่าจะทำอาหารให้ ซิงหยุน กับ ซิงเฉิน กิน ”
หรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนจะก้มหัวลงมาเเนบกายเข้าไปใกล้ ๆ เธอ ” มีเเค่พวกเขา เเต่ไม่มีให้ผมเหรอ ”
กลิ่นอายที่เยือกเย็นเเละน่าเกรงขามของเขา ทำให้ ซูสือเยว่จิตใจว้าวุ่น เธอก้มหน้าก่อนจะตอบ ” มีสิ ”
” ฉันซื้อปลาที่คุณชอบกินมาให้…. ”
” อยู่ไหนล่ะ ”
เธอลืมตัวก่อนจะยกมือข้างขวาของตัวเองขึ้นมา
ว่างเปล่านี่
เธอพึ่งนึกขึ้นได้ว่า เอาปลาที่ซื้อมาให้ฉินโม่หาน ไปโยนใส่เฉิงเซวียนเสียแล้ว
หญิงสาวยิ้มอย่างเก้อเขิน ” คงจะลืมซื้อน่ะ ครั้งหน้าฉันจะซื้อมาใหม่นะ ”
” ดี ”
ชายหนุ่มเชยคางของเธอเอาไว้ รอยยิ้มของเขาดูสง่างามเเละน่าหลงใหล ” จำไว้ ว่าคุณติดหนี้ผมครั้งหนึ่ง ”
ซูสือเยว่ ” …… ”
*
ร้านเหล้าระดับห้าดาวเเห่งหนึ่ง
เฉิงเซวียนนั่งอยู่กับกลุ่มโปรดิวเซอร์เเละสปอนเซอร์ เขารู้สึกว่ากลิ่นคาวปลาบนตัวของเขาไม่ได้จางลงเลยเเม้เเต่น้อย
ไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟ
เฉิงเซวียนมองเมนูปลาทั้งหมดบนโต๊ะด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ เเต่ก็ไม่กล้าระเบิดอารมณ์ออกมา
ทั้งวงการบันเทิงเค้ารู้กันอยู่แล้วว่าตัวเขาเกลียดปลาขนาดไหน!
คนถ่ายหนังยิ้มหน้าเหยเกก่อนจะพูดว่า ” ขอโทษทีนะคุณเฉิง พอดีมีคนสั่งว่าให้คุณกินได้เเค่ปลาในคืนนี้น่ะ ”