My Death Flags Show No Sign of Ending – ตอนที่ 90 คนที่ไม่ต้องการให้ยุ่ง กับ คนที่จะยุ่งให้ได้

My Death Flags Show No Sign of Ending

ในเกมส์ [[Brave Hearts]] นั้น ฮิวโก้ คราฟตั้น เป็น 1 ในตัวละครหลักของปาร์ตี้ผู้กล้า เขาคือตัวแท้งประจำปาร์ตี้ เป็นกองหน้าที่มีทั้งพลังโจมตีและพลังป้องกันที่สูงมาก และในเนื้อเรื่องของเกมส์ ด้วยวัย 23 ปี ที่ซึ่งมีอายุมากที่สุดในกลุ่มผู้กล้า ทำให้ฮิวโก้มีภาพจำในฐานะของพี่ชายที่แสนดี นิสัยตามปกติของเขานั้นเป็นคนที่ออกจะขี้เกียจหน่อยๆ แต่ก็สามารถพึ่งพาได้ในช่วงเวลาที่สำคัญเช่นกัน

และการที่มาพบฮิวโก้ภายในซากปรักหักพังไฮบาร์นั้นเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงสำหรับฮาโรลด์

ยิ่งไปกว่านั้น ฮาโรลด์ไม่นึกว่าจะมาเจอกับฮิวโก้ในขณะที่เขายังคงปลอมตัวเป็นกลุ่มโจรทรินิตี้ นั้นเพราะจะเป็นเรื่องชิบหายหากเขาต้องไปเผชิญหน้ากับไรเนอร์และคนอื่นๆอีกครั้งขณะอยู่ในชุดแบบนี้แล้วฮิวโก้ดันเข้ามาทักทายเขา

ซึ่งเพื่อไม่ให้ถูกสงสัยว่าโจรและฮาโรลด์เป็นคนเดียวกัน เขาต้องเล่นละครโง่ๆเพื่อตบตาเหมือนกับตอนของไรเนอร์และคลอเล็ต แต่ทว่าในตอนที่เผขิญหน้ากับฮิวโก้ ตอนนั้นฮาโรลด์ไม่พร้อมเลยซักนิด แต่จะให้ไม่ทำอะไรเลยและปล่อยไปก็คงไม่ได้

นั้นเพราะ หากตามเนื้อเรื่องของเกมส์แล้ว ฮิวโก้จะได้กลายมาเป็นสมาชิกปาร์ตี้ของไลเนอร์หลังจากเหตุการณ์พบกันภายในซากปรักหักพังคาดิซ เหตุการณ์การพบกันที่ซากปรักหักพังคาดิซนั้นเกิดขึ้นเร็วมากตั้งแต่ช่วงต้นๆของเกมส์เลยด้วยซ้ำ หากไม่นับไลเนอร์และคลอเล็ตที่ร่วมทีมกันอยู่ก่อนแล้ว ฮิวโก้ถือว่าเป็นคนแรกเลยที่ได้เข้าร่วมทีม

และเมื่อคำนึงถึงเหตุการณ์ปัจจุบันของไลเนอร์และชาวขณะ ตอนนี้พวกเขาคงออกเดินทางเพื่อทวงดาบคืนแล้ว และจากซากปรักหักพังไฮบาร์ไปยังคาดิซนั้น หากเดินเท้าจะใช้เวลาราวๆ 3 สัปดาห์ แม้ว่าจะไม่เป็นที่แน่ชัดว่าไรเนอร์เดินทางถึงไหนแล้ว แต่ไม่ว่าจะยังไงฮาโรลด์ต้องรีบเข็นตูดฮิวโก้ออกจากที่ซากปรักหักพังไฮบาร์แห่งนี้เพื่อให้เขาเดินทางไปยังคาดิซให้ไวที่สุด

ดังนั้น ในเมื่อไม่มีทางเลือก ฮาโรลด์จึงจำเป็นต้องพิชิตซากปรักหักพังไฮบาร์ให้เร็วที่สุดโดยใช้ชื่อของฮาโรลด์ แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้ทำเช่นนั้นก็เพราะเมื่อมาพิจารณาดูดีๆแล้วหากไม่วางแผนหรือเตรียมการมาอย่างดีล่วงหน้าสิ่งนี้อาจกลายเป็นปัญหาสำหรับเขาในอนาคตก็เป็นได้

ด้วยเหตุผลข้างต้นฮาโรลด์จึงจำเป็นที่จะต้องบุกตะลุยพิชิตซากปรักหักพังให้ได้ทันที และหลังจากเหตุการณ์นั้นจบลง ผลที่ได้มันก็คุ้มค่ามาก เพราะจากรายงานที่เขาได้รับมาจากเอลล์นั้น ดูเหมือนสายข่าวของเอลล์จะรายงานว่าพบชายร่างยักผมสีฟ้ากำลังร่วมเดินทางกับไรเนอร์และคลอเล็ต จากคำอธิบายรูปลักษณ์ภายนอกนั้น คนๆนั้นต้องเป็นฮิวโก้ไม่ผิดตัวแน่ๆ พวกเขาได้พบกันทันเวลาเฉียดชิว

กลับมาปัจจุบัน นี่มันก็ผ่านมา 2 เดือนแล้วที่ฮาโรลด์และชาวคณะได้พบกับฮิวโก้ ซึ่งตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา ฮาโรลด์ก็ได้รวบรวมอาวุธในตำนานจากทั่วทั้งทวีปตามที่แฮร์ริสันสั่งเขา ซึ่งจนถึงตอนนี้ เขาก็รวบรวมมาได้ 6 ชิ้นแล้ว และในไม่ช้าเขาคงได้รับคำสั่งให้ไปยังจุดมุ่งหมายถัดไป

และตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา เหตุการณ์ต่างๆกำลังดำเนินไปได้อย่างดีเยี่ยม เพราะจากรายงานที่เอลล์คอยส่งให้เขาอยู่เป็นประจำ ดูเหมือนว่าไรเนอร์และชาวคณะจะเคลียเหตุการณ์ต่างๆตามเนื้อเรื่องของเกมส์ได้อย่างยอดเยี่ยม

แม้ฮาโรลด์จะคิดมาสักพักแล้วเกี่ยวกับระยะเวลาที่เหตุการณ์เหล่านี้กำลังดำเดินไป เพราะถึงแม้ว่าเขาจะเคยเล่นเกมส์นี้จนจบมานับครั้งไม่ถ้วน แต่เขาก็ไม่รู้เวลาที่แน่ชัดที่เหตุการณ์ ณ ปัจจุบันจะต้องใช้ระยะเวลาเท่าไหร่กันแน่จนกว่าจะขึ้น arc ใหม่? เหตุการณ์ต่อไปต้องรอให้ถึงฤดูหน้ารึปล่าว ? เหตุการณ์ต่อไป จะเกิดขึ้นในปีไหน? เดือนไหน? วันไหน ? หรืออีก 6เดือนข้างหน้า ? หรือตอนไหนๆเขาก็ไม่มีข้อมูลใดๆแน่ชัดเลย นั้นเป็นเหตุผลที่ฮาโรลด์กังวลเกี่ยวกับฉากของฮิวโก้ที่จะพบกับกลุ่มพระเอกเพราะเขานั้นไม่สามารถระบุเวลาที่แน่นอนได้

อย่างไรก็ตาม หากคิดตามหลักความเป็นจริง เกมส์เกี่ยวกับการต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของคนทั้งทวีป เป็นการต่อสู้เพื่อหยุดแผนการร้ายที่จะทำลายโลกทั้งใบ ดังนั้นหากมองในความเป็นจริง มันคงเป็นการต่อสู้ขนาดใหญ่ที่กินเนื้อที่ทั้งทวีป แบบนั้นคงไม่ต่างอะไรกับสงคราม และคงเป็นไปได้ยากที่สมาชิกปาร์ตี้เพียง 6 คนที่มีพลังรบเพียงหยิบมือจะสามารถฝ่าฟันเอาตัวรอดในสงครามที่กินระยะเวลายาวนานได้ เว้นแต่ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดจะคลี่คลายลงได้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ

ดังนั้น เหตุการณ์จริงๆคงจะสั้นกว่าที่ฮาโรลด์คาดการณ์เอาไว้นัก

และในวันหนึ่ง ที่ฮาโรลด์เริ่มจะคิดแบบนั้น ตอนนั้นเขาพึ่งจะรวบรวมสมบัติในตำนานชิ้นที่ 6 ได้และมีเวลาพักซักระยะจนกว่าจะได้รับแจ้งจุดหมายถัดไป ในขณะที่กำลังเดินทางกลับไปยังศูนย์วิจัย ฮาโรลด์ก็ได้รับโทรศัพท์จากยูสทัสแจ้งว่าให้ไปพบเขาที่ห้องทำงาน ดังนั้นฮาโรลด์จึงต้องมุ่งหน้าไปที่ห้องทำงานที่ไม่ได้กลับมาเสียนานอย่างไม่เต็มใจนัก ด้วยอารมณ์บูดและก้าวขาไปยังห้องทำงานพร้อมกับกร่นด่ายูสทัสอยู่ภายในใจที่ใช้งานเขาอย่างหนัก

หลังจากเคาะประตูไป 1 ครั้ง เขาก็เข้าไปภายในห้องและเปิดปากขึ้นทันที

 

[ มีอะไรอีก ? ] – ฮาโรลด์

[ อ้าว ฮาโรลด์เองหรอ ? อ้อดูเหมือนนายจะมีเรื่องยุ่งๆนิดหน่อย ] – ยูสทัส

[ กล้าพูดนะ แกเคยเห็นชั้นลำบากเป็นกับเขาด้วยหรอ ] – ฮาโรลด์

[ ชั้นไม่เลวร้ายขนาดนั้นหรอกน่า ] – ยูสทัส

[ เลิกไร้สาระแล้วพูดมาได้แล้วว่าเรื่องอะไร ] – ฮาโรลด์

[ นายเนี้ยอารมณ์บูดเสียจริงนะ งั้นชั้นจะข้ามๆรายละเอียดไปละกัน นายจำลีฟาได้มั้ย ? ] – ยูสทัส

[ ….. มีอะไรเกี่ยวกับเธอ ? ] – ฮาโรลด์

 

ทันทีที่ชื่อของลีฟาถูกเอ่ยขึ้นมาจากปากของยูสทัส ฮาโรลด์เกือบเผลอหลุดออกมาทางสีหน้า เขาพยายามอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อรักษาใบหน้านิ่งๆเอาไว้ แต่ว่า ดูเหมือนยูสทัสจะสามารถมองทะลุหน้ากากที่ฮาโรลด์กำลังสวมเอาไว้และ ขว้างระเบิดเข้ามาอย่างไร้ความปราณี

 

[ ดูเหมือนว่าช่วงนี้เธอจะกลับมาขุดคุ้ยข้อมูลเกี่ยวกับนาย อยากให้ชั้น”กำจัด”เธอให้มั้ย ? ] – ยูสทัส

 

มีเรื่องให้ฮาโรลด์ปวดหัวอีกแล้ว ก่อนหน้านี้ก็ คลอเล็ต กับ ฮิวโก้ และตอนนี้ก็ลีฟา ทำไมเจ้าพวกนี้ถึงชอบทำในสิ่งที่แตกต่างจากเนื้อเรื่องของเกมส์จังฟร่ะ ?

ด้วยเหตุนี้ นั้นก็หมายความว่าลีฟาเป็นที่เพ่งเล็งของยูสทัสอย่างที่ฮาโรลด์กลัวว่าจะเกิดขึ้น 

นี่มันชิบหายแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลย คำว่า “กำจัด” ที่ยูสทัสเอ่ยออกมานั้นหมายถึง “ฆ่า” เธอทิ้งแน่ๆ

แม้ฮาโรลด์อยากจะคัดค้านไม่ให้ยูสทัสทำแบบนั้น แต่ถ้าเขาแสร้งทำเป็นว่าไม่แยแส ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาและปล่อยให้ยูสทัสตัดสินใจเอง สุดท้าย ลีฟาคงถูกยูสทัสฆ่าปิดปากหรือโดนเขาหลอกใช้ให้ทำอะไรบางอย่างในแผนการของเขา

ดังนั้น ฮาโรลด์จึงไม่สามารถอยู่เฉยได้ และคงต้องลงมือทำอะไรสักอย่าง

 

[ …. ตอนนี้ยัยนั้นอยู่ที่ไหน ? ] – ฮาโรลด์

[ โอ้ว? นายจะไปกำจัดเธอด้วยตัวเองเลยหรอ ? ] – ยูสทัส

[ แล้วมีปัญหาอะไรมั้ยล่ะ ? ] – ฮาโรลด์

[ จริงๆ ก็ไม่ แต่ … ] – ยูสทัส

[ อยากจะพูดอะไรกันแน่ ] – ฮาโรลด์

[ ชั้นแค่ประหลาดใจเฉยๆ คือ– ชั้นหมายถึง ชั้นไม่เคยนึกเลยว่านายจะเป็นโลลิค่อน ] – ยูสทัส

[ ไปตายซะ ไอ้เวร ] – ฮาโรลด์

 

หลังจากรู้ที่อยู่ของลีฟาแล้ว ฮาโรลด์ก็ออกจากห้องทดลองไปพร้อมกับด่ายูสทัสทิ้งท้ายที่กล่าวหาว่าเขาเป็นโลลิค่อน

 

 

———————-

 

 

จากเรื่องราวที่ลีฟาได้ยินมาจากเอลล์ มีเรื่องลึกลับเกิดขึ้นระหว่างตอนที่ฮาโรลด์ถูกตัดสินประหารชีวิตและตอนที่ฮาโรลด์กลายมาเป็นตัวทดลองให้กับศูนย์วิจัยแห่งนี้ และยังมีจุดที่น่าสงสัยอีกหลายๆอย่าง แถมตอนที่ได้ฟังเรื่องอดีตของฮาโรลด์จากปากของยูสทัสจึงรู้ว่าเหตุการณ์ที่ฮาโรลด์ถูกประหารนั้นเพราะมีคนบ่งการอยู่เบื้องหลัง

ดังนั้น ลีฟาคิดว่า หากเธอสามารถค้นพบความจริงของเรื่องนี้ได้ เธอก็จะสามารถเข้าใจสถานการณ์โดยรอบของฮาโรลด์ได้เช่นกัน และบางทีอาจจะสามารถรู้ถึงเป้าหมายอะไรกันแน่ที่ฮาโรลด์ยอมเอาชีวิตเป็นเดิมพันเพื่อทำมันให้สำเร็จ

บางที เรื่องที่เธอกำลังทำอยู่ตอนนี้อาจถูกมองว่าไร้ประโยชน์ แต่เมื่อรู้ว่าเวลาชีวิตของฮาโรลด์กำลังใกล้จะหมดลง เธอเองก็ไม่อาจอยู่เฉยได้

นั้นเพราะเธอเชื่อว่า มันจะต้องมีวิธีอะไรบางอย่างที่สามารถช่วยเหลือฮาโรลด์ได้

ถึงเธอจะพูดออกไปแบบนั้นกับฮาโรลด์ ไอ้ผู้ชายประหลาดคนนั้นคงคำรามใส่เธอแทนที่จะขอบคุณเสียมากกว่า นั้นคือเหตุผลที่เธอเริ่มสืบค้นข้อมูลเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ในตอนที่ฮาโรลด์ถูกส่งตัวไปยังสภาโดยไม่บอกให้เขารู้

และหลังจากนั้นประมาณ 1 เดือนที่เธอเริ่มขุดคุ้ย ตอนนี้ฮาโรลด์ได้มายืนอยู่ต่อหน้าเธอพร้อมกับอารมณ์หงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด

และที่ๆเธอและเขาอยู่ ณ ตอนนี้ ดูๆแล้วน่าจะภายในอาคารแหน่งหนึ่ง แต่เพราะไม่มีหน้าต่าง ดังนั้นเธอจึงเดาว่าน่าจะเป็นห้องใต้ดิน

และที่ว่าทำไมเหตุการณ์ถึงมาลงเอยแบบนี้ นั้นเพราะ ตอนนั้นลีฟายังอยู่ภายในเมืองหลวง และตระเวณหาข่าวต่างๆภายในเมือง ในขณะที่เธอเดินผ่านตรอกร้างแห่งหนึ่ง เธอก็ถูกลักพาตัว ร่างกายของเธอถูกมัด สายตาถูกปิดทำให้มองอะไรไม่เห็น และก่อนที่เธอจะได้ร้องขอความช่วยเหลือ ปากของเธอก็ถูกอุด เธอถูกลักพาตัวไปโดยไม่สามารถขัดขืนใดๆได้เลย หลังจากนั้นไม่นาน ผ้าที่กำลังปิดตาของเธอก็ถูกเปิดออก และพบกับฮาโรลด์ที่กำลังมองมาพร้อมกับเส้นเลือดที่ปุดๆขึ้นที่ขมับ

ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน และไม่รู้ว่าถูกพามาที่นี่ด้วยวิธีการอะไร แต่ว่าตั้งแต่วินาทีที่เธอถูกลักพาตัวจนถึงปัจจุบัน เธอรู้สึกว่าคนลงมือมีเพียงคนเดียว ดังนั้นเหตุการณ์นี้คงเป็นฝีมือของฮาโรลด์

 

[ นี่เธอทำบ้าอะไรอยู่ ? ] – ฮาโรลด์

 

น้ำเสียงของฮาโรลด์ฟังดูไม่พอใจเป็นอย่างมาก 

 

[ … ก็ไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย เฮ้ แก้มัดให้ฉันก่อนสิยะ ] – ลีฟา

 

แขนทั้ง 2 ข้างและลำตัวของเธอถูกจับมัดไว้กับเก้าอี้ แม้ว่าเธอจะพยายามขัดขืนดิ้นไปดิ้นมา แต่ฮาโรลด์ก็ไม่สนใจ

 

[ ตอบคำถามของชั้น นี่เธอกำลังทำบ้าอะไรอยู่ ? ] – ฮาโรลด์

 

น้ำเสียงและแววตาของฮาโรลด์เริ่มจะทิ่มแทงมากขึ้น เห็นได้ชัดว่าแผนการตีหน้าซื่อของลีฟาไม่ได้ผล

ฮาโรลด์คงรู้อยู่แล้วว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ มิฉะนั้น ฮาโรลด์คงไม่ลงมือทำอะไรแบบนี้ และคงไม่อารมณ์เสียขนาดนี้

ในเมื่อเรื่องดำเนินมาถึงขึ้นนี้แล้ว คงไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไร ลีฟาจึงเริ่มเปิดปากของเธอ

 

[ … ฉันกำลังสืบเรื่องราวอดีตของนาย … ] – ลีฟา

[ เธอทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร ? ] – ฮาโรลด์

[ … นั้นเพราะ ฉันไม่อยากให้นายตาย … บางที ฉันอาจเจอหนทางที่สามารถช่วยชีวิตของนายได้ .. ] – ลีฟา

 

นั้นคือความรู้สึกที่แท้จริงของลีฟา มันคือเหตุผลที่ทำให้ลีฟาพยายามอยู่แบบนี้ เธอไม่รู้ว่าเหลือเวลาอีกแค่ไหนกว่าฮาโรลด์จะตาย และต่อให้เธอช่วยเหลือของเขาได้จริงๆ อายุของฮาโรลด์คงยืดออกไปอีกหน่อยเท่านั้น และแถมโอกาสที่เธอจะหาทางช่วยเหลือเขาได้มันแทบจะเป็น 0 เสียด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตาม ต่อให้การกระทำของเธอจะไร้ความหมาย แต่เธอก็จะไม่ยอมแพ้ต่อชีวิตของฮาโรลด์ แม้ว่าฮาโรลด์จะนิสัยแย่ ปากเสีย ขี้เหยียดหยาม แต่เขาก็เป็นคนแรกที่เข้าใจและยอมรับในความพยายามของเธอ ซึ่งมันก็เหมือนกับการยอมรับในตัวตนของเธอ

แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ไม่มีใครสามารถเข้าใจได้ และยินดีไปกว่าตัวของลีฟาเอง

 

[ หยุดซะ และอย่าทำแบบนี้อีก ] – ฮาโรลด์

[ ไม่ ฉันจะไม่หยุด ] – ลีฟา

[ หยุดพูดจาไร้สาระ เธออยากตายนักใช่มั้ย ? ] – ฮาโรลด์

[ ฉันรู้ดีว่าสิ่งที่ฉันทำมันเสี่ยงแค่ไหน ] – ลีฟา

 

นั้นเพราะ การที่เธอสืบค้นอดีตของฮาโรลด์อาจทำให้เธอถูกฆ่าปิดปากได้ ยิ่งพบว่าเรื่องนี้ผิดปกติขึ้นเท่าใด นั้นยิ่งแสดงให้เห็นชัดว่าสถานการณ์ของฮาโรลด์นั้นร้ายแรงแค่ไหน

บางที สิ่งเหล่านี้อาจดูธรรมดาไปเลยหากเทียบกับเป้าหมายของฮาโรลด์ที่เขาพยายามจะทำมันให้สำเร็จแม้ว่าจะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม และสำหรับลีฟา เธอเองก็ไม่อาจอยู่เฉยได้เช่นกัน

บางที อาจเพราะเขารู้สึกเจตจำนงอันแรงกล้าของเธอ ฮาโรลด์จึงเปลี่ยนวิธีการโน้มน้าวของเขา

 

[ เธอทำแบบนี้ทำไม ? อยากให้ชั้นรู้สึกเป็นหนี้เธอรึไง ? ] – ฮาโรลด์

[ ไม่ มันตรงกันข้ามเลยต่างหาก ] – ลีฟา

[  ? ] – ฮาโรลด์

[ ฉันอยากจะตอบแทนนาย และฉันยินดีที่จะเสี่ยงชีวิตเพื่อมัน ] – ลีฟา

 

แม้ว่าลีฟาจะไม่ได้เข้มแข็งแบบฮาโรลด์ แต่เธอรู้สึกภูมิใจที่เธอสามารถแสดงความรู้สึกออกไปอย่างตรงไปตรงมาต่อหน้าเขาได้

แต่ว่าฮาโรลด์ยังคงมีสีหน้าสงสัย เขาไม่เข้าใจว่าลีฟาอยากตอบแทนเรื่องอะไร

 

[ ชั้นจำไม่เห็นได้ว่าเคยไปสร้างบุญคุณอะไรกับเธอสักหน่อย ] – ฮาโรลด์

[ ถึงฉันบอกนายไป นายก็คงไม่เข้าใจอยู่ดีนั้นแหละ ] – ลีฟา

 

มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่ฮาโรลด์จะคาดคั้นถามถึงแรงจูงใจของลีฟาที่มีต่อเขา ยังไงซะ ก็ไม่มีทางที่จะโน้มน้าวให้เธอเปลี่ยนใจได้อยู่แล้ว

 

[ … ถ้าเธออยากตอบแทนชั้นจริงๆ งั้นก็ทำตามที่ชั้นสั่งซะสิ ] – ฮาโรลด์

[ นั้นมันคนละเรื่องกัน ! สิ่งที่ฉันอยากจะทำนั้นคือช่วยเหลือนายต่างหาก ] – ลีฟา

[ ชั้นไม่เคยขอให้ทำซักหน่อย และมันก็ไม่จำเป็น ] – ฮาโรลด์

[ ฉันอยากจะช่วยนายเพราะฉันอยากจะช่วย ไม่ว่านายจะขอหรือไม่ก็ตาม ฉันก็จะช่วยอยู่ดี ! ] – ลีฟา

 

ฮาโรลด์ที่ไม่อยากให้ใครเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องของเขา และลีฟาที่อยากจะทำทุกๆอย่างที่สามารถช่วยเหลือเขาได้

ไม่ว่าจะเถียงกันไปถึงไหน ความคิดของทั้งสองก็เป็นได้แค่เส้นขนานที่ไม่มีวันมาบรรจบกันเท่านั้น ในที่สุด หลังจากเถียงกันอยู่เกือบชั่วโมง ในที่สุดทั้งสองก็เริ่มเผยสัญญาณแห่งความเหนื่อยล้าออกมาให้เห็น

และวิธีเดียวที่จะจบเรื่องนี้ได้คือต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมแพ้เท่านั้น

 

[ ยัยงี่เง่า ! ] – ฮาโรลด์

[ ไอ้คนที่พูดก็เหมือนกัน ! ] – ลีฟา

[ ….. นี่คือการเตือนครั้งสุดท้าย หยุดขุดคุ้ยเรื่องในอดีตของชั้น! ] – ฮาโรลด์

 

ฮาโรลด์กล่าวออกมา พร้อมกับจับไปที่ดาบที่เอวของเขา อย่างไรก็ตาม ลีฟาก็ตอบกลับโดยไม่ถอยใดๆทั้งสิ้น

 

[ ฉันขอปฎิเสธ ] – ลีฟา

[ … โอ้ว จะเอาแบบนี้ใช่มั้ย ? ] – ฮาโรลด์

 

“ชวิ้ง”  ฮาโรลด์ดึงดาบของเขาออกมาจากฝัก มันคือดาบสีดำที่ลีฟาเคยเห็นมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว

และบนใบดาบนั้น มีภาพเงาของลีฟาสะท้อนอยู่

 

[ ดูเหมือนว่าการเจรจาจะล้มเหลว ] – ฮาโรลด์

[ ใช่ ดูเหมือนว่าจะเป็นแบบนั้น ] – ลีฟา

 

ฮาโรลด์เหวี่ยงดาบออกไปอย่างไม่ลังเล และคมดาบนั้นก็ตัดผ่านร่างของลีฟา—– ไม่สิ ตัดแค่เชือกที่มัดลีฟาอยู่เท่านั้น

เชือกเหล่านั้นล่วงหล่นลงที่พื้น พร้อมกับลีฟาที่ได้รับอิสระภาพคืนมา ฮาโรลด์ได้แต่เดาะลิ้นด้วยความไม่พอใจพร้อมกับเก็บดาบเข้าฝัก นั้นก็หมายความว่าฮาโรลด์ยอมแพ้แล้ว

ซึ่งตัวของลีฟาเองก็ไม่ได้แปลกใจเท่าไหร่ เพราะเธอรู้ดีว่าถึงฮาโรลด์จะมีนิสัยแบบนี้แต่เขาเป็นคนที่ใจดีอย่างน่าประหลาด

แต่ปัญหาคือ มันยากมากที่จะสามารถเข้าใจความใจดีของเขาได้

 

[ ..  ลีฟา เธอแน่ใจนะที่อยากจะช่วยชั้นจริงๆ ? ] – ฮาโรลด์

[ ใช่ ] – ลีฟา

 

ขณะมองเข้าไปในดวงตาของฮาโรลด์ ลีฟาก็ผงักหน้าของเธออย่างหนักแน่น นั้นก็เพื่อที่เธอจะสามารถถ่ายทอดความรู้สึกของเธอให้ชายหัวบ้องตื้นคนนี้ได้รับรู้ แม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตาม

 

[ ถ้างั้น เธอก็ต้องทำตามที่ชั้นบอกถ้ายังไม่อยากตาย เพราะถ้าเธอลงมือเองตามใจชอบ หมอนั้นต้องกำจัดเธอแน่ ] – ฮาโรลด์

[ ใคร ? ] – ลีฟา

[ ยูสทัส ไม่ก็สักคนที่เป็นลูกน้องของเขา ] – ฮาโรลด์

[ … เข้าใจแล้ว ] – ลีฟา

 

ลีฟาก็เดาๆไว้ว่าต้องเป็นคนๆนี้ แม้มีหลายๆเรื่องที่ลีฟาอยากจะถามเกี่ยวกับไอ้คนหัวขาวคนนั้น แต่เธอก็ได้แต่กลืนคำถามเหล่านั้นลงไป

 

[ แล้ว? ฉันต้องทำอะไร ? ] – ลีฟา

[ สำหรับตอนนี้ หนีออกจากเมืองหลวงไปซะ ] – ฮาโรลด์

[ นายคงไม่ได้คิดจะกำจัดฉันอีกคนใช่มั้ย ? ] – ลีฟา

[ ชั้นก็อยากจะทำแบบนี้ แต่ว่ารอบนี้ชั้นจะไปกับเธอด้วย ] – ฮาโรลด์

 

ฮาโรลด์เคยกล่าวเอาไว้ว่า สถานะของเขาปัจจุบันทำให้เขาเคลื่อนไหวตามใจชอบไม่ได้ แต่การที่เขาถึงกับยอมไปพร้อมกับเธอ เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์ของเธอคับขันมาก บางทีชีวิตของเธออาจกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้ายเลยก็ได้

และนั้นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมฮาโรลด์ถึงรีบเข้ามาคุยกับเธออย่างเร่งรีบ

 

[ ฉันเข้าใจแล้ว แล้ว? พวกเราจะต้องไปที่ไหน ? ] – ลีฟา

 

ขณะที่ลีฟากล่าวออกมาเช่นนั้น สีหน้าของฮาโรลด์ก็บิดเบี้ยวกว่าทุกครั้งที่เคยเป็นมา เขาได้แต่ถอนหายใจและกล่าวชื่อสถานที่ที่ทั้ง 2 กำลังจะมุ่งหน้าไป

 

[ ไปทางทิศตะวันออกจากที่นี่ ที่ดินแดนของตระกูลสุเมรากิ ชั้นมีงานที่จะต้องให้เธอเป็นคนจัดการที่นั้น ] – ฮาโรลด์

My Death Flags Show No Sign of Ending

My Death Flags Show No Sign of Ending

Status: Ongoing
เมื่อรู้สึกตัวอีกที เด็กหนุ่มมหาลัยธรรมดาๆอย่าง ฮิราซาวะ คาซุกิ ก็ดันมาอยู่ในร่างของตัวละครในเกมส์ ยิ่งกว่านั้น เขาดันมาอยู่ในร่างของ ” ฮาโรลด์ สโตร์ก” สุดยอดตัวร้ายที่มีคนเกลียดมากที่สุดในเกมส์ เจ้าของฉายา [ ราชาสวะ ] สำหรับเขาตอนนี้ มองไปทางไหนก็เจอแต่ธงตายอยู่รายล้อมเต็มไปหมด! คาซูกิจะหาทางหลบเลี่ยงธงตายเหล่านั้นได้หรือไม่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท