สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – บทที่ 312 ตลกไหม

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

ลั่วเยียนขมวดคิ้ว กำลังจะพูดอะไรสักอย่าง ซูสือเยว่ก็ได้ลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปยืนข้างกลุ่มนักศึกษาเหล่านั้น “สวัสดีจ้า”

เธอพยายามทำให้รอยยิ้มของตัวเองดูเป็นกันเองอย่างมาก “ฉันอยากสอบถามหน่อย หมอที่เมื่อกี้พวกเธอพูดถึง…….ท่านนั้น ………..ชื่ออะไรหรอ?”

การปรากฏตัวของซูสือเยว่ ทำให้พวกผู้หญิงที่กำลังคุยกันเงียบลงไปทันที

ผู้หญิงหนึ่งในนั้นมองเธออย่างไม่พอใจว่าแล้วพูดว่า “เธอเป็นใคร ทำไมพวกเราต้องบอกเรื่องของคุณหมอเจียงกับเธอด้วย?”

ผู้หญิงพึ่งพูดจบ ผู้หญิงอีกคนที่อยู่ข้างๆ เธอก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “เผิงหลิง เธอล้าหลังจริงๆ !”

“เธอไม่รู้จักท่านนี้ได้ยังไงกันเนี่ย?”

พูดจบ ผู้หญิงเงยหน้าขึ้นแล้วมองหน้าของซูสือเยว่อย่างเย็นชา “คนนี้……..เป็นดาวรุ่งรุ่นใหม่ที่ร่วมงานกับจี้หนานเฟิงแล้วทำให้ฮือฮากันใหญ่ ซูสือเยว่หรอ?”

“เธออย่าไปดูถูกเธอนะ ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นเพียงนักแสดงเล็กๆ ในวงการบันเทิง แต่ว่าสามีของเธอเป็นถึงฉินโม่หานที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองหรงเลยนะ”

ได้ยินผู้หญิงพูดถึงฉินโม่หาน ผู้หญิงหลายๆ คนที่อยู่รอบๆ ก็เงยหน้าขึ้นมาพร้อมกัน

พวกเธออาจไม่เคยได้ยินชื่อของซูสือเยว่ อาจไม่รู้ว่าคนที่ร่วมงานกับจี้หนานเฟิงเป็นใคร

แต่ว่าไม่มีใครไม่รู้จักฉินโม่หาน

ฉินโม่หานคนนั้นที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองหรง!

หนึ่งในผู้หญิงที่ได้ยินการสนทนาของทางนี้ ขยับแว่นอย่างเงียบๆ “เป็นคุณนายฉิน ซูสือเยว่จริงๆ ด้วย”

“หลายวันมานี้ฉันเศพติดข่าวบนโซเชียวมาก คิดว่าฉินโม่หานจะชอบผู้หญิงที่น่าเกลียดจริงๆ ซะอีก แต่กลับกลายเป็นว่าผู้หญิงที่น่าเกลียดนั้น ซูสือเยว่เป็นคนปลอมตัวนี่เอง!”

“รสนิยมการใช้ชีวิตของคนรวยนี่มัน……..”

“สวยขนาดนี้ยังแต่งเป็นแบบน่าเกลียดแล้วขึ้นรายการข่าว ทำให้ฉินโม่หานจีบเธออย่างโอเว่อร์……….น่าตลกจริงๆ”

“บางทีนี่เป็นความสุขของคนที่รวยล่ะมั่ง ฉันก็ไม่เข้าใจ แต่ว่าฉันตะลึงมาก”

ผู้หญิงทั้งสองคนคุยกันไปมา ได้ดึงความรู้สึกของพวกนักศึกษาแพทย์ที่ดีที่มีต่อซูสือเยว่เป็น 0 ทันที

ก่อนหน้าที่ถูกซูสือเยว่ถามผู้หญิงคนนั้นชื่อเผิงหลิงก็ได้ขมวดคิ้ว แล้วมองซูสือเยว่อย่างรังเกียจ “ถ้าคุณนายฉินอยากรู้ข่าวของคุณหมอเจียง ไม่ว่ายังไงก็หาได้อยู่แล้ว จะมาถามพวกเราทำไมกัน?”

“มาทางพวกเราแบบนี้ เพราะว่าอยากจะอวดฐานะของคุณที่เป็นคุณนายฉินกับพวกเราที่เป็นนักศึกษาจนๆ ใช่ไหม?”

“น่าขำซะจริง……”

กลุ่มผู้หญิงต่างคนต่างพูดอย่างประชดประชัน ซูสือเยว่ยืนอยู่ที่เดิม มือทั้งสองกำไว้แน่น

แต่เธอก็หายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง มองเผิงหลิงด้วยสีหน้าที่จริงจัง “ที่บ้านฉันมีคนไข้ที่ต้องการรักษา ฉันอยากรู้ตัวตนและวิธีติดต่อของคุณหมอเจียง ไม่อย่างนั้นเธอบอกฉันได้ไหม ว่าเธอจะมาถึงเมืองหรงเมื่อไหร่”

ลั่วเยียนมองซูสือเยว่ที่ถูกเยาะเย้ยอยู่ห่างๆ ท่าทางที่ยืนตัวตรงอยู่ตรงนั้น รู้สึกเจ็บปวดใจจริงๆ

ต้องเข้าใจว่า ซูสือเยว่ไม่ใช่คนที่แสดงความกระตือรือร้นออกมาข้างนอก

ให้เธอไปถามคำถามพวกคนที่เด็กกว่าตัวเองในที่สาธารณะแบบนี้ สำหรับเธอยากมากพอแล้ว

ยากยิ่งกว่าคือ ให้คนที่ฝึกกังฟูมาหลายปี ทนความเยาะเย้ย ถ่อมตัวลงไปถามข่าวที่เธออยากรู้กับพวกเธอ

ผู้หญิงที่ไม่กลัวตายพวกนี้ยังไม่รู้ ถ้าซูสือเยียนโกรธขึ้นมาจริงๆ พวกนั้น สู้เธอไม่ไหวสักคน!

พอคิดถึงตรงนี้ ลั่วเยียนก็อดไม่ได้จะกัดปาก

ซูสือเยว่พื่อซิงเฉินแล้ว…….

อะไรก็ทำออกมาได้จริงๆ

“ทำไมพวกเราต้องบอกเธอด้วย?”

ผู้หญิงที่อยู่ด้านหน้าหัวเราะเยาะขึ้นมา แล้วยืนมือไปทางซูสือเยว่ “คุณนายฉิน ครอบครัวของคุณร่ำรวยที่สุดในเมืองหรง ต้องมีเงินเยอะมากเลยใช่ไหม?”

“ในเมื่ออยากรู้ข่าวจากพวกเรา ไม่แสดงอะไรหน่อยจะดีหรอ?”

“ที่พวกเราอยากได้ก็ไม่เยอะ แหนึ่งแสนก็พอแล้ว ดีไหมนะ?”

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า……..!”

พวกผู้หญิงหัวเราะกันอย่างได้ใจ

ซูสือเยว่หลับตาแล้วหายใจเข้าลึกๆ พยายามห้ามความโกรธไว้ในใจ “ฉันแค่อยากถามข่าวเกี่ยวกับคุณหมอเจียงเท่านั้นเอง”

เธอรู้อยู่แล้ว ถ้าเธอหาฉินโม่หานให้ช่วย ไม่เกินครึ่งชั่วโมง เอกสารของคุณหมอเจียงก็จะวางไว้ตรงหน้าเธอเลย

แต่เธอไม่อยาก

ฉินโม่หานได้ตรวจสอบกล้องวงจรกับไป๋ลั่วทั้งวันแล้ว

เธอไม่ได้กินและดื่มอะไรเลย ฉินโม่หานเองก็ไม่ได้ดื่มหรือกินอะไรเลย

ถ้าเธอให้เขาช่วยสืบหาอะไรสักอย่างในตอนนี้ เธอกลัวว่าเขายุ่งขึ้นมา จะลืมดูแลตัวเองอีก

บางเรื่อง ถ้าเธอสามารถทำได้ เธอก็ไม่ได้อยากให้ฉินโม่หานมาช่วยซะทุกเรื่อง

แต่ว่าตอนนี้ ผู้หญิงพวกนั้นไม่ได้มีความต้องการที่จะเอาข่าวของคุณหมอเจียงบอกให้เธอเลย

“สือเยว่”

เห็นว่าซูสือเยว่จะคุมความโกรธไว้ไม่อยู่แล้ว ลั่วเยียนก็นั่งไม่อยู่แล้ว

เธอรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งไปทางด้านซูสือเยว่ ยื่นมือไปควงแขนของเธอไวแล้วพูดว่า “ช่างเถอะ”

“ฉันกลับไปให้คนของหนานเซิงช่วยเธอตรวจสอบเอง จะไปคิดเล็กคิดน้อยกับคนพวกนี้ทำไม”

ลั่วเยียนพูดจบ ผู้หญิงที่อยู่ด้านหน้าเผิงหลิงคนนั้นก็พูดขึ้นมาว่า “อย่าคิดเล็กคิดน้อยกับคนอย่างพวกเรา?”

“คนสวย เธอสวยนะ แต่ทำไมพูดน่าเกียจจังเลย?”

ผู้หญิงพูดจบ ข้างๆ ก็มีคนแอบกระซิบเตือน:

“คนนี้เป็นลั่วเยียน อดีตนักแสดงในวงการบันเทิง เดิมทีก็เป็นศิลปินหญิงที่ดิ้นรนมาตั้งแต่แรก สุดท้ายก็ไม่รักตัวเอง แต่งงานกับเศรษฐี”

“จริงด้วย คนที่ลั่วเยียนแต่งงานด้วย ไม่ใช่คนอื่นคนไกล แต่เป็นหลานของฉินโม่หนานสามีของซูสือเยว่ ฉินหนานเซิง!”

คำพูดของผู้หญิง ทำให้เผิงหลิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะเย้ย “ดังนั้นเพื่อนทั้งหลาย ได้ยินแล้วใช่ไหม?”

“ฉันคิดว่าที่อยู่หน้าฉันเป็นเพื่อนสนิทสองคน แต่พวกเธอกลับไม่ใช่!”

“พวกเธอสองคนเป็นความสัมพันธ์ป้ากับหลานสะใภ้!”

“ตลกไหม?”

ทุกคนพากันหัวเราะลั่น

เสียงทางนี้ดังมาก ได้ดึงดูดความสนใจของคนทั้งโรงอาหาร

ซูสือเยว่กัดริมฝีปาก ไม่ได้พูดอะไร

แต่ลั่วเยียนกลับไม่ยอมนิ่งแล้ว

“พูดอะไรกันเนี่ย?”

“อายุแค่นี้แต่ทำไมปากร้ายขนาดนี้ ไม่เคยผ่านประสบการณ์ทุบตีของสังคมใช่ไหม?”

“พวกเธอตอนนี้ยังเป็นนักศึกษาฝึกหัดใช่ไหม?”

“เชื่อไหมว่าฉันจะไปรายงานกับทางโรงเรียนพวกเธอ ทำให้พวกเธอสำเร็จการศึกไม่ได้เลย!”

คำพูดของลั่วเยียน จี้โดนจุดอ่อนของพวกนักศึกษาพวกนี้

สำเร็จการศึกไม่ได้สำหรับพวกเธอแล้ว เป็นคำสาปที่ถึงแก่ชีวิตที่สุด!

เผิงหลิงที่เป็นคนเริ่มกัดฟันไว้แน่นแล้วจ้องลั่วเยียนเขม็ง “พูดไม่เป็นก็หุบปากซะ!”

“ถ้าฉันไม่หุบปากล่ะ?”

ลั่วเยียนหึทีหนึ่ง กำลังอยากจะพูดอะไร ผู้หญิงคนนั้นก็ได้ตบไปที่หน้าของลั่วเยียนอย่างโกรธทีหนึ่ง

ทันใดนั้น ตอนที่ฝ่ามือของเผิงหลิงจะตบลงไปที่หน้าของลั่วเยียนก็มีมือข้างหนึ่งปรากฏขึ้นทันเวลา จับข้อมือของเผิงหลิงไว้

“ซือ……..!”

ข้อมือถูกจับจนเจ็บไปหมด เผิงหลิงร้องออกเสียงทีหนึ่ง เงยหน้าแล้วขึ้นตามสัญชาตญาณ

คนที่จีบข้อมือของเธอไว้ไม่ใช่ใครคนไหน แต่เป็นซูสือเยียนที่ก่อนหน้านี้ถูกพวกเธอเยาะเย้ยยังไม่พูดอะไรเลย

ผู้หญิงหลี่ตามองเผิงหลิงไว้ :

“เธอไม่บอกเรื่องของคุณหมอเจียงให้ฉันก็ไม่เป็นอะไร แต่เธอต้องมีมารยาทพื้นฐาน”

“ฉันไม่เคยเห็นคนที่ไม่มีมารยาทขนาดนี้มาก่อนเลย ตอนเด็กแม่ของเธอไม่เคยสอนเรื่องมารยาทให้เธอหรอ?”

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

Status: Ongoing
หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท