นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature) – ตอนที่ 5 สถานะสูงส่ง

นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature)

ตอนที่ 5 – สถานะสูงส่ง

 

ชิ่งเฉินก็เคยคิดว่าจะมีคนอื่นที่บนแขนก็ปรากฏเลขนับถอยหลังขึ้นมาหรือไม่

ตอนนี้ดูไปการคาดเดาของเขาสุดท้ายกลายเป็นความจริง

ผู้ที่ทะลุมิติมีเท่าไหร่ หลายร้อย? หลายพัน?

คนที่ทะลุมิติมายังโลกนี้ต้องมีไม่น้อย แค่เรือนจำนี้ก็มีสองคนแล้ว อย่าว่าแต่โลกภายนอกเรือนจำเลย

 “คนใหม่ที่มาครั้งนี้น่าสนใจนิดหน่อยนะ เหมือนคนโง่เลย” มีคนหัวเราะคิกคัก เอ่ยว่า “ข้าได้ยินว่าเขาเข้ามาเพราะโดนตัดสินโทษ 7 ปีจากการเลี่ยงภาษี?”

“ทุกวันนี้คนที่กล้ายั่วหน่วยงานเก็บภาษีไม่ใช่คนโง่แล้วคืออะไร……”

ชิ่งเฉินมองไปทางต้นเสียง เป็นชายหนุ่มอ่อนวัยที่ขาทั้งคู่ติดตั้งจักรกล อีกฝ่ายเห็นเขามองมาก็กระตุกมุมปากขึ้นแล้วหัวเราะว่า “นี่ คนมาใหม่ แกเตรียมตัวพร้อมแล้วเหรอ”

กลุ่มคนรอบด้านระเบิดเสียงหัวเราะทันที 

ชิ่งเฉินขมวดคิ้วแต่ไม่ได้สนใจ เขามองไปทางเด็กวัยรุ่นที่ถูกโดรนล้อมเอาไว้คนนั้นใหม่อีกครั้ง เขาเคยเห็นอีกฝ่าย

ชิ่งเฉินปีนี้อายุ 17 ปี อยู่ที่โรงเรียนสอนภาษาต่างประเทศเมืองลั่วชั้นมัธยมปลายปีสอง

ส่วนเด็กวัยรุ่นที่พังทลายคนนี้อยู่ชั้นมัธยมปลายปีหนึ่ง

นี่ทำให้ชิ่งเฉินประหลาดใจอยู่บ้าง อย่าบอกนะว่าตำแหน่งก่อนทะลุอยู่ใกล้ ตำแหน่งหลังทะลุก็จะมีระยะทางใกล้กันมากด้วยเหรอ

ชิ่งเฉินยังค้นพบเรื่องราวหนึ่ง : คนที่นี่ทั้งหมดล้วนพูดจีนกลาง ไม่มีสักคนที่พูดสำเนียงท้องถิ่น

ทันใดนั้นเอง ยามหุ่นยนต์กำลังพุ่งขึ้นมาตามบันได ฝีเท้าทุกก้าวล้วนสามารถก้าวข้ามขั้นบันไดห้าขั้น มาพร้อมกับเสียงระบบไฮโดรลิกอันเป็นเอกลักษณ์

เด็กวัยรุ่นคนนั้นร้องไห้จนไม่เป็นผู้เป็นคนแล้ว

คนทั่วไปพบกับ “คนบ้านเดียวกัน” ในสถานที่แปลกหน้าล้วนจะเกิดความรู้สึกปลอดภัยอย่างไร้สาเหตุประเภทหนึ่ง

แต่ชิ่งเฉินไม่ได้มีความรู้สึกประเภทนี้เลย เขามองดูเด็กวัยรุ่นที่แทบจะพังทลายลงไปแล้วจึงตระหนักว่า “คนบ้านเดียวกัน” ไม่แน่ว่าจะสามารถช่วยเหลือคุณได้ กลับกันอาจจะกลายเป็นตัวถ่วงอย่างหนึ่ง

ไม่ใช่ทุกคนที่เผชิญหน้ากับอารยธรรมจักรกลที่เพิ่งจะมาเยือนนี้แล้วยังจะสามารถรักษาความสงบนิ่งเอาไว้ได้

ชิ่งเฉินยืนอยู่ที่เดิม สำรวจเรือนจำป้อมปราการ

เขามองสำรวจเรือนจำป้อมปราการ 

หุ่นยนต์ 9 ตัวที่เพิ่งจะพุ่งมาจากอาณาเขตนอกประตูเลื่อนขึ้นบันไดมาพาเด็กวัยรุ่นผู้ตื่นกลัวคนนั้นไป

ลานส่วนรวมชั้นล่างกว้างขวางมาก ลานส่วนรวมแบ่งออกมาเป็นอีกหลายเขต : โรงอาหาร, เขตอุปกรณ์ออกกำลังกายและนันทนาการ, เขตอ่านหนังสือ, เขตสื่อโสตทัศน์ ฯลฯ…….

ส่วนริมลานส่วนรวมนี้มีประตูเลื่อนเหล็กกล้าขนาดใหญ่ 4 บานกระจายตัวอยู่

จู่ ๆ ชิ่งเฉินก็อึ้งไป เขาเห็นว่าที่โต๊ะกินข้าวในลานส่วนรวมชั้นล่างปรากฏคนสามคนขึ้นมาไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่

ชายวัยกลางคนที่ดูเหมือนอายุสี่สิบกว่าปีหนึ่งคนนั่งอยู่ ชายหนุ่มอีกสองคนคุ้มครองอยู่ข้างกายเขาอย่างยิ้มแย้ม กำลังเงยหน้าขึ้นมองประเมินเหล่านักโทษที่อยู่ชั้นบนด้วยความสนใจ

ตรงหน้าชายวัยกลางคนวางกระดานหมากรุกเอาไว้หนึ่งกระดาน บนกระดานจัดเรียงเกมท้ายเกมเอาไว้

ข้างกระดานหมากรุกบนโต๊ะกินข้าวนั้นถึงกับยังมีแมวตัวหนึ่งเก็บกรงเล็บนอนงีบอยู่ สีเทา บนหูมีขนแหลมสองกระจุก ดูแล้วคล้ายกับแมวลิงซ์นิดหน่อยแต่ไม่ใช่

แมวเมนคูน

ในเรือนจำยังสามารถเลี้ยงแมวได้ด้วย?!

ชิ่งเฉินประหลาดใจอยู่บ้าง สายตาของเขาเพิ่งจะถูก “คนบ้านเดียวกัน” ดึงดูดไปจนถึงขนาดที่เขาไม่เห็นว่าสามคนหนึ่งแมวนี้มาถึงที่ลานส่วนรวมเมื่อไหร่

ขณะนี้เห็นแค่ว่าชายวัยกลางคนจ้องมองกระดานหมากรุกอย่างจดจ่อ คล้ายกับว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนชั้นบนกับตัวเขาไม่มีความเกี่ยวข้องกันแม้แต่เศษเสี้ยว

นอกจากนั้น แม้แต่หุ่นยนต์พวกนั้นที่อยู่ในลานส่วนรวมล้วนทำเหมือนกับว่าสามคนหนึ่งแมวนี้ไร้ตัวตน

ความตึงเครียดอย่างจริงจังของชั้นบนกับความสบายปลอดโปร่งของชั้นล่างเหมือนเป็นขั้วตรงข้ามที่ชัดเจนอย่างกับโลกที่ไม่เหมือนกันสองใบ

ในสามคนนี้ ชายหนุ่มสองคนสวมใส่เครื่องแบบนักโทษฟ้าสลับขาวตามปกติ ทว่าชายวัยกลางคนกลับสวมชุดไทเก็กสีขาวล้วน

ในสภาพแวดล้อมที่หดหู่เทาทึบ สีขาวจุดนั้นโดดเด่นอย่างยิ่ง

ผู้คุมคุกเหรอ?

แต่ว่าถึงอีกฝ่ายจะสวมชุดไทเก็กแตกต่างจากนักโทษคนอื่น ๆ แต่บนกลางอกของชุดไทเก็กก็ยังปักหมายเลขผู้ต้องขังสีดำเอาไว้

คล้ายกับว่าสัมผัสได้ถึงสายตาของเขา ชายหนุ่มคนหนึ่งข้างกายชายกลางคนจู่ ๆ ก็หันหน้ามองกลับมาที่เขาอย่างเต็มไปด้วยรอยยิ้ม คล้ายกับกำลังตรวจสอบ

ชิ่งเฉินเก็บสายตากลับมาทันที

หลังจากรอจนเด็กวัยรุ่นมนุษย์โลกที่พังทลายลงไปคนนั้นถูกพาตัวไป เรือนจำป้อมปราการส่งเสียงตามสายออกมาอีกครั้งว่า “เดินไปรับประทานที่โรงอาหารตามลำดับแถว”

เสียงเพิ่งจะเปล่งออกมา ชิ่งเฉินก็เห็นนักโทษทุกคนขวาหัน จากนั้นเข้าแถวกันยาวเหยียด เดินลงบันไดเข้าไปในลานส่วนรวม

กระทั่งถึงตอนนี้ ชิ่งเฉินจึงมีโอกาสนับจำนวนนักโทษทั้งหมด รวมเขาด้วย 3,102 คน

ตอนที่รับข้าว เห็นแค่ว่านักโทษร่างหนาสองคนลากตัวชายหนุ่มคนหนึ่งไปยังห้องขังห้องหนึ่งที่อยู่ใกล้โรงอาหารที่สุด ยังมีคนไม่น้อยตามไปโห่ร้องอยู่ด้านข้าง

มีคนอธิบายว่า “รีบลากเขาเข้าห้องขัง อย่าทำร้ายเขาบนลานส่วนรวม ระวังยามหุ่นยนต์จะสอดมือ”

และในเวลาเดียวกัน ชายหนุ่มนั้นก็ดิ้นรนสุดกำลัง ร้องตะโกนว่า “ปล่อยผมนะ!”

แต่ทว่าไม่ว่าเขาจะพูดอย่างไรล้วนไม่มีคนสนใจเขา ในทางกลับกันดันสร้างเสียงหัวเราะเยาะที่หนวกหูยิ่งกว่าเดิม

ทันใดนั้น ชายชราที่ติดตั้งดวงตาจักรกลข้างหน้าชิ่งเฉินก็หมุนตัวมาหัวเราะว่า “อย่ามองไปทั่วเลย อีกเดี๋ยวก็ตาแกแล้ว”

ชิ่งเฉินเหลือบมองชายชราโดยสงบ ชายชราจู่ ๆ ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร  จู่ ๆ รู้สึกหัวใจหดเกร็งขึ้นมา

ชิ่งเฉินพบว่าคนสามคนข้างกายเข้ามาใกล้ตนเองเหมือนมีเหมือนไม่มี คล้ายกับว่าอยากจะคุมตัวเขาเอาไว้!

เขาเร่งฝีเท้าขึ้นมาทันใด ออกจากกลุ่มรับข้าว ทว่าอีกฝ่ายก็เร่งฝีเท้าขึ้นมาเหมือนกัน ล้อมเขาเอาไว้ตรงกลางอย่างกระชับแน่น!

พริบตานั้น ภาพในเรือนจำป้อมปราการนี้เสมือนจะวูบผ่านในสมองของชิ่งเฉินอย่างละเอียดหนึ่งรอบ

บนหลังคาทรงกลม ปืนกล 18 กระบอกที่เป็นเหมือนสัตว์ร้ายเหล็กกล้าเตรียมพร้อมอย่างเงียบสงบ ดุจดั่งเสือร้ายที่หลับใหล

โดรน 72 ตัวแขวนอยู่ในช่องบนเพดานโลหะสีเทา ดุจดั่งตัวต่อที่นอนหลับ

กล้องวงจรปิด 210 ตัวหมุนมุมมองช้า ๆ หุ่นยนต์ 3 ตัวถือปืนอยู่ในลานส่วนรวม

เหล่านักโทษรับอาหารจากหน้าต่างทีละคน ๆ มีคนบ่นว่าเนื้อสังเคราะห์วันนี้ไม่อร่อยเลย

บนลานส่วนรวม ทุกคนเดินไปเดินมาขวักไขว่ มีคนไปเขตออกกำลังกาย มีคนล้อมมุงพิธีรับน้อง

แต่ว่า ทุกคนล้วนหลีกเลี่ยงชายกลางคนที่จ้องมองกระดานหมากรุกผู้นั้นจากจิตใต้สำนึก

ชายคนนั้นยังคงมองดูกระดานหมากรุกอย่างจริงจัง ในบริเวณห้าเมตรรอบ ๆ ไร้คนเข้าใกล้ 

คล้ายกับเป็นแนวปะการังที่ทั้งแข็งและสงบนิ่งบนระดับน้ำทะเล น้ำทะเลคลั่งและเรือทั้งหมดล้วนต้องหลบไป

ชิ่งเฉินเร่งความเร็วทะลุผ่านการล้อมของทั้งสามคนเดินไปทางชายวัยกลางคน

เมื่อเห็นทิศทางที่เขาเดินไป คนมากมายล้วนตระหนักในทันทีว่าคนมาใหม่ผู้นี้คิดจะทำอะไร

อย่างช้า ๆ คนมากขึ้นเรื่อย ๆ หันเหสายตามาทางเขาแล้วกระซิบกระซาบ อารมณ์บนใบหน้าของนักโทษแต่ละคนล้วนคล้ายกับกำลังรอดูเรื่องตลกของเขา

เพียงแต่ชิ่งเฉินปิดหูใส่เสียงเยาะเย้ยพวกนี้ มือถือจานอาหารทะลุกลุ่มคนต่อไปเสมือนว่ารอบข้างไร้ผู้คน

ยังไม่ทันที่จะเข้าใกล้ เขาก็ถูกชายหนุ่มข้างกายชายกลางคนสกัดเอาไว้

อีกฝ่ายยิ้มกล่าวว่า “คนมาใหม่ ผมรู้ว่าคุณดีดลูกคิดรางแก้วอะไรอยู่ แต่พวกเราจะไม่ช่วยคุณ”

ชิ่งเฉินไม่สนใจเขา เพียงหันสายตาไปเบื้องหลังชายหนุ่ม เขามองชายกลางคนอย่างจริงจังแล้วกล่าวว่า “ทหารหน้าขึ้นหนึ่ง ท้ายเกมนี้ผมสามารถแก้ได้”

ชายกลางคนถึงตอนนี้จึงได้เงยหน้าขึ้นมา

พริบตาที่เขาเงยหน้า บนลานส่วนรวมจู่ ๆ ก็เงียบกริบ แมวใหญ่สีเทาก็ลืมตาขึ้นมาแล้ว

…………………………

 

ตอนที่ 6 – ทหารกล้าข้ามแม่น้ำ

นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature)

นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature)

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท