สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – บทที่ 391 ทำไมอาลัยอาวรณ์

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

ได้ยินคำพูดที่แสนเลือดเย็นของซูสือเยว่จากทางต้นสาย ฉินหนานเซิงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมา:

“สือเยว่ ลั่วเยียนเธอเป็นเพื่อนของคุณนะ คุณจะมองเธอทำตัวเหลวแหลกอยู่แบบนี้โดยไม่สนใจไยดีได้ยังไงกัน?”

“ไม่อย่างงั้น ฉันจะให้คุณไปหนึ่งล้านกว่าหยวน คุณไปบอกว่าคุณให้เธอยืม คุณเอาเงินไปให้เธอ ให้เธออย่าทำร้ายตัวเองไปมากกว่านี้!”คำพูดของผู้ชาย ทำให้ซูสือเยว่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ฉินหนานเซิง นี่คุณคิดหรือว่าลั่วเยียนนั้นจะยอมรับการช่วยเหลือจากคนอื่นและการให้ทานของคนด้วยความเต็มใจ?”

“ถ้าหากว่าเธอยอมมายืมเงินของฉัน หรือว่ายอมรับความช่วยเหลือของฉัน เธอคงไม่มีทางจะไปทำงานแบบนี้แน่”

น้ำเสียงของฉินหนานเซิงนั้นต่ำลงไปในทันที “ในฐานะเพื่อนอย่างคุณนั้น ยอมที่จะมองดูเธอทำตัวเหลวแหลกลงไปต่อหน้าต่อตาได้อย่างนั้นเหรอ?”

“ทำไมถึงเรียกว่าทำตัวเหลวแหลกล่ะ?”

ซูสือเยว่ยิ้มออกมาบางๆ “เธอนั้นใช้ความสามารถและความชำนาญของตัวเองหาเงิน ทำไมถึงเรียกว่าทำตัวเหลวแหลกล่ะ?”

“ฉันคิดว่า เทียบกับการที่มาหาเพื่อนอย่างฉันคนนี้ให้ช่วยเหลือ เธอคงยอมที่จะใช้วิธีอย่างตอนนี้หาเงินช่วยครอบครัวของตัวเองมากกว่าเหมือนกัน”

“อย่างน้อยที่สุด เป็นการพึ่งลำแข้งของตัวเอง”

ฉินหนานเซิงที่อยู่ในสายนั้นโมโหจนข้อนิ้วที่จับโทรศัพท์อยู่นั้นกำแน่นจนเริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาว:

“คุณถือว่านี่เป็นการพึ่งลำแข้งของตัวเอง?”

“ซูสือเยว่ ทำไมฉันไม่เคยรู้เลยว่า ตอนนี้ทัศนคติทั้งสามการมองโลก การใช้ชีวิต คุณค่า ของคุณนั้นบิดเบือนไปถึงขนาดนี้?”

เดิมทีเขานั้นคิดว่า ซูสือเยว่ในฐานะเพื่อน น่าจะสามารถเกลี้ยกล่อมลั่วเยียนได้!

แต่คิดไม่ถึงเลยว่า ขนาดซูสือเยว่เองก็ยังคิดว่าที่ลั่วเยียนทำแบบนี้นั้นไม่มีปัญหา ไม่บกพร่อง?

ถูกวิพากษ์วิจารณ์ทั่วทั้งเมืองขนาดนี้ วันทั้งวันอยู่ค้างคืนกับตาแก่อายุหกสิบกว่า ไม่มีปัญหา?

“ทัศนคติทั้งสามของฉันบิดเบือน?”

ซูสือเยว่ยิ้มเยาะ “ฉินหนานเซิง ในเมื่อคุณเป็นห่วงลั่วเยียน คุณก็ไปหาเธอด้วยตัวเองสิ”

“จะมาหลบอยู่หลังฉันจะได้อะไรขึ้นมา?”

“ถึงทัศนคติทั้งสามของฉันจะบิดเบือน ก็ยังดีกว่าคนขี้ขลาดตาขาวแบบคุณมาก!”

คำพูดของหญิงสาว ทำเอาฉินหนานเซิงโกรธควันออกหูขึ้นมาทันที:

“คุณว่าใครเป็นคนขี้ขลาดตาขาว!?”

“อยากจะเอาคนที่สมควรเป็นของตัวเองกลับคืนมา แต่กลับไม่กล้า”

“กลัวเธอทำร้ายตัวเองอย่างโง่ๆ แต่ก็ไม่กล้าพูด”

“คุณไม่ใช่คนขี้ขลาดตาขาวแล้วจะเรียกว่าเป็นอะไรได้อีกล่ะ?”

ซูสือเยว่สูดลมหายใจเข้าจมูก “แทนที่จะมาสนทนาเรื่องทัศนคติทั้งสามของฉันที่นี่ ฉันคิดว่าคุณน่าจะคิดทบทวนตัวคุณเองมากกว่านะ”

“ทำไมพอลั่วเยียนเจอกับปัญหา คนแรกที่ไปหาถึงไม่ใช่คุณ!”

พูดจบ ซูสือเยว่ก็ตัดสายโทรศัพท์ทิ้ง

“อารมณ์ดีละ”

เมื่อเห็นท่าทางดุดันดุร้ายของภรรยาตัวน้อยของตัวเอง ฉินโม่หานเม้มริมฝีปาก ยื่นแขนออกไปดึงซูสือเยว่เข้ามาในอ้อมกอดอย่างอ่อนโยน:

“ดูเหมือนว่า ช่วงที่ฉันอยู่ในอาการโคม่าสาหัสนั้น มีเด็กน้อยบางคนโตขึ้นไม่น้อยเลย”

ซูสือเยว่เม้มปาก มองเขาอย่างโกรธเคือง “ฉันไม่ใช่เด็กน้อยนะ”

“ตรงไหนที่ฉันเหมือนเด็กกัน?”

ผู้ชายดึงเธอเข้าไปในอ้อมแขน ยื่นมือออกมาบีบจมูกของเธอ:

“แต่งหน้าด้วยเทคนิคพิเศษ เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นคนหน้าตาอัปลักษณ์ และยังเปลี่ยนชื่อเป็นสวี่หรง เปิดสถานฝึกศิลปะป้องกันตัว……”

“นี่ยังไม่ใช่พฤติกรรมของเด็ก?”

ซูสือเยว่เม้มปากแน่น “นั่นไม่ใช่ว่าฉันทำเพื่อที่จะหลบคุณ ให้คุณได้พิจารณาตัวเองหรือเปล่า?”

เธอจะไปคาดคิดได้อย่างไรกันว่า เขานั้นจะจำเธอได้ไวขนาดนี้

ฉินโม่หานยิ้มบางๆบนริมฝีปาก “งั้นฉันขอถามคุณหน่อย ตอนเปิดสถานฝึกศิลปะป้องกันตัวมีความสุข หรือว่าเป็นคุณนายฉินมีความสุข?”

ซูสือเยว่กะพริบตามองเขา:

“ฉันต้องพูดความจริงหรือเปล่า?”

ผู้ชายพยักหน้า

“นั่นก็คือ……เปิดสถานฝึกศิลปะป้องกันตัวมีความสุข”

ซูสือเยว่เปลี่ยนเป็นท่าทางสบาย ศีรษะเอนซบไปตรงอกของผู้ชาย มองดูท้องฟ้า เสียงเบา “ตอนเปิดสถานฝึกศิลปะป้องกันตัว ถึงแม้ว่าจะหน้าตาอัปลักษณ์ แต่ว่าไม่มีคนจำฉันได้”

“พวกเขายังยินดีที่จะเป็นเพื่อนกับฉันด้วยความจริงใจ”

“แต่ว่าตอนที่เป็นคุณนายฉินนั้นไม่เหมือนกัน มีหลายคนที่เยินยอฉัน ประจบฉัน……”

“เพื่อนของฉัน มีเพียงลั่วเยียนกับฟู๋เชียนเชียนแค่สองคนเท่านั้น”

คำพูดของผู้หญิง ทำให้ฉินโม่หานหัวเราะเบาๆ

เขาจับใบหน้าของเธอ จูบบนริมฝีปากของผู้หญิงเบาๆ “ถ้าอย่างนั้นคุณยังยินดีที่จะมีความสุขแบบนี้อีกสักครั้งไหม?”

“อยากสิ”

ซูสือเยว่ขมวดคิ้ว จ้องเขม็งไปที่ฉินโม่หาน “สามี นี่คุณคิดจะทำอะไร?”

เขาค่อยๆจับปอยผมที่หล่นลงมาของเธอทัดไปด้านหลังใบหู“เดี๋ยวคุณก็รู้เอง”

ซูสือเยว่เม้มริมฝีปาก กัดไปที่ลูกกระเดือกของเขา:

“อุบไว้ก่อน”

……

ตอนกลางคืน

ท่านเวินเชิญลั่วเยียนมาทานข้าวที่ร้านอาหาร

เพราะว่านี่เป็นวันคิดเงินหลังจากผ่านไปเจ็ดวัน เพื่อที่ให้ท่านเวินยินดีที่จะคิดเงินให้กับเธอ ลั่วเยียนตั้งใจแต่งหน้าเป็นพิเศษ แต่งหน้าบางเบาให้ดูเข้ากับคนง่าย

ในกระเป๋าของเธอ ยังเก็บวิดีโอประกาศชี้แจงของท่านเวินที่คุณเวินให้มาอยู่

เจ็ดวันก่อน เธอได้รับงานนี้จากการแนะนำของผู้กับกับหวงให้กับเธอ——ไปสอนคุณเวิน

เริ่มแรก ลั่วเยียนยังไม่ค่อยเข้าใจแจ่มชัดเท่าไหร่นัก ทำไมผู้กับกับหวงต้องการให้คุณเวินทุ่มเงินจ่ายกว่าล้านหยวนเพื่อที่จะให้เธอมาสอนการแสดง

รอจนกระทั่งเธอเข้ามาในห้องส่วนตัวของหญิงสาว พอได้เห็นรูปภาพของเธออยู่เต็มผนังเต็มตู้ ลั่วเยียนก็เข้าใจ

ที่แท้ คุณเวินเองก็เป็นแฟนคลับที่บ้าคลั่งของเธอคนหนึ่งนั่นเอง

ผลงานของเธอ เป็นพลังแรงผลักดันให้กับคุณเวิน ให้ความรู้กับเธอในการเรียนการแสดง

และยิ่งเธอถอนตัวและแต่งงานกับฉินหนานเซิง ทำให้คุณเวินหมดความสนใจด้านการแสดงนี้ไปโดยปริยาย

และยิ่งต่อมา เธอประกาศออกจากวงการบันเทิงโดยสมบูรณ์ ยิ่งส่งผลกระทบกับคุณเวินทำให้วันๆเอาแต่เหงาหงอยเศร้าสร้อย

ดังนั้นท่านเวินจึงยินยอมที่จะจ่ายเงินจำนวนมากให้เธอไปครูพิเศษทางด้านจิตใจและสอนการแสดงทุกวันตอนเย็น……

ทั้งหมดก็เพื่อลูกสาวของตัวเองไม่ให้ต่อต้านอีก กลับมาเป็นปกติ

เริ่มแรก ลั่วเยียนยังรู้สึกว่าตัวเองนั้นไม่มีความสามารถที่จะรับงานนี้ได้

แต่ว่าสิ่งที่เธอคาดไม่ถึงก็คือ……

พลังแรงผลักดันของไอด้อลนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก เธอเพียงแค่ไปที่ห้องส่วนตัวของคุณเวิน คุยเล่นกับคุณเวิน คุณเวินก็สามารถเปลี่ยนจากอารมณ์ร้อนเป็นอ่อนโยน……

ดังนั้น เวลาเจ็ดวันนี้ การเปลี่ยนแปลงของคุณเวินนั้นความจริงแล้วเปลี่ยนแปลงไปมากทีเดียว

นี่เองก็คือเหตุผลว่าทำไมท่านเวินถึงเต็มใจที่จะจองร้านอาหารสุดหรูอย่างที่ลัคกี้คอร์ท เชิญเธอทานอาหาร

นั่งอยู่ภายในห้องส่วนตัว ลั่วเยียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาส่งข้อความให้ลั่วชิงเจ๋อ

ผ่านคืนนี้ไป เธอก็จะสามารถนับเงินหนึ่งล้านสองแสนหยวนนั้น ไปรักษาอาการป่วยของแม่ได้!

แม่ก็จะอาการดีขึ้น พ่อเองก็จะดีขึ้น……

พวกเขาทั้งครอบครัวจากนี้ไปก็จะดีขึ้น!

ในเวลานี้เอง ประตูของห้องส่วนตัวก็ถูกคนเปิดออก

ลั่วเยียนสูดลมหายใจเข้าวางโทรศัพท์มือถือ เงยหน้าขึ้นมายิ้มเล็กน้อย “ท่านเวิน……”

ยังไม่ทันที่จะพูดจบ รอยยิ้มของเธอนั้นหายวับจากบนใบหน้าในชั่วพริบตา

ผู้หญิงมองจับจ้องไปที่ผู้ชายสวมชุดสีดำที่อยู่ที่ประตูนั้น

“ฉินหนานเซิง?”

“ฉันเอง”

ฉินหนานเซิงเลียเลือดที่มุมปาก จัดการสะสางเสื้อผ้าที่ยุ่งเหยิงบนร่างกาย:

“ยังรอตาแก่คนรักของคุณมาเจอคุณละสิ?”

“เขาไม่มาแล้วละ”

ลั่วเยียนตาเบิกกว้างขึ้นมาทันที

เธอขมวดคิ้ว จ้องมองฉินหนานเซิงอย่างโมโห:

“นี่คุณพูดเหลวไหลอะไรกัน? ตาแก่คนรักอะไร?”

พูดจบ เธอก็เห็นรอยเลือดบนใบหน้าของเขา

ลางสังหรณ์ไม่ดีพุ่งแทรกเข้ามาในจิตใจ……

ลั่วเยียนกัดริมฝีปาก จ้องมองฉินหนานเซิงเขม็ง:

“คุณทำอะไรกับท่านเวิน!?”

ฉินหนานเซิงหัวเราะเบาๆ เดินตรงเข้าไปจับคางของลั่วเยียน “ทำไม อาลัยอาวรณ์?”

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

Status: Ongoing
หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท