My Death Flags Show No Sign of Ending – ตอนที่ 68 ขอให้ฉันได้ดูแลนาย

My Death Flags Show No Sign of Ending

หลังจากตอนนั้น แม้ว่าสถานการณ์โดยรวมจะไม่กลายเป็นหายนะ แต่ก็ถือว่าวุ่นวายพอสมควร นั้นเพราะมีคนที่หมดสติเป็นจำนวนมาก ซึ่งพวกเราก็ไม่สามารถปล่อยทิ้งไว้เฉยๆแบบนี้ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงถูกย้ายไปพักรักษาตัวที่ห้องๆหนึ่ง ส่วนคนที่ยังมีสติอยู่ก็ยังตกอยู่ภายใต้ความหวาดกลัว พวกเขาจึงถูกย้ายไปอีกห้องๆหนึ่งเพื่อสงบสติอารมณ์เช่นกัน หลังจากมองดูภาพแห่งความโกลาหลที่อยู่ตรงหน้าเพียงชั่วครู่ ฮาโรลด์ก็รู้สึกอยากจะขังตัวเองไว้ในห้องเงียบๆเพียงคนเดียว เมื่อคิดได้เช่นนั้น เขาจึงคิดที่จะกลับไปยังห้องพักของตน และทิ้งความวุ่นวาย(ที่เขาก่อ)ไว้เบื้องหลัง นั้นเพราะความช่วยเหลือของเขามีแต่จะทำให้สิ่งต่างๆแย่ลงไปอีก ถึงแม้เขาจะอยู่เฉยๆไม่ทำอะไร แต่มันก็รู้สึกเจ็บปวดที่เห็นผู้เคราะห์ร้ายเพราะตัวของเขาเป็นคนก่อ

เอริกะกำลังดูแลคนที่หมดสติ ส่วนฟรานซิสก็ยังตามตื้อเธอไม่เลิกแต่ก็ช่วยเหลือเอริกะไปพร้อมกันด้วย และอิสุกิที่พยายามจะหยุดฟรานซิส เมื่อพิจารณาดูแล้วว่าฮาโรลด์คงไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้อีก เขาจึงทำได้เพียงแค่ยักไหล่และเดินหายไปจากสถานที่แห่งนี้ แม้ว่าเรื่องนี้จะไม่ดีกับอิสุกิ แต่ที่นี่ยังมีฟรานซิสอยู่ หากมีหมอนี่อยู่ หลายๆสิ่งก็คงคลี่คลาย

 

ฟรานซิส เจ อาร์คไวท์

 

ชื่อเล่นของหมอนี่ชื่อว่าฟราน ด้วยผมสีบอร์นเป็นลอนเบาๆ ดวงตาสีเขียวมรกต หมอนี่เป็นคนหลงตัวเองเล็กน้อยและเจ้าชู้ แต่หากมองข้ามเรื่องพวกนี้ไป ฟรานซิสถือว่าคนที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ของตัวเอง 

เขาเป็นคนที่ใช้ดาบในการต่อสู้ แม้ว่าในเกมส์จพลังโจมตีของเขาจะไม่สูงมาก ระดับพลังโจมตีของเขาต่ำกว่าเอริกะหรือคลอเล็ตเสียอีก ซึ่งในกลุ่มเขาเหนือกว่าแค่ลีฟาเท่านั้น แต่ทว่า สำหรับความสามารถด้านเวทมนตร์เขามีความสามารถมาก แถมยังสามารถใช้เวทมนตร์รักษาได้อีกด้วย แต่ด้วย MP ที่น้อยนิด ทำให้เขาเป็นตัวละครที่ใช้งานได้ไม่ดีเท่าที่ควร

ตรงกันข้ามกับอุปนิสัยของเขา คำว่า “ขาดคุณสมบัติแต่มีไหวพริบ” นั้นเหมาะกับเขามาก ซึ่งลักษณะภายนอกดูยังไงก็เหมือนกับเจ้าชายปลอมตัวมา ซึ่งก็ใช่จริงๆ หมอนี่เป็นเจ้าชายลำดับที่ 37 แห่งอาณาจักร ผู้มีสิทธิ์สืบทอดบัลลัง

อย่างไรก็ตาม เขาไม่เคยคาดหวังว่าตัวเองจะต้องมียศฐาบรรดาศักดิ์ ไม่มีความปรารถนาที่จะเป็นกษัตริย์เสียด้วยซ้ำ และเขาก็ดูจะไม่ชอบใจกับสถานภาพการเป็นอยู่ของตัวเองเสียเท่าไหร่ที่เขามีสิทธิ์เที่ยวเล่นอิสระไปเรื่องเพียงเพราะเขาเป็นเจ้าชายเท่านั้น

แน่นอนว่าเขาเป็นตัวละคร 1 ในปาร์ตี้ผู้กล้า ผู้ที่ชื่นชอบสาวงามเป็นชีวิตจิตใจ และเข้าจู่โจมพวกเธอทันทีที่พบหน้ากัน แต่ถ้าหากคุณหลับตาลงข้างนึงมองผ่านเรื่องพวกนี้ไป ฟรานซิสก็เป็น 1 ในตัวละครที่ไม่ได้เลวร้ายขนาดทำให้คุณรู้สึกเกลียดขี้หน้าเขาได้ ในท้ายที่สุดแล้ว ตามเนื้อเรื่องของเกมส์ แม้ว่าเขาจะเป็นถึงเจ้าชาย แต่ด้วยความขุ่นเคืองในความอยุติธรรมที่เกิดขึ้น เขาก็ออกเดินทางพร้อมกับไรเนอร์เพื่อช่วยเหลือผู้คน

นี่คือสิ่งที่ฟรานซิสถูกเซ็ตติ้งไว้ภายในเกมส์ ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยที่เขาจะเข้ารุกเอริกะทันทีที่พบหน้า แต่สิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้กับฮาโรลด์นั้นคือ ฟรานซิสพูดว่าเขาจะไม่สนใจผู้หญิงอื่นอีกต่อไป

นั้นเพราะ หากฟรานซิสสามารถเลิกเป็นเพย์บอยได้จริง ฮาโรลด์คงสามารถกลับมาพูดเหมือนคนปรกติได้ หรือที่จะบอกก็คือ มันเป็นไปไม่ได้นั้นเอง

งั้นแสดงว่าในเกมส์หมอนี่ก็หลงสเน่ห์เอริกะเหมือนกันสินะ ? ก็จริงที่เอริกะงดงามเหมือนดั่งในเกมส์แต่หากพิจารณาอาการของฟรานซิส ณ ตอนนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะหลงใหลเอริกะจนโงหัวไม่ขึ้นมากกว่าตอนในเกมส์เสียอีก

ซึ่งฮาโรลด์ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเพราะอะไร

 

( รึว่าบางที เอริกะเธองดงามกว่าตอนในเกมส์ละมั้งนะ ? ) – ฮาโรลด์

 

นั้นคือเหตุผลเดียวที่ฮาโรลด์คิดออก เพราะไม่มีเหตุผลอะไรอื่นอีกที่ทำให้ฟรานซิสดูกะตือรือล้นกว่าตอนในเกมส์ขนาดนี้

“เอาน่า อย่างน้อยมันก็ไม่เป็นอะไร” นั้นคือสิ่งที่ฮาโรลด์คิดขณะยืดเส้นยืดสายและทำให้ตัวเองสดชื่นขึ้น เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่าง อากาศยังคงดีเหมือนเมื่อวาน แม้ว่าจะมีหลายๆสิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน แต่ว่าอย่างน้อยเมื่อคืนเขาก็นอนหลับสนิทดี และร่างกายของเขาตอนนี้ก็อยู่ในสภาพที่พร้อมเต็ม 100

“ขอเต็มอิ่มกับอาหารเช้ามื้อนี้หน่อยนะ” ขณะคิดอยู่เช่นนั้น ฮาโรลด์ก็นึกถึงแผนที่ของคฤหาสน์ที่เขาวางลืมไว้ในห้องพักในหัว เมื่อนึกเส้นทางได้ เขาก็มุ่งไปยังห้องอาหารของคฤหาสน์

ดูเหมือนอาหารเช้ามื้อนี้จะเป็นแบบบุพเฟ่ต์ แน่นอนว่าไม่ใช่แบบบุพเฟ่ต์ที่แค่บริการตนเองเท่านั้น แต่เป็นบุพเฟ่ต์ที่มีบรรยากาศแบบชนชั้นสูง ซึ่งแขกสามารถสั่งอาหารโดยตรงจากเชฟได้ และเชฟจะปรุงสดๆให้ตรงนั้น

ฮาโรลด์สั่งสเต็กเนื้อชิ้นหนึ่งสำหรับมื้อเช้านี้ และมองหาที่ว่างเพื่อนั่งลงพร้อมกับสเต็กในมือ…

 

[ นั้นนาย ] – ฟรานซิส

[ ฮืม ? ] – อิสุกิ

[ … ชิ ] – ฮาโรลด์

 

สายตาของฮาโรลด์ก็ไปสบเข้ากับฟรานซิสที่มีที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งก็ทำให้ฟรานซิสส่งเสียงเรียกออกมา มันดึงดูดความสนใจของอิสุกิที่นั่งอยู่ข้างๆ และฮาโรลด์ ก็เผลอเดาะลิ้นออกมาด้วยความหงุดหงิด

ฮาโรลด์พยายามที่จะเมินทั้ง 2 เพราะเขาคิดว่ามันอาจก่อให้เกิดปัญหาได้ แต่ทว่า 1 ใน 2 คนนั้นก็ส่งเสียงเรียกเขาขึ้น

 

[ ใจเย็นก่อน ฉันแค่อยากจะคุยด้วยนิดหน่อย ] – ฟรานซิส

[ ถ้าเกี่ยวกับเอริกะ ไปถามพี่ชายของเธอนู่น ] – ฮาโรลด์

[ ไม่ๆ ฉันอยากจะคุยกับนาย ] – ฟรานซิส

[ ก็ตามนั้นแหละ เพราะงั้น นายนั่งลงตรงนี้ซะ ] – อิสุกิ

 

อิสุกิ ที่อ้อมไปข้างหลังฮาโรลด์ตอนไหนไม่รู้ เขาคว้าไปที่ไหล่ของฮาโรลด์และใช้กำลังกดให้นั่งลงบนเก้าอี้

ในเมื่อบรรยากาศเช้าที่สดใสของเขาถูกทำลายลงแล้วอย่างสมบูรณ์ ฮาโรลด์จึงถอนหายใจออกมาเบาๆ

 

[ เฮ้อ แล้วมีเรื่องอะไรที่นายอยากจะถาม ? ] – ฮาโรลด์

[ ทำไมพวกเราไม่มาเริ่มด้วยการแนะนำตัวเองก่อนล่ะ ฉันชื่อว่า ฟรานซิส เจ อาร์คไวท์ ] – ฟรานซิส

[ ลอร์ด สเตราส์ ] – ฮาโรลด์

[ นายรู้จักฉันมาก่อนแล้วสินะ ถูกมั้ย ? แล้วรู้จักฉันได้ยังไงล่ะ ? ] – ฟรานซิส

[ ชั้นรู้จักแค่ชื่อของนาย แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเราเคยพบกันเป็นการส่วนตัวหรอก ] – ฮาโรลด์

[ อืม ฉันก็เดาว่าเป็นแบบนั้น เพราะ ฉันนึกไม่ออกเลยว่าเคยเจอนายมาก่อน ] – ฟรานซิส

 

ฟรานซิสจ้องเขม่งไปที่ฮาโรลด์ราวกับกำลังตรวจสอบเขา แต่ฮาโรลด์ก็ทำเป็นไม่สนใจเรื่องนั้น และกัดสเต๊กที่เขาถือมาเข้าไปคำนึง ขณะที่กำลังเคี้ยวตุ้ยๆ เขากระดกน้ำผลไม้ตามลงไปอึกหนึ่ง ทำให้ทั้งเนื้อและน้ำผลไม้หายลงท้องไป เนื้อที่เชฟทำนุ่มมาก เขาแทบไม่ต้องใช้แรงกัดใดๆเลย ในปากของเขายังรู้สึกถึงความหอมของเนื้อและไขมันที่แทรกซึมอยู่

ไม่ต้องอธิบายเลยว่ามันอร่อยขนาดไหน ฮาโรลด์จึงตั้งหน้าตั้งตากินสเต็กมีเดียมแรร์ชิ้นนี้ต่อไปจนเริ่มมีเลือดไหลซึมออกมาที่มุมปาก

 

[ ….. มันดูน่ากลัวนะ ราวกับนายกำลังกินคนเลย ] – ฟรานซิส

[ ก็ไม่ปฎิเสธหรอก แม้ว่าปากของชั้นจะเปื้อนเลือด แต่ชั้นก็คิดว่ามันดูดีแทนที่จะเรียกว่าสกปรก ] – ฮาโรลด์

[ หากนายมีไวน์แดงด้วย มันคงเข้ากันพิลึก ] – อิสุกิ

[ พูดสั้นๆคือ พวกนายจะบอกว่าสีเลือดเหมาะกับชั้นใช่มั้ย? ก็ได้งั้น ชั้นขอใช้เลือดหัวของพวกแกมาเป็นน้ำซอสให้กับสเต็กเนื้อของชั้นจะได้มั้ย? ] – ฮาโรลด์

[ [ ไม่ดีกว่า ขอบคุณ ] ] – ฟรานซิส/อิสุกิ

 

ทั้งฟรานซิสและอิสุกิตอบกลับมาพร้อมกับ แม้ว่าทั้งคู่จะขึ้นเสียงกันเสียงดังตอนเรื่องของเอริกะ แต่ดูเหมือนทั้งคู่จะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันทีเดียว อย่างไรก็ตาม แม้ว่าฮาโรลด์แทบจะรู้หมดไส้หมดพุงของเกมส์ๆนี้ แต่เรื่องที่อิสุกิเป็นเพื่อนกับฟรานซิสนั้น เป็นเรื่องที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน แม้แต่ในแฟนฟิค ก็ไม่น่าจะมีด้วยซ้ำ

 

[ ฟรานซิส นายเป็นเพื่อนของอิสุกิสินะ ? ทำไมนายไม่รู้จักน้องสาวของหมอนี่ได้ ? ] – ฮาโรลด์

[ ฉันรู้แค่เขามีน้องสาว แต่หมอนั้นไม่เคยบอกว่าเธองดงามขนาดนี้ นั้นสิ ทำไมแกไม่บอกฉันเกี่ยวกับเรื่องน้องแกกันฟร่ะ ? ] – ฟรานซิส

[ นั้นเพราะหากชั้นบอก เหตุการณ์ทั้งหมดมันจะกลับกลายมาเป็นเหมือนที่เป็นอยู่ตอนนี้ ชั้นจะแนะนำน้องสาวสุดที่รักของชั้นให้กับปีศาจตัณหากลับเสือผู้หญิงบ้ากามอย่างแกได้ยังไงกันฟร่ะ ? ] – อิสุกิ

 

นั้นคือเหตุผลที่ถูกต้องที่สุด ในฐานะ “เพื่อน” ของฟรานซิส อิสุกิต้องรู้ความสัมพันธ์ระหว่างฟรานซิสกับเหล่าหญิงสาวคนอื่นๆ ซึ่งอิสุกิก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่หากหญิงสาวคนนั้นเป็น น้องสาวสุดที่รักของเขา ไม่มีทางที่อิสุกิจะยอมแนะนำให้ฟรานซิสรู้จักกับเธอเป็นอันเด็ดขาด

แน่นอนว่า งานปาร์ตี้ครั้งนี้ อิสุกิไม่ได้ชวนฟรานซิสมาด้วย เพราะเขาตั้งใจพาเอริกะมางานนี้ แต่ว่า ดูเหมือนฟรานซิสจะได้ยินข่าวจากที่ไหนซักแห่ง และเดินทางมาเข้าร่วมงานปาร์ตี้ครั้งนี้โดยไม่ได้รับเชิญ

 

[ เอาเถอะ ไม่เป็นไร ยังไงซะ ความรักระหว่างฉันกับเอริกะเพิ่งจะเริ่มต้นขึ— ] – ฟรานซิส

[ มันไม่เคยเริ่มต้น ไม่มีวัน ] – อิสุกิ

[ ….. ไงก็ตาม ลอร์ด ] – ฟรานซิส

[ … อะไร ? ] – ฮาโรลด์

 

อิสุกิตัดบทสนทนาของฟรานซิสทันที แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจและเปลี่ยนเรื่องมาคุยกับฮาโรลด์แทน 

 

[ เกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อวาน ฉันได้ยินมาจากอิสุกิว่าสิ่งที่นายทำนั้นก็เพื่อปกป้องเอริกะ แต่ว่า มันไม่เกินไปหน่อยหรอ ? ] – ฟรานซิส

[ แค่จ้องมองพวกนั้นด้วยจิตสังหารนิดหน่อย มันเป็นความผิดของเจ้าพวกแมลงนั้นเองที่ไม่สามารถทนจิตสังหารระดับแค่นี้ได้ ] – ฮาโรลด์

[ จะมีสักกี่คนกันที่สามารถครองสติอยู่ได้หลังจากโดนจิตสังหารระดับนั้นเข้าไป ? แถมยังระยะประชิดอีกด้วยนะ ? ] – ฟรานซิส

[ ขนาดชั้นและฟราน ยังต้องใช้เวลาซักพักกว่าจะขยับตัวได้เลยนะ ] – อิสุกิ

[ ฉันคิดฉันถูกแทงเข้าที่ด้านหลังแล้วก็ตายไปเสียแล้ว ] – ฟรานซิส

[ ก็มีแนวโน้มที่นายจะตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นในอนาคต ถูกแทงจากด้านหลังโดยฝีมือของเหล่าหญิงสาวที่โกรธแค้น ] – ฮาโรลด์

[ มุขของนายมัน …. ] – ฟรานซิส

 

ฟรานซิสได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ ซึ่งฮาโรลด์ก็ถามกับเขาต่อ

 

[ เมื่อวาน ตอนที่นายเล่นตลกกับหัวใจของเอริกะ นายจริงจังกับเรื่องนี้แค่ไหน ? ] – ฮาโรลด์

[ แน่นอนว่าฉันจริงจัง แน่นอนว่าลอร์ดที่รู้อดีตของฉันจะต้องสงสัย แต่ว่า ตอนนี้ฉันเปลี่ยนไปแล้ว ฉันพร้อมที่จะยุติความสัมพันธ์กับผู้หญิงทุกคน เพื่อเอริกะคนเดียว ] – ฟรานซิส

 

ฟรานซิสกล่าวออกมาพร้อมกับสายตาที่แน่วแน่และน้ำเสียงที่ฟังดูจริงจังอยู่บ้าง ซึ่งฮาโรลด์ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกๆในนิสัยที่ไม่เหมือนกับฟรานซิสในเกมส์ แต่บางที นี่อาจเป็นผลกระทบที่เกิดจากเขาทำให้เนื้อเรื่องของเกมส์ดำเนินไปในทิศทางที่เปลี่ยนไปแปลงล่ะมั้ง

หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ แสดงว่านี่คือความผิดของฮาโรลด์

เดิมที ฮาโรลด์คิดว่ามันคงจะดีกว่าหากให้เอริกะและไลเนอร์อยู่ด้วยกันนั้นเพราะไลเนอร์เป็นพระเอกของเรื่องนี้และเอริกะก็คือ 1 ในสมาชิกปาร์ตี้ผู้กล้า อย่างไรก็ตาม ภายในเกมส์ก็ไม่ได้มีการพรรณนาถึงความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ภายในเกมส์อย่างชัดเจน พูดง่ายๆก็คือ เอริกะจะคู่กับใครนั้นไม่สำคัญ

ปัญหาไม่ใช่ว่าเอริกะจะได้คู่กับใคร แต่ว่าเอริกะจะเลือกเลิกกับฮาโรลด์และยกเลิกการหมั้นหมายระหว่างเราหรือไม่ต่างหาก ซึ่งในตอนนี้ ฮาโรลด์กำลังคิดว่า “มันคงจะดีกว่าหากให้เอริกะคู่กับฟรานซิสรึปล่าวนะ?” แต่ก็ช่างเถอะ เรื่องนี้มันยังไม่สำคัญที่จะต้องเก็บเอามาคิด

และยังไม่ชัดเจนว่าเอริกะจะยอมรับในตัวของฟรานซิสเสียด้วย

 

[ ถ้านายไม่มีธุระอะไรที่นี่อีก ก็ไปกระดิกหางต้อยๆตามเอริกะนู่นไป ชั้นจะได้รับประทานอาหารโดยที่ไม่ต้องเห็นหน้าแก ] – ฮาโรลด์

 

ฮาโรลด์ชี้คางของตนไปยังเอริกะ ผู้ซึ่งกำลังเดินเข้ามาภายในห้องอาหาร เฉกเช่นกับวันก่อนหน้านี้ เอริกะยังคงถูกเหล่าชายหนุ่มรุมตามจีบไม่เลิก แม้ว่าตอนนั้นฮาโรลด์จะจำใบหน้าของคนเหล่านั้นได้ไม่หมดเพราะพวกเขามีมากเกินไป แต่ดูเหมือนว่าบางส่วนคือพวกที่เคยโดนจิตสังหารของฮาโรลด์เล่นงานเมื่อวานนี้ด้วย เจ้าพวกนี้ไม่เข็ดกันเสียเลย หรือบางทีเจ้าพวกนี้คงหลงเอริกะจนโงหัวไม่ขึ้นจริงๆ

 

[ เฮ้ เดี่ยวสิลอร์ด นี่ไม่เหมือนกับที่พวกเราตกลงกันไว้นะ ] – อิสุกิ

[ นายขอให้ชั้นกำจัดพวก “ที่ดูเหมือนแมลง” เจ้าหมอนี่ก็ดูเหมือนแมลงด้วยรึไง ? ] – ฮาโรลด์

[ มันก็ … ] – อิสุกิ

 

อิสุกิถึงกับพูดไม่ออก ก็จริง ที่เขาไม่สามารถกล่าวกับเพื่อนของตนว่าเป็น “แมลง” ได้ ซึ่งนั้นก็เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมฮาโรลด์ถึงถามออกมาแบบนั้น

 

[ ฉันเข้าใจอยู่นะว่าฉันไม่ควรที่จะได้ยินบทสนทนาเมื่อสักครู่ แต่ว่า … แบบนี้ถือว่าฉันได้รับอนุญาตจากอิสุกิแล้วใช่มั้ย ? ] – ฟรานซิส

[ แน่นอน อยากทำอะไรก็ทำ ] – ฮาโรลด์

[ ไม่โว้ย!! ไม่มีทาง !!! หากลอร์ดไม่จัดการ ชั้นจะลงมือเอง !! ] – อิสุกิ

 

แทบจะทันทีที่อิสุกิพูดจบ เขาก็พุ่งเข้าไปปกป้องเอริกะจากกลุ่มคนเหล่านั้น เป็นดั่งที่คาดเอาไว้ ทันทีเจ้าภาพของงานเฉลิมฉลองเข้ามาเกี่ยวข้อง เหล่าสัตว์ร้ายที่หิวกระหายก็กลับกลายเป็นลูกแมวไร้พิษสงกันหมด 

การโจมตีด้วยรอยยิ้มแห่งความอาฆาตเป็นความสามารถพิเศษของพี่น้องสุเมรากิ และตอนนี้ได้ปรากฎขึ้นบนใบหน้าของอิสุกิ ซึ่งฮาโรลด์ก็เคยลิ้มรสมันมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้เขากลับรู้สึกว่ามันรุนแรงกว่าครั้งไหนๆเป็นอย่างมาก

 

[ เฮ้อ บรรยากาศไม่เหมาะที่จะเข้าไปสารภาพรักแล้วแฮะ ] – ฟรานซิส

[ ชั้นแน่ใจว่าบรรยากาศเมื่อวานแย่กว่าตอนนี้เสียอีก ] – ฮาโรลด์

 

ก็นะ ตอนนั้นที่ฟรานซิสรุกเข้าไปจีบเอริกะ รอบๆตัวของเขามีเหล่าชายหนุ่มหมดสติบนพื้นอยู่ล้อมรอบ และอีกหลายๆที่คนน้ำลายฟูมปาก แถมตอนนั้นฮาโรลด์ยังอยู่ข้างๆเอริกะอีกด้วย ไม่มีทางที่บรรยากาศตอนนั้นจะเหมาะแก่การสารภาพรักไปได้

 

[ จริงหรอ ? ฉันคิดว่าตอนนั้นมันเหมือนกับพระเอกที่ทุ่มสุดตัวเพื่อปกป้องนางเอกได้สำเร็จและสารภาพรักกับเธอในตอนที่ทุกอย่างสงบลงแล้วเสียอีก ] – ฟรานซิส

[ …… ถ้านั้นคือสิ่งที่นายจินตนาการก็เอาเถอะ ชั้นไม่สนใจหรอก ] – ฮาโรลด์

[ ชิ เย็นชาจังนะ ก็นะ ถึงฉันจะทำอะไรสักอย่างตอนนี้ สุดท้ายมันก็จะจบลงด้วยความวุ่นวายอยู่ดี แต่ช่างเรื่องนี้เอาไว้ก่อน … ] – ฟรานซิส

 

สีหน้าของฟรานซิสดูจริงจังขึ้น ซึ่งดูไม่เข้ากับบุคลิกที่เขาแสดงออกมาก่อนหน้านี้ เพื่อกล่าวประโยคถัดไป

 

[ ลอร์ด ฉันมีบางสิ่งที่ต้องคุยกับนาย นายพอจะมีเวลาว่างให้ฉันมั้ยหลังจากนี่ ? ] – ฟรานซิส

 

[ ยุ่งยากเสียจริง ] – ฮาโรลด์

[ ไม่เอาน่า อย่าพูดแบบนั้น งั้น มาที่ห้องของฉันหลังจากที่นายว่างแล้วละกัน ] – ฟรานซิส

 

หลังจากทิ้งคำพูดเหล่านั้นเอาไว้กับฮาโรลด์ ฟรานซิสก็ลุกออกจากที่นั่งไป เมื่อได้รับคำเชิญจากฟรานซิส ฮาโรลด์ได้แต่คิดหนักว่าทำไมจู่ๆฟรานซิสถึงชวนเขาไปที่ห้องกันนะ หากคิดตามปกติ เขาคงเรียกไปถามเรื่องของเอริกะ คงเป็นเรื่องที่ไม่สามารถถามตรงๆต่อหน้าเอริกะหรืออิสุกิได้ ซึ่งฮาโรลด์ก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะช่วยอะไรได้รึปล่าว บางทีด้วยความรู้จากเกมส์เขาอาจจะใช้ข้อมูลการตั้งค่าตัวละครของเอริกะที่เขาจำได้คร่าวๆเพื่อบอกขนาดทรีไซด์ของเอริกะกับฟรานซิสเพื่อให้เขาพึงพอใจได้อยู่ล่ะมั้ง

“แต่ว่า เอริกะในโลกนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องมีทรีไซต์เหมือนกับตัวละครในเกมส์นินา ?”  ขณะคิดได้เช่นนั้น ฮาโรลด์ก็ทานอาหารเช้าเสร็จพอดี และหลังจากล็อคคอคนรับใช้ซักคนในคฤหาสน์มาได้เพื่อสอบถามห้องที่ฟรานซิสพักอาศัยอยู่ เขาก็มุ่งตรงไปยังห้องของฟรานซิส และเคาะประตู

 

[ นี่คือลอร์ด เปิดเร็วเข้าหากนายอยู่ในนั้น ] – ฮาโรลด์

 

เมื่อฮาโรลด์ร้องเรียกหาฟรานซิส ประตูก็แทบจะถูกเปิดในทันที และทันทีที่เห็นใบหน้าของฮาโรลด์ ฟรานซิสก็กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ

 

[ นายมาจริงๆด้วย ? ] – ฟรานซิส

[ รึจะให้ชั้นกลับไปตอนนี้เลยมั้ย ? ] – ฮาโรลด์

[ ไม่ ไม่ ไม่ใช่แบบนั้น ฉันแค่ประหลาดใจน่ะ ฉันไม่คิดว่านายจะมาจริงๆ ] – ฟรานซิส

 

“นั้นไม่ใช่คำพูดที่ฟังดูโหดร้ายที่ไม่ควรจะพูดต่อหน้าผู้ถูกเชิญหรอกเรอะ ?” หากประโยคนี้เป็นบทสนทนาระหว่างชายหญิง ไม่แปลกใจเลยว่ามันจะต้องเป็นเรื่องรักๆใคร่ๆแน่ๆ

 

[ งั้นเข้ามาด้านในห้องก่อน โปรดให้ฉันดูแลนายด้วยเถิด ] – ฟรานซิส

 

ด้วยคำเชื้อเชิญของฟรานซิส ฮาโรลด์ก็ก้าวเข้ามาภายในห้อง ซึ่งห้องของฟรานซิสก็ไม่ค่อยแตกต่างจากห้องของฮาโรลด์ที่เขาได้รับมาเท่าไหร่นัก บางทีห้องแบบนี้อาจมีอีกหลายห้องภายในคฤหาสน์แห่งนี้

เนื่องจากฟรานซิสเป็นถึงเจ้าชาย ขาควรได้ห้องพักที่ดูหรูกว่านี้ หากเขาขอจริงๆ ก็ไม่มีทางที่เจ้าบ้านจะปฎิเสธเขาได้

 

[ เดี่ยวนะ นายเข้ามาในห้องจริงๆด้วย ] – ฟรานซิส

[ นั้นคือที่หมดที่นายอยากจะพูดรึไง ? ] – ฮาโรลด์

[ ไม่ๆ ฉันแค่สงสัยว่านายกำลังเล่นตลกอะไรกับฉันรึปล่าว หากเป็นแบบนั้นจริงๆ มันก็ยุ่งยากอยู่นะ ] – ฟรานซิส

[ … หมายความว่าไง ? ] – ฮาโรลด์

[ ก็ … หมายความว่าแบบนี้ไง ] – ฟรานซิส

 

ขณะที่ฮาโรลด์ถามกับฟรานซิสเกี่ยวกับ “ความตั้งใจจริงๆ” ของเขา ก็มีดาบจ่อเข้าที่คอของฮาโรลด์ มันใกล้ซะจนแทบไม่สามารถวัดเป็นมิลลิเมตรได้ มีเพียงช่องวางเพียงแผนกระดาษระหว่างคมมีดกับคอของเขา

 

(อะไรเนี้ย) – ฮาโรลด์

 

เขาถูกดาบจ่อคออย่างคาดไม่ถึง มันแตกต่างจากตอนที่ถูกออเรเลี่ยนจู่โจม ทุกๆอย่างดูเป็นธรรมชาติมาก ซึ่งมันทำให้ฮาโรลด์ประหลาดใจจนไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาได้ และ ทันทีที่ฮาโรลด์เข้าใจสถานการณ์ เขาก็รู้สึกได้ว่ามีอาวุธอีกชิ้นหนึ่งกำลังจี้อยู่ที่หลังของเขา

 

[ ดูเหมือนแกจะไม่ได้พกอาวุธมาด้วยสินะ ประมาทเกินไปแล้ว แกมันโง่จริงๆหรือแค่มั่นใจในตัวเองเกินไปกันแน่ ? ] – ฟรานซิส

[ … นี่น่ะหรอ ไอ้การ”ดูแล” ที่แกหมายถึง ? ] – ฮาโรลด์

[ ใช่ ถูกแล้ว อย่างที่ฉันพูดไปก่อนหน้านี้ สีแดง ไม่สิ สีของเลือดดูเหมาะกับแกดี เพราะงั้น ฉันเลยคิดว่าจะย้อมแกให้ชุ่มไปด้วยสีแดงด้วยเลือดของแกซะ ] – ฟรานซิส

( นี่มันเรื่องอะไรกัน ไม่เข้าใจเลยซักนิด…. ) – ฮาโรลด์

 

แม้ในเวลาแบบนี้ ขนาดตัวของฮาโรลด์จะกลัวสุดขีด แต่ปากของเขาก็ยังไม่หยุดที่จะพูดประชดประชันเลยซักนิด ฮาโรลด์ได้แต่เฟ้นความคิดเพื่อที่ทำความเข้าใจและหาทางรอดไปให้ได้สำหรับสถานการณ์ที่จนมุม ณ ตอนนี้

ฮาโรลด์รู้จักฟรานซิสดี และรู้ว่าเขาเป็นคนที่ทำอะไรโดยไม่ใช่เรื่องไร้เหตุผล แล้วทำไมเขาถึงอยากที่จะฆ่าลอร์ด ? สิ่งเดียวที่เขากับฟรานซิสเชื่อมโยงกันมีเพียงเรื่องของเอริกะและอิสุกิเพียงเท่านั้น และสมมุติว่านั้นคือสาเหตุ คำตอบของเรื่องนี้ก็จะถูกจำกัดวงให้แคบลงอย่างง่ายดาย ฟรานซิสทำเช่นนี้เพราะต้องการพิชิตใจของเอริกะงั้นรึ ? เขามองว่าลอร์ดคือคู่แข่งทางความรักงั้นรึ ? หรือเขามองว่าลอร์ดไม่เหมาะสมที่จะเป็นเพื่อนกับอิสุกิ ? ถ้าหากเพราะเรื่องเหล่านี้ ฟรานซิสคงไม่น่าจะใช้วิธีรุนแรงเช่นนี้

เมื่อคิดได้เช่นนั้น แสดงว่าคำตอบที่ทำให้ฟรานซิสต้องลงมือรุนแรงเช่นนี้จึงมีเพียงอย่างเดียว

 

[ บอกฉันมาซะ แกเข้าหาอิสุกิและเอริกะด้วยจุดประสงค์อะไรกันแน่ ? ฮาโรลด์ สโตร์ก ! ] – ฟรานซิส

 

ฟรานซิสคือ 1 ในคนที่รู้จักตัวตนที่แท้จริงและใบหน้าของฮาโรลด์ นั้นเอง

 

My Death Flags Show No Sign of Ending

My Death Flags Show No Sign of Ending

Status: Ongoing
เมื่อรู้สึกตัวอีกที เด็กหนุ่มมหาลัยธรรมดาๆอย่าง ฮิราซาวะ คาซุกิ ก็ดันมาอยู่ในร่างของตัวละครในเกมส์ ยิ่งกว่านั้น เขาดันมาอยู่ในร่างของ ” ฮาโรลด์ สโตร์ก” สุดยอดตัวร้ายที่มีคนเกลียดมากที่สุดในเกมส์ เจ้าของฉายา [ ราชาสวะ ] สำหรับเขาตอนนี้ มองไปทางไหนก็เจอแต่ธงตายอยู่รายล้อมเต็มไปหมด! คาซูกิจะหาทางหลบเลี่ยงธงตายเหล่านั้นได้หรือไม่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท