สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – บทที่ 410 ขอโทษผมมาช้าไป

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

การตัดสินใจกลับเมืองหรงค่อนข้างกะทันหัน

ทั้งคุณพ่อลั่วและลั่วชิงเจ๋อต่างไม่ได้คัดค้าน พวกเขาคิดแบบเดียวกับลั่วเยียน

ตราบใดที่มันดีต่อคุณแม่ลั่ว เปลี่ยนไปที่ไหนพวกเขาก็รับได้

มีแค่คุณแม่ลั่วที่ค่อนข้างกังวล

เธอรู้ว่าอาการป่วยของตัวเองสร้างปัญหาให้ลูกสาวมาก ตอนนี้เพื่อเธอแล้วทำให้ลั่วเยียนต้องก้มหัวให้ตระกูลฉิน มันทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจเลย

เธอเห็นลั่วเยียนกำลังยุ่งอยู่กับการเก็บของในห้องพักผู้ป่วยเพื่อไปเมืองหรง ก็ให้รู้สึกแสบจมูกอยากร้องไห้ขึ้นมาเล็กน้อย

“เยียนเยียน ช่างมันไปดีกว่าไหม”

“เราผ่าตัดอยู่ที่นี่ไม่ได้เหรอ”

ลั่วเยียนหันกลับไปเห็นสายตาที่เป็นกังวลของคุณแม่ลั่ว เข้าใจทันทีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่

จึงเข้าไปกอดเธอ “ไม่เป็นไรค่ะคุณแม่ กลับไปที่โรงพยาบาลในเมืองอัตราความสำเร็จในการผ่าตัดสูงกว่า”

“และระบบรักษาความปลอดภัยที่นี่ไม่ค่อยดีนัก ความเป็นส่วนตัวก็ไม่ดี ลูกสาวของคุณเคยเป็นบุคคลสาธารณะ ฉันกลัวว่าถึงเวลาจะมีคนจำได้ แล้วจะทำให้พวกคุณเกิดปัญหา”

“หลายวันนี้พวกเราอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้เจอปัญหาอะไร”

“แล้วการย้ายไปโรงพยาบาลในเมือง ค่าใช้จ่ายในโรงพยาบาลจะสูงขึ้นไหม”

“เยียนเยียน……ถ้ายังไงก็ ช่างมันเถอะนะ”

คุณแม่ลั่วไม่อยากเพิ่มปัญหาให้ลูกสาวมากเกินไป เธออยู่ที่นี่จนเคยชินแล้ว ไปเมืองใหญ่มีแต่จะยิ่งรู้สึกอึดอัด

ลั่วเยียนขอบตาแดงเรื่อ ชั่วขณะหนึ่งไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไร

ลั่วชิงเจ๋อที่อยู่ข้างๆ ช่วยพูด “คุณแม่ ฟังพี่สาวเถอะครับ เรารักษาอาการป่วยของคุณให้หายก่อน เรื่องอื่นค่อยมาคิดเถอะ”

“และคุณก็อย่ามองว่าตอนนี้เหมือนไม่มีอะไร เมื่อครู่ตอนที่ผมไปเอาน้ำให้คุณ ผมได้ยินเสียงคนนินทาอยู่ในห้องพักผู้ป่วยห้องข้างๆ ดูเหมือนจะจำพี่สาวได้”

คุณแม่ลั่วสีหน้านิ่งไป

ดูจากสีหน้าของลั่วชิงเจ๋อ คิดว่าที่คนพวกนั้นพูดคงจะไม่ได้น่าฟัง

หากอยู่ต่อ บางทีอาจจะมีคนมาก่อกวนเข้าจริงๆ ก็เป็นได้

“งั้น……เยียนเยียน แกตกลงกับเสี่ยวหรงไปแล้วว่าต่อไปจะอยู่ที่นี่เพื่อจัดการหลักสูตรฝึกอบรมไม่ใช่เหรอ พวกเราไปแบบนี้ จะไม่ดีกับเขาเกินไปหรือเปล่า”

หรงหลินเพิ่งไปเมื่อเช้า เขาอยู่ที่นี่คุณแม่ลั่วมักจะรู้สึกอึดอัด

หลังจากทำความรู้จักกับลั่วเยียน ผ่านไปไม่นานหรงหลินก็รู้ตัวและหาข้ออ้างเพื่อกลับออกไป

หรงหลินมีพฤติกรรมสำรวมไม่มากไม่น้อยไป ทำให้ครอบครัวลั่วประทับใจในตัวเขาเป็นพิเศษ คุณแม่ลั่วถึงขั้นรู้สึกว่าในเมื่อมีนิสัยใจคอแบบนี้ ต่อไปถ้าลั่วเยียนได้ลงเอยกับเขาจริง ก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลว

ลั่วเยียนครุ่นคิดก่อนจะพูดว่า “ทางหรงหลิน ฉันจะขอโทษเขาทีหลัง แต่เขาเข้าใจดีค่ะ คงจะไม่มีความคิดเห็น”

ซูสือเยว่เพิ่งกลับไปบอกข่าวกับฉินหนานเซิงว่าลั่วเยียนจะกลับไปที่เมืองหรง ตอนนี้เข้ามาดูว่าพวกเขาเก็บของเรียบร้อยแล้วหรือยัง

ปรากฏว่าเพิ่งเข้าไปในห้องพักผู้ป่วย ก็ได้ยินการสนทนาระหว่างคุณแม่ลั่วกับลั่วเยียน แล้วอดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้ว

“คุณป้าคะ เดี๋ยวการผ่าตัดของคุณเสร็จสมบูรณ์ คุณสามารถกลับมาพักฟื้นที่นี่ได้ค่ะ”

“อีกอย่างเรื่องหลักสูตรฝึกอบรม มันไม่ได้ทำขึ้นมาได้ง่ายขนาดนั้น เกี่ยวกับงานของลั่วเยียน ยังต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เลือกงานที่ตัวเองชอบและมีอนาคต นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด คุณว่าไหมคะ”

ซูสือเยว่ไม่คิดว่าลั่วเยียนจะชอบการเป็นครู ถ้าลั่วเยียนประนีประนอมตอนนี้ ในอนาคตอาจจะเดินบนเส้นทางที่ทำให้ตัวเองต้องเสียใจภายหลัง นั่นไม่ใช่สิ่งที่เธออยากเห็น

ลั่วเยียนหันหน้าไปมองซูสือเยว่ สบตากับดวงตาสดใสของเธอซึ่งดูเหมือนจะมองเห็นทุกอย่างทะลุปรุโปร่ง แล้วรู้สึกร้อนตัวขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ

ขณะนั้นเอง จู่ๆ บนทางเดินพลันมีเสียงฝีเท้ามากมายโกลาหล และเสียงมันดังอยู่ไม่ไกล

“อยู่ดีๆ ทำไมเสียงดังแบบนี้ ผมจะไปดู” ลั่วชิงเจ๋อลุกขึ้น

เขายังไม่ทันเดินถึงปากประตู ไป๋เฉิงก็เดินพรวดพราดเข้ามาเสียก่อน

“คุณนายฉิน คุณลั่ว เก็บของทุกอย่างเรียบร้อยแล้วหรือยังครับ ข้างนอกจู่ๆ ก็มีพวกนักข่าวมา ผมว่าพวกเรารีบออกไปก่อนดีกว่า”

เมื่อพูดจบ ทุกคนในห้องพักผู้ป่วยต่างอยู่ในอาการมึนงง

“ทำไมมาเร็วขนาดนี้……” ลั่วเยียนขมวดคิ้ว

แต่ซูสือเยว่ตัดสินใจรวดเร็ว เรียกไป๋เฉิงออกไปข้างนอก

“ไป๋เฉิงกับฉันจะไปกันพวกนักข่าวข้างนอก ลั่วเยียน เธอพาคุณลุงคุณป้าไปหาฉินโม่หานที่ลานรอดรถก่อน”

“เร็วสิ!”

“ไม่อย่างนั้นคนพวกนี้จะมาก่อความวุ่นวายนะ”

“สือเยว่……เธอระวังให้มากนะ”

ซูสือเยว่ได้ยินแล้วหันกลับไปยิ้มให้ลั่วเยียน “วางใจ กังฟูของฉันไม่ได้ฝึกมาโดยเปล่าประโยชน์”

พูดจบก็ถกแขนเสื้อเดินออกไป ท่วงท่าทรงพลงอย่างมาก

ลั่วเยียนรู้ว่าสถานการณ์เร่งด่วน จึงไม่กังวลให้มากความ สั่งน้องชายทันที

“ชิงเจ๋อ เข็นรถเข็นเข้ามา”

ลั่วชิงเจ๋อเข็นรถเข็นมา ลั่วเยียนกับคุณพ่อลั่วรีบช่วยประคองคุณแม่ลั่วขึ้นรถเข็น จากนั้นก็รีบขนสิ่งของไปที่ลิฟต์

เมื่อออกจากห้องพักผู้ป่วย ลั่วเยียนมองไปทางซูสือเยว่ ขณะนี้เธอยืนอยู่ด้านหน้าฝูงชน พร้อมด้วยบอดี้การ์ดกับไป๋เฉิงช่วยขวางพวกนักข่าวไว้ซึ่งไม่รู้ว่าโผล่มาจากไหน

ลั่วเยียนเอ่ยขอบคุณเธอในใจ ก่อนจะรีบเข็นคุณแม่ลั่วเข้าลิฟต์ไป

ลิฟต์ค่อยๆ ลง ปรากฏว่าเมื่อมาถึงชั้นหนึ่ง ข้างนอกก็มีฝูงนักข่าวอีกจำนวนมาก

เดิมทีพวกเขาต้องการมาล้อมลั่วเยียนเอาไว้ แต่เนื่องจากช้าไปก้าวหนึ่ง ยังคิดว่าครั้งนี้คว้าพาดหัวข่าวไม่ได้แล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าจู่ๆ จะได้ปะทะซึ่งหน้ากับลาภก้อนโต

หลังจากอึ้งในตอนแรก และแล้วคนเหล่านี้ก็ยิ้มกว้างทันใด

“ลั่วเยียนอยู่ที่นี่จริงด้วย!”

“ลั่วเยียน! มีคนถ่ายรูปคุณกับผู้ชายแปลกหน้าเข้าออกโรงแรม ชีวิตส่วนตัวไร้ระบบระเบียบ ขอถามว่าคุณมีอะไรจะอธิบายไหม”

“ระหว่างแต่งงานคุณนอกใจจริงไหม เพราะงั้นถึงได้หย่าโดยไม่มีการได้แบ่งทรัพย์สินใช่ไหม”

“ลั่วเยียน คุณตกอับมาถึงจุดนี้ แม้แต่แม่แท้ๆ ของตัวเองที่ป่วยก็ไม่สามารถจ่ายค่ารักษาพยาบาลได้ เป็นความจริงหรือเปล่า”

“ลั่วเยียน คุณเคยคิดไหมว่าพฤติกรรมเหล่านี้จะทำให้แฟนคลับของคุณต้องผิดหวัง”

“ลั่วเยียน……”

แฟลชจากเลนส์กล้องยังคงสว่างอย่างต่อเนื่อง นักข่าวเหล่านี้ล้อมพวกลั่วเยียนให้ติดอยู่ในลิฟต์ โดยไม่คำนึงว่าจุดนี้ยังมีครอบครัวของลั่วเยียนอยู่ด้วย ถามแต่ละคำถามออกมารุนแรงและไร้ซึ่งความเห็นใจ

ลั่วเยียนสีหน้าซีดขาว

เธอคิดไม่ถึง แม้เธอจะประกาศถอนตัวออกจากวงการแล้ว คนพวกนี้ก็ยังไม่ยอมปล่อยเธอ

พวกเขาอยากเหยียบย่ำตัวเธอ บีบเค้นเธอจนหยดสุดท้าย กดดันทุกวิถีทางไม่ว่าตอนนี้เธอจะอับอายแค่ไหนก็ตามที

เธอพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ขอโทษค่ะ ขอทางหน่อย”

แต่ทว่า มันไม่มีประโยชน์เลย

ไม่มีใครฟังสิ่งที่เธอพูด คนเหล่านั้นยังคงแบกอุปกรณ์หนัก กดดันเธอทีละก้าวๆ เข้าไปจนมุมลิฟต์

กลัวว่าแม่ที่นั่งบนรถเข็นจะได้รับบาดเจ็บ สุดท้ายลั่วเยียนจึงได้แต่เอาตัวเองกันคุณแม่ลั่วไว้ พยายามใช้ร่างกายตัวเองปกป้องเธอ

เธอกัดริมฝีปากล่างแน่น พยายามไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมา

และในตอนนั้นเอง——

“ไสหัวไปให้หมด!”

เสียงของผู้ชายที่เต็มไปด้วยความดุดันดังขึ้นข้างหลัง

มีคนพุ่งเข้ามา ดึงทุกคนที่ออกันอยู่ที่ปากประตูลิฟต์ออกอย่างรุนแรง

คนพวกนั้นพยายามดิ้นรน แต่ถูกผู้ชายบ้าเลือดเหวี่ยงออกไป

แถมยังมีคนที่ถูกต่อยและถูกเตะถูกกระทืบไปหลายเท้า

การกระทำอันบ้าดีเดือด ในที่สุดคนในจุดนั้นก็พากันประหวั่นพรั่นพรึง นักข่าวในลิฟต์ถูกไล่ออกไปทั้งหมด

ฉินหนานเซิงหอบหายใจเล็กน้อย ดวงตาจ้องมองไปที่ผู้คนภายนอกราวกับเหยี่ยว จากนั้นก็ถอดเสื้อคลุมตัวเองออกมาคลุมตัวของลั่วเยียนแผ่วเบา

“ขอโทษ ผมมาช้าไป”

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

Status: Ongoing
หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท