สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – บทที่ 183 จี้หนานเฟิง คุณแพ้แล้ว

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

ทำอาหารสี่จานและซุปหนึ่งจานอย่างง่าย

ฉินโม่หานใช้ไม้กระดานของเจ้าของบ้านทำเป็นโต๊ะขนาดเล็ก ทั้งสามคนก็เริ่มกินมื้อเย็นกันตรงพื้นที่ว่างของบ้านเตี้ยขึ้นมาทันที

ถังถังลูกสาวของเจ้าของบ้านเอาแต่นั่งกินข้าวอยู่ข้างๆซูสือเยว่

เธอชอบเด็กสาวตัวน้อย ที่เอาแต่ตื้อเธอ ให้เธอคีบอาหารให้

จนแม่ของเด็กสาวมาตามให้ไปนอน เธอถึงยอมจากหลีเยว่ไปอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก

พอถังถังไปแล้ว เหลียงหยูซินก็อดไม่ได้ที่จะตัดพ้อออกมาว่า “นี่ซูสือเยว่ เธอนี่มันขาดลูกสาวไปจริงๆ”

“ถังถังไม่ใช่ลูกสาวของเธอด้วยซ้ำ เธอก็ชอบถังถังถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าเธอมีลูกสาวเป็นของตัวเองละก็ เธอจะไม่หลงแย่เหรอ?”

ซูสือเยว่ยักไหล่ “ฉันชอบเด็กผู้หญิงจริงๆ”

หลังจากพูดมาแบบนั้น เธอก็รู้สึกว่ามีสายตาที่ร้อนผ่าวกำลังจับจ้องมาจากด้านข้าง

หญิงสาวหน้าแดงขึ้นมาทันที!

เธอจำได้ว่าตัวเองจะเคย……สัญญากับซิงหยุนและซิงเฉินว่าจะมีลูกสาวให้ฉินโม่หาน……

ตอนนี้เธอพูดมาเองว่าเธอชอบลูกสาว มันไม่เท่ากับเธอกำลังส่งสัญญาณอะไรบางอย่างให้ชายหนุ่มได้รู้หรอกเหรอ?

พอคิดถึงตรงนี้ ร่างกายของซูสือเยว่ก็กระตุกอย่างควบคุมไม่ได้

เธอคิดจนถึงขั้น คืนนี้หลังจากกลับที่ห้องไปแล้ว ผู้ชายบางคนจะทำอะไรบางอย่างที่ไม่ดีกับเธอ……

ยิ่งคิด หน้าก็ยิ่งแดง

หน้ายิ่งแดง เธอก็ยิ่งอดไม่ได้ที่จะคิดถึงมัน

โชคยังดีที่มันมืดมาก และยังดีที่เหลียงหยูซินไม่ได้จ้องมองเธออยู่

ไม่อย่างนั้น คงขายหน้าแย่เลย!

“มาทำอาหารกันอยู่นี่เอง?”

ในขณะที่ทั้งสามกำลังกินข้าวกันอย่างเมามันอยู่นั่นเอง ก็ได้มีเสียงที่เย็นชาดังขึ้น

เสียงของจี้หนานเฟิงนั่นเอง

มันคือจี้หนานเฟิง

เขาเดินเข้ามา ในจังหวะที่เขาเห็นฉินโม่หานแววตาของเขาก็ดูตกใจเล็กน้อย จากนั้นเขาก็เข้าใจทุกอย่าง

ชายหนุ่มนั่งลงข้างๆเหลียงหยูซินอย่างช้าๆ พร้อมกับรอยยิ้มจางๆ ที่มุมปาก”คุณฉินพูดถูกจริงๆด้วย สือเยว่นี่มีสามีที่เข้มงวดจริงๆ”

“ชุมชนที่กันดารแบบนี้ ไม่นึกเลยว่าคุณฉินที่ได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างไข่ในหินตั้งแต่เด็ก จะยอมมาที่แบบนี้ด้วย”

พูดจบ เขาก็เหลือบมองฉินโม่หานอย่างเย็นชา “คุณฉินพักที่นี่ได้มั้ยครับ?”

“เตียงที่นี่ไม่ได้นุ่ม สภาพแวดล้อมก็ไม่ดี แล้วทำไมคุณฉินถึงต้องทำให้ตัวเองลำบากด้วยครับด้วย?”

ฉินโม่หานหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณชายที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างไข่ในหินของตระกูลจี้ ก็อยู่ที่นี่ด้วยเหมือนกันไม่ใช่เหรอครับ?”

“จะบอกว่าผมถูกเลี้ยงมาอย่างไข่ในหินก็ไม่ถูก เพราะตาแต่ในบ้านก็ไม่ได้โอ๋ผมมากนัก และไม่สนใจผมเท่าไหร่ด้วย”

“แต่ว่า……”

ชายหนุ่มค่อยๆเลิกคิ้วขึ้น “ผมได้ยินมาว่าในครอบครัวของคุณจี้ คุณจี้จะเป็นลูกเพียงคนเดียวนี่ครับ”

“ผมยังได้ยินอีกว่า คุณจี้ได้ถูกหมั้นหมายไว้ตั้งแต่เด็ก แต่เจ้าสาวกลับหายไปหลายปีแล้ว”

ฉินโม่หานมองไปที่ใบหน้าที่บูดบึ้งของจี้หนานเฟิงด้วยสายตาที่เย็นชา “การที่คุณจี้จะมัวแต่มาดูแลภรรยาของคนอื่นอยู่ที่นี่ ทำไมคุณไม่ลองพยายามดูสักครั้ง เพื่อไปตามหาคู่หมั้นของคุณดูล่ะ?”

“ไม่แน่ถ้าตามหาจนเจอ เธอกับคุณจี้อาจจะเข้ากันได้ดีก็ได้นะครับ”

“ฉินโม่หาน!”

จี้หนานเฟิงถูกยุจนโกรธมากแล้ว

เขาเงยหน้าขึ้นและจ้องไปที่ฉินโม่หานด้วยสายตาที่โกรธเคือง “อย่าเอาเรื่องในครอบครัวมาล้อเลียนผม!”

“หลังจากการถ่ายทำครั้งนี้จบลง ตอนที่ผมกลับไปงานร่วมงานแต่ง ผมจะยกเลิกการหมั้นหมายกับผู้หญิงของตระกูลเจี่ยนนั่นทันที!”

ฉินโม่หานเหลือบมองเขาอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง “แต่ที่ผมได้ยินมา… เหตุผลที่หลายปีมานี้ตระกูลจี้ไม่ยอมยกเลิกการหมั้นหมายสักทีนั้น เป็นเพราะผู้หญิงคนนั้นไม่เคยปรากฏตัวออกมาเลย”

“ตระกูลเจี่ยนยังเคยพูดไว้ด้วยว่า หากคุณต้องการยกเลิกงานแต่ง ก็จำเป็นต้องให้เด็กสาวคนนั้นมายกเลิกสัญญากับคุณด้วยตนเอง”

พูดจบเขาก็ถอนหายใจออกมา “ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะยกเลิกงานแต่งหรือไม่ก็ตาม คุณก็จำเป็นต้องตามหาผู้หญิงคนนั้นให้พบ”

จี้หนานเฟิงขมวดคิ้วอย่างแรง “ผมนึกว่าที่คุณฉินทำงานหนักเพื่อฉินซื่อกรุ๊ปทุกวันนั้น จะกำลังทุ่มเทเพื่องานซะอีก”

“ไม่นึกเลยว่า คุณฉินจะรู้เรื่องของตระกูลจี้กับตระกูลเจี่ยนได้ถึงขนาดนี้”

“คุณฉินคงไม่ได้ใช้เวลาในที่ทำงาน มายุ่งเรื่องซุบซิบแบบนี้หรอกใช่มั้ยครับ?”

“ก็ไม่นะครับ”

ฉินโม่หานค่อยๆหยิบแก้วน้ำขึ้นมาจากโต๊ะอย่างแล้วจิบชา “รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง”

“คุณจี้รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับตระกูลฉินของเราเป็นอย่างดี อยากได้แม้กระทั่งภรรยาของคนอื่น การที่ผมจะไปตรวจสอบภูมิหลังของคุณจี้ดู มันก็ไม่มากจนเกินไปใช่มั้ยครับ?”

ผู้ชายทั้งสอง แลกหมัดกันไปมา โต้เถียงกันอย่างดุเดือด

ซูสือเยว่เปิดปากเพื่อพยายามเกลี้ยกล่อม แต่เธอก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหนดี

ในท้ายที่สุด ก็ได้เหลียงหยูซินที่กลอกตามองบน แล้วยกมือขึ้นมาตบโต๊ะไปทีหนึ่ง

“นี่พวกคุณสองคน ไม่เบื่อกันบ้างรึไงคะ?”

“ไม่ไปต่อยกันที่สนามหลังบ้านให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยล่ะ มันน่ารำคาญ!”

ฉินโม่หานค่อยๆหรี่ตาลง เหลือบมองที่จี้หนานเฟิงแวบหนึ่งแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

จี้หนานเฟิงลุกพรวดขึ้นมาทันที “ท่านชายฉิน ไปกันเถอะ”

ชายคนนั้นดึงปกเสื้อของเขาอย่างสง่างาม พร้อมกับรอยยิ้มชั่วร้ายตรงมุมปาก “เจ้าชายแห่งวงการบันเทิงจี้แน่ใจแล้วเหรอครับว่าจะสู้กับผม?”

“แน่ใจสิ”

จี้หนานเฟิงยิ้มออกมาจางๆ “ตอนที่ผมยังเด็ก ผมเคยได้เรียนรู้วิชาการต่อสู้จากอาจารย์ที่สอนศิลปะการต่อสู้ของตระกูลเจี่ยนมาด้วย”

“เดี๋ยวถ้าทำร้ายคุณฉินจนได้รับบาดเจ็บเข้า คุณฉินจะโทษผมไม่ได้นะครับ”

ฉินโม่หานหรี่ตาของเขา

นี่มันคือการยั่วยุกันชัดๆ

อย่างไรก็ตามเขาก็ยินดีที่จะรับคำท้า

ชายหนุ่มดึงเนกไทออก แล้วโยนเข้าไปในอ้อมแขนของซูสือเยว่โดยตรง “ช่วยผมเก็บไว้ทีครับ”

ซูสือเยว่ : “…”

“นี่พวกคุณจะตีกันจริงๆ เหรอเนี่ย?”

ดวงตาของเหลียงหยูซินเป็นประกาย “ตีกันเลยตีกันเลย!”

เธอพูดไป ก็ดึงซูสือเยว่ขึ้นมาแล้วตามหลังชายร่างใหญ่สองคนไป

“ท่านชานฉินของเธอไหวหรือเปล่า?”

“ฉันจะบอกเธอให้นะ เมื่อกี้จี้หนานเฟิงเพิ่งบอกว่าเขาเคยฝึกกับอาจารย์ที่สอนศิลปะการต่อสู้ของ ตระกูลเจี่ยนมาด้วย”

“เธอไม่รู้จักตระกูลเจี่ยนใช่มั้ย? อันที่จริง ฉันกับตระกูลเจี่ยนเราเป็นญาติห่างๆกัน ฉันจะเล่าให้เธอฟังแล้วกัน จริงๆ แล้วตระกูลเจี่ยนนั้น…”

ระหว่างที่เหลียงหยูซินกำลังพูดอยู่นั้น จี้หนานเฟิงกับฉินโม่หานที่อยู่ทางนู้นก็ได้เริ่มสู้กันแล้ว

ซูสือเยว่ขมวดคิ้วแล้วมองดูชายหนุ่มรูปงามสองคนด้วยความเป็นห่วง

เธอดีรู้ว่าผู้ชายต่างก็กระหายในชัยชนะ การที่ฉินโม่หานถูกจี้หนานเฟิงยั่วยุแบบนี้ เขาก็ไม่มีทางทนได้อย่างแน่นอน

แต่ว่า……

เห็นได้ชัดว่าจี้หนานเฟิงนั้นเคยได้รับการฝึกฝนมา

ยังไงก็ตามซูสือเยว่นั้นเคยได้ฝึกกับเจี่ยนเฉ้งมาบ้าง เทคนิคของจี้หนานเฟิงนั้น……

ทันใดนั้นดวงตาของซูสือเยว่ก็เบิกกว้าง

ทักษะของจี้หนานเฟิงนั้นค่อนข้างคล้ายกับเจี่ยนเฉิงพ่อของเธอ!

จู่ๆเธอก็นึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมา แล้วหันไปมอง เหลียงหยูซิน “เธอบอกว่า จี้หนานเฟิงไปเรียนต่อสู้จากใครนะ?”

เหลียงหยูซินขมวดคิ้ว “ตระกูลเจี่ยนจากยุโรป…”

ซูสือเยว่กัดริมฝีปาก

ยุโรป ตระกูลเจี่ยน เจี่ยนเฉิง…

มันจะเป็น…

เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วส่งข้อความถึงเจี่ยนเฉิน

ตอนที่ซูสือเยว่ส่งข้อความนั้น ฉินโม่หานก็ยังเสียเปรียบอยู่

แต่หลังจากที่เธอส่งข้อความเสร็จ แล้วเงยหน้าขึ้นนั้น จี้หนานเฟิงก็ถูกฉินโม่หานกดเอาไว้กับพื้นแล้ว

เขาใช้เทคนิคการล็อกแขนจากทางด้านหลังกดจี้หนานเฟิงไว้ข้างล่าง

ชายหนุ่มยกมือขึ้นเช็ดจมูก แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่พึงพอใจว่า “จี้หนานเฟิง คุณแพ้แล้ว”

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

Status: Ongoing
หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท