บทที่ 12 องค์ชายที่สี่
ในขณะที่คนอื่นๆ กำลังพูดถึง ยู่ฉานชายผมบลอนด์ก็ทักทายเขาทันทีเมื่อเขามาถึง “พี่ยู่ฉาน ข้าดีใจที่เจ้าสามารถเข้าร่วมงานเลี้ยงในคืนนี้ได้”
ยู่ฉานมองไปที่เขาและยิ้ม
“ข้ามาถึงสักพักแล้วองค์ชายที่สี่”
ชายผมบลอนด์ไม่ใช่ใครอื่นเขาคือองค์ชายที่สี่ องค์ชายคนที่สี่สวมฉลองพระองค์ที่สะดุดตาทำให้เขาโดดเด่นท่ามกลางฝูงชน เพียงแค่มองเพียงครั้งเดียวก็สามารถบอกได้ทันทีว่าเขามาจากครอบครัวที่ร่ำรวยมากหรืออะไรสักอย่าง
องค์ชายที่สี่หัวเราะเล็กๆ ทั้งสองแลกเปลี่ยนบทสนทานากันต่อไปอีกสองสามนาทีจนกระทั่งในที่สุดเจ้าชายองค์ที่สี่ก็พูดว่า “พี่ชายข้าอยากอยู่กับเจ้านานกว่านี้ แต่ข้ายังมีแขกคนอื่นๆที่ข้าต้องไปต้อนรับด้วย… “
ยู่ฉานพยักหน้าให้เขาด้วยความเข้าใจ
“ไม่เป็นไรองค์ชายที่สี่ มันเป็นส่วนหนึ่งของงานของท่านในฐานะเจ้าภาพ”
องค์ชายสี่ใช้เวลาสั้นๆ และขมวดคิ้ว
“’งานจะเริ่มในอีก 20 นาที ข้าทำได้เพียงขอให้พี่ยู่ฉาน รอจนกว่าจะถึงเวลานั้น” เขากล่าวพลางขอโทษ
“ยี่สิบนาทีก็ไม่นานมากหรอก”
“อย่างน้อยก็ให้ข้าไปส่งเจ้าที่ที่นั่งของเจ้านะ” องค์ชายสี่เสนอ
“ข้าขอบคุณท่านมากนะองค์ชายที่สี่”
ยู่ฉานไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธความตั้งใจของเขา
องค์ชายที่สี่พายู่ฉาน มายังโต๊ะที่มีการออกแบบที่โดดเด่นที่สุด นอกเหนือจากนั้นมีเก้าอี้เพียงสามตัวที่เตรียมไว้รอบๆ เมื่อเทียบกับเก้าอี้ของโต๊ะอื่นๆ ที่มีห้าตัว เมื่อเห็นเช่นนี้ยู่ฉานก็ยิ้มให้กับองค์ชายที่สี่
หลังจากนั้นทั้งสองก็คุยกันต่อไปอีกสักพักก่อนที่องค์ชายสี่จะจากไป
รอยยิ้มของ ยู่ฉานจางลงทันทีเมื่อเขาจากไป การจ้องมองของเขาดูจริงจังในขณะที่มองดูองค์ชายที่สี่กลับไปอย่างเหยียดหยาม
“องค์ชายที่สี่เหรอ?” ยู่ฉานพึมพำกับตัวเอง
จากการสังเกตของเขาองค์ชายคนที่สี่เป็นคนที่อ่อนแอที่สุดในบรรดารัชทายาทของจักรพรรดิไม่ว่าจะเป็นเรื่องพลังหรืออำนาจ แต่เขาก็เป็นคนที่มีความทะเยอทะยานมากที่สุดเช่นกัน
คนอ่อนแอที่มีความทะเยอทะยานสูงไม่ใช่สิ่งที่ต้องกังวล อย่างไรก็ตามองค์ชายผู้ไร้ความสามารถที่มีความทะเยอทะยานสูงนั่นคือหายนะที่รอให้เกิดขึ้นในราชวงค์
เมื่อนึกถึงองค์ชายที่สี่เขาไม่ได้มีจุดเด่นอะไรมาก เมื่อพูดถึงการฝึกตนใครก็ทุกคนในงานเลี้ยงนี้เหนือกว่าเขาอย่างแน่นอน เมื่อพูดถึงอำนาจแม้แต่ทายาทของตระกูลและตระกูลใหญ่ๆก็เอาชนะเขาได้ทั้งหมด พูดถึงความมั่งคั่งบางคนที่นี่ในงานเลี้ยงนั้นร่ำรวยกว่าเขาเสียอีก สิ่งเดียวที่ดีสำหรับเขา…
‘เขาเป็นคนที่วางอุบายและวางแผนเก่งเท่านั้น’ ยู่ฉานขมวดคิ้ว
จักรพรรดิต้องรู้วิธีวางแผนหรือมีแบบแผน อย่างไรก็ตามเขาไม่เพียงต้องรู้วิธีวางแผนเท่านั้น จักรพรรดิต้องมีอำนาจบารมีสติปัญญาและเจตจำนงที่ไม่สูญสลายโดยง่าย เขาต้องรู้วิธีที่จะมีเมตตากับข้ารับใช้และโหดเหี้ยมเมื่อมีสถานการณ์ที่บีบบังคับให้ทำเช่นนั้น
หากมีจักรพรรดิที่รู้แค่วิธีวางแผนจักรวรรดิของพวกเขาก็จะพินาศลงในอีกไม่ช้า
ในที่สุดยู่ฉาน ก็ละสายตาจากด้านหลังขององค์ชายที่สี่ เขาเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ขณะหลับตาเงียบและพยายามไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
“องค์ชายที่สี่ดูเหมือนว่า ยู่ฉานจะไม่ได้มองท่านในทางที่ดีเลย” หนึ่งในผู้ข้ารับใช้ขององค์ชายที่สี่ที่เฝ้าสังเกตทั้งสองคนตลอดเวลากล่าวกับเขา
รอยยิ้มที่องค์ชายที่สี่มีใส่ตลอดเวลาที่เขาพูดกับ ยู่ฉานหายไป ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างจริงจังเมื่อเขามองไปที่ ยู่ฉานจากหางของตาของเขา
“ใช่ข้ารู้แล้ว”
“มันจะไม่แย่สำหรับท่านเหรอ? ข้าคิดว่าท่านต้องการได้รับการสนับสนุนจากทายาทตระกูลในเมืองหลวงหรือไม่?”
เพื่อการแย่งชิงบัลลังก์การได้รับการสนับสนุนจากทายาทตระกูลใหญ่ๆจะเป็นประโยชน์สำหรับองค์ชายที่สี่ ทายาทตระกูลเหล่านี้อาจไม่ได้รับความช่วยเหลือมากนักในราชสำนักในตอนนี้ แต่ในอนาคตเมื่อทายาทเหล่านี้สืบทอดตำแหน่งหัวหน้าในตระกูลของพวกเขาในที่สุดเขาก็จะสามารถต่อต้านมกุฎราชกุมารเพื่อชิงบัลลังก์ได้
มันไม่ใช่แผนการที่ซับซ้อน แม้แต่องค์ชายคนอื่นๆ ก็ยังคิดและกำลังทำอยู่
องค์ชายที่สี่ยิ้มอย่างหมองเศร้า
“ข้ามีทางเลือกอะไรบ้าง? ไม่ว่าข้าจะทำอะไรข้าก็จะไม่ได้รับการสนับสนุนจากเขา เขาและตระกูลได้เลือกที่จะสนับสนุนมกุฎราชกุมารพี่ชายของข้าแล้ว พ่อของเขาเป็นผู้บัญชาการหน่วยของกองทัพของจักรวรรดิด้วยซ้ำ อย่างน้อยที่สุดที่ข้าทำได้คือรักษาความสัมพันธ์ฉันมิตรกับเขาและไม่ทำให้เขาเป็นศัตรูกัน”
พ่อของ ยู่ฉานชื่อ ยู่หยินยี่เขาเป็นผู้บัญชาการหน่วยของกองทัพของจักรวรรดิจินซึ่งเป็นผู้ที่มีตำแหน่งสูงสุดในกองทัพ ในฐานะผู้บัญชาการหน่วยอิทธิพลของ ยู่หยินยี่ที่มีต่อกองทัพนั้นมีมากเกือบจะเทียบเท่ากับจักรพรรดิเอง อย่างไรก็ตามแม้จะมีพลังและอำนาจแบบนั้นจักรพรรดิก็ไม่เคยรู้สึกว่าถูกคุกคามเพราะความไว้วางใจในตัวเขาอย่างไม่มีข้อสงสัย
ยู่หยินยี่และจักรพรรดิได้ผ่านสถานการณ์ความเป็นและความตายมาด้วยกัน หาก ยู่หยินยี่มีความคิดที่จะก่อกบฏเขาคงจะกลายเป็นจักรพรรดินานแล้ว ทุกครั้งที่ชีวิตของจักรพรรดิตกอยู่ในอันตราย ยู่หยินยี่จะเป็นคนแรกเสมอที่รีบออกไปช่วยจักรพรรดิแม้ว่าจะต้องเอาชีวิตเข้าแลกก็ตาม
ด้วยอิทธิพลที่พ่อของยู่ฉานมีจึงสามารถกล่าวได้อย่างแน่นอนว่าใครก็ตามที่พวกเขาสนับสนุนจะได้เป็นจักรพรรดิในอนาคตอย่างแน่นอน พวกเขามีอำนาจทางทหาร หากใครในราชสำนักขัดขืนจะถูกประหารเท่านั้น!
อย่างไรก็ตามการได้รับการสนับสนุนจากตระกูล ยู่นั้นเป็นไปไม่ได้สำหรับองค์ชายที่สี่ ตระกูลยู่มีความภักดีต่อจักรพรรดิมากที่สุด ใครก็ตามที่จักรพรรดิต้องการสนับสนุนตระกูลยู่ก็จะสนับสนุนบุคคลนั้นด้วย ในตอนนี้ซึ่งก็คือมกุฎราชกุมาร
“ถ้าองค์ชายที่สี่ไม่สามารถพึ่งการสนับสนุนของตระกูลยู่ได้แล้วตระกูลยุ่นล่ะ?” หนึ่งในข้ารับใช้ขององค์ชายที่สี่แนะนำ
องค์ชายที่สี่ขมวดคิ้ว
“ฮืม ตระกูลยุ่นรึ?”
อ่านตอนใหม่ได้ก่อนใครได้ที่ FB : 812Novel ขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนนะครับ