สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – บทที่ 242 ต้องการไปหาหมอสักหน่อยมั้ย

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

ซูสือเยว่ไม่เคยใส่ชุดราตรีหรูขนาดนี้มาก่อน

เธอวุ่นอยู่ในห้องลองเสื้อผ้าอยู่นาน กว่าจะทำความเข้าใจวิธีการสวมชุดตัวนี้ขึ้นมาได้เสียทีว่ามันสวมยังไง

รอจนตอนที่เธอสวมชุดราตรีเปิดหลังสีชมพูชุดนั้นเดินออกมาจากห้องลองเสื้อผ้านั้นเอง ด้านนอกก็เหลือเพียงแค่คนที่ติดตามเธอมาทั้งสองคนเพียงเท่านั้น

ไม่เพียงแต่จะไม่เจอหยางชิงโยว แม้แต่ฉินหลิงยี่เองก็หายไปด้วยเช่นกัน

เห็นเธอออกมา ดวงตาของคนที่ติดตามมาทั้งสองคนก็มองจ้องเข้ามาตาค้าง

รูปร่างผอมบางของหญิงสาวถูกชุดราตรีทำให้สวยน่าดึงดูดทะลุโดดเด่นออกมา

หุ่นสวยเสียอย่าว่าแต่ผู้ชายเลย แม้แต่ผู้หญิงเองเห็นแล้วก็ยังอยากจะเลือดกำเดาไหลออกมาเลย!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกแบบฉลุลวดลายตรงส่วนหลัง ทำให้ความเซ็กซี่ของเธอดูมีเสน่ห์ออกมามากขึ้น

ทั้งสองคนที่ตามมาด้วยมองเธอ แล้วก็ชมกันมาไม่ขาดปาก

“คุณนายฉินสวยมาตั้งแต่เกิดจริงๆ!”

“มิน่าล่ะถึงสามารถกลายมาเป็นคุณนายฉินได้ สวยจริงๆเลย!”

“ฉันขอประกาศเลยว่าคุณซูเป็นคนที่สวยที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาในชีวิตเลย!”

“เป็นคนที่สวยที่สุดที่ฉันเคยเจอมาในชีวิตด้วยเหมือนกัน!”

  ……

ทั้งสองคนนี้ประจบกันออกมาอย่างเปิดเผย ทำให้ฟันของซูสือเยว่ปวดจี๊ดขึ้นมาเล็กน้อย

“เกินไปแล้วๆ”

เธอโบกมือออกมาเล็กน้อย “พูดกันเกินไปแล้ว”

รู้ว่าทั้งสองคนนี้ชอบประจบสอพลอ เมื่อก่อนหน้านี้ในลิฟต์ก็ได้ยินพวกเธอประจบไป๋หยุนโต่วกันออกมา เธอเองก็รู้สึกว่าการถูกประจบสอพลอมาอย่างนี้ในใจมันก็จะต้องมีความสุขมากแน่

แต่เธอนึกไม่ถึงเลยว่าเมื่อตอนที่ทั้งสองคนมายกยอเธอขึ้นมาจริงๆแล้ว นอกจากความรู้สึกกระอักกระอ่วนแล้วเธอรู้สึกแค่เพียงความกระอักกระอ่วนเท่านั้น

กระอักกระอ่วนจนนิ้วเท้ามันสามารถแงะปราสาทหลังนึงได้เลยทีเดียว

ลูกสมุนทั้งสองคนสบตากัน “พวกเราพูดเกินไปกันเหรอ?”

“ไม่นะ!”

“เพราะว่าคุณนายฉินสวยเสียขนาดนี้เลยไง!”

ซูสือเยว่ “…”

จู่ๆเธอก็รู้สึกเสียใจภายหลังขึ้นมาว่าทำไมตนถึงได้ปล่อยให้ฉินโม่หานจัดทั้งสองคนนี้มาเป็นเพื่อนเธอ

อยู่ต่อหน้ากล้อง หลังจากที่เธอกลับมาสังเกตตัวเองอีกครั้ง ในที่สุดก็ได้หยิบแบล็กการ์ดที่ฉินโม่หานให้เธอมาจ่ายเงินไปด้วยความพึงพอใจ แล้วซื้อชุดราตรีตัวนั้นมา

ออกมาจากตัวห้างแล้ว เธอได้พาเพื่อนที่มาด้วยกันทั้งสองคนกลับชวงซิงกรุ๊ปไปด้วยอารมณ์ที่ไม่เลวเลยทีเดียว

ตอนที่รอคนขับรถขับรถเข้ามาอยู่ที่ล่างตึกนั้นเอง พอเธอหันหน้าไป ก็เห็นภายในร้านกาแฟที่อยู่ไกลออกไป หยางชิงโยวกำลังดื่มกาแฟอยู่กับฉินหลิงยี่

ฉินหลิงยี่ไม่รู้ว่าพูดอะไร แต่สีหน้าของหยางชิงโยวมันดูไม่ดีเอามากๆ

ซูสือเยว่เบ้ปากออกมา

ถ้าจำไม่ผิดแล้วล่ะก็ หยางชิงโยวคนนี้เหมือนกับว่าจะเป็นเพื่อนกับเย่เชียนจิ่ว?

ฉินหลิงยี่ก็ปฏิบัติต่อเย่เชียนจิ่วเหมือนกับน้องสาวแท้ๆเลยทีเดียว

เธออยากรู้มากว่าทำไมหยางชิงโยวกับฉินหลิงยี่ถึงได้อยู่พร้อมกันหมด แต่เย่เชียนจิ่วกลับไม่มีแม้แต่เงา

คงจะไม่ได้กรรมตามสนองเพราะเรื่องชั่วๆที่ได้ทำลงไปหรอกใช่มั้ย?

พอคิดอย่างนี้อยู่นั้นเอง คนขับรถก็ได้ขับรถเข้ามาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

หลังจากที่กลับมาถึงชวงซิงกรุ๊ป เธอวางชุดราตรีลงไปบนพื้นไปพลาง คุยเรื่องที่ได้เจอหยางชิงโยวกับฉินหลิงยี่กับฉินโม่หานไปพลาง

ฉินโม่หานที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ผู้บริหารหรี่ตาออกมาเล็กน้อย

“ทั้งสองคนนี้สามารถรวมหัวอยู่ด้วยกัน…มันก็น่าสนใจนิดหน่อยเหมือนกัน”

LYกรุ๊ปของฉินหลิงยี่พุ่งเป้าไปที่ตระกูลเจี่ยนอยู่ตลอด วิกฤติที่ตระกูลเจี่ยนกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ เป็นสิ่งที่ฉินหลิงยี่สร้างขึ้นมา

สถานะตอนนี้ของหยางชิงโยวก็คือคุณหนูใหญ่ของตระกูลเจี่ยน

ทั้งสองคนเดิมทีก็ควรจะมีความสัมพันธ์แบบปฏิปักษ์เหมือนกับว่าเป็นศัตรูกัน แต่ว่าตอนนี้กลับมานั่งดื่มชาด้วยกันอย่างเป็นปกติได้…

ชายหนุ่มหรี่ตาลง “ดูท่าทางแล้วคงจะเร่งความเร็วขึ้นมาแล้วสินะ”

ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีต่อLYกรุ๊ป หรือว่าจะเป็นการช่วยเหลือต่อตระกูลเจี่ยน ต่างก็ต้องเร่งความเร็วขึ้น

เขาเชื่อว่าฉินหลิงยี่มาหาหยางชิงโยวจะต้องไม่มีทางที่จะมาพูดคุยเรื่องเก่าๆกันง่ายๆอย่างนั้นแน่นอน

ซูสือเยว่ไม่เข้าใจควาหมายที่เขาสื่อออกมา เธอจึงย่นคิ้วคิดสงสัยออกมา “สามี เร่งความเร็วอะไรกันอ่ะ?”

“ไม่มีอะไร”

ชายหนุ่มหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วหันไปมองซูสือเยว่ “ซื้อมาแค่ชุดราตรี?”

ซูสือเยว่พยักหน้า “ยังต้องการอะไรอีกเหรอคะ?”

ชายหนุ่มมองเธอไปอย่างจนใจ “ชุดราตรีสีอะไร?”

“สีชมพู!”

ฉินโม่หานพยักหน้าออกมาเล็กน้อย พร้อมกับยกโทรศัพท์ขึ้นมา “ไป๋ลั่ว ไปที่ห้าง ซื้อรองเท้าส้นสูงสีชมพูมาคู่นึง”

ซูสือเยว่ตกใจขึ้นมา แล้วก็ได้มองไปที่เท้าของตัวเองทันที

รองเท้าที่เธอกำลังสวมอยู่…เป็นรองเท้าผ้าใบสีขาวคู่หนึ่ง

รองเท้าคู่นี้ กับชุดราตรี…มันดูเหมือนว่าจะไม่เข้ากันเลยจริงๆ

รอจนชายหนุ่มวางโทรศัพท์ลงแล้ว เธอก็เข้าไปอย่างระมัดระวัง ยื่นมือออกไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยสีหน้าที่รู้สึกผิด แล้วเข้าไปกอดเอวแกร่งของเขาเอาไว้ “ขอโทษนะสามี…”

“เพราะว่าเจอคนที่ไม่ชอบ ฉันก็เลยอารมณ์ไม่ดีขึ้นมาด้วย ตอนอยู่ที่ห้างก็เลยซื้อแค่ชุดราตรีกลับมา”

“ลืมเรื่องรองเท้าไปหมดเลย…”

พูดจบ เธอก็เหมือนเด็กน้อยที่ทำอะไรผิดมา หน้าแดง ซุกหัวเข้ากับแผงอกของเขา “ฉันนี่มันทึ่มจริงๆเลย”

“ขอโทษนะคะ”

หัวใจของฉินโม่หาน มันได้สั่นออกมาอย่างแรงเพราะว่าการกระทำที่พึ่งพิงและน้ำเสียงหวานของเธอ

เขาเงยหน้าขึ้นมา ลูกกระเดือกขยับเคลื่อนขึ้นลง “ขอโทษอะไรผมกัน”

“ไม่มีผม คุณก็ไม่มีทางจะตัดสินใจจะเข้าร่วมงานเลี้ยงไปด้วยเหมือนกัน”

“ไม่ได้พิจารณาไปถึงเรื่องพวกนี้มันก็ไม่ใช่ความผิดของคุณ”

น้ำเสียงทุ้มต่ำที่มีคุณสมบัติที่ดึงดูดออกมาได้ยินเข้ามาในหูของซูสือเยว่ มันชวนให้หลงเสน่ห์เป็นอย่างมาก

เธอเงยหน้าขึ้นมา มองเขาไปนิ่งๆ

จากมุมมองของเธอนั้น สามารถมองเห็นสันกรามที่ดุดันกับลูกกระเดือกที่เซ็กซี่ของเขาได้

หญิงสาวลังเลอยู่สักพักนึง สุดท้ายก็ยังอดกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ เงยหน้าขึ้นไปประชิดเข้าไป กัดลงไปบนกรามของเขาเบาๆ

การกระทำที่เกิดขึ้นมาโดยไม่มีปี่มีขลุ่ยของเธอนั้น ทำให้ฉินโม่หานนิ่งค้างไปอย่างจัง

เขาย่นคิ้วออกมาเล็กน้อย มองลงไปจับใบหน้าเล็กที่ขาวเนียนของเธอเอาไว้ “ยัยตัวร้าย ทำอะไรน่ะ?”

ในดวงตาดำคู่นั้นของซูสือเยว่เต็มไปด้วยแววตาที่บริสุทธิ์ “ฉันอยากกัดคุณ”

ชายหนุ่มอึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นก็หยิกจมูกของเธอไปเบาๆ “แค่อยากจะกัดคางเท่านั้น?”

หญิงสาวส่ายหน้าออกมาอย่างแข็งขัน

“ไม่ใช่แค่คาง”

บนใบหน้าของหญิงสาวร้อนผ่าวออกมา “ฉันยังอยากจะกัดริมฝีปากคุณด้วย”

“ฟันของคุณ”

“แล้วก็ยังมี…”

“อุ๊บ—!”

คำพูดของเธอยังไม่ทันได้พูดออกมาจนจบ ชายหนุ่มก็โอบรัดท้ายทอยเธอเอาไว้พร้อมกับประกบจูบลงมาอย่างแรงทันที

ฟันของเขากัดเข้ามาที่ริมฝีปากของเธอเบาๆ เจ็บจนเธอต้องย่นคิ้วออกมา

ผ่านไปได้สักพักใหญ่ๆ ชายหนุ่มยิ้มออกมาพร้อมกับปล่อยเธอออกไป “ผมกัดเสร็จแล้ว ตอนนี้ถึงตาคุณกัดผมแล้ว”

ซูสือเยว่เม้มริมฝีปาก หน้าแดง กัดลงไปบนริมฝีปากของเขาไปเบาๆ—

  ……

ในช่วงหกโมงเย็นกว่าๆ ฉินโม่หานได้พาซูสือเยว่ลงมาจากชั้นบน

ไป๋ลั่วค้นพบออกมาด้วยอาการตื่นตะลึงว่าริมฝีปากของทั้งสองคนนั้นบวมแดงด้วยกันทั้งคู่

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณผู้หญิง ริมฝีปากไม่เพียงแต่จะบวมแดงออกมา บนใบหน้าก็แดงออกมาอย่างมากเช่นเดีวกัน!

เขาย่นคิ้วออกมา เอ่ยปากถามออกมาอย่างระมัดระวัง “คือว่า…ของที่กินมันแพ้ขึ้นมานิดหน่อยเหรอครับ?”

“ผมว่าสภาพของคุณผู้ชายมันดูไม่ดีนัก…”

“ของคุณผู้หญิงก็เหมือนกับว่าจะหนักกว่าหน่อย”

“ช่วงเวลาที่งานเลี้ยงจะเริ่มขึ้นมันยังมีอีกหนึ่งชั่วโมง ทางที่พวกเราไปมันจะผ่านโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ไม่อย่างนั้นให้ผมไปลงทะเบียนให้พวกคุณ…”

ไป๋ลั่วพูดไปพลาง แล้วยังรู้สึกว่าตัวเองเอาใจใส่เป็นพิเศษไปพลาง “ในช่วงเย็นอย่างนี้ที่โรงพยาบาลไม่ค่อยมีใคร การหาหมอมันก็คงจะเร็วอยู่…”

“ดังนั้นแล้วคุณผู้ชาย ปากของคุณกับคุณผู้หญิง…”

ฉินโม่หานที่นั่งอยู่ตรงเบาะด้านหลังได้ถลึงตาใส่เขาอย่างเยือกเย็น “หุบปาก!”

  

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

Status: Ongoing
หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท