สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – บทที่ 127 ลูกของฉันยังไม่ตาย

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

ซูสือเยว่ใช้เวลาเพียงแค่ห้านาทีในการเปิดอ่านบทเสร็จไป

พล็อตเรื่องเรียบง่าย แต่มันก็ยากมาก

สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือต้องแสดงถึงคนคนหนึ่งกำลังต่อต้านจากการถูกกดลงบนเตียง อารมณ์ที่ทำอะไรไม่ได้ ความรู้สึกสิ้นหวังระเบิดออกมา

ทั้งหมดล้วนแล้วแต่จะเป็นซีนอารมณ์ทั้งนั้น แสดงยากมาก แต่ถ้าแสดงได้ดี มันก็จะได้ผลที่ดีมาก

ซูสือเยว่สูดหายใจเข้าลึกๆ หลังจากที่อ่านบทไปหลายรอบแล้ว ก็ได้พาตัวเองเข้าไปสู่ตัวละคร

บทที่เธอเล่นก็คือผู้หญิงที่น่าเศร้าที่ไม่ได้ป่วย แต่กลับถูกลากเข้าโรงพยาบาลจิตเวชไปอย่างไม่เต็มใจทั้งยังถูกฉีดยาระงับประสาทให้

การถ่ายทำใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว

หญิงสาวสวมชุดผู้ป่วย นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยด้วยผมเผ้ายุ่งเหยิง

ผู้กำกับหลินกับคนที่อยู่รอบๆกำลังปรับอุปกรณ์กันอยู่

ไกลออกไป

ไป๋ลั่วมองการเตรียมงานของกองละครตรงทางนี้ คิ้วก็ได้ขมวดออกมาเล็กน้อย “คุณผู้ชายครับ อย่างนี้มันจะมีประโยชน์จริงๆเหรอครับ?”

“ถึงแม้ว่าพวกเราถ่ายทำในฉากที่เหมือนกับตอนนั้นมาก แต่เวลามันก็ไม่สอดล้องกันนะครับ…”

ฉินโม่หานหยิบบุหรี่ออกมาจากในกระเป๋าเสื้อมาจุดด้วยท่วงท่าที่สง่างาม

ในระหว่างที่สูบบุหรี่อยู่นั้น เขาก็ได้แสยะริมฝีปากออกมาจางๆ “ในเมื่อฉันสามารถคิดวิธีนี้ออกมาได้แล้ว นายคิดว่าฉันจะจัดการเรื่องความแตกต่างด้านเวลาไม่ได้?”

ไป๋ลั่วนิ่งอึ้งไป

ในตอนนี้ กล้องถ่ายทำในที่ไกลออกไปได้เปิดถ่ายทำแล้ว

ซูสือเยว่ได้เข้าสู่บทบาทไปโดยสมบูรณ์แล้ว

เหล่าหมอพยาบาลหลายคนกดเธอลงบนเตียง “มา ฉีดยาระงับประสาทให้เธอ”

“ปล่อยฉันนะ!”

“ฉันไม่ได้บ้า! พวกคุณต่างหากที่บ้า ปล่อยฉัน!”

มือเท้าของซูสือเยว่ถูกกดเอาไว้ กู่ร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง

ผมของเธอยุ่งเหยิง เสื้อผ้าเองก็กำลังต่อสู้จนกระดุมแยกออกจากกัน เผยให้เห็นไหปลาร้าและไหล่ของเธอที่โผล่ออกมา

เธอในตอนนี้ ผมสยายยุ่งเหยิง เหมือนกับคนบ้าจริงๆ

ผู้กำกับที่อยู่ตรงหน้ากล้องก็ช็อกตะลึงกันไป

เขารู้สึกได้ถึงความตึงเครียดในการแสดงของซูสือเยว่ พลังนี้ทำให้คนอื่นรู้สึกอินตามกันไปด้วย…

เธอช่างเป็นนักแสดงที่ฟ้าสร้างมาคนนึงเลยจริงๆ!

และตรงที่ไกลออกไป ไป๋ลั่วก็ได้ช็อกไปเหมือนกัน

เขาก้มหน้ามองภาพในมือของฉินโม่หานไปหลายรอบ

เหมือนมาก

เหมือนกันเปี๊ยบเลย…

ซูสือเยว่ในตอนนี้เหมือนกับภาพที่เธอเสียสติไปเมื่อห้าปีก่อนเลยไม่มีผิดเพี้ยน!

แต่ว่าซูสือเยว่เมื่อห้าปีก่อนได้เสียสติไปแล้ว แต่ซูสือเยว่ในตอนนี้นั้นมีสติดี!

ทำไมถึง…

ลางสังหรณ์ใจไม่ดีผุดขึ้นมาในใจ ไป๋ลั่วเงยน้าขึ้นไปมองฉินโม่หานอย่างตื่นตกใจ “คุณผู้ชาย หรือว่าคุณผู้หญิงเธอจะ…”

เดิมทีไม่ได้บ้า?

ริมฝีปากบางของฉินโม่หานเม้มเข้าหากันแน่น

“เรื่องที่ให้นายสืบ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับซูสือเยว่เมื่อห้าปีก่อนหาได้หรือยัง?”

“เคยหาแล้วครับ”

ไป๋ลั่วย่นคิ้วออกมา “แต่สุดท้ายข้อมูลที่สืบมาได้เจ้าหน้าที่ที่ได้เคยเกี่ยวข้องกับอาการป่วยของคุณผู้หญิงเมื่อตอนนั้นได้ทยอยออกจากประเทศกันไปหมดแล้ว”

“แม้แต่พนักงานทำความสะอาดก็ไม่เว้น”

“ถึงแม้ว่าคนของเราจะเริ่มไปตรวจสอบที่ประเทศต่างๆ แต่ระดับความยากในการสืบหาการไหลเวียนของประชากรต่างประเทศมันสูงมาก”

“ดังนั้นแล้ว…”

ฉินโม่หานหรี่ตาลง มองผู้หญิงที่กำลังพยายามขัดขืนอยู่อย่างสุดชีวิตบนเตียงผู้ป่วยนั้นที่ไกลออกไป “อย่างนั้นแล้วเมื่อตอนนั้นประวัติผู้ป่วยของซูสือเยว่มันจะต้องเป็นของปลอมอย่างแน่นอน”

ไป๋ลั่วตบหน้าผากออกมา “จริงสิครับ!”

“ถ้าเมื่อตอนนั้นคุณผู้หญิงเสียสติไปจริงๆ อย่างนั้นแล้วทำไมคนพวกนั้นถึงได้หนีไป?”

คนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดออกกันไปหมด แท้ที่จริงแล้วมันเป็นการปกปิดที่ทำให้คนอื่นรู้ชัดกันมากขึ้น!

ฉินโม่หานย่นคิ้วออกมาจางๆ “เมื่อตอนนั้นพ่อของเธอเป็นคนส่งเธอเข้าโรงพยาบาล ใช่มั้ย?”

“ใช่ครับ!”

ไป๋ลั่วพยักหน้าออกมาเบาๆ “ได้ตามสืบหาเบาะแสในเมืองหรงแล้ว แต่…”

หาไม่เจอเลย

คนผู้นี้ได้ปรากฏตัวครั้งสุดท้ายที่สนามบินในเมืองหรง ขึ้นเที่ยวบินจากเมืองหรงไปประเทศเล็กๆประเทศหนึ่งในยุโรป

แต่ตั้งแต่ที่เขาลงจากเครื่องไปแล้ว คนๆนั้นก็ไม่มีข่าวคราวอะไรอีกเลย

ไม่มีข่าวคราวอะไรเลย เหมือนกับระเหยหายไปจากโลกมนุษย์เลยก็ไม่ปาน

ตามหลักแล้ว คนขี้เมาอย่างเจี่ยนเฉิงที่วันวันนึงนอกจากดื่มเหล้าก็ดื่มเหล้า ข้อมูลของเขาก็คงจะหาได้ไม่ยาก

แต่ไม่ว่าจะหายังไง ก็ไม่เจอทิศทางที่เจี่ยนเฉิงไปเลย แม้แต่ตอนหนุ่มๆเจี่ยนเฉิงทำอะไรก็ยังสืบหาออกมาไม่ได้

ฉินโม่หานหรี่ตามองซูสือเยว่ที่อยู่ไกลออกไป

“ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเธอล้วนแล้วแต่จะลึกลับไปหมด”

นับวันมันก็ยิ่งสนุกขึ้นมาเรื่อยๆ

“สือเยว่!”

“ซูสือเยว่!”

ทันใดนั้นเอง เสียงตื่นตกใจของผู้กำกับจากสถานที่ถ่ายทำได้ดึงความคิดของฉินโม่หานกลับมา

สถานที่ถ่ายทำโกลาหลไปหมด

คนกลุ่มหนึ่งได้ลอมรอบซูสือเยว่เอาไว้

ตามมาพร้อมกับเสียงเป็นกังวลของเหล่าผู้คน แล้วยังมีเสียงกู่ร้องที่แสนเจ็บปวดของหญิงสาว

หัวใจของฉินโม่หานหล่นฮวบไป

เขาสาวเท้าก้าวยาวๆเข้าไป

บนเตียงที่อยู่ท่ามกลางฝูงชน มือทั้งสองข้างของซูสือเยว่กุมหัวแน่น เสียงแหบพร่าออกมาอย่างเจ็บปวด “ปวด——!“

มีเจ้าหน้าที่คนนึงเตรียมที่จะเข้ามาดูอาการเธอ แต่กลับถูกเธอที่สูญเสียสติสัมปชัญญะไปแล้วได้คว้าแขนเอาไว้อย่างแรง พร้อมกับกัดเข้ามาอย่างจัง!

ผู้คนลงแรงกันไปเยอะมาก กว่าจะช่วยเอาแขนของเจ้าหน้าที่คนนั้นออกมาจากปากของซูสือเยว่ได้

เนื้อบนแขนเจ้าหน้าที่คนนั้นเกือบจะถูกกัดขาดไป บาดแผลน่าสยดสยองมาก

ซูสือเยว่ในตอนนี้เป็นคนที่เสียสติไปอย่างเต็มรูปแบบ!

ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เธอ

ทุกคนต่างถอยห่างออกมาในระยะสองเมตร

คุณหมอจากทางโรงพยาบาลก็พกเครื่องมือพุ่งเข้ามา “ฉีดยาระงับประสาทให้เธอเถอะ”

“อย่า”

ฉินโม่หานยกมือขึ้นมาห้ามคุณหมอเอาไว้ พร้อมกับก้าวเดินเข้าไปทางซูสือเยว่

“คุณฉิน!”

ผู้กำกับหลินยื่นมือมาจับแขนของฉินโม่หานเอาไว้ “อย่าเข้าไปครับ!”

“สือเยว่คงจะเข้าถึงบทบาทมากเกินไป เธอในตอนนี้อันตรายมากครับ!”

ฉินโม่หานสะบัดมือของผู้กำกับหลินออกไปนิ่งๆ “ไม่เป็นไร”

พูดจบ เขาก็ก้าวเข้าไปหาเธออย่างช้าๆ

บนเตียงผู้ป่วย ซูสือเยว่เอาหัวฝังเข้าไประหว่างหัวเข่าทั้งสองข้างแน่น มือทั้งสองจับผม และเคาะหัวออกมาอย่างสุดชีวิต “ปวดจะตายอยู่แล้ว ——!”

“ซูสือเยว่”

ชายหนุ่มสูดหายใจเข้าลึกๆ นั่งลงไปบนข้างเตียง

“ออกห่างจากฉันหน่อย!”

“ออกห่างจากฉันหน่อย!”

ซูสือเยว่ตะโกนออกมาโดยที่ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมา “อย่ามาแตะตัวฉัน!”

เสียงแหบแห้งของเธอทำให้ในดวงตาของชายหนุ่มมีความรู้สึกเจ็บปวดใจแวบผ่านออกมา

วินาทีต่อจากนั้น เขาก็ได้ยื่นแขนออกไปวางลงไปตรงหน้าเธอ “ถ้าปวดมากไป ก็กัดมาเถอะ”

ทันทีที่เสียงพูดหลุดออกมา หญิงสาวก็ได้กัดเข้าไปทันที!

“คุณผู้ชาย!”

“ท่านชายฉิน!”

“คุณฉิน!”

นาทีที่ซูสือเยว่กัดไปที่ฉินโม่หานนั้นเอง ทุกคนในที่แห่งนั้นก็ได้ชะงักกันไปอย่างจัง

ไป๋ลั่วกับผู้กำกับหลินเตรียมที่จะพุ่งเข้ามาทันที

ความเจ็บปวดที่รุนแรงได้ทำให้คิ้วของฉินโม่หานได้ขมวดกันออกมาเล็กน้อย

“อย่าเข้ามา!”

เขาพูดสามคำนี้ออกมาเสียงเข้ม แล้วก็ได้หันหน้าไปอย่างอ่อนโยน ใช้มือข้างหนึ่งลูบหัวของซูสือเยว่ไปเบาๆ “ปวดตรงไหน?”

หญิงสาวชะงักไปเล็กน้อย

เขาก็ได้เอ่ยออกมาต่ออีกครั้ง “เป็นเพราะว่านึกอะไรออกขึ้นมา ก็เลยปวดหัวใช่มั้ยครับ?”

“สือเยว่”

“เป็นผมที่ไม่ดีเอง ผมคิดเพียงแค่ว่าการที่สร้างภาพเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาให้มันเกิดขึ้นซ้ำอีกครั้ง มันคงจะช่วยคุณรื้อฟื้นความทรงจำขึ้นมาได้ แต่นึกไม่ถึงว่าตอนที่คุณรื้อฟื้นความทรงจำจะเจ็บปวดขนาดนี้”

เสียงของเขาทุ้มต่ำ อ่อนโยน พาดผ่านมาที่หัวใจของซูสือเยว่ประหนึ่งขนนก

สติก็ได้เอาชนะความเจ็บปวดมาได้

ในที่สุดหัวของเธอก็ได้กลับมาสงบลงเหมือนเดิม

สติได้คืนกลับมา

เธอรีบคลายฟันออกไปทันที

บนแขนของชายหนุ่มได้ถูกเธอกัดออกมาจนเป็นรอยฟันที่มีเลือดไหลออกมาขนาดใหญ่!

“ฉัน…”

เธอก้มหน้าลง มองแขนของเขา บนใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกโทษตัวเอง “ทำไมคุณไม่หลบ”

“ผมสมัครใจเอง”

ชายหนุ่มยิ้มออกมาจางๆ บนใบหน้าไม่มีการตำหนิออกมาเลย

เขายกมือขึ้นมา ลูบลงไปบนผมของเธอเบาๆ “ปวดตรงไหน?”

“ตรงนี้”

ซูสือเยว่ชี้ตรงตำแหน่งบนหัวของเธอ “เมื่อกี้ฉัน…”

“นึกถึงเรื่องในอดีตขึ้นมาได้บ้างแล้ว ฉันอยากจะนึกอีกสักหน่อย มันก็เริ่มปวดขึ้นมา”

เธอนึกไม่ถึงว่าเพียงแค่พยายามรื้อฟื้นความทรงจำในอดีตกลับมาสักหน่อย หัวของเธอมันก็ปวดเสียจนเธอสูญเสียสติสัมปชัญญะไปเลย

ฉินโม่หานดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนด้วยความสงสาร “ค่อยๆนึกไป”

ความอ่อนโยนของเขาได้ทำให้ภายในใจของซูสือเยว่มันรู้สึกอบอุ่นไปหมด

เธอซบลงไปบนบ่าของเขาทันที ใช้เสียงที่มีเพียงแค่เขาเท่านั้นที่สามารถได้ยินมันได้เอ่ยออกไป

“ฉันนึกขึ้นมาได้แล้ว”

“ลูกของฉันยังไม่ตาย”

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

Status: Ongoing
หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท