สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – บทที่ 282 มีคนก่อเรื่อง

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

ซูสือเยว่ถามออกมาอย่างนี้ ผู้หญิงพวกนั้นก็ไม่กล้ายอมรับกันออกมาอยู่แล้ว

“พวกเราเปล่านะ!”

“ลั่วเยียนเขาใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น!”

“ถึงแม้ว่าพวกเราจะไม่รู้ความกันแค่ไหน เจ้าตัวก็อยู่ที่นี่ จะไปกล้าพูดไม่ดีกับเจ้าของสวี่ได้ยังไงกัน”

“เจ้าของสวี่แยกออกมาอย่างนี้ ต่อยลงมาทีเดียว ชีวิตพวกเราก็ไม่เหลือกันแล้ว จะไปพูดตลกว่าคุณหน้าตาน่าเกลียดได้ยังไงกันล่ะ?”

“ใช่ ลั่วเยียนเธออาศัยว่าเธอหน้าตาสวย สร้างเรื่องเท็จให้ร้ายผู้หญิงที่มีหน้าตาที่ธรรมดาอย่างพวกเรา มันช่างชั่วร้ายจริงๆเลย…”

ผู้หญิงพวกนั้นเอาความคิดของตัวเองไปคาดเดาคนอื่น คิดว่าสวี่หรงหน้าตาน่าเกลียดอย่างนี้จะต้องอิจฉาลั่วเยียนที่หน้าสวยเหมือนกับพวกเธออย่างแน่นอน ดังนั้นแล้วจึงได้โยนข้อกล่าวหาทุกอย่างไปที่ลั่วเยียนไปโดยทันที

ลั่วเยียนถูกทำให้โกรธจนพูดไม่ออก “พวกเธอ พวกเธอ——!”

เดิมทีแล้วสุขภาพเธอก็ไม่ได้ดีอะไร มาตอนนี้ก็ยังสลบไปหลายเดือนเพิ่งจะฟื้นขึ้นมาอีก การทำงานของร่างกายมันก็ตามไม่ทันอยู่แล้ว ตอนนี้มาถูกคนพวกนี้มาสร้างเรื่องใส่ร้ายมาอย่างนี้อีก ลั่วเยียนหายใจไม่ทัน เกือบจะเป็นลมสลบไป

ซูสือเยว่ประคองลั่วเยียนเอาไว้อย่างรวดเร็ว

หญิงสาวย่นคิ้วออกมา สั่งผู้ช่วยสอนที่อยู่ข้างๆประคองลั่วเยียนไปนั่งข้างๆไปพลาง ยกยิ้มเย็นไปให้เด็กผู้หญิงที่เอาแต่ซุบซิบนินทามาตลอดพวกนั้นไปพลาง

“พวกเธอคิดใช่มั้ยว่าเพียงแค่สาดน้ำโคลนไปให้ลั่วเยียนแล้วเรื่องทั้งหมดมันจะราบรื่นไปทุกอย่างเลย?”

พูดจบเธอก็กวาดสายตาไปยังเด็กผู้หญิงที่เพิ่งจะเป็นเดือดเป็นร้อนแทนลั่วเยียนเมื่อสักครู่คนนั้น “สรุปว่าพวกเธอพูดอะไรกัน?”

เด็กสาวมองเหล่าเด็กผู้หญิงหลายคนนั้นไปด้วยความขลาดกลัว สุดท้ายก็สูดหายใจออกมา แล้วก็ได้เอ่ยออกมาเงียบๆ

“พวกเขาบอกว่าเจ้าของสวี่คุณหน้าตาแบบนี้ไม่มีทางจะมีผู้ชายมาเสียมารยาทกับคุณหรอก…สิ่งที่คุณสอนไปมันใช้สู้จริงไม่ได้เลยสักนิด…”

ซูสือเยว่เลิกคิ้วออกมา

อันที่จริงไม่ต้องให้เด็กผู้หญิงคนนี้บอกเธอก็เดาออกว่าผู้หญิงพวกนี้พูดคำพูดแบบไหนกันออกมา ถึงได้ทำให้ลั่วเยียนนิสัยดีมาตลอดทนไม่ไหวขึ้นมาได้

หญิงสาวสูดหายใจ นวดข้อมือออกมา “พวกเธอบอกว่าฉันหน้าตาแบบนี้ไม่มีทางจะมีผู้ชายอยากจะมาทำตัวลามกใส่ฉัน ทุกอย่างที่ฉันทำไปมันไม่มีการต่อสู้จริงมาเลยใช่มั้ย?”

พวกผู้หญิงพวกนั้นถูกพูดมาจนเงียบกริบกันไป พากันก้มหน้าลงไปทีละคน ไม่พูดอะไรกันออกมา

ริมฝีปากแสยะออกมา กวาดสายตามองเด็กสาวที่พูดให้ลั่วเยียนคนนั้น “ชื่อว่าอะไร?”

“ชื่อ… หลิงกั๋ว”

“ดี หลิงกั๋ว ประเด็นหลักที่ฉันเพิ่งสอนไปเมื่อครู่ เธอเข้าใจหรือเปล่า?”

หลิงกั๋วพยักหน้าออกมาเงียบๆ

“งั้นก็ดี”

ซูสือเยว่ยิ้มออกมา ถกแขนเสื้อขึ้นอย่างสง่างาม

“ตอนนี้ฉันจะแสดงเป็นผู้ชายหยาบคายที่หมายจะทำตัวลามกกับคนอื่น”

พูดจบ เธอก็ยืนไปที่บนเบาะ “หลิงกั๋ว มาสาธิตให้พวกเขาหน่อย”

หลิงกั๋วพยักหน้าตอบรับออกมา จากนั้นก็เดินขึ้นมาอย่างระมัดระวัง

ซูสือเยว่ก้าวใหญ่ๆเดินเข้าไปข้างหลังของเธอ เอาจับลงไปที่บนไหล่ของหลิงกั๋ว

หลิงกั๋วขยับตัวไปอย่างรวดเร็ว เอาชนะเธอไปตามที่ได้เรียนมาจากบทเรียนของอาจารย์ซูสือเยว่ที่ได้สอนมาก่อนหน้านี้

เสียงปรบมือดังขึ้นมาภายในห้องเรียนเสียงดังประหนึ่งฟ้าร้องขึ้นมาทันที

ซูสือเยว่เลิกคิ้วมองเด็กผู้หญิงที่เป็นหัวหน้าของเด็กผู้หญิงพวกนั้นไปอีกที “เธอมาทำ”

เด็กผู้หญิงคนนั้นเม้มริมฝีปากออกมา เดิมทีไม่มีความยินยอมเลย แต่จะทำยังไงได้สายตาทุกคู่ของทั้งคลาสเรียนกำลังจ้องมองเธออยู่…

เธอทำได้เพียงต้องกัดฟันเดินขึ้นบนเบาะไป

ซูสือเยว่ยังคงใช้วิธีที่ใช้จัดการกับหลิงกั๋วเมื่อสักครู่เหมือนเดิม โดยการใช้มือไปวางลงบนไหล่ของเด็กสาว

เด็กผู้หญิงคนนั้นก็ได้เรียนรู้การเคลื่อนไหวของหลิงกั๋วเมื่อก่อนหน้านี้มาด้วยเหมือนกัน แต่ไม่ว่าเธอจะใช้แรงไปแค่ไหน ก็ไม่อาจสู้แรงของซูสือเยว่ได้เลย

สุดท้ายก็มีเสียง “ปัง” ดังขึ้น ซูสือเยว่ได้พาเธอร่วงลงไปบนเบาะทันที

“ซี้ด——!”

เธอเจ็บจนร้องส่งเสียงออกมา

ซูสือเยว่แสยะยิ้มออกมาจางๆ ขยับนิ้วมือเล่นไปพลาง มองเธอจากบนลงล่างไปพลาง “ตอนนี้รู้แล้วหรือยังว่าสิ่งที่ฉันสอนไปมันมีประโยชน์หรือเปล่า?”

“จากน้ำหนักแล้วเธอนั้นอ้วนกว่าหลิงกั๋วเยอะเลย แต่เพราะว่าไม่มีทักษะ ลงแรงมาไม่ถึงด้วยเหมือนกัน”

“ไม่เพียงแต่จะไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ ยังจะถูกทำร้ายด้วย”

พูดจบหญิงสาวก็แสยะริมฝีปากออกมา ย่อตัวนั่งลงมองหน้าของเด็กสาวคนนั้น

“คลาสเรียนนี้ของฉันถึงแม้ว่าจะเก็บเงินเพียงแค่หยวนเดียว แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นคลาสที่ใครก็สามารถเข้ามาเรียนได้หรอกนะ”

“ตอนที่เธอมาที่นี่ ฉันจำได้ว่าพ่อแม่ของเธอเป็นคนส่งเธอมา”

“พวกเขาบอกว่าบ้านของพวกเธอยากจน ไม่มีโอกาสได้ส่งเธอไปเรียนที่สถาบันศิลปะการต่อสู้ที่ดีกว่าเพื่อที่จะเรียนรู้ว่าจะปกป้องตัวเองได้ยังไง ดังนั้นแล้วเมื่อเจอเข้ากับสถานฝึกศิลปะป้องกันตัวหรง หลง ก็เลยคิดว่าเป็นโอกาสที่ดีเลยโอกาสหนึ่งจึงได้ส่งเธอมา”

“แต่เธอหลังจากที่มาที่นี่แล้ว สิ่งที่ทำกลับไม่ใช่การตั้งใจเรียน ให้สมกับความคาดหวังที่พ่อแม่ของเธอเขามีต่อเธอ แต่มาวิจารณ์ความสวยความน่าเกลียดของฉันอยู่กับคนอื่น”

“ถึงแม้ว่าฉันจะน่าเกลียดแค่ไหน สิ่งที่ฉันทำลงไปมันก็ไม่มีอะไรให้น่าละอาย ไม่มีจุดที่ต้องไปรู้สึกผิดกับพ่อแม่เลยด้วยเหมือนกัน”

“แล้วเธอล่ะ?”

พูดจบ หญิงสาวได้ลุกยืนขึ้นมาอย่างสง่างาม เดินสาวเท้าก้าวใหญ่ๆไปยังตรงหน้าแท่นพูด

“คิดเสียว่านี่เป็นความผิดครั้งแรกของเธอ ดังนั้นแล้วฉันก็จะปล่อยให้มันแล้วๆกันไป”

“แต่ว่า…ครั้งต่อไปอย่าเอามาทำเป็นแบบอย่างอีก”

“ถ้ามีใครมาพูดคุยเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องในชั้นเรียนของฉันอีก สิ่งที่ฉันทำไปจะไม่ใช่สิ่งพวกนี้”

คำพูดนี้หลุดออกไป เสียงปรบมือภายในชั้นเรียนก็ดังขึ้นมาสนั่น

ลั่วเยียนนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่อยู่ตรงมุม เห็นซูสือเยว่อย่างนี้แล้ว อดไม่ได้ที่จะแสยะริมฝีปากออกมา ชูนิ้วหัวแม่มือไปให้เธอ

“ฉันยังนึกอยู่เลยว่าเธอจะไล่พวกเธอออกไปเลยเสียอีก”

หลังจากคลาสเรียนสิ้นสุดลง รอจนนักเรียนทุกคนไปกันหมดแล้ว ลั่วเยียนถอนหายใจออกมา พิงเข้ากับบนเก้าอี้ แล้วยิ้มออกมาจางๆ

“แต่บอกตรงๆเลยนะ สิ่งที่พวกเธอพูดกันออกมามันก็เกินไปหน่อยจริงๆ”

ซูสือเยว่ยักไหล่ออกมา ยื่นน้ำแร่ไปให้เธอ “เด็กน้อยกันทั้งนั้นเลย”

“ทำผิดพลาดครั้งนึงมันไม่นับว่าเป็นอะไรมากมาย ใครที่สมัยอายุน้อยๆไม่เคยทำผิดกันล่ะ?”

ลั่วเยียนชะงักไปเล็กน้อย หันหน้าไปมองการแต่งหน้าที่ได้ผลดีเป็นพิเศษบนหน้าของซูสือเยว่ “เธอนี่มันทำให้คนอื่นต้องมองในมุมใหม่เลยจริงๆ”

เมื่อก่อนลั่วเยียนคิดว่าสือเยว่เปิดสถานฝึกศิลปะป้องกันตัวหรง นี้ขึ้นมา เพียงแค่ทำเล่นๆไปอย่างนั้นเอง

แต่นึกไม่ถึงว่า…เธอไม่เพียงแต่จะจริงจังมาก แต่ยังสามารถดูแลนักเรียนทุกคนในสถานฝึกศิลปะป้องกันตัวหรง ได้

“แล้วเธอล่ะ?”

ซูสือเยว่ถอนหายใจออกมา มองไปข้างหน้า “คิดว่าจากนี้ไปจะยังเข้าวงการบันเทิงอีกหรือเปล่า?”

พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ลั่วเยียนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน…”

ถ้าอิงจากความต้องการของตัวเธอเองแล้วล่ะก็ เธออยากกลับไป

แต่เธอในตอนนี้ ได้เป็นภรรยาของฉินหนานเซิงไปแล้ว

ต้องระวังผลกระทบที่ตามมา

คนในตระกูลที่ร่ำรวย หลายครั้งมันก็ไม่อาจทำตามใจตัวเองได้

“อยากทำก็ไปทำ จะสนใจผู้ชายไปทำไม?”

ซูสือเยว่เลิกคิ้วพร้อมกับยิ้มออกมา “ฉันจะไม่ยุ่งอะไรมากมาย”

“ตัวเองมีความสุขมันสำคัญที่สุด”

ลั่วเยียนยิ้มออกมา “ฉันก็เลยถึงได้อิจฉาเธอไง สือเยว่”

คำพูดนี้หลุดออกมา ซูสือเยว่ชะงักไปอย่างจัง

เธอหันหน้าไปด้วยความตกใจ มองหน้าลั่วเยียนไปอย่างอึ้งๆ “เมื่อกี้นี้เธอ..เรียกฉันว่าอะไรนะ?”

ลั่วเยียนตกใจออกมา แล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่าซูสือเยว่ในตอนนี้แท้จริงแล้วเป็นสวี่หรง

ในสายตาของเธอ พวกเขานั้นไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของเธอ

หญิงสาวกัดริมฝีปาก ยิ้มออกไปอย่างกระอักกระอ่วน “ฉันหมายความว่า…เธอทำให้ฉันนึกถึงเพื่อนเก่าคนนึงของฉันที่ชื่อว่าสือเยว่”

ซูสือเยว่ชะงักไป “งั้นเหรอ?”

“ใช่แล้ว”

ลั่วเยียนยิ้มออกมา “เธอมีความสุขมาก สามีรักเธอ ลูกๆก็รักเธอ แล้วก็…”

“มันก็แค่เปลือกนอกเท่านั้นเอง”

ซูสือเยว่แสยะริมฝีปากออกมา “สิ่งที่เธอเห็นมันเป็นการแสดงออกมาให้คนอื่นเห็นทั้งนั้น ความจริงมันไม่ใช่เลย”

พูดจบหญิงสาวก็ยังอยากจะพูดอะไรออกไป พนักงานก็เข้ามาแจ้ง

“เจ้าของสวี่ มีผู้ปกครองของนักเรียนกำลังก่อเรื่องกันอยู่ที่ข้างนอก บอกว่าลูกของพวกเขาถูกทำร้ายครับ…”

  

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

Status: Ongoing
หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท