สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – บทที่ 303 พวกลูกได้รับกรรมพันธุ์​มาจากแด๊ดดี้

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

มือของฉินโม่หานจับโทรศัพท์ไว้แน่น

เขาขมวดคิ้วแล้วพูดปลอบซิงกวงด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “อย่าเพิ่งตกใจ​”

“โทรไปบอกหม่ามี๊หรือยัง”

“ยังค่ะ”

ซิงกวงที่อยู่อีกด้านของโทรศัพท์ส่ายหน้า​ แล้ว​พูด​กับ​เขา​ด้วย​เสียงสะอื้น “ให้หนู​โทรไปหาหม่ามี๊ตอนนี้เลยไหมคะ”

“งั้นหนูจะโทรเดี๋ยวนี้…”

“ไม่ต้อง​หรอก​”

ฉินโม่หานสูดหายใจเข้าลึก “แด๊ดดี้​จะให้ไป๋ลั่วไปรับเธอเอง”

หลังจากพูดจบ ชายหนุ่ม​เลิกคิ้ว พลาง​สั่งให้ไป๋ลั่วไปรับซูสือเยว่

“ตอนนี้ลูกอยู่ที่ไหน?”

ซิงกวงหยุดเงียบ​ไปเล็กน้อย​ “หนู​อยู่ที่บ้านค่ะ”

ฉินโม่หานพยักหน้า “ลูก​กินข้าวเช้าหรือยัง”

ซิงกวง “…”

เด็กหญิงตัวน้อยกัดริมฝีปาก แล้ว​พูด​ด้วยน้ำเสียงสะอื้น “แด๊ดดี้คะ พี่ชายทั้งสองเป็นตายร้ายดียังไง​ก็ยังไม่รู้​ สถานการณ์​อันตราย​แบบนี้ จะมาถามหนูว่ากินข้าว​เช้า​หรือยังอย่างนั้น​เหรอ​คะ​”

“ลูก​เป็นห่วง​ความปลอดภัยของพี่ชายทั้งสองคนของลูกด้วยเหรอ”

“ไม่ค่ะ”

ฉินโม่หานยกยิ้มอย่างเฉยเมย “ลูก​อยู่กับจี้หนานเฟิงนานเกินไป จนเรียนวิธี​แสดงละครมาด้วยเหรอ”

น้ำเสียงของชายหนุ่ม​เรียบนิ่ง“ถ้าพี่ซิงหยุนกับพี่ซิงเฉินของลูกตกอยู่ใน​สถานการณ์อันตราย​จริงๆ ลูกคงไม่แค่โทรหาแด๊ดดี้​หรอกจริงไหม”

คำพูด​ของเขา ทำให้ซิงกวงนิ่งเงียบไปเล็กน้อย​

เด็กหญิงตัวเล็กสูดหายใจ​เข้า​ลึก​ เสียงสะอื้น​ของเธอก็หายไปทันที

เธอเอ่ยปากพูดอย่างเคร่งขรึม “ถ้าอย่างนั้นแด๊ดดี้​ก็บอกมาสิคะ ถ้าสถานการณ์รุนแรงจริงๆ​หนู​ต้อง​ทำยังไง​”

ฉินโม่หานยกยิ้ม

“อย่างน้อยก็คงไม่นอนอยู่บนโซฟาที่บ้านแล้วโทรหาแด๊ดดี้​แบบนี้”

ซิงกวง “…”

เด็กน้อย​ลุกขึ้น​นั่งบนโซฟา ก่อนจะขมวดคิ้วแล้วกวาดตามองไปรอบๆ “น่าแปลก​จริงๆ​”

ในห้องนั่งเล่นไม่มีกล้องวงจรปิด​นี่นา

พูดอีกนัยหนึ่งก็คือ ถึงแม้ว่าจะมีกล้องวงจรปิด​ในห้องนั่งเล่น ด้วยความที่เธอกับซิงหยุนต่างก็สนใจต่อเครื่องมือ​อิเล็กทรอนิกส์มาก ถ้าในห้องมีกล้องวงจรปิด​จริงๆ​ พวกเธอไม่มีทางหาไม่เจอแน่ๆ

ต้องเข้าใจว่า ทั้งคู่เป็นแฮกเกอร์ระดับแนวหน้าของประเทศ​เลยก็ว่าได้

แต่ถ้าไม่ใช่ดูจากกล้องวงจรปิด​…

ฉินโม่หานจะรู้ได้ยังไง​ว่าตอนนี้เธอกำลังทำอะไรอยู่?

“แน่นอนว่ามีกล้องวงจรปิด​อยู่​ในห้อง”

ฉินโม่หานมองที่หน้าต่างเล็ก ๆ ในโทรศัพท์ด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย “ค่อยๆหาต่อไปเถอะ”

ซิงกวงเบ้ปาก ร่างกายของเธอเหมือนลูกบอลที่ถูกปล่อยลม แล้วนั่งลงบนโซฟาอย่างหมดแรง “แด๊ดดี้​คะ ใครเป็นคนติดตั้งกล้องวงจรปิด​นี้ให้คะ?”

“ทำไม?”

“ครั้งหน้า หนูจะขอให้เรียนรู้จากเขาบ้าง”

เทคนิคนี้สุดยอด​มาก เธอกับพี่ชายคนโต หายังไง​ก็หาไม่เจอ

ฉินโม่หานยกยิ้ม “ถ้ามีเวลา จะให้รู้จักเขาแล้วกัน”

“อืม ค่ะ”

ซิงกวงพยักหน้า

สักพัก​ เธอก็สูดหายใจเข้าลึก “แต่ว่านะคะแด๊ดดี้​ พวกพี่ชายถูกคุณ​ลุงรองพาไปจริงๆนะคะ”

“ถึงแม้ตอนนี้​จะไม่มีอันตราย แต่ถ้าคุณ​ลุงรองอยากจะทำร้ายพวกเขาจริงๆ พวกเขาคงไม่สามารถต้านทานได้นะคะ”

ฉินโม่หานพยักหน้า “ดังนั้นเราต้องระบุตำแหน่งของพวกเขาให้ได้ก่อน เราถึงจะช่วยพวกเขากลับมาได้”

“ระหว่าง​ลูก​กับ​ซิงหยุน น่าจะมีระบบสื่อสารพิเศษที่ใช้ติดต่อ​กันอยู่​ใช่ไหม​?”

“ตอนนี้​ลูก​เห็นไหมว่าเขาอยู่ที่ไหน”

คำพูดของชายหนุ่ม​ ทำให้ซิงกวงที่ปลายสายตกตะลึงไปทันที

หลังจาก​ผ่านไปสักพัก​ เสียงของเด็กหญิงก็ดูอ่อนลง

“แด๊ดดี้​รู้ได้ยังไงคะ”

ฉินโม่หานหัวเราะอย่างเย็นชา เขาเอนหลังพิงเบาะหนัง ก่อนจะกดเปิดคอมพิวเตอร์ แล้วพูดเสียงเรียบว่า “พวกลูก​สองคนชอบเรื่องการแฮ็กข้อมูลมากขนาดนั้น อีกทั้งยังโจมตีกันเองได้ จะไม่มีระบบสื่อสารพิเศษที่ใช้ติดต่อ​กันได้ยังไงกัน ? “

หลังจากนั้น ชายหนุ่ม​ก็กดเปิดลำโพงโทรศัพท์ แล้ววางมือบนแป้นพิมพ์ “ลูก​รู้ไหมว่าทำไมพวกลูกทั้งคู่ถึงมีทักษะการแฮ็ค​ข้อมูล​ที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้”

ซิงกวงที่อยู่​อีกฝั่งของโทรศัพท์นิ่งเงียบไปสักพัก​ “แด๊ดดี้​หมายความว่ายังไง​คะ…”

“กล้องวงจรปิด​ในห้องนั่งเล่นแด๊ดดี้​เป็นคนติดตั้งเอง”

ชายหนุ่ม​สูดหายใจเข้าลึก “ลูก​ขึ้นไปข้างบน แล้วส่งระบบสื่อสารที่ใช้ติดต่อกับซิงหยุนมาให้แด๊ดดี้​”

ซิงกวงได้สติ​กลับมา แล้วพยักหน้าติดต่อ​กัน

เด็กหญิงรีบวิ่งตึงตัง​ขึ้นไปชั้นบน และขณะส่งระบบสื่อสารไปทางคอมพิวเตอร์ เธอก็สูดหายใจ​ก่อนจะ​พูด​

“เมื่อตะกี้​ตอนที่​หนูกับพวกพี่ชายกำลังกินอาหารเช้ากันอยู่ คุณ​ลุงรองก็บุกเข้ามา ในมือจับมีดไว้ แล้ว​สั่งให้​พวกเราไปกับเขา”

“เขามีมีดอยู่ในมือ และไม่มีบอดี้การ์ดคนไหนในบ้านที่กล้าทำอะไรเขา”

“พี่รองต่อรองกับเขาอยู่​นาน เขาถึงคิดว่าหนู​เป็นเด็กผู้หญิง ต้อง​ร้องไห้กวนใจให้ปวดหัวแน่ๆ เขาถึงไม่จับตัวหนูไปด้วย”

หลังจากพูดจบ เด็กหญิงก็ถอนหายใจ “แม้ว่าพี่ชายจะส่งข้อความมาบอกว่าพวกเขาไม่เป็นไร แต่หนูก็ยังเป็นห่วง​มากอยู่ดี”

“แม้ว่าคุณ​ลุงรองจะมีสีหน้า​ใจดี ตอนที่​คุยกับพวกเราเขาก็ยิ้มตลอด​ แต่หนูมองออก ว่าเขาอารมณ์ไม่ดีและต้องการระบายอารมณ์​ใส่พวกเรา”

ฉินโม่หานขมวดคิ้ว ในขณะที่ฟังคำพูดของลูกสาว เขาก็ได้เปิดระบบสื่อสารที่ส่งมาจากซิงกวง แล้วค้นหาตำแหน่งของฉินหลิงยี่อย่างรวดเร็ว

ตอนนี้อีกฝ่าย​กำลังพาซิงหยุนและซิงเฉิน มุ่งหน้าไปในทิศทางของป่า

ชายหนุ่ม​หรี่ตามอง ก่อนจะปิดคอมพิวเตอร์ลง “ซิงกวง แค่นี้​ก่อน​นะ​ลูก​”

“แด๊ดดี้​จะไปช่วยพวกพี่ชายของลูกก่อน”

ซิงกวงที่อยู่​ปลายสายตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออก

“แด๊ดดี้​คะ แด๊ดดี้​รู้แล้ว​เหรอคะว่าพวกพี่ชายอยู่ที่ไหน”

วิธีการติดต่อระหว่าง​เธอกับซิงหยุนค่อนข้างพิเศษ วิธีการถอดรหัสก็ค่อนข้าง​ซับซ้อนมากด้วย

ในตอนแรก เธอพูดติดตลกกับซิงหยุนว่าในโลกนี้คงไม่มีบุคคลที่สามที่สามารถไขรหัสระหว่างพวกเธอได้

แต่ตอนนี้ เธอยังไม่ทันได้บอกวิธีถอดรหัสกับแด๊ดดี้​ แด๊ดดี้ก็รู้ตำแหน่ง​ที่อยู่​ของพวกพี่ชายแล้วเหรอ?

“เรื่องง่ายๆ”

ฉินโม่หานยกยิ้มย่อง​ ก่อนจะบอกลาซิงกวง แล้วกดวางสายไป

ตอนที่​ชายหนุ่ม​เดินลงมาที่ชั้นล่าง ซูสือเยว่ก็ถูกคนของไป๋ลั่วพาไปถึงแล้ว

“เกิดอะไรขึ้น​กับซิงหยุนและซิงเฉินคะ”

ทันทีที่เดินเข้าไปในห้อง​ ซูสือเยว่พบว่าไม่เพียงแต่​ไม่รีบไปช่วยลูก แต่ยังเดินออกจากลิฟต์อย่างเอื่อย​เฉื่อย เธอจึงเกิดอารมณ์​โมโห​ขึ้น​มา​ในทันที

เธอเดินตรงไปเข้าไปหา ดึงแขนเสื้อของฉินโม่หานไว้แน่น “นี่มันเวลาไหนแล้วคะ? คุณยังมัวแต่เอื่อย​เฉื่อยอยู่​อีก”

ฉินหลิงยี่จับทั้งซิงหยุนและซิงเฉินไป แต่เขาก็ยังอยู่ที่นี่อีก

ฉินโม่หานยกยิ้ม ก่อนจะหันไปมองหน้าเธออย่างเรียบนิ่ง “คุณเป็นห่วงเด็กๆมากขนาดนี้เลยเหรอ”

ซูสือเยว่ขมวดคิ้ว แล้วมองไปทางเขาอย่างไม่พอใจ “คุณหมายความว่ายังไง​คะ”

“ฉันเป็นคนคลอดซิงหยุนกับซิงเฉินออกมาเอง คุณ​คิดว่าฉันจะเป็นห่วงพวกเขาหรือไม่เป็นห่วงล่ะ”

ขณะที่ฟังเสียงที่แปลค่าจากรหัสในหูฟัง ชายหนุ่ม​ก็ยิ้มออกมา “แล้วทำไมก่อนหน้านี้​คุณถึงทิ้งพวกเขาไปถึงหนึ่งเดือนกว่า คุณไม่เป็นห่วงพวกเขาเลยหรือไง?”

คำพูดของ ฉินโม่หานทำให้คิ้วของซูสือเยว่ขมวด​ขึ้นมาทัน​ที​

“นั่นก็เพราะยังมีคุณคอยดูแล​พวกเขาอยู่​ไม่ใช่​หรือไงคะ”

เธอยอมรับว่าที่เธอเลือกหนีไปอย่างเงียบๆ แล้ว​ยังปลอมตัว​เป็น​คน​อื่น เป็นเรื่องที่ผิด เพราะเธอไม่ได้คำนึงถึงลูกทั้งสามคนของเธอ

แต่ตอนนี้สถานการณ์เร่งด่วนแบบนี้ เธอไม่จะพูดเรื่องนี้กับฉินโม่หานเลยสักนิด

เรื่อง​ที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือจะช่วยซิงหยุนกับซิงเฉินจากเงื้อมมือของฉินหลิงยี่ได้ยังไง​

ชายหนุ่ม​ถามคำถามแบบนี้กับเธอในเวลาแบบนี้ คืออยากทะเลาะ​กับ​เธอ หรือว่าเขาไม่รู้​ว่าฉินหลิงยี่อันตรายมากแค่ไหน?

ฉินโม่หานยกยิ้ม แล้ว​มองหน้าที่ร้อนใจจนแดงก่ำของซูสือเยว่ มุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย

“งั้นตอนนี้ ก็มีผมคอยดูแล​พวกเขาอยู่​ ไม่ต้องร้อนใจไป”

####​#บทที่​ 304 ความรักของวัยหนุ่มสาว​

ซูสือเยว่สูดหายใจ​เข้า​ลึก​

วันนี้ฉินโม่หานเป็นอะไรไป?

สมองของ​เขาถูกประตู​หนีบหรือถูกลาเตะไปแล้ว​ใช่ไหม​?

ตอนนี้ทั้งซิงหยุนและซิงเฉินอยู่ในเงื้อมมือของฉินหลิงยี่ เขายังพูดเรื่องแบบนี้อยู่อีก?

หญิง​สาวกลอกตาไปมา

“ถ้าคุณดูแล​พวกเขาอย่างดีจริงๆ ตอนนี้พวกเขาจะถูกฉินหลิงยี่จับไปได้หรือไง”

เธอหายใจเข้าลึก แล้วปัดแขนของชายหนุ่ม​ทิ้ง “ถ้าคุณ​ไม่อยากไปช่วยพวกเขา ฉันจะไปช่วยเอง”

หลังจากพูดจบ หญิงสาวก็เดินตรงไปที่ประตูฉินซื่อกรุ๊ป

ฉินโม่หานมองเห็น​เธออย่างชัดเจน​ ด้านนอกประตูกระจกขนาดใหญ่ เจี่ยนเฉิงกับเจี่ยนหมิงจง กำลังยืนรออยู่ที่นั่นอย่างร้อนรน อีกทั้งยังชำเลืองมองเข้ามาด้านในไม่หยุด

ซูสือเยว่วิ่งออกไป หลังจากพูดอะไรกับคนทั้งสองเล็กน้อย​ ทั้งสองก็ถอนหายใจขณะที่เงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างไม่พอใจ

ชายหนุ่ม​ถอนหายใจออกมา

สาเหตุ​ที่เขาไม่รีบร้อน ก็เพราะในหูฟัง​ของ​เขา กำลังคุยกับซิงหยุนอยู่

“แด๊ดดี้ครับ คุณ​ลุง​รองบอกว่า เขารู้แล้วว่าหนังสือที่ผมกำลังอ่านสามารถส่งข้อความ​ให้คนอื่นได้”

“เขาบอกว่า ในเมื่อ​พวกเราติดต่อกับแด๊ดดี้​ได้ ก็ให้ผมบอกแด๊ดดี้​ ว่าเป้าหมายของเขาคือแด๊ดดี้​ ไม่ใช่​พวกเรา”

ฉินโม่หานหรี่ตาลง แล้วตอบกลับด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม​ “เขาพูดอะไรอีก?”

“เขาพูดว่า……”

“หลายปีมานี้ เขาเกลียดแด๊ดดี้​มากที่สุด และไม่อยากยอมแพ้​ให้​มากที่สุด​”

“ก่อนจะตาย เขาอยากจะสู้กับแด๊ดดี้อย่างตรงไปตรงมา​สักครั้ง”

ข่าวที่ได้รับมาจากหูฟัง ทำให้ฉินโม่หานมีท่าทางเคร่งขรึม​ขึ้นมาทันที

“บอกกับเขาว่า ขอแค่เขาไม่ทำร้ายพวกลูก อย่าว่าแต่​สู้กันสักครั้งเลย จะสิบครั้งแด๊ดดี้ก็รับคำท่า”

ชายหนุ่ม​คุยกับซิงหยุนสักพัก หลังจากที่เขาแน่ใจว่าซิงหยุนกับซิงเฉินปลอดภัยดี ชายหนุ่ม​ก็ถอนหายใจ​อย่าง​โล่งอก แล้วเดินออกจากตึก​ฉินซื่อกรุ๊ป

ก่อนหน้านี้​ตอนที่​เขาได้รับโทรศัพท์จากซิงกวง เขานึก​ว่าเขาจะต้องไปช่วยเหลือลูกชาย​ทั้งสองคนโดยด่วน เขาจึงให้ไป๋ลั่วส่งคนไปรับซูสือเยว่มา

แต่ตอนนี้ พอมั่นใจแล้วว่าซิงหยุนกับซิงเฉินปลอดภัยดี ซูสือเยว่กับเจี่ยนเฉิงและเจี่ยนหมิงจงที่ยืนทะเลาะกันอยู่นอกประตู ทำให้เขาปวดหัวไม่น้อย

ชายหนุ่ม​สูดหายใจเข้าลึก เขาเริ่มก้าวเดินแล้วเดินออกจากประตูไป

ด้านนอกตึกฉินซื่อกรุ๊ป เจี่ยนเฉิงและเจี่ยนหมิงจงกำลังนินทาเขาต่อหน้าซูสือเยว่อยู่​พอดี

เจี่ยนเฉิงส่งเสียงฮึดฮัดไม่พอใจ “รู้อยู่​แล้ว​ว่า​เจ้าเด็กคนนี้ไม่น่าเชื่อถือ แม้แต่​เสือร้ายยังไม่กินลูกตัวเองเลย พวกเด็ก ๆตกอยู่ใน​อันตรายแบบนี้ เขายังนิ่งเฉย​อยู่​อีก ”

“ดูท่าความปลอดภัยของเด็ก ๆ คงไม่สำคัญกับเขาเลย”

“แม้แต่​ลูก​ทั้งสองคนของลูกเขายังไม่ชอบ เห็นได้ว่า ในสายตาของเขา ลูกไม่มีความสำคัญเลยด้วยซ้ำ”

“เชื่อ​พ่อ หาโอกาส​หย่ากับเขาซะ ไม่ต้อง​ยุ่งเกี่ยว​กันอีก”

เจี่ยนหมิงจงนวดขมับอย่างเหนื่อยใจ​ “บางทีฉินโม่หานอาจมีแผนของเขาอยู่​แล้ว​ นายอย่าสร้างปัญหาตอนนี้ได้ไหม”

“สิ่งแรก​ที่​ต้อง​ทำในตอนนี้คือตามหาพวกหลานๆว่าอยู่ที่ไหน”

“ทำไมพูดลามไปถึงเรื่องหย่าแล้ว​ล่ะ?”

เจี่ยนเฉิงถลึงตา​มองเขา “ฉันก็แค่พูดไปเรื่อยเปื่อย​เท่านั้น​เอง​”

“ยังไงตอนนี้เราก็ไม่ได้ข่าวของพวกหลานๆ แทนที่ร้อนใจโดยเปล่าประโยชน์​ มาต่อว่าฉินโม่หานยังดีซะกว่า”

เจี่ยนหมิงจง “แต่นายพูดแบบนี้นอกจากทำให้​สือเยว่เครียด​แล้ว​ ไม่มีอะไรดีขึ้น​เลย​”

ซูสือเยว่ฟังทั้งสองคนทะเลาะกันไปมา ต่างคนต่างไม่ยอมแพ้กัน

ชายวัยกลางคนสองคน เริ่มทะเลาะกันตั้งแต่วันแรกที่เธอกลับมาประเทศ​มา และทะเลาะกันมาตลอด​…

คนรู้จัก​ คงจะรู้ว่าพวกเขาสองคนโตมาด้วยกัน จึงสนิทกันโดยตอนเช้า​ทะเลาะกันตอนเย็นก็คืนดีกัน คนที่ไม่รู้​จัก​คงคิดว่าในครอบครัว​ของ​เธอเกิดปัญหา​กันภายในซะอีก

หญิงสาวนวดขมับตัวเองเบาๆ“พวกคุณ​พ่อคะ ช่วยเงียบกันหน่อยได้ไหม”

เจี่ยนเฉิงและเจี่ยนหมิงจงมองหน้ากัน แล้ว​​ยกมือ​ขึ้น​กอดอกหันหลังให้​กัน

พอเห็นภาพนี้ ฉินโม่หานก็อดที่จะถอนหายใจแล้วผลักประตูออกไปไม่ได้

“พวกคุณ​ไม่ต้องร้อนใจครับ ซิงหยุนกับซิงเฉินยังมีผมอยู่​”

หลังจากพูดจบ เขาก็ยกมือขึ้นและตบไหล่ของซูสือเยว่เบาๆ “คุณทำใจ​ให้​สบายรออยู่ที่นี่กับพ่อของคุณ ผมกับไป๋ลั่วจะรีบไปช่วยพวกลูกๆเดี๋ยว​นี้เลย”

ซูสือเยว่กรอกตามองเขาอย่างเย็นชา “ท่านชายฉินงานยุ่งมากขนาดนี้ เขาจะมีเวลาไปช่วยชีวิตลูกของตัวเอง​จริงๆ เหรอคะ?”

ฉินโม่หานฟังน้ำเสียงเยาะเย้ยคำพูด​ของเธอออก

ชายหนุ่ม​ยกยิ้ม แล้ว​พูด​เสียงเรียบนิาง “ผมมีเหตุผลของผมเอง”

“แต่ผมรับรองได้เลย ว่าผมจะพาพวกเขากลับมาอย่างปลอดภัย​”

ดวงตาที่ลุ่มลึกของเขามองหน้าซูสือเยว่นิ่ง “เชื่อใจผม ได้ไหม”

ซูสือเยว่มองเข้าไปในดวงตาของเขา หัวใจของเธอเริ่มเต้นแรงอีกครั้งอย่างควบคุม​ไม่อยู่​

เธอต้องยอมรับ ว่าผู้ชายคนนี้ มีดวงตาที่น่าหลงใหล​มาก

ทุกครั้งที่เขาใช้​สายตานี้มองมาที่เธอ ซูสือเยว่รู้สึกลุ่มหลง ​จนไม่สามารถหลบหนีไปจากเขาได้

เธอกัดริมฝีปากของตัวเอง​ อารมณ์​เคร่งเครียด​ของเธอในที่สุด​ก็ผ่อนคลาย​ลง

“คุณ…จะพาพวกเขากลับมาอย่างปลอดภัยจริงๆ ใช่ไหม​คะ​?”

“อืม”

ชายหนุ่ม​พยักหน้าเบา ๆ “เหตุผลที่ผมไม่รีบไปหาซิงหยุนกับซิงเฉิงก็เพราะผมรู้ว่าซิงกวงมีวิธี​ติดต่อพวกเขา ดังนั้นผมถึงได้มั่นใจว่าพวกเขาไม่ได้ได้รับบาดเจ็บและไม่เกิดอะไร​ขึ้น​”

“แล้วอีกอย่าง……”

เขาถอนหายใจ​ “ถึงแม้ฉินหลิงยี่จะทำเรื่อง​ไม่ดีมามาก ถึง​เขาจะเกลียดผมมาก แต่ซิงหยุนกับซิงเฉินเขาเห็นมาตั้งแต่เล็ก​จน​โต​”

“ตอนเด็ก คนที่ซิงหยุนชอบมากที่สุด ก็คือฉินหลิงยี่คุณ​ลุงรองของเขาแล้ว”

“ฉินหลิงยี่เคยบอกไว้ว่าซิงหยุนเหมือนเขาในวัยเด็กมาก ถึงแม้​จะเป็นแค่หลานชาย แต่ในสายตาของเขา เขาเอ็นดูอีกฝ่าย​เหมือน​ลูกชายของเขาเอง”

“ถึงแม้​ผมจะไม่แน่ใจว่าคำพูดของเขาจริงแท้มากแค่ไหน แต่พอรวมกับข้อมูลที่ซิงหยุนให้เขามา ผมเชื่อว่าเขาจะไม่ทำร้ายพวกเขาด้วยอารมณ์​แน่นอน​”

ในสายตา​ที่ตกใจของซูสือเยว่ ชายหนุ่ม​ยกยิ้มบางๆ “ที่จริง​แล้ว​เขาลักพาตัวซิงหยุนกับซองเฉินไป เป้าหมายคือผม”

“เขาอยากให้ฉันยอมแพ้​ให้เขา”

บางที อาจจะ​อยากได้ชีวิตของเขาด้วย

แต่ฉินโม่หานไม่ได้พูดประโยคหลังออกไป

ซูสือเยว่มองเข้าไปในดวงตาของเขา หลังจาก​นิ่งเงียบไปสักพัก​ ในที่สุดก็เอื้อมมือไปจับมือเขาไว้ “ทำไมคุณไม่บอกฉันให้เร็วกว่านี้คะ”

เธอเกือบจะคิดว่า ในใจของ​เขา​ ลูกและเธอล้วนไม่สำคัญกับเขาอีกต่อไปแล้ว

“คุณเองก็ไม่รอฟังผมอธิบายไม่ใช่​หรือไง”

ชายหนุ่ม​ยกยิัม อย่างอ่อนใจ แล้วก้มลงจูบที่หน้าผากของเธอ

“ผมสัญญาว่าผมจะพาซิงหยุนกับซิงเฉินกลับมาอย่างปลอดภัย​”

ซูสือเยว่กัดริมฝีปาก แล้ว​พยักหน้าเงียบ ๆ

มาถึงตอนนี้แล้ว เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเชื่อใจเขา

ซิงหยุนกับซิงเฉินอยู่ในเงื้อมมือของฉินหลิงยี่ ถ้าหากฉินหลิงยี่พุ่งเป้าหมายไปที่ฉินโม่หาน…

ถึงแม้​เธอจะพยายามมากแค่ไหน ก็ทำอะไรไม่ได้

“เด็ก​ดี กลับไปอยู่ที่บ้านกับซิงกวง แล้ว​รอพวกเรากลับมา”

ชายหนุ่ม​จูบหน้าผากของซูสือเยว่อีกครั้ง แล้วหันหลังเดินจากไป

ซูสือเยว่ยืนอยู่ตรงจุดเดิม ยืนมองแผ่นหลังของชายหนุ่ม​เดินจากไป หัวใจของเธอเหมือนจะถูกบีบรัด​ด้วยมือคู่ใหญ่ที่มองไม่เห็น

มันรู้สึก​เจ็บเล็กน้อย​ โดยไม่รู้สาเหตุ​

ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เธอรู้สึกว่าคำพูดของฉินโม่หาน เหมือนกำลัง​บอกลา

เขา… กำลัง​บอกลาใคร?

ทำไมต้องบอกลาด้วย?

เป็นไปได้ไหมว่าหลังจากที่เขาไปครั้งนี้…

ซูสือเยว่ไม่กล้าคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก

พอเห็นสีหน้าลูกสาวซีดเผือด​ไป เจี่ยนหมิงจงก็ขมวดคิ้ว เดินไปหยุดด้านข้างซูสือเยว่ แล้ว​ยกมือขึ้นลูบหลังเธอเบาๆ “ทำไม ลูกไม่วางใจ​เหรอ”

ซูสือเยว่พยักหน้า

แน่นอนว่าเธอต้องไม่วางใจอยู่แล้ว​

ในเมื่อ​ฉินหลิงยี่สามารถลักพาตัวซิงหยุนกับซิงเฉินได้ เพื่อให้​ฉินโม่หานเดินเข้าไปในกับดักที่เขาวางเอาไว้

ฉินโม่หานไปในครั้งนี้​… ไม่รู้​ว่า​จะ​เป็น​ตายร้ายดียังไง​?

“ถ้าไม่วางใจก็ตามเขาไปสิลูก”

เจี่ยนเฉิงมองมาที่เธอ “แทนที่จะอยู่ที่นี่แล้วคิดมาก ตามเขาไปคงจะ​ดีกว่า”

คำพูดของเขา ทำให้ซูสือเยว่คิดได้ทันที

เธอหันหลัง​กลับ​ แล้ว​วิ่งไปที่รถของเจี่ยนเฉิงรวดเร็ว​ราวบินไได้เธอรีบเปิดประตูแล้ว​สตาร์ทรถออกไปทันที

รถสีดำพุ่งออกมาไปกับลูกศร ขับตรงไปยังทิศทางที่รถของฉินโม่หานจากไปก่อนหน้านี้

“ความรักของคนหนุ่มสาว ทำให้คนเหนื่อยใจจริงๆ”

เจี่ยนหมิงจงมองไปตามทิศทางที่ซูสือเยว่จากไป แล้วถอนหายใจออกมา

เจี่ยนเฉิงชำเลืองมองเขานิ่งๆ “ความรักของพวกนาย ก็เหนื่อย​ใจเหมือนกัน”

“ไม่ว่าจะเป็นนายกับหลิวหรูเยียน หรือจะเป็น… ผู้หญิงคนนั้นกับจี้ว่านเชิ่ง”

พอได้ยิน​เจี่ยนเฉิงพูดถึงจี้ว่านเชิ่ง บิดาผู้ให้กำเนิดของฉินโม่หาน เจี่ยนหมิงจงก็เลิกคิ้วขึ้น “นายยังจำขงเนี่ยนโหรวได้ไหม?”

เจี่ยนเฉิงพยักหน้า “จำได้สิ ผู้หญิงที่ฆ่าจี้ว่านเชิ่งและไม่ได้รับหัวใจของจี้ว่านเชิ่งคนนั้น”

“มีอะไรหรือเปล่า​?”

เจี่ยนหมิงจงหรี่ตาลง “รหัสของขงเนี่ยนโหรวคือ K”

“องค์กรที่ให้เงินทุนกับฉินหลิงยี่ และทำให้สือเยว่ของเราต้องความจำเสื่อม มีรหัสว่า Kเหมือนกัน​ นายไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญไปหน่อยเหรอ?”

สายตาของ เจี่ยนเฉิงเบิกกว้าง “เป็นไปได้ไหมว่า … “

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

Status: Ongoing
หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท