บทที่ 33 ยุ่นหยี่และองค์ชายที่สี่
ณ โลกพสุธา
จักรวรรดิจิ๋น – เมืองหลวงทอง
ณ ที่พักขององค์ชายที่สี่
องค์ชายที่สี่นั่งบนเก้าอี้อย่างสบายๆ ขณะรอให้คนรับใช้รินชาในถ้วยให้เสร็จ หลังจากที่คนรับใช้ทำเสร็จแล้วเขาก็ถอยกลับไปด้านข้างเพื่อรอคำสั่งอื่นๆจากเจ้าองค์ชายที่สี่ องค์ชายที่สี่ค่อยๆยกถ้วยขึ้นจากโต๊ะแล้วจิบจากนั้นเขาก็วางมันกลับเข้าที่เดิมเมื่อดื่มเสร็จ จากนั้นสายตาของเขาก็มองไปยังเก้าอี้ที่ว่างอยู่ตรงข้ามเขา
ที่นั่งนั้นถูกตั้งไว้สำหรับคนอื่น คนที่เขารอมาสักพักแล้ว
“ฝ่าบาท เขามาถึงแล้ว” ข้ารับใช้คนหนึ่งขององค์ชายที่สี่มาแจ้งเขา
องค์ชายที่สี่ทำเพียงยิ้ม
“ข้ารอเขามานานแล้ว ให้เขาเข้ามาได้”
“รับทราบ”
คนรับใช้โค้งคำนับและรีบจากไปโดยปฏิบัติตามคำสั่งของเขา
หลังจากนั้นไม่นานชายที่หน้าตาสะลึมสะลือก็เดินเข้ามาทางประตู สายตาของเขาจ้องไปที่องค์ชายที่สี่ในขณะที่เขาหยุดชั่วครู่ก่อนที่เขาจะเดินต่อไปและมุ่งตรงมาหาเขา
“ในที่สุดเจ้าก็มาถึงที่นี่” องค์ชายที่สี่กล่าวเมื่อพบเขา
“ข้าไม่ได้ตั้งใจที่จะให้ท่านรอนะองค์ชายที่สี่”
“ไม่เป็นไรๆ เชิญนั่งเถอะ” องค์ชายที่สี่ชี้ไปที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเขา
ผู้มาใหม่รู้สึกไม่ชินและนั่งลงบนเก้าอี้โดยไม่เต็มใจ เขาไม่พูดอะไรในขณะที่เขาจ้องมององค์ชายที่สี่ที่อยู่ตรงข้ามอย่างไม่เกรงกลัวราวกับว่าพวกเขาอยู่ระดับเดียวกัน อันที่จริงเขาจ้องมองมานานแล้วตั้งแต่ตอนที่เห็นองค์ชายที่สี่เป็นครั้งแรก แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่มีความสามารถน้อยที่สุดในบรรดาองค์ชาย แต่พวกคนส่วนใหญ่ก็ไม่กล้าเผชิญหน้ากับเขาโดยตรง อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าผู้มาใหม่คนนี้จะไม่มองแบบนี้กับเขา
องค์ชายที่สี่อารมณ์ดีเนื่องจากการมาถึงของเขาดังนั้นเขาจึงไม่สนใจเรื่องนี้ทั้งหมด
“ข้าดีใจที่เจ้ามาที่นี่ได้นะยุ่นหยี่ มีใครรู้เรื่องการพบกันของเราบ้าง”
ผู้มาใหม่ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากลูกพี่ลูกน้องและผู้ช่วยของยุ่นหลิง ยุ่นหยี่
“ท่านไม่ต้องกังวล ไม่มีใครรู้หรอก” ยุ่นยี่ตอบ
ไม่กี่วันที่ผ่านมาองค์ชายที่สี่สั่งให้คนของเขาคนหนึ่งแอบส่งจดหมายถึงยุ่นยี่เพื่อเชิญเขาไป ที่พักของเขาเพื่อพูดคุยเรื่องบางอย่าง โดยปกติแล้วยุ่นยี่จะเพิกเฉยต่อจดหมายที่ไม่มีที่มาที่ไปและน่าสงสัยแบบนี้ แต่มีบางบรรทัดในจดหมายที่ดึงดูดความสนใจของเขา
เจ้าไม่เบื่อกับการถูกยุ่นหลิงบดบังอยู่ตลอดหรือ? ข้ามีวิธีที่จะโค่นเขาได้
เป็นเพราะเหตุนั้นยุ่นยี่จึงตัดสินใจตอบรับคำเชิญขององค์ชายที่สี่
ยุ่นยี่ไม่ได้สบตากับองค์ชายที่สี่ขณะที่เขากล่าวว่า “องค์ชายที่สี่อย่าพูดอะไรที่เป็นไปไม่ได้หน่อยเลย การทำให้นายน้อยของข้าพ่ายแพ้ไม่ใช่เรื่องง่าย หลายคนพยายามและล้มเหลว อะไรทำให้ท่านมั่นใจว่าสามารถโค่นเขาได้ในขณะที่หลายๆ คนทำไม่สำเร็จ”
องค์ชายที่สี่พยักหน้าให้เขา เขาเข้าใจในความกังวลของเขา เป็นเรื่องธรรมดาที่ยุ่นยี่สงสัยในคำพูดของเขา ด้วยพฤติกรรมของ ยุ่นหลิงในอดีตเขาได้สร้างศัตรูจำนวนมากที่ต้องการจบชีวิตของเขา แต่ไม่มีใครประสบความสำเร็จในความพยายามของพวกเขาซึ่งแสดงให้เห็นว่ายุ่นหลิงแข็งแกร่งเพียงใด ศัตรูของเขาไม่เพียงล้มเหลวในการเอาชีวิตของเขา แต่พวกเขายังเป็นผู้ที่เสียชีวิตแทน หากองค์ชายที่สี่ไม่ระวังเขาอาจประสบชะตากรรมเช่นเดียวกับผู้ที่พยายามเอาชีวิตยุ่นหลิงมาก่อน
องค์ชายที่สี่ถอนหายใจ
“ดูเหมือนคนทั่วไปจะเชื่อว่าข้าเป็นองค์ชายที่อ่อนแอที่สุดไม่ว่าจะเป็นเรื่องพลังหรืออำนาจ นั่นไม่ใช่เรื่องเท็จ แต่ก็ไม่เป็นความจริงเช่นกัน”
ยุ่นยี่ขมวดคิ้ว
“นั่นคือข้ามีไพ่ตายสองสามใบซ่อนอยู่ สิ่งเหล่านี้เพียงพอที่จะชดเชยสิ่งที่ข้าขาดซึ่งเจ้าชายคนอื่นๆ ไม่มีแน่นอนข้าจะไม่บอกเจ้าว่ามันคืออะไร ข้าไม่เชื่อใจเจ้ามากพอสำหรับเรื่องนั้น” องค์ชายที่สี่หยุดชั่วคราวในขณะที่เขาชี้ให้คนรับใช้ของเขาเสิร์ฟชาให้ยุ่นยี่ “แต่ข้าบอกเจ้าได้อย่างหนึ่ง ข้าได้ส่งผู้ฝึกตนห้าคนที่อยู่ระดับขอบเขตการเปลี่ยนแปลงที่สี่ไปซุ่มโจมตียุ่นหลิงที่ชายแดนของจักรวรรดิในระหว่างที่เขาทำงานอยู่”
ยุ่นยี่คิ้วกระตุกด้วยความตกใจ
“ผู้ฝึกตนห้าคนในขอบเขตการเปลี่ยนแปลงที่สี่?”
องค์ชายที่สี่ยิ้มให้เขา
ยุ่นยี่กลับมามีสติในทันทีในขณะที่เขามององค์ชายที่สี่อย่างจริงจังมากขึ้นในตอนนี้ความคิดเห็นของเขาเกี่ยวกับเขาเพิ่มขึ้น
“ผู้ฝึกตนห้าคนในขอบเขตการเปลี่ยนแปลงที่สี่…องค์ชายที่สี่ท่านได้กำลังคนมากขนาดนี้มาจากไหน?”
“นั่นเป็นความลับ” องค์ชายที่สี่ปฏิเสธที่จะตอบ
“ดูเหมือนว่าข้าต้องเปลี่ยนความคิดที่ข้ามีต่อเจ้าเสียแล้ว”
องค์ชายที่สี่พอใจกับคำพูดนั้น
“แม้กระทั่งสำหรับอัจฉริยะที่ยิ่งใหญ่อย่างยุ่นหลิง ผู้ฝึกตนห้าคนในขอบเขตการเปลี่ยนแปลงที่สี่สี่คนก็มากเกินพอแล้ว ยังไงก็ตามข้าไม่สนใจว่ามันจะมากเกินไปหรือไม่ แต่ข้าจะต้องแน่ใจว่าเขาต้องตาย” องค์ชายที่สี่พูดจบด้วยใบหน้าที่น่ากลัว
“ท่านลองพิจารณาดูว่านายน้อยของข้าอาจมีบางคนจากตระกูลยุ่นแอบปกป้องเขาจากเงามืดหรือไม่?” ยุ่นหยี่ถาม
องค์ชายที่สี่มองมาที่เขาอย่างฉุนเฉียว “เจ้ากำลังบอกว่าเขามีคนคอยปกป้องงั้นรึ” ?
“เรื่องนั้นข้าไม่รู้ แม้แต่ข้าเองก็ไม่รู้” ยุ่นยี่ยักไหล่และถอนหายใจ
“มันไม่สำคัญหรอก ข้าเคยให้คนของข้าคอยเฝ้าดูตระกูลยุ่นตั้งแต่งานเลี้ยงจบลง ข้ารู้ว่าใครออกไปและเข้ามาในตระกูลของเจ้าตลอดเวลา เจ้ารู้ว่านั่นหมายถึงอะไรใช่ไหม”
แน่นอนว่ายุ่นยี่รู้ว่าองค์ชายที่สี่หมายถึงอะไร ถ้าจู่ๆตระกูลยุ่นตัดสินใจส่งคนไปตามยุ่นหลิงนั่นจะมีความหมายเพียงสิ่งเดียว ยุ่นหยี่บอกกับเขา
นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่องค์ชายที่สี่ได้กำหนดไว้แล้วตั้งแต่งานเลี้ยงจบลง เนื่องจากยุ่นหลิงออกไปทำภารกิจในวันรุ่งขึ้นหลังจากงานเลี้ยงนั่นหมายความว่าองค์ชายสี่รู้ว่าใครออกจากตระกูลหลังจากยุ่นหลิงจากไป หากมีใครบางคนที่ออกจากตระกูลหลังจาก ยุ่นหลิงแต่ไม่กลับมาพวกเขาก็น่าจะเป็นองค์รักษ์ของยุ่นหลิง แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เป็นแบบนั้นองค์ชายที่สี่ก็ต้องถือว่าพวกเขาปลอดภัยและไม่ถูกตัดสิทธ์
“ท่านคิดเรื่องนี้มาตลอดเลยงั้นหรือ”? ยุ่นยี่กล่าว
“ไม่จำเป็นต้องพูดเจ้าเองก็คงรู้นะ”
“องค์ชายที่สี่การที่ท่านเรียกข้ามาที่นี่อาจหมายถึงสิ่งเดียวเท่านั้น นั่นคือท่านต้องการให้ข้าอยู่ข้างท่าน ดังนั้นท่านจะให้อะไรข้าเพื่อแลกกับความร่วมมือของข้า” ยุ่นยี่มองไปที่องค์ชายที่สี่อย่างจริงจัง
องค์ชายที่สี่ไม่ใช่คนแรกในบรรดาองค์ชายที่เขาเข้าใกล้ อันที่เป็นจริงองค์ชายคนอื่นๆ ที่รู้ความสามารถของเขาแม้จะเพียงเล็กน้อยก็พยายามที่จะดึงเขามาอยู่เคียงข้างพวกเขาหลายครั้งในอดีต
และไม่ต้องพูดถึงยุ่นยี่ปฏิเสธพวกเขาทั้งหมด
เป็นเพราะข้อเสนอของพวกเขาไม่สามารถทำให้ยุ่นหยี่อยู่ฝั่งเขาได้เลย หากข้อเสนอขององค์ชายที่สี่ไม่ถูกใจเขา เขาก็ควรเลิกคิดถึงการได้รับความร่วมมือจากเขา อย่างไรก็ตามสถานการณ์ของยุ่นหยี่ ยังห่างไกลจากตรงนั้นอีกมาก หากยุ่นยี่ปฏิเสธเขาอย่างเปิดเผยหลังจากที่รู้เรื่องทั้งหมดชีวิตของเขาอาจตกอยู่ในอันตราย นั่นคือเหตุผลขั้นต้นที่ ยุ่นหยี่จะแสร้งทำเป็นตกลงที่จะร่วมมือกับองค์ชายที่สี่ แต่หลังจากได้รับความคุ้มครองจากคนในตระกูลเขาก็จะไม่สนในตัวองค์ชายที่สี่อีกต่อไป
องค์ชายที่สี่พยักหน้าให้กับคนรับใช้ของเขาที่รีบออกไปเมื่อเห็นท่าทางขององค์ชายที่สี่ ไม่กี่วินาทีต่อมาคนรับใช้ก็กลับมาพร้อมกับกล่องแหวนที่เปิดอยู่ ภายในกล่องแหวนมีแหวนสีทอง
“นี่มัน… ” ยุ่นหยี่หรี่ตาลงที่แหวน
“แหวนจัดเก็บแบบสั่งทำพิเศษสำหรับราชวงศ์ ตอนนี้เป็นของเจ้าแล้ว” องค์ชายที่สี่กล่าว “เปิดไปดูข้างในสิ”
คนรับใช้มอบแหวนให้กับยุ่นหยี่ซึ่งเขาตรวจดูแหวนอย่างช้าๆเมื่อเขาได้รับมัน
ดวงตาของยุ่นหยี่เบิกกว้างเมื่อเขาเห็นสิ่งที่เก็บไว้ในแหวน
“สมบัติมากมายขนาดนี้…องค์ชายที่สี่ท่านหมายถึงมอบสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดให้ข้าหรือ”
องค์ชายที่สี่ยิ้ม
“สิ่งที่เจ้าเห็นนี่ยังเทียบไม่ได้กับการที่เจ้ามาอยู่ฝั่งข้างั้นรึ? นี่เพียงพอหรือไม่ที่จะโน้มน้าวให้เจ้าอยู่เคียงข้างข้า”
ยุ่นหยี่สูดหายใจเข้าลึกๆ
“แค่นี้มันก็เกินพอแล้ว”