สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – บทที่ 231 ทำไมจู่ๆ ผู้หญิงคนนี้ถึงได้ดุขนาดนี้

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

จี้หนานเฟิงเหลือบมองฟู๋เชียนเชียน แล้วก็หัวเราะเบาๆ “ในเมื่อเธอเป็นเพื่อนของสือเยว่ งั้นก็คงจะไม่ใช่คนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องนะ”

พอเขาพูดจบ ก็เหลือบมองเหลือบมองฟู๋เชียนเชียน “นั่งสิ พวกเราก็ไม่ใช่คนนอกกันสักหน่อย”

คำพูดของชายหนุ่ม ทำให้หัวใจของฟู๋เชียนเชียนเริ่มเต้นอย่างบ้าคลั่งอย่างแปลกประหลาด

เธอรู้ว่าเธอก็ไม่ได้วิเศษวิโสอะไร รู้ว่าจี้หนานเฟิงก็แค่พูดตามมารยาทเท่านั้น

แต่……

การที่หัวใจเต้นแรงนั้น เธอไม่สามารถควบคุมมันได้เลย

ใบหน้าที่ร้อนผ่าวก็คือสิ่งที่เธอควบคุมไม่ได้เช่นกัน

ทุกการกระทำของฟู๋เชียนเชียน ซูสือเยว่เห็นหมดแล้ว

เธอกุมขมับอย่างจนปัญญา

ความรู้สึกที่ฟู๋เชียนเชียนมีต่อจี้หนานเฟิงนั้นมันถูกเขียนอยู่บนใบหน้าของเธออย่างชัดเจนแล้ว……

ในเรื่องของความรู้สึกนั้น ถ้าเกิดว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้แบบนี้ ก็จะมีแต่เสียเปรียบ

หลังจากที่ฟู๋เชียนเชียนนั่งลง จี้หนานเฟิงก็เงยหน้าขึ้นมองซูสือเยว่ ในรอยยิ้มจางๆ ในสายตาของเขา “ทำไมจู่ๆ เธอถึงถูกมัดมาที่นี่ได้ล่ะ? ”

ซูสือเยว่ขมวดคิ้ว อยากจะเล่าเรื่องของตระกูลเจี่ยน แต่พอมาย้อนคิดดูแล้ว……

ถ้าเกิดเธอบอกจี้หนานเฟิงไปว่าตัวเองเป็นคุณหนูของตระกูลเจี่ยน แล้วอีกหน่อยก็พิสูจน์ออกมาได้ว่าเธอไม่ใช่คุณหนูของตระกูลเจี่ยน มันก็จะค่อนข้างน่าอายหน่อยใช่ไหมล่ะ?

ดังนั้นหญิงสาวก็เลยเปลี่ยนเรื่องสนทนา “เพราะว่าพวกเขาคิดว่าอำนาจของฉินโม่หานนั้นไม่สามารถเข้ามาที่นี่ได้ ก็เลยมัดฉันไว้ที่นี่”

จี้หนานเฟิงพยักหน้า “ก็จริง”

“เมืองสตัฟฟ์ ตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจและวัฒนธรรมยุโรป ควบคุมเส้นทางเศรษฐกิจหลักของยุโรปเลย”

“ที่นี่นั้น อย่าพูดถึงชวงซิงกรุ๊ปหรือLYกรุ๊ปเลย แม้แต่ตระกูลจี้กับตระกูลเจี่ยน ก็ยังนำฉินซื่อกรุ๊ปของฉินโม่หานอยู่หลายถนน”

พอพูดจบ เขาก็เงยหน้าขึ้นมองซูสือเยว่แล้วก็ยิ้ม “เมืองหรงคืออาณาเขตของฉินโม่หาน แม้แต่อยู่ในอาณาเขตของตัวเองเขายังปกป้องเธอได้ไม่ดีเลย”

“ตอนนี้ต่อให้ตามมาที่เมืองสตัฟฟ์ ฉันก็ไม่คิดว่าเขาจะมีความสามารถที่จะดูแลเธอให้ดีได้”

ชายคนนั้นหยิบแก้วขึ้นมาจิบชา “ไม่งั้นเธอพาซิงกวงกลับไปตระกูลจี้กับฉันดีกว่า”

“ตระกูลจี้ของพวกเรามีบอดี้การ์ดที่ดีที่สุดในเมืองสตัฟฟ์ มีระบบความปลอดภัยขั้นสูงสุด”

“ฉันให้ย่าของฉันแยกบ้านเดี่ยวให้เธอได้ จะได้ปลอดภัยหน่อย”

ซูสือเยว่มองผู้ชายตรงหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย

ที่จริงเธอจำจี้หนานเฟิงไม่ได้หรอก

แต่ว่าเมื่อกี้ที่ซิงกวงดึงเธอไปพูดคำพูดพวกนั้น ทำให้เธอรู้สึกว่าจี้หนานเฟิงเป็นคนที่สุขุม ใจกว้าง และอบอุ่นคนหนึ่งเลย

แต่……

เขากลับมาที่บ้านของฉินโม่หาน แล้วบอกให้เธอที่เป็นภรรยาของเขา ไปอาศัยอยู่ที่บ้านของตระกูลจี้งั้นเหรอ?

นี่คืออะไรกัน?

แม้แต่ฟู๋เชียนเชียนที่อยู่ด้านข้างยังรู้สึกว่าคำพูดของจี้หนานเฟิงนั้นไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่

เธอกระแอมออกมาเบาๆ “นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจี้ ดูซิพูดอะไรออกมาเนี่ย”

“สือเยว่ก็อยู่ที่นี่มาพักหนึ่งแล้ว ยังไม่เคยเกิดเรื่องอะไรเลย…”

“หรือว่าคุณคิดมากเกินไปรึเปล่า? ”

จี้หนานเฟิงขมวดคิ้ว แล้วก็กวาดสายตามองฟู๋เชียนเชียนอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก

“ฉันก็แค่เป็นห่วงความปลอดภัยของสือเยว่”

“แล้วอีกอย่าง”

ชายหนุ่มเบะปากอย่างเย็นชา “ต่อให้มันไม่ใช่เพื่อความปลอดภัยของเธอ จะให้เธออยู่ที่นี่ต่อไปมันก็คงไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่”

“ฉินโม่หานใกล้จะแต่งงานแล้ว”

คำพูดของจี้หนานเฟิง ทำให้ผู้หญิงในห้องรับแขกทั้งสองคนนั้นอึ้งไปเลย

ซูสือเย่มองจี้หนานเฟิงด้วยสายตาที่เหมือนกับกำลังมองคนปัญญาอ่อนอยู่ “ภรรยาของฉินโม่หานไม่ใช่ฉันงั้นเหรอ? ”

“เขาเคยแต่งงานมาแล้ว จะมาแต่งอีกได้ยังไง? ”

จี้หนานเฟิงหัวเราะอย่างเย็นชา “ถึงแม้ว่าพวกเธอจะแต่งงานกันมาแล้ว แต่ว่าการหย่าก็เป็นอีกในอีกไม่กี่วันนี้แหละ”

พอพูดจบ ชายหนุ่มก็ยกมุมปากขึ้น “พวกเธอน่าจะรู้เกี่ยวกับสัญญาการแต่งงานระหว่างตระกูลจี้กับตระกูลเจี่ยนใช่ไหม? ”

“ตอนแรกนั้นผู้ใหญ่ของตระกูลเจี่ยนกับตระกูลจี้ ตั้งกฎร่วมกันว่าคุณชายใหญ่ของตระกูลจี้กับคุณหนูใหญ่ของตระกูลเจี่ยนจะต้องแต่งงานกัน”

“พูดให้ชัดก็คือ คนที่ใหญ่ที่สุดจากตระกูลตระกูลเจี่ยนและตระกูลจี้มาแต่งงานกัน”

ซูสือเยว่ขมวดคิ้ว

ก่อนหน้านี้ตอนที่ได้ยินชื่อของจี้หนานเฟิง เธอก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องตระกูลจี้เลย

จนตอนนี้ที่เธอได้ยินเรื่องที่จี้หนานเฟิงเรื่องการแต่งงาน……

ใบหน้าของเธอก็บูดบึ้งเล็กน้อย “ดังนั้น คุณชายใหญ่ของตระกูลจี้……ก็คือนายเหรอ? ”

คนที่ผู้ดูแลบ้านเสิ่นเอาแต่บังคับให้เธอแต่งงานด้วย ก็คือจี้หนานเฟิงงั้นเหรอ?

คนที่หยางชิงโยวอย่างจะแต่งงานด้วย ก็คือจี้หนานเฟิงเหมือนกัน?

“ตอนนี้เป็นฉัน แต่ว่าถ้าผ่านช่วงนี้ไปก็ไม่ใช่ฉันแล้ว”

จี้หนานเฟิงเปลี่ยนท่าทางเป็นสบายๆ วางมือบนโซฟา สายตานิ่งเรียบ “รอให้ฉินโม่หานกลับไปที่ตระกูลจี้เมื่อไหร่ คุณชายใหญ่ของตระกูลจี้ ก็จะเป็นเขาแทนแล้ว”

“ต่อไปคนที่จะต้องแต่งงานกับหยางชิงโยว ก็คือเขา”

ฟู๋เชียนเชียนถลึงตาด้วยความตกใจ

“คุณหนูของตระกูลเจี่ยนไม่ใช่……”

ซูสือเยว่หรอกเหรอ?

แต่ว่าเธอยังไม่ทันจะพูดจบ ก็ถูกซูสือเยว่ตัดบทไปซะก่อน

หญิงสาวยิ้มจางๆ พร้อมกับมองหน้าจี้หนานเฟิง “นายเองก็รู้แล้วเหรอว่าหยางชิงโยวเป็นคุณหนูของตระกูลเจี่ยน? ”

“แน่นอนสิ”

จี้หนานเฟิงยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “เธอมาจากเมืองหรงพร้อมกับพวกเรา”

“ถ้าเกิดว่าไม่ได้ความช่วยเหลือจากฉัน ผู้ดูแลบ้านเสิ่นกับเธอก็คงจะไม่สามารถยืนยันตัวตนได้อย่างเป็นเอกฉันท์อย่างรวดเร็วขนาดนั้นหรอก”

เขานั่งไขว่ห้าง “พอพูดขึ้นมาแล้ว ได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้ผู้ดูแลบ้านเสิ่นหาคุณหนูของตระกูลเจี่ยนตัวปลอมมา บอกว่ารอให้หยางชิงโยวกลับมาเมื่อไหร่ก็จะไล่เธอไป”

“ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้ไล่ไปรึยัง”

“แต่ไม่ว่าจะเป็นยังไง สือเยว่ ฉินโม่หานเขาเป็นคนของตระกูลจี้ ไม่ช้าก็เร็วเขาก็ต้องกลับมาอยู่ที่ตระกูลเดิมของเขา”

“แต่ว่าถ้าเกิดว่าเขากลับไปเมื่อไหร่ ก็จำเป็นต้องหย่ากับเธอ แล้วแต่งงานกับคุณหนูตระกูลเจี่ยน”

พอพูดจบ จี้หนานเฟิงก็มองซูสือเยว่ด้วยสายตาที่ดูเห็นอกเห็นใจและไม่มีทางเลี่ยง “ดังนั้นนะสือเยว่ รีบแยกออกจากเขาเถอะ พอถึงวันที่ต้องหย่า เธอจะได้ไม่ต้องทุกข์ขนาดนั้น”

ซูสือเยว่หรี่ตา “ถ้ายังงั้นฉันก็ต้องขอบคุณนายจริงๆ เลยนะ!”

มือของหญิงสาวกำหมัดแน่นอย่างเงียบๆ “เชียนเชียน เห็นว่าว่าเขาเป็นไอดอลของเธอ เธอก็ส่งเขากลับด้วยละกัน”

“ถ้าเกิดว่าฉันโมโหขึ้นมาจริงๆ แล้วทำร้ายคนอื่นเข้ามันจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่”

ฟู๋เชียนเชียนอึ้งไป แล้วก็หันไปมองซูสือเยว่ที่กำลังพยายามระงับความโกรธของตัวเองอยู่ ทันใดนั้นก็รีบลุกขึ้นยืนยันที “นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจี้ คือว่าคุณ……กลับไปก่อนดีกว่าค่ะ”

ถ้าเกิดว่าตอนนี้ซูสือเยว่โมโหขึ้นมา……

ผลที่ตามมาอาจจะเป็นหายนะ!

จี้หนานเฟิงกลับไม่ได้ตระหนักถึงความร้ายแรงของปัญหานี้

เขายังคงนั่งพิงโซฟาด้วยท่าทีสง่างาม สายตานิ่งเรียบ “ที่ฉันพูดมันเป็นความจริงทั้งหมดนะ”

“สือเยว่ ฉันรู้ว่าถ้าเธอรู้เรื่องนี้แล้วต้องรู้สึกไม่สบายใจ”

“แต่ว่าเธอต้องยอมรับความจริงนะ”

“วันนี้แม่ของฉันได้ส่งคำเชิญไปให้ฉินโม่หานแล้ว ให้เขาไปร่วมทานอาหารเย็นกับตระกูลจี้ในอีกสามวันข้างหน้า”

“ฉินโม่หานก็น่าจะรู้เป้าหมายของตระกูลจี้แล้ว แต่ว่าเขาก็ยังตกลง”

พอพูดจบ เขาก็ถอนหายใจออกมา “สือเยว่ เธอก็น่าจะรู้นี่ ว่าการที่เขาตกลงไปทานอาหารเย็นร่วมกับตระกูลจี้ ก็หมายความว่าเขาอยากจะกลับต้นตระกูลเดิมแล้ว”

“แล้วแบบนั้นการแต่งงานที่จะมาถึงนั้น เขาก็จำเป็นต้อง……”

ชายหนุ่มยังไม่ทันจะพูดจบ กำปั้นของซูสือเยว่ก็ซัดมาที่คางของเขาทันที

จี้หนานเฟิงโดนโจมตีอย่างกะทันหันไม่ทันตั้งตัว ใบหน้าที่ละเอียดอ่อนของเขาก็บูดเบี้ยวเพราะความเจ็บและความช็อก

ฟู๋เชียนเชียนรีบพุ่งเข้าไปอย่างจะไปห้าม แต่ว่าก็ไม่ทันแล้ว……

เท้าของซูสือเยว่ได้เตะออกไปแล้ว

เธอเตะจี้หนานเฟิงจนล้มลงไปที่พื้น “ฉันทนนายมานานแล้ว!”

“ฉันกับสามีจะเป็นยังไง จำเป็นต้องให้นายมาชี้นิ้วสั่งด้วยเหรอ? ”

“นายคิดว่านายเป็นใคร? เป็นชู้ของฉันยังงั้นเหรอ? ถึงได้มาวางแผนหย่าให้ฉัน? ”

จี้หนานเฟิงถูกทำร้ายจนมึนงงไปหมด

เขามองดูซูสือเยว่ที่ดุร้ายตรงหน้าของเขา แล้วก็ถอยหลังโดยอัตโนมัติ

ผู้……ผู้หญิงคนนี้ทำไมจู่ๆ ถึงได้ดุร้ายขนาดนี้?!

ยิ่งเขาหลบ ซูสือเยว่ก็ยิ่งโมโห

หญิงสาวพุ่งเข้าไป อยากจะต่อยเขาอีกครั้ง แต่ทันทีที่หมัดของเธอถูกเหวี่ยงออกไป ก็มีมือหนามือหนึ่งมาจับไว้

แล้วน้ำเสียงที่อบอุ่นของฉินโม่หานก็ดังขึ้นข้างหูของเธอ “พอแล้ว เห็นแก่ที่เขาเคยดูแลซิงกวง แล้วก็เห็นแก่ที่เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องฉันเถอะ หยุดทำร้ายเขาได้แล้ว”

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

Status: Ongoing
หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท