เมื่อนายน้อยมีลูกสาว Young Master Has a Daughter – ตอนที่ 27

ตอนที่ 27

บทที่ 27  การออกเดินทางและการเผชิญหน้า

 

 

“ท่านพ่อจะไปแล้วเหรอ” ยุ่นเซี่ยถาม เสียงของเธอเต็มไปด้วยความเศร้าขณะที่เธอมองพ่อของเธอด้วยน้ำตาที่เอ่อล้น

 

หัวใจของยุ่นหลิงรู้สึกปวดร้าวหลังจากเห็นการแสดงออกที่น่าสงสารของลูกสาวของเขาบนใบหน้าของเธอ เขาลังเลที่จะออกเดินทางและเลือกที่จะอยู่กับเธอ แต่ท้ายที่สุดเขาก็ควบคุมสติของเขาและตัดสินใจได้

 

“เซี่ยเซี่ย พ่อไปไม่นานหรอก พ่อจะกลับมาเร็วๆนี้ เป็นเด็กดีและรอพ่ออยู่ที่นี่ตกลงไหม?” ยุ่นหลิงก้มลงไปอยู่ที่ระดับเดียวกันกับลูกสาวเขาและพูดเบาๆ ขณะที่เขาเช็ดน้ำตาในของเธอ

 

ตอนนี้พวกเขาอยู่นอกบริเวณด้านหน้าของทางเข้าตระกูลหลักของพวกเขา ครอบครัวของเขาก็อยู่ที่นั่นเพื่อดูส่งเขาก่อนที่เขาจะไป พ่อของเขาเฝ้ามองเขาด้วยสายตานิ่งๆ ในทางตรงกันข้ามแม่ของเขามองเขาด้วยความกังวลเล็กน้อย ยายของเขาแค่ยิ้มให้เขาในขณะที่ปู่ของเขามองเขาด้วยความภาคภูมิใจ

 

หยื่อตงเหม่ยก็ยืนอยู่ด้านหลังยุ่นเซี่ยเพียงไม่กี่เมตร เธอไม่มีรู้สึกใดๆผ่านใบหน้าของเธอ แต่ยุ่นหลิงไม่ได้คิดว่าเธอเป็นอย่างนั้นจริงๆ มันคงจะแปลกถ้าเธอเริ่มความรู้สึกของเธอออกมาตรงๆ

 

ลูกพี่ลูกน้องและผู้ช่วยของเขา ยุ่นหยี่เพียงแค่ยิ้มให้เขาด้วยรอยยิ้มที่น่าพอใจแบบเดียวกับที่เขาเคยมี

 

เกือบทุกคนจากครอบครัวของเขามาส่งเขา แม้แต่คนรับใช้ของพวกเขาและกลุ่มคนอื่นๆ ก็อยู่ที่นั่นมองพวกเขาจากระยะไกล มีเพียงแค่พี่น้องทั้งสองคนของ ยุ่นหลิงซึ่งปัจจุบันอยู่ห่างจากเมืองหลวงและลุงของเขาซึ่งเป็นพ่อของยุ่นหยี่ ที่ได้มาส่งเขา
หลังจากปลอบยุ่นเซี่ยไปเล็กน้อยยุ่นหลิงก็มองครอบครัวของเขาอย่างงงๆ “นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ข้าออกไปทำภารกิจหรืออะไรบางอย่างแล้วทำไมถึงมาที่นี่เพื่อพบข้าด้วยล่ะ?”

 

“มันไม่ใช่แบบนั้น นายน้อย” ยุ่นหยี่มองเขาอย่างร่าเริง “การคัดเลือกมังกรทองถือเป็นงานสำคัญในจักรวรรดิ นี่ไม่เหมือนกับภารกิจปกติที่หัวหน้าตระกูลมอบหมายให้ท่าน ตอนนี้ผู้คนที่มีอิทธิพลจำนวนมากจับตามองท่านนและอีกสองคนที่เป็นอัจฉริยะสูงสุดเพื่อดูว่าท่านจะทำผลงานได้ดีแค่ไหนในภารกิจที่จักรพรรดิมอบให้ท่าน คราวนี้ท่านต้องระวังเป็นพิเศษนะนายน้อย” สีหน้าอันขี้เล่นของยุ่นหยี่หายไปเมื่อเขาพูดกับยุ่นหลิงอย่างจริงจัง

 

หลี่จิ้งแม่ของเขากล่าวว่า “หลิง ระวังตัวด้วยตกลงนะ?”

 

ยุ่นหลิงเหลือบตาไปที่พวกเขาและพยักหน้า หลังจากนั้นเขาหันไปหาพ่อของเขาและพูดว่า “ท่านพ่อโปรดดูแลยุ่นเซี่ยแทนข้าด้วย”

 

“เธอเป็นหลานสาวของข้านะ ข้าจะดูแลเธอแน่นอน” ยุ่นซานกล่าว “นอกจากนี้ ตงเหม่ยก็อยู่ที่นี่เช่นกันดังนั้นเจ้าจึงไม่มีอะไรต้องกังวล”

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้นยุ่นหลิงก็มองไปที่ผู้หญิงคนดังกล่าว “ข้าฝากให้เจ้าดูแลด้วยนะ”

 

“ถึงเจ้าจะไม่บอกข้าก็จะทำแบบนั้นอยู่แล้ว” หยื่อ ตงเหม่ยพูดอย่างเย็นชา

 

‘เย็นชาชะมัด’ คนอื่นๆคิดเป็นอย่างเดียวกันเมื่อได้ยินเธอพูด

 

“อย่าลืมเอาของที่ฝากมาด้วยนะเจ้าหลิง” ยายของเขาพูด

 

“ได้เลย”

 

“อย่าลืมนำเนื้อ นกยักษ์มาด้วยล่ะด้วยเมื่อเจ้ากลับมา” ยุ่นเหว่ยกล่าวเสริมทำให้ยุ่นหลิงประหลาดใจเล็กน้อย

 

‘นี่เขารู้อะไรบ้างเนี่ย?’ ยุ่นหลิงคิดขณะที่เขามองไปที่ปู่ของเขาด้วยความสงสัยเล็กน้อย เขาถอนหายใจออกจากความคิดของเขาเฮือกใหญ่ ไม่มีเหตุผลที่จะคิดมันไม่คุ้มที่จะเสียเวลาคิดเรื่องพรรค์นี้

 

หลังจากพูดคุยกับคนอื่นๆแล้ว ยุ่นหลิงก็คุยกับ ยุ่นเซี่ยอีกครั้ง

 

“ท่านพ่อ…”

 

“ลูกรู้อะไรไหมเซี่ยเซี่ย พ่อจะเอาของขวัญมาให้ถ้าลูกเป็นเด็กดีอยู่ที่นี่” ยุ่นหลิงยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน

 

ยุ่นเซี่ยส่ายหัว“ ยุ่นเซี่ยไม่ต้องการของขวัญ ยุ่นเซี่ยแค่ต้องการให้ท่านพ่ออยู่ที่นี่”

 

‘ยุ่นหลิง’ รู้สึกราวกับว่ามีลูกศรที่มองไม่เห็นได้แทงทะลุหัวใจของเขา เขาเริ่มลังเลเป็นครั้งที่สอง

 

“ไม่ต้องพูดมากและไปเดี๋ยวนี้” ยุ่นเหว่ยพูดขณะเตะก้นเขา โดยปกติแล้วยุ่นหลิงจะหลบหลีกลูกเตะของเขาได้ง่ายๆ แต่เขาฟุ้งซ่านเกินไปกับยุ่นเซี่ยและไม่เห็นว่ามีเท้าลอยมาเตะเขา

 

หยุนหลิงเซไปข้างหน้าสองสามก้าวเมื่อตั้งหลักได้ เขาก็หลบไปอีกทางที่ยุ่นเซี่ยอยู่ทันที เพราะเกรงว่าเขาจะกระแทกเธอด้วย เขาสามารถกลับมาตั้งหลักได้อย่างรวดเร็วหลังจากที่เขาจ้องมองปู่ของเขาอย่างหงุดหงิด หน้าอกของเขายกขึ้นและเส้นเลือด

 

ที่มือเขาเริ่มปูดขณะที่เขาพยายามคุมสติตัวเองไม่ให้ลงไม้ลงมือด้วยความโกรธ

 

ออร่าที่รุนแรงกำลังเล็ดลอดออกมาจากเขาในขณะที่เขาหยุดนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ความโกรธที่มองเห็นได้บนสีหน้าของหลานชายทำให้ยุ่นเหว่ยเหงื่อตกเล็กน้อย

 

“หลานชายสุดที่รักของข้า … ข้าแค่หยอกเจ้าเล่นเท่านั้น” ยุ่นเหว่ยพูดกับยุ่นหลิงด้วยเสียงที่หวาดกลัวอะไรบางอย่าง

 

สายตาของยุ่นหลิงยิ่งค่อยๆกลับไปเป็นเหมือนเดิม

 

“บังอาจมาก!” เป็นสิ่งเดียวที่ยุ่นหลิงพูดขณะที่เขาชกไปที่ใบหน้าของปู่ของเขา

 

 

หลังจากมอบบทเรียนอันแสนเจ็บปวดให้กับปู่ของเขาและทำให้ลูกสาวมั่นใจว่าเขาจะกลับมาในไม่ช้ายุ่นหลิงก็ขี่ม้าและออกเดินทาง

 

เขายังคงโกรธปู่ของเขาสำหรับสิ่งที่เขาทำก่อนหน้านี้และมันแสดงให้เห็นบนใบหน้าของเขาในขณะที่เขาไม่ได้พยายามปกปิด ทุกคนที่เขาพบระหว่างเดินทางนอกเมืองหลวงค่อนข้างหลีกห่างตัวเขาทันทีที่เห็นการแสดงออกบนใบหน้าของเขาด้วยความกลัวว่าจะทำให้เขาขุ่นเคืองโดยไม่ได้ตั้งใจและกลายเป็นระบายอารมณ์ความโกรธของเขา

 

ขณะที่เขากำลังจะออกจากประตูเมืองหลวงยุ่นหลิงก็เห็นชายชราหลังค่อมขวางทางเขา ถนนค่อนข้างใหญ่สามารถรองรับรถม้าได้หลายคันพร้อมกันอย่างไม่ลำบาก ยุ่นหลิงสามารถบังคับม้าของเขาได้อย่างง่ายดายเพื่อหลีกเลี่ยงเขาและไปตามทางของเขา แต่เขาไม่ทำ เป็นเพราะยุ่นหลิงคุ้นเคยกับชายชราคนนี้ ไม่ต้องพูดถึงชายชรากำลังมองมาที่เขาอย่างตั้งใจโดยไม่แสดงอาการเคลื่อนไหว เขาคิดว่าคงต้องการอะไรจากเขา

 

ยุ่นหลิงหยุดม้าและหยุดห่างจากชายชราเพียงไม่กี่ก้าว ยุ่นหลิงมองเขาอย่างเย็นชาขณะที่ชายชรามองกลับมาที่เขาอย่างใจเย็น

 

“ดูเหมือนเจ้าจะอารมณ์เสียนะ ชายชราคนนี้ทำให้เจ้าขุ่นเคืองโดยการขวางทางเจ้าใช่หรือไม่” ชายชราพูดด้วยรอยยิ้มที่จริงใจ

 

“ไม่ มันไม่ใช่แบบนั้นหรอก” ยุ่นหลิงพูดขณะที่พยายามสงบสติอารมณ์ “ท่านเสนาบดีเจิ้งหยี่ท่านมีอะไรกับข้าหรือไม่” ?

เมื่อนายน้อยมีลูกสาว Young Master Has a Daughter

เมื่อนายน้อยมีลูกสาว Young Master Has a Daughter

Status: Ongoing

ทรัพย์สมบัติมหาศาล? ใช่เขามีแล้ว

ภูมิหลังอันหวาดหวั่น? ใช่เขาเป็นเช่นนั้นแล้ว

ความสามารถอันสูงส่ง? ใช่เขาเพียบพร้อมไปด้วยความสามารถแล้ว

ความทระนงตัวที่สูงจนสามารถทำให้ทั้งเทพเจ้าและปีศาจโกรธได้? นั่นก็ใช่เขาก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน

แล้วลูกสาวล่ะลูกสาว? เอ่อ นั่นเขาก็มีน่ะ

นายน้อยคนนี้มีครบเลยล่ะ!

ยุ่นหลิงเป็นอัจฉริยะสูงสุดที่ถือกำเนิดในตระกูลที่มีอำนาจในจักรวรรดิอันยิ่งใหญ่ ว่ากันว่าอัจฉริยะที่มีความสามารถแบบเขาเกิดมีเพียงหนึ่งคนในทุกๆหนึ่งหมื่นปี นอกเหนือจากความสามารถพิเศษของเขาแล้วพ่อของเขาก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหัวหน้าตระกูลและเป็นนายพลของจักรวรรดิซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมมีเพียงไม่กี่คนที่กล้ามีเรื่องกับเขาหรือท้าทายเขา

ทุกอย่างนั้นดูราบรื่นเสมอสำหรับยุ่นหลิงอย่างไรก็ตามเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเมื่อเขากลับไปยังจักรรดิหลังจากการเดินทางของเขาก็พบว่าเขามีลูกสาวรอเขาอยู่ที่บ้านซะแล้ว !!

ระดับขอบเขต

1 ขอบเขตการสถาปนา

2 ขอบเขตการกระตุ้นจิตวิญญาณ

3 ขอบเขตการฝึกตนระดับแก่นกลาง

4 ขอบเขตการเปลี่ยนแปลงที่สี่

5 ขอบเขตมหันต์ราชันย์

6 ขอบเขตราชันต์เทวลิขิต

7 ขอบเขตราชันย์ศักดิ์สิทธิ์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท