สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – บทที่ 267 ปล่อยให้แด๊ดดี้รอเก้อกันเถอะ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

เมื่อได้ยินเสียงเรียกอันนุ่มนวลของซิงหยุนแล้ว ความรู้สึกของซูสือเยว่ก็สับสนที่สุดแล้ว

ลูกรักของเธอทั้งสามคน น่าจะเป็นคนที่น่าเชื่อถือสำหรับเธอที่สุดในเวลานี้

แต่ว่า พวกเจากลับไปยืนอยู่ทางฝั่งของฉินโม่หานแทน

ซฺงหยุน ซิงเฉิน ซิงกวง เด็กๆ ทั้งสามคนกำลังช่วยเหลือฉินโม่หานโดยปิดบังเธอเอาไว้

ในใจของเธอ ถ้าพูดว่าไม่เสียใจ มันก็หลอกลวงแล้วแหละ

ทั้งๆ ที่เป็นคนในครอบครัวเดียวกันแต่ไม่ได้มีคนที่อยู่มองถึงในมุมปัญหาของเธอเลย ไม่มีคนถามเธอเลยสักคำ ว่าตกลงแล้วต้องการฟื้นความทรงจำขึ้นมาหรือเปล่า

เมื่อเห็นว่าผ่านไปนานมากแล้วซูสือเยว่ก็ไม่ยอมเปิดประตูสักที ซิงหยุนที่อยู่ด้านนอกถอนหายใจ “หม่ามี๊ ผมมาขอโทษหม่ามี๊นะ”

“ผม…ผมไม่ควรจะอยู่ฝ่ายเดียวกับแด๊ดดี้”

“ผมรู้ว่าหม่ามี๊ยังไม่นอน หม่ามี๊เปิดประตูได้ไหม ผมอยากจะเข้าไปคุยกับหม่ามี๊ให้รู้เรื่องสักหน่อย”

“ไม่ว่ามหม่ามี๊จะตัดสินใจอะไรก็ตาม ผมก็จะยืนอยู่ฝั่งหม่ามี๊ตลอดไป”

เสียงของซิงหยุนยิ่งหนักแน่นขึ้นเรื่อยๆ จนท้ายที่สุดกระทั่งมีเสียงขึ้นจมูกขึ้นมาเล็กน้อย

ซูสือเยว่ไม่เคยได้ยินน้ำเสียงของซิงหยุนที่เป็นแบบนี้มาก่อนเลย

ร่างกายของหญิงสาวแข็งทื่อทันที

ซิงหยุนนี่…ใกล้จะร้องไห้ออกมาแล้วใช่ไหม?

เธอกัดริมฝีปากเอาไว้ พลางรีบลุกจากเตียงทันที เพื่อเปิดประตูออกมา

ด้านนอก เจ้าหนุ่มน้อยที่ใส่ชุดนอนยืนอยู่ตรงทางเดิน ใบหน้าเล็กเริ่มแดงขึ้น ในเบ้าตาราวกับมีแววตาที่มีน้ำตาเอ่อล้นคลอเบ้าอยู่

ซิงหยุนที่เป็นแบบนี้ ท่ามกลางใต้แสงไฟช่างน่ารัก แถมทำให้คนเสน่หา

หัวใจของซูสือเยว่บีบรัดทันที

ตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอจำได้ว่าซิงหยุนเป็นคนที่โตที่สุด แถมเป็นเด็กที่รู้เรื่องที่สุดในบ้านแล้ว

แต่ว่า…

ราวกลับว่าเธอลืมไปว่า ซิงหยุนเป็นแค่เด็กอายุห้าขวบเท่านั้นเอง!

เวลาที่ผู้ใหญ่กำลังเผชิญหน้ากับความสับสนอยู่นั้น ทำไมเธอถึงได้ต่อว่าเด็กห้าขวบจนไม่มีสติด้วยล่ะ?

ถึงอย่างไรสำหรับพวกเขาแล้ว แด๊ดดี๊กับหม่ามี๊ต่างก็เป็นบุคคลสำคัญสำหรับพวกเขาแล้ว

ถ้าฉินโม่หานบอกกับพวกเขา การที่เช่นนี้ก็เพื่อดีต่อเธอ สำหรับเด็กอายุห้าขวบ สามารถแยกแยะออกมาได้จริงๆ ไหม?

ขนาดตัวเธอเอง….

ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนเลยด้วยซ้ำ ว่าการที่ฉินโม่หานทำเช่นนี้ ตกลงแล้วว่าถูกต้องหรือไม่ถูกต้องกันแน่

แต่ว่าเธอรู้ว่า สิ่งที่ฉินโม่หานตัดสินใจทำเรื่องนี้ สำหรับเธอแล้วเธอโกรธมาก

โกรธมากโกรธสุดๆ ไปเลยแหละ

“หม่ามี๊”

ด้านนอกประตู ซิงหยุนตัวเล็กกะพริบตาปริบๆ ตอนที่มองมาทางใบหน้าของซูสือเยว่ “ผมเข้าไปด้านในได้ไหม?”

ซูสือเยว่เลิกคิ้วขึ้น พลางหลีกทางให้จนทนไม่ไหว เพื่อให้เขาเดินเข้ามา

เจ้าเด็กน้อยเดินเข้ามาในห้อง พอตอนที่ซูสือเยว่ปิดประตูแล้ว เขาก็พุ่งเข้าใส่ทันที พร้อมทั้งกอดขาของซูสือเยว่เอาไว้

“หม่ามี้”

ศีรษะของซิงหยุนอยู่ต้องน่องขาของซูสือเยว่ พลางพูดเสียงทุ้ม “ผมมาขอโทษกับหม่ามี๊นะ”

ซูสือเยว่เลิกคิ้วให้ พลางยื่นมือออกไปตบไหล่หนุ่มน้อยอย่างไม่รู้ตัว “ทำไมเหรอ?”

“หม่ามี๊…”

ซิงหยุนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พลางเงยหน้าจ้องมองใบหน้าของซูสือเยว่ “ผมอยากถามหม่ามี๊สักหนึ่งอย่าง”

“การฟื้นความทรงจำสำหรับหม่ามี๊แล้ว สำคัญไหม?”

ร่างกายของซูสือเยว่ชะงักทันที

เธอไม่อยากจะเชื่อจนนั่งยองๆ ลง เพื่อให้สายตาเธอเสมอภาคกับซิงหยุน “ทำ … ทำไมไมลูกถึงถามคำถามนี้ล่ะ?”

เพราะว่านี่เป็นคำถามที่เธอกำลังครุ่นคิดอยู่ตลอดทั้งคืนนะสิ

การฟื้นความทรงจำ สำหรับเธอแล้ว ตกลงว่ามันสำคัญไหม?

ถ้าสำคัญ เช่นนั้นการที่ฉินโม่หานทำมาทั้งหมด ก็สามารถยกโทษให้ได้

ถ้าไม่สำคัญล่ะ…

เช่นนั้น ก็ไม่สามารถยกโทษให้กับ ฉินโม่หาน

ซิงหยุนเม้มริมฝีปาก จนใบหน้าแดงเล็กน้อย

“หม่ามี๊ หม่ามี๊แค่ตอบคำถามนี้ของผมก็พอ”

“ผมอยากจะมั่นใจเรื่องบางอย่างอยู่”

ซูสือเยว่กลับมานั่งลงบนเตียงอีกครั้ง พลางย่นคิ้วหากันอยู่นาน

“เรื่องการฟื้นความทรงจำนั้น….”

เธอได้แต่ยิ้มให้อย่างขมขื่น “สำหรับฉันแล้ว ความจริงก็ไม่ได้สำคัญขนาดนั้น”

เมื่อเอามาเปรียบเทียบกับการที่ไม่มีฉินโม่หาน ไม่มีเรื่องที่ผ่านมาแล้ว ความจริงก็ไม่ได้สำคัญขนาดนั้นแล้ว

“’ งั้น…”

ซิงหยุนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พลางปีนขึ้นบนเตียงอย่างทุลักทุเล จากนั้นก็นอนอยู่ข้างๆ ซูสือเยว่ “งั้นแด๊ดดี้ก็ทำผิดไปแล้วสิ”

“เขาไม่อยากให้หม่ามี๊กลายเป็นคนที่ไม่เคยผ่านเรื่องอะไรมาก่อน”

“โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตอนที่หม่ามี๊มาคุยกับพวกเราว่า หม่ามี๊จำไม่ได้ถึงเรื่องที่มีความสุขที่ผ่านมาแล้วสักเรื่องเลย จำได้แค่ตอนเจ็บปวดที่ผ่านมาแล้วเท่านั้นเอง”

“เขาไม่หวังให้หม่ามี๊มีชีวิตแบบนี้ ดังนั้น เขาเลยทำเรื่องที่กำลังทำอยู่ตอนนี้ขึ้นมา….”

เจ้าหนุ่มน้อยมองฝ้าเพดาน น้ำเสียงดูเป็นผู้ใหญ่ที่สุด “ผมเคยพูดกับแด๊ดดี้แล้วนะ ความจริงแล้วหม่ามี๊ฟื้นความทรงจำไม่ได้ก็ไม่เห็นเป็นอะไรนี่ พวกเราก็สามารถที่จะสร้างความหมายดีๆ ให้มากมายจึ้นได้อีกตั้งเยอะ ความทรงจำที่มีแต่ความสุข”

“แต่แด๊ดดี้พูดว่า ความทรงจำที่ผ่านไปแล้ว ในนั้นก็มีความสุขอยู่ มันก็ไม่น้อยเลย”

“ตัวอย่างเช่น ตอนที่หม่ามี๊พูดถึงเรื่องที่หม่ามี๊ไปโรงเรียน พูดถึงเรื่องที่ก่อนหน้านี้ไปเป็นนักแสดงตัวประกอบ”

“แต่หม่ามี๊กลับจำความทรงจำที่แสนเจ็บปวดไว้ได้….มันไม่ยุติธรรมสำหรับหม่ามี๊เลย”

ซูสือเยว่หลับตาลง พลางกำหมัดแน่นทั้งสองข้าง

“งั้นตอนนี้คือ มันยุติธรรมสำหรับหม่ามี๊แล้วใช่ไหม?”

ซูสือเยว่ลืมตาขึ้น พร้อมทั้งถามกลับอย่างเย็นชา

ซิงหยุนชะงักเล็กน้อย พร้อมทั้งมองใบหน้าซูสือเยว่อยู่สักพัก จากนั้นก็เม้มริมฝีปากเอาไว้ “หม่ามี๊…หรือว่าหม่ามี๊ รู้หมดแล้วเหรอ?”

ซูสือเยว่พยักหน้าให้

เธอถอนหายใจออก พลางดึงซิงหยุนเข้ามากอดอยู่ในอ้อมกอด

แม้ว่าก่อนหน้านี้เธอจะเคยโกรธเคืองเด็กๆ ทั้งสามคน

แต่ว่า วินาทีตอนที่เปิดประตูออกนั้น เธอก็ยกโทษให้ซิงหยุน ซิงเฉินและซิงกวงหมดแล้ว

ถึงอย่างไรพวกเราก็เป็นแค่เด็กห้าขวบ

ให้พวกเขาเลือกระหว่างหม่ามี๊กับแด๊ดดี้ มันช่างโหดร้ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย

แต่ว่า เธอคิดไม่ถึงว่า ซิงหยุนมาหาเธอ… เพื่อจะมาคุยเรื่องนี้กับเธอ

“ถ้าหม่ามี๊ไม่รู้เรื่องล่ะ?”

ซิงหยุนยื่นมือออกมากอดตัวเธอเอาไว้ “ก่อนที่ผมจะมาผมก็คิดไว้แล้ว ถ้าหม่ามี๊พูดว่า ความทรงจำสำหรับหม่ามี๊มันไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้น…”

“ผมจะเอาเรื่องแผนการของแด๊ดดี้ทั้งหมดบอกกับหม่ามี๊ หลังจากนั้นหม่ามี๊จะทำอะไร ผมก็จะเชื่อฟังหม่ามี๊ทั้งหมด”

ซูสือเยว่ยิ้มให้อย่างชื่นชมและสบายใจ พลางแขนที่กอดซิงหยุนรัดแน่นขึ้น “งั้น…ลูกบอกแผนการของฉินโม่หานให้หม่ามี๊ แล้วหม่ามี๊จะบอกแผนการของหม่ามี๊ ดีไหม?”

เจ้าตัวน้อยพยักหน้าทันที “อื้อ!”

พูดจบ เขาก็ผละออกจากอ้อมกอดของซูสือเยว่ทันที

ดวงตาของเจ้าหนุ่มน้อยจ้องมองใบหน้าของเธออย่างจริงจัง “หม่ามี๊ เรื่องที่ผมมาหาหม่ามี๊ในคืนนี้ ไม่ใช่ว่าเป็นความคิดของผมเพียงคนเดียว เป็นความคิดของน้องชายและน้องสาวด้วย”

“พวกเราสามคนตกลงกันแล้ว”

“ถ้าหม่ามี๊โกรธแด๊ดดี้ แล้วอยากจะสั่งสอนแด๊ดดี้ ซิงเฉินกับซิงกวง จะอยู่ข้างพวกเราเสมอ”

ซูสือเยว่ชะงักทันที

ชั่วครู่ เธออดยิ้มไว้ ยิ้มจนน้ำตาไหล

ตกลงว่าพวกเขาเป็นลูกของเธอ

ในเวลานี้ มีเพียงเด็กๆ ทั้งสามคน ที่คิดยืนอยู่ฝั่งเธอ

“พวกเราวิดีโอคอลกันเถอะ”

ซิงหยุนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจากกระเป๋าเสื้อ จากนั้นก็กดเบอร์โทรศัพท์ของซิงเฉิน

โทรศัพท์กดรับสายแล้ว

เสียงซิงเฉินกับซิงกวงอยู่ปลายสายแล้ว อันดับแรกคือขอโทษซูสือเยว่ก่อน หลังจากขอโทษเสร็จแล้ว ซิงกวงก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ “หม่ามี๊ หนูกับพี่รองก็คิดไว้แล้ว ว่าจะลงโทษแด๊ดดี้ยังไงดี”

“แผนการของแด๊ดดี้คือ ในวันที่แต่งงานกับหยางชิงโยว จะเปลี่ยนตัวเจ้าสาวเป็นหม่ามี้ และจัดงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่โด่งดังไปทั่วโลกให้หม่ามี้”

“เช่นนั้นในวันนั้นหม่ามี้ ก็ทิ้งแด๊ดดี้ให้รอเก้อไปเลยไหม?”

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

Status: Ongoing
หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท