บทที่ 56 เกิดอะไรขึ้น!
ยุ่นหลิงรู้สึกหายใจลำบากในตอนนี้เขาหายใจไม่ออก เขาเจ็บปวด หน้าอกของเขาเจ็บทุกครั้งที่หายใจ เขามีอาการปอดทะลุหรือไม่? นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาประสบปัญหาปอดทะลุ แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่รู้สึกเจ็บ เขาเคยมีประสบการณ์มาก่อน แต่เขายังไม่ชินกับความเจ็บปวดเช่นนี้ ยิ่งไปกว่านั้นคือร่างกายของเขาเจ็บไปหมดทุกส่วน เขารู้สึกเหมือนมีใครมากระแทกร่างกายของเขากับพื้นผิวที่แข็งมากไปทั้งตัว
เกิดอะไรขึ้น? ทำไมเขาถึงรู้สึกเจ็บขนาดนี้? เขาไม่สามารถแม้แต่จะขยับร่างกายได้อย่างถูกต้อง สิ่งที่เขาทำได้มากที่สุดคือยกนิ้วชี้ขวาของเขา แต่ก็ได้แค่นั้น นอกจากนี้เขายังรู้สึกได้ถึงความร้อนผ่าวที่ออกมาจากรอบข้าง
ยุ่นหลิงลืมตาขึ้นด้วยความยากลำบาก ตาเขาเกือบจะบอดเพราะแสงแดดที่ส่องเข้ามาทำให้เขาหรี่ตาลงอย่างรวดเร็วขณะมองที่ไปรอบๆ
มีไฟขนาดใหญ่ที่ลุกโชติช่วงอยู่ทุกหนทุกแห่งเผาทุกสิ่งและทุกอย่างที่มันสัมผัสด้วย แม้แต่พื้นดินก็ละลายจากความร้อนสูงด้วยเปลวไฟเหล่านี้ มันเหมือนกับว่าเขาอยู่ในนรกซึ่งเป็นสถานที่ที่ผู้ใหญ่ใช้สร้างความหวาดกลัวให้เด็กที่ทำตัวไม่ดี เขามองเห็นเงาของผู้คนที่วิ่งไปมาและดิ้นด้วยความเจ็บปวดในเปลวไฟเหล่านี้ นอกจากนี้ยังมีซากศพที่ถูกเผาไหม้อย่างรุนแรงค่อยๆละลายจากเปลวไฟ นอกจากนี้เขายังได้ยินเสียงคนกรีดร้องจากระยะไกล แต่เขาก็ไม่แน่ใจเช่นกัน เสียงของไฟที่ลุกโชนนั้นแรงดังไปจนมันกลบเสียงอื่นๆ ที่อยู่รอบตัวเขา
พื้นที่เดียวที่ไม่ได้รับอันตรายจากเปลวไฟนี้คือที่ที่เขานอนอยู่ เปลวไฟนั้นอยู่ไม่เกิน 5 เมตรรอบตัวเขา นอกจากนี้เปลวไฟเหล่านี้ไม่มีควันลอยออกมา
ทันใดนั้นท้องฟ้าก็มืดลงราวกับว่าพระอาทิตย์ได้หายวับไปในทันใด ยุ่นหลิงมองไปที่ท้องฟ้าขณะที่ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อ มีฝ่ามือขนาดใหญ่ปกคลุมท้องฟ้าและปิดกั้นดวงอาทิตย์ขณะที่มันค่อยๆตกลงสู่พื้น มันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ยุ่นหลิงเคยเห็นในชีวิตของเขา ด้วยขนาดของมันทำให้ฝ่ามือที่เขาเห็นนั้นราวกับเป็นท้องฟ้าของอีกโลกหนึ่ง
เจ้าของฝ่ามือนั้นเป็นคนแบบไหนกันนะ? เพียงแค่ฝ่ามือของมันก็เพียงพอที่จะปกคลุมท้องฟ้าให้ตกอยู่ในความมืดมิดได้แล้ว มันมีขนาดใหญ่แค่ไหนกัน?
ความเร็วของฝ่ามือใหญ่นั้นเพิ่มขึ้น จู่ๆความมืดที่ปกคลุมเขานั้นก็หายไปเมื่อฝ่ามือขนาดใหญ่นี้ถูกเผาไหม้อยู่ พายุเพลิงได้พัดลงมาจากท้องฟ้าและบางส่วนก็เป็นเปลวไฟที่ลุกโชนกลางอากาศ
“นายน้อย! ท่านยังมีชีวิตอยู่!”
ยุ่นหลิงมองไปด้านข้างและเห็นจิ้งจอกสีขาวตระหง่านวิ่งมาหาเขา
มันคือจิ้งจอกเขี้ยวหิมะ
จิ้งจอกเขี้ยวหิมะ หลบหลีกเปลวเพลิงอย่างชำนาญขณะที่มันวิ่งเข้าหายุ่นหลิงด้วยความเร็ว เพียงไม่กี่วินาทีมันก็มาถึงด้านข้างเขาทันที
ยุ่นหลิงพยายามทนความเจ็บปวดจากแน่นอกขณะที่เขากำลังจะพูด ถึงอย่างนั้นมันก็เจ็บปวดเกินไปดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะพูดกับหมาป่าด้วยความรู้สึกขั้นสูงของเขา “จิ้งจอกเขี้ยวหิมะนั่นมันอะไรกัน?”
เขาถามถึงฝ่ามือขนาดใหญ่บนท้องฟ้า สิ่งๆนั้นทำให้เขารู้สึกสั่นกลัวมากราวกับว่าเขาจะหลบหนีจากมันไม่ได้ ไม่มีพลังใดในโลกที่จะต่อต้านสิ่งที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้นได้ สิ่งที่พวกเขาทำได้คือรอความตายขณะที่ฝ่ามือขนาดใหญ่พุ่งลงมาจากท้องฟ้า
แต่แทนที่จะเป็นเสียงของจิ้งจอกเขี้ยวหิมะ เขากลับได้ยินเสียงที่ค่อนข้างโบราณอย่างไม่น่าเชื่อตอบเขาแทน
“สิ่งนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากพระเจ้า” เสียงโบราณตอบเขา ด้วยเสียงเพียงอย่างเดียวยุ่นหลิงสามารถบอกได้ว่าเจ้าของน้ำเสียงนี้ผ่านยุคสมัยและผ่านโลกมามากมาย ยุ่นหลิงรู้สึกว่าไม่มีสิ่งใดในโลกที่ไม่รู้จักเสียงนี้
“นั่นคือ…เทพเจ้างั้นหรือ?” ม่านตาของยุ่นหลิงหดตัวลงอย่างมาก สิ่งนั้นอยู่เหนือกว่าต้นไม้เซียนวิลโลว์ที่เขาเคยเจอในหุบเขาพันภูเขา
เสียงโบราณนั้นถอนหายใจขณะกล่าวว่า “หากไม่รีบอะไรทำในไม่ช้าโลกนี้จะถูกทำลายด้วยน้ำมือของเทพเจ้าองค์นี้และสังหารทุกสิ่งมีชีวิตที่อยู่ที่นี่ ช่างโชคร้ายยิ่งนัก แต่ไหนแต่ไรมานั้นเทพเจ้าได้ทำลายโลกนับครั้งไม่ถ้วนด้วยความปรารถนาที่เห็นแก่ตัวของพวกเขาเอง ครั้งนี้เองก็เช่นกัน”
ยุ่นหลิงไม่โต้แย้งในคำพูดของเขา ในโลกที่พระเจ้าอยู่เหนือทุกสิ่งทุกอย่างนี้ พวกเขาจะไปต่อกรกับพระเจ้าที่จะมาทำลายโลกของพวกเขาได้อย่างไร?
แต่นั่นทำให้เกิดคำถาม…
จะเกิดอะไรขึ้นกับแม่ของเขาถ้าโลกนี้ถูกทำลาย? แล้วพ่อของเขาล่ะ? ปู่และย่าของเขา? ยุ่นหยี่และลุงของเขา? พรรคพวกของเขา?
แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับยุ่นเซี่ย?
—
ยุ่นหลิงลืมตาขึ้นขณะลุกจากเตียง ตาของเขาเปิดกว้างขณะที่เขาหอบหายใจอย่างรวดเร็ว เขามองไปรอบๆ ตัวและพบว่าตัวเองนั้นอยู่ในห้องของเขา นอกจากนี้เขายังพบว่ายุ่นเซี่ยที่อยู่ข้างๆเขากำลังนอนหลับอย่างสงบ
“ฝันงั้นรึ?” เขาถามตัวเองโดยไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
นั่นเป็นแค่ความฝันจริงๆเหรอ? ทำไมมันถึงรู้สึกเหมือนจริง? ความเจ็บปวด … อารมณ์ … เขารู้สึกได้ในความฝัน มันเหมือนกับเรื่องจริงมาก
“โชคดีที่มันเป็นเพียงความฝัน ข้าไม่รู้จะทำอย่างไรกับพระเจ้า…เอ๊ะ?” ยุ่นหลิงขมวดคิ้วขณะที่เขาครุ่นคิด
เขาฝันอะไรอีกแล้ว? นี่เป็นเรื่องแปลก ความฝันของเขาเป็นเรื่องที่ทำให้เขาสะดุ้งตื่นขึ้นมาแท้ๆ แต่ทำไมถึงจำไม่ได้เลยแม้แต่น้อย มันคืออะไร? เขารู้สึกว่ามันสำคัญมากจนเขาไม่ควรลืมมัน แต่เขากลับจำมันไม่ได้ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหนก็ตาม
ยุ่นหลิงหัวเราะเบาๆ
“ลืมมันซะ มันเป็นเพียงความฝัน ไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ไม่ควรสำคัญ…หรอกมั้ง”
แม้ว่าเขาจะพยายามสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง แต่อดสงสัยไม่ได้เลยว่าเขากำลังหวาดหวั่นกับสิ่งที่เขาฝันถึง ภายในใจของเขามีความสบายใจเล็กน้อย
เขารีบลุกจากเตียงอย่างระมัดระวังเพื่อจะได้ไม่ทำให้ลูกสาวเขาตื่นขึ้นมา
เขาควรอาบน้ำก่อนและไปฝึกฝนกับพ่อของเขา หลังจากนั้นเขาต้องจัดการตารางภารกิจก่อนเพื่อที่เขาและยุ่นเซี่ยจะได้ออกไปข้างนอกในภายหลังโดยไม่มีอะไรมาขัดพวกเขา