สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – บทที่ 97 ในสายตาของคุณ ผมใจแคบขนาดนั้นเลย

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

ร่างของไป๋ยู่หนานนิ่งแข็งไปทันที

เขาหันหน้าไปทันที

ประตูทางเข้าห้องผู้ป่วย ชายร่างสูงใหญ่กำลังยืนกอดอกอยู่ มองเขามาด้วยดวงตาที่ประดับไปด้วยความเย้าหยอก

“แค่กแค่ก——“

ไป๋ยู่หนานกระแอมไอออกมาเบาๆ “จู่ๆฉันก็นึกขึ้นมาได้ว่าทางโน้นฉันยังมีผู้ป่วยกำลังรออยู่ ฉัน…ฉัน ฉันไปทำงานก่อนนะ!”

พูดจบ ก็ไม่สนว่าฉินโม่หานจะมีสีหน้ายังไงออกมา ชายหนุ่มก็ได้ลุกขึ้นพรวดพราดสาวก้าวยาวๆเดินอ้อมฉินโม่หานออกไปทันที

“เฮ้…”

ซูสือเยว่ยกมือขึ้นมา ไม่ทันได้พูดออกไปสักคำเดียว ร่างของไป๋ยู่หนานก็ได้หายไปจากระยะสายตาของเธอไปเสียแล้ว

“ทำไม อาลัยอาวรณ์ไม่​อยากจากเขา?”

ชำเลืองเห็นสีหน้าของซูสือเยว่ ชายที่อยู่ตรงหน้าประตูก็ได้ยกมือขึ้นไปปิดประตูห้องผู้ป่วยลงไปนิ่งๆ

“หลังจากที่เสียง “ปัง” ดังขึ้น ภายในห้องที่ได้ปิดลง เหลือเพียงแค่ซูสือเยว่กับฉินโม่หานแค่สองคน

ชายหนุ่มก้าวเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเธออย่างสง่างาม นั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆ เปิดกล่องข้าวให้เธอด้วยท่าทีที่อ่อนโยน แล้วได้ส่งช้อนเข้ามาในมือเธออีกที

ซูสือเยว่รับช้อนมา “ขอบคุณ…”

พูดจบ เธอก็ก้มหน้าลง กินข้าวต้มไปอย่างระวัง “ฉันรู้ว่าที่ไป๋ยู่หนานพูดมาเมื่อกี้นี้มันเป็นเรื่องเหลวไหลทั้งนั้น ฉันไม่มีทางคิดเป็นจริงเป็นจังหรอก”

ในเสียงทุ้มต่ำของฉินโม่หานได้ประดับไปด้วยรอยิ้มอารมณ์ดีออกมาด้วยเล็กน้อย “สิ่งที่เขาพูดมามันก็ไม่ใช่เรื่องโกหกไปเสียหมดหรอก”

ซูสือเยว่นิ่งอึ้งไป เงยหน้าขึ้นมองเขา

ในดวงตาที่ล้ำลึกคู่นั้นของชายหนุ่มประดับไปด้วยรอยยิ้มอารมณ์ดีออกมาอย่างไม่ชัดเจนนัก

“ทำไมถึงมองผมอย่างนั้น?”

ซูสือเยว่หน้าแดงออกมา รีบก้มหน้าลงไปกินข้าวต้มต่อทันที

ฉินโม่หานหรี่ตาลงเล็กน้อย

เขาสามารถรู้สึกได้ว่าเธอระวังตัวมาก

“ซูสือเยว่”

ตอนที่เสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มเรียกชื่อเธอออกมา มันมีความไม่รื่นหูขึ้นมาเล็กน้อย แต่เสียงมันกลับน่าฟังมาก

เธอส่งเสียงอืมออกไปเบาๆ แล้วตั้งหน้าตั้งตากินข้าวต้มต่อไป

“คุณพ่อมาแล้ว?”

เธอพยักหน้าตอบไปเงียบๆ “คู่หมั้นของคุณก็มาด้วย”

“คู่หมั้น?”

ฉินโม่หานย่นคิ้วออกมาเล็กน้อย ผ่านไปครู่ใหญ่ๆ กว่าจะนึกขึ้นมาได้ว่าคนที่เธอพูดถึงคงจะเป็นเย่เชียนจิ่ว

ชายหนุ่มยกมือขึ้นมายึดถ้วยข้าวต้มของเธอไป “ผมทำให้เถอะ”

เห็นเขาเอาช้อนมาจ่ออยู่ตรงปากของตนแล้ว ซูสือเยว่มีอาการระวังตัวออกมาเล็กน้อย “ฉันกินเองได้”

“ใช่ว่าผมจะไม่เคยป้อนคุณมาก่อนเสียหน่อย”

เขาส่ายหน้าออกมาอย่างจนใจ เอาช้อนยื่นออกไปข้างหน้าอีกนิดนึงอีกครั้ง

เธอมองเขาไปแวบนึง แล้วก็ได้ก้มหน้าลงไปช้าๆ กินข้าวต้มช้อนนั้นเข้าไป

คำแล้วคำเล่า

เสียงทุ้มต่ำของฉินโม่หานก็ได้ดังขึ้นมาเบาๆ “เย่เชียนจิ่วเธอไม่เคยเป็นคู่หมั้นของผมเลย”

“แต่ว่า…”

“เธอเป็นคนที่พี่รองของผมพากลับมา”

“พี่รองของผมเมื่อก่อนเคยเป็นทหารมาก่อน ภารกิจครั้งสุดท้ายก่อนปลดประจำการได้เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นมา หัวหน้าของเขามาบังสายฟ้าแทนเขา เสียชีวิตไปจนศพไม่เป็นรูปเป็นร่าง”

“หลังจากที่หัวหน้าเสียชีวิตไป ภรรยาของเขาที่อยู่ที่ชนบททนรับไม่ไหวจึงได้ฆ่าตัวตายไป เหลือเพียงลูกสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะอยู่คนนึง พี่รองก็เลยพาเด็กสาวที่ได้กลายเป็นเด็กกำพร้าคนนี้กลับมาที่ตระกูลฉิน เลี้ยงดูมาเป็นน้องสาว”  

ซูสือเยว่ชะงักไป “เด็กผู้หญิงคนนี้ก็คือเย่เชียนจิ่ว?”

“อืม”

ฉินโม่หานพยักหน้าออกมา แล้วก็ป้อนข้าวต้มเธอต่อ “ตอนที่เธอมาถึงตระกูลฉิน ผมอายุสิบแปดปี เธออายุสิบห้า”

การกระทำของชายหนุ่มเป็นไปอย่างอ่อนโยน น้ำเสียงเองก็อ่อนโยนไปด้วย “ตอนนั้นพี่รองพูดเล่นๆออกมาว่าอยากให้หลังจากที่เธอโตแล้วมาแต่งงานกับผม มันก็เลยเกิดข่าวลือว่าเธอเป็นคู่หมั้นของผมแพร่ออกมา” 

มือทั้งสองข้างของซูสือเยว่จับผ้าปูที่นอนข้างๆตัวแน่นอยู่เงียบๆ “เพียงแค่ข่าวลือเหรอ?”

“แล้วคุณคิดว่าไงล่ะ?”

ฉินโม่หานมองเธอ นัยน์ตาสีดำคู่นั้นล้ำลึกจนมองไม่เห็นก้นบึ้ง “ถ้าผมคิดอะไรกับเธอจริงๆ คุณคิดว่าคุณจะยังมีโอกาสอีกเหรอ?”

ซูสือเยว่ชะงักไป

ถึงแม้ว่าคำพูดนี้ของเขาจะโหดร้ายไปบ้าง แต่เธอก็ได้ถูกโน้มน้าวให้เชื่อไปแล้ว

ใช่แล้ว

เย่เชียนจิ่วไม่ว่าจะยังไงก็อาศัยอยู่ที่ตระกูลเย่มาเป็นสิบปีแล้ว

ถ้าเธอเป็นคู่หมั้นของฉินโม่หานจริงๆ ฉินโม่หานอยากจะแต่งงานกับเธอจริงๆล่ะก็…

ทำไมถึงวนมาที่ตระกูลซูเพื่อพาเธอไปอยู่ข้างกายเขาอีก?

แต่ว่า…

ฉินโม่หานตักข้าวต้มส่งไปทางปากเธอไปอีกช้อนนึง “ยิ่งไปกว่าก่อนหน้าที่จะแต่งงานกับคุณ คุณพ่อก็ได้จัดเตรียมคู่ดูตัวให้ผมมาสองคนด้วย”

ซูสือเยว่ขมวดคิ้วออกมา

ก่อนหน้าที่จะแต่งงานกับฉินโม่หาน อันที่จริงเธอก็เคยได้ยินข่าวซุบซิบของเขามาจากซูโม่มาบ้างแล้วเหมือนกัน

แต่ทว่าทำไมเธอถึงจำได้ว่าตอนนั้นซูโม่บอกว่าเขาเป็นคนกำจัดผู้หญิงสองคนนั้นไป?

เหมือนราวกับว่าจะมองทะลุไปถึงสิ่งที่อยู่ในใจเธอ ฉินโม่หานได้ยิ้มออกมาอย่างจนใจ “ใบหน้าเสียโฉม นิสัยโหดเหี้ยม เล่นผู้หญิงจนตาย…ข่าวพวกนี้ล้วนแล้วจะเป็นข่าวลือที่ซิงเฉินได้ให้คนแพร่กระจายออกไป”

ซูสือเยว่ตื่นตกใจออกมา “ซิงเฉินแต่งขึ้นมาเอง?”

“อืม”

ฉินโม่หานพยักหน้าตอบรับออกมาอย่างสงบนิ่ง “เขาบอกว่ามันสามารถคัดกรองผู้หญิงที่อยากจะแต่งงานกับผมเพราะหน้าตาของผมและเงินของผมออกไปได้เยอะเลย”

ซูสือเยว่ “…”

นี่มันเป็นทฤษฎีที่ผิดเพี้ยนอะไรกันเนี่ย?

ร่างเธอสั่นออกมา ภายในใจสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา “งั้นคู่ดูตัวทั้งสองคนนั้นของคุณ…”

“ถูกซิงเฉินทำให้กลัวจนหนีไปแล้ว”

ชายหนุ่มได้ป้อนข้าวต้มให้กับซูสือเยว่ต่อไปอย่างไม่แยแส “จำตอนที่มาถึงวิลล่าตระกูลฉินครั้งแรกเห็นเข้ากับอะไรหรือเปล่า?”

ซูสือเยว่ “…”

นึกถึงสัตว์ประหลาดนั่นที่ซิงเฉินปลอมตัวมาวันนั้นขึ้นมา จนถึงตอนนี้เธอก็ยังตกใจไม่หาย!

วันนั้นเธอคิดจริงๆว่าฉินโม่หานมีหน้าตาอย่างนั้นจริงๆ และก็กลัวว่าจะต้องใช้ชีวิตกับคนอย่างนั้นไปตลอดชีวิตด้วยเหมือนกัน

…ดังนั้นแล้ว คู่นัดบอดของฉินโม่หานเมื่อก่อนหน้านี้ทั้งสองคนก็ได้ถูกซิงเฉินหลอกให้กลัวหนีไปอย่างนี้?

“พูดเรื่องพวกนี้กับคุณ เพียงแค่อยากบอกคุณว่าก่อนที่ผมจะรู้จักคุณ ก็ได้เริ่มหาแม่ให้พวกเขาทั้งสองคนแล้ว”

พูดจบ เขาก็ได้ส่งข้าวต้มช้อนสุดท้ายไปทางปากของซูสือเยว่ “ยังคิดว่าเย่เชียนจิ่วเป็นคู่หมั้นของผมอยู่หรือเปล่า?”

ซูสือเยว่ส่ายหน้าออกมาเงียบๆ

เธอเงยหน้าขึ้นไป มองเขาไปอย่างตั้งอกตั้งใจ “แต่ว่า ถึงแม้ว่าเย่เชียนจิ่วจะไม่ใช่คู่หมั้นของคุณ ก็ยังนับว่าเป็นน้องสาวของคุณด้วยเหมือนกันสินะ…”

“ทำไมเมื่อก่อนหน้านี้คุณถึงไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้ให้กับฉันเลย?”

ฉินโม่หานยิ้มออกมา

เขายื่นมือออกไปมือใหญ่ที่มีนิ้วมือที่เรียวยาวได้เก็บช้อนชามสำหรับกินอาหารไป “คนที่ไม่เป็นอะไรกัน จะพูดกับคุณไปทำไม”

“คนที่คุณแต่งด้วยคือผม ไม่ใช่พวกเขาสักหน่อย”

เสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มทำให้หัวใจของซูสือเยว่เต้นรัวขึ้นมา

เธอก้มหน้าลง “ฉันนึกว่า…คุณจงใจให้เธอมาหาฉัน”

“ทำไมถึงคิดอย่างนั้น?”

“ฉันนึกว่า…”

เธอเบะปากออกมาเล็กน้อย น้ำเสียงมีความน้อยใจออกมาเล็กน้อย “ฉันนึกว่าคุณแคร์เรื่องที่ฉันเคยมีลูกมาก่อน ก็เลยนึกว่าคุณจงใจให้เธอมาเตือนสติฉันว่าอันที่จริงแล้วคุณเองก็มีผู้หญิงชอบมากมาย…”

มือที่กุมเครื่องจานชามของฉินโม่หานชะงักไปเล็กน้อย

ผ่านไปได้สักพักใหญ่ๆ เขาก็ได้หันหน้าไป ในดวงตาที่ล้ำลึกจนมองไม่เห็นก้นบึ้งคู่นั้นมีอาการหน่ายใจออกมาเล็กน้อย “ไม่มีเย่เชียนจิ่ว คุณไม่รู้เลยหรือไงว่ามีผู้หญิงมากมายชอบผม?”  

ซูสือเยว่ “…”

พูดเสียเหมือนกับว่า…มีเหตุผลมากเลย

หญิงสาวเม้มริมฝีปากออกมา ผ่านไปได้ครู่ใหญ่ๆ กว่าเธอจะพูดต่อออกไปอย่างอ้ำๆอึ้งๆ “ขอโทษแล้วกัน”

ฉินโม่หานเก็บเครื่องจานชามเรียบร้อยแล้วก็ได้เอาไปวางลงบนโต๊ะเตี้ยที่อยู่ข้างๆเอาไว้ “ผมไม่ได้โทษคุณสักหน่อย”

“เพียงแต่ว่า”

เขายกมือขึ้นมาปาดเช็ดน้ำซุปที่ติดอยู่ตรงมุมปากของเธอ “ต่อจากนี้ไปอย่าคิดอะไรเหลวไหลอีก หืม?”

“แต่ว่า…”

หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมา “ฉันก็ยังอยากขอโทษคุณอยู่ดีนั่นแหละ”

“เกี่ยวกับเรื่องในอดีตของฉัน…”

“ซูสือเยว่”

คำพูดของเธอยังไม่ทันได้พูดออกมาจนจบ ก็ได้ถูกเขาขัดออกมาเสียงเย็น

เขาเลิกสายตาขึ้นมามองเธอ “ขอถามคุณสักคำถามนึง”

“ค่ะ”

“คุณถือสาที่ผมมีซิงเฉินกับซิงหยุนเด็กทั้งสองคนหรือเปล่า?”

“ไม่ค่ะ”

อันที่จริงเธอชอบพวกเขาทั้งสองคนมากเลย

“ถือสาที่ผมเคยมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนอื่นเมื่อห้าปีก่อนหรือเปล่า?”

“ไม่ค่ะ”

ตอนนั้น เธอยังไม่รู้จักเขา เธอเองก็กำลังทุ่มเทเพื่อเฉิงเซวียนไปด้วยใจจริงด้วยเหมือนกัน เธอไม่มีเหตุผลไปตำหนิอดีตของเขา

“ดังนั้นแล้ว”

ฉินโม่หานเชิดคางเธอขึ้นมา บังคับให้เธอสบตากับเขา “ทำไมคุณถึงตัดสินว่าผมจะถือสากับอดีตของคุณล่ะ?”

“ในสายตาของคุณผมมันใจแคบขนาดนั้นเลย?”

 

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

Status: Ongoing
หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท