ตอนที่ 8 – เงา
จะเอาชีวิตรอดได้อย่างไรในคุกที่สัตว์ร้ายเหล็กกล้าอาละวาดแห่งนี้
ชิ่งเฉินไม่มีทางหวังเอากับลู่ก่วงอี้ซึ่งไม่รู้ที่มา เพราะเขากลัวว่าสถานะที่ตนเองมาแทนเจ้าของร่างเดิมจะเปิดเผย
แล้วเขาก็ไม่มีทางหวังเอากับคนบ้านเดียวกันคนอื่นที่มาพร้อมกับตนเอง เพราะอีกฝ่ายอนาถยิ่งกว่าตนเองอีก
ดังนั้น ชิ่งเฉินแสดงความสามารถของตนเองกับหลี่ซูถงโดยสงบ ใช้สิ่งนี้พิสูจน์ว่าตนเองเป็นคนที่มีประโยชน์
ไม่ต้องกังขาสักนิดเดียวว่าหลี่ซูถงเป็นตัวตนที่มีอภินิหารที่สุดในเรือนจำแห่งนี้ ถึงตนเองจะทำการเสี่ยงขนาดนี้แต่กลับเป็นทางออกที่ดีที่สุด
หลี่ซูถงเอามือไพล่หลังเดินจากไปสบาย ๆ เยี่ยหว่านกับแมวใหญ่ติดตามอยู่ข้างกายเขา ทว่าหลินเสี่ยวเสี้ยวที่ยิ้มซุกซนไม่รู้ว่าไปไหนแล้ว
เวลามื้อเที่ยง หลินเสี่ยวเสี้ยวมุดออกมาจากที่ไหนไม่รู้อีกแล้ว เขาเตะรองเท้าทิ้ง นั่งยอง ๆ เท้าเปล่าบนเก้าอี้ตรงข้ามกับหลี่ซูถงที่โต๊ะกินข้าว
แมวใหญ่เหลือบมองเขา เยี่ยหว่านขมวดคิ้วกล่าวว่า “ต่อหน้าบอสให้ความเคารพหน่อย”
หลินเสี่ยวเสี้ยวกลอกตา “บอสยังไม่พูดอะไรเลย แม่เยี่ยนายก็ใจกว้างหน่อยสิ”
หลี่ซูถงยิ้มกล่าวว่า “สืบถึงไหนแล้ว”
หลินเสี่ยวเสี้ยวกล่าวว่า “ข้อมูลของเขาแสดงว่าเขาเป็นนักเรียนชั้นมัธยมปลายคนหนึ่งของเมืองหมายเลข 18 พ่อแม่ตายด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ได้รับมรดกมา ไม่มีหมายจับก่อนหน้า ไม่มีประวัติอาชญากรรม ไม่มีญาติ” หลินเสี่ยวเสี้ยวกล่าว
“ทำซะสะอาดเอี่ยมเลย เขาโดนข้อหาอะไร” หลี่ซูถงถาม
“ขโมยของ แฟ้มประวัติระบุว่าเขาขโมยโทรศัพท์จอ LCD หนึ่งเครื่องที่พอให้ได้รับโทษพอดี” หลินเสี่ยวเสี้ยวกล่าว
ทำงานในระยะเวลาสั้น ๆ แค่นี้ หลินเสี่ยวเสี้ยวถึงขนาดแม้แต่แฟ้มประวัติของชิ่งเฉินก็ยังอ่านแล้ว
หลี่ซูถงหน้าตาครุ่นคิด “ลงโทษเขานานเท่าไหร่”
“ลงโทษหกเดือน” หลินเสี่ยวเสี้ยวตอบกลับ
“ต่อ” หลี่ซูถงกล่าวยิ้ม ๆ
“เมื่อกี้นี้ลู่ก่วงอี้นั่นไปสุมหัวกับเด็กนี่แล้ว”
“ท่านก็ทราบว่าก่อนหน้านี้กลุ่มตระกูลชิ่งจัดแจงลู่กวงอี้เข้ามาหนึ่งคนแล้ว” หลินเสี่ยวเสี้ยวกล่าวอย่างยิ้มแย้ม “ลู่ก่วงอี้นี่หลังจากเข้ามาก็อาศัยอวัยวะจักรกลที่เหนือชั้นของตนเองกดขั้วอำนาจดั้งเดิมในคุกมาตลอดทาง ใช้เวลาหนึ่งเดือนก็ต้านทานอีกสองฝ่ายจนกลายเป็นสภาพสามเส้า ตอนนั้นผมก็สงสัยอยู่ว่าเขามารวมคุกหมายเลข 18 เป็นหนึ่งเดียวเหรอ จนกระทั่งวันนี้ผมถึงเข้าใจ ที่แท้ลู่ก่วงอี้มาเบิกทางให้เจ้าเด็กชิ่งเฉินนี่”
หลี่ซูถงกล่าวขึ้นกะทันหันว่า “ตระกูลชิ่งอาจจะอยากเลือกเงารุ่นต่อไปแล้ว”
เยี่ยหว่านกับหลินเสี่ยวเสี้ยวอึ้งไปพร้อมกัน “เงารุ่นต่อไป? ชิ่งเฉินเป็นหนึ่งในผู้ท้าชิงเหรอ งั้นเขามาที่นี่คือเอาภารกิจมาด้วยน่ะสิ”
กลุ่มหลักทรัพย์ขนาดมหึมาต้องมีคนออกหน้า แล้วก็ต้องมีคนเบื้องหลัง
ผู้นำตระกูลของตระกูลชิ่งคือคนออกหน้า เงาคือคนเบื้องหลัง
เงาเชี่ยวชาญการทำงานสกปรก อำนาจสิทธิ์ขาดในมือหนักหนายิ่ง เป็นนายของโลกใต้ดินกลุ่มตระกูลชิ่ง นอกจากผู้นำตระกูลไม่มีใครสามารถควบคุมได้
เพียงแต่กระบวนการคัดเลือกเงาทุกรุ่นล้วนโหดร้ายเป็นพิเศษ เหมือนกับการเลี้ยงหนอนกู่*
“ดูท่าตระกูลชิ่งอยากจะรบกวนทุกคนไม่ให้ได้อยู่สงบ ๆ อีกแล้ว” หลี่ซูถงทอดถอนใจ
ระหว่างที่พูดมีนักโทษเดินมาอย่างไร้เจตนา พอห่างออกไปห้าเมตรกว่า ๆ จู่ ๆ เยี่ยหว่านก็หันหน้ามองไปทางอีกฝ่าย
นักโทษนั้นถูกสายตาข่มขู่ไปถึงวิญญาณนี้จ้องมองเข้าก็หมุนตัวเดินไปทางอื่นอย่างไม่ทันรู้ตัว
หลี่ซูถงสามคนล้วนไม่ปรึกษาหัวข้อนี้อีกต่อไป หลินเสี่ยวเสี้ยวหันมาถามว่า “เจ้านาย ถึงเขาจะเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งเงาก็ไม่จำเป็นต้องทำให้ภูมิหลังของสถานะสะอาดขนาดนี้ อย่างกับว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลชิ่งสักนิดเดียว”
หลี่ซูถงกล่าวว่า “คนของตระกูลชิ่งล้วนฉลาดอย่างกับผี ไม่ต้องเดาแล้ว รอดูไปเถอะ”
พูดไป ๆ หลี่ซูถงอุ้มแมวสีเทาตัวใหญ่บนโต๊ะขึ้นมาแนบอก ถูคางของแมวใหญ่เบา ๆ
แมวใหญ่หลับตาลงอย่างสบายอารมณ์ ทอดร่างลงนอนบนตักของหลี่ซูถงอย่างเกียจคร้าน
เขาพูดกับหลินเสี่ยวเสี้ยวว่า “ฉันยิ่งสนใจชิ่งเฉินคนนี้เข้าไปใหญ่ เธอไปลองทดสอบบุคลิกเขาดูหน่อย”
หลินเสี่ยวเสี้ยวอึ้งไป “เจ้านาย ท่านมองเขาในแง่ดีเหรอ เขากับพวกเราไม่ใช่คนเส้นทางเดียวกันนะ!”
“ฉันแค่ให้เธอไปลอบทดสอบเขาเท่านั้น ไม่ได้อยากจะทำอะไรอีก” หลี่ซูถงหัวเราะขึ้นมา “อีกอย่าง การแย่งคนจากในมือตระกูลชิ่งไม่ใช่ว่ายิ่งน่าสนใจเหรอ”
…………………………………..
*หนอนกู่ ใครอ่านนิยายกำลังภายในอาจจะคุ้น ๆ มันชอบออกมาจากตัวละครเผ่าแม้ว (พูดอีกอย่างก็คือพวกเราคนไทยคนพม่านี่แหละ…..) ที่ชอบเลี้ยงหนอนกู่ ส่วนมากจะเรียกกันว่าเป็นวิชามารนอกรีต เป็นแมลงพิษทำคุณไสยชนิดหนึ่ง ฤทธิ์มักจะบรรยายว่าสามารถทำให้คนตายได้อย่างไม่รู้ตัวตามการสั่งการของคนเลี้ยง หรือเป็นยากระตุ้นกำหนัด หรือบางทีก็แบบจะกลายเป็นหุ่นเชิดของคนทำคุณไสยเลยก็มี หนึ่งในหลักการเลี้ยงที่โด่งดังที่สุดในการเลี้ยงสัตว์พิษพวกนี้คือการเอาแมลงพิษหลาย ๆ ประเภทมาจับใส่ไหใบเดียวกันฝังดินให้มันฆ่ากันเองจนเหลือหนึ่งเดียว คาดว่าที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อก็คือสิ่งนี้ค่ะ
หลินเสี่ยวเสี้ยวชอบเรียกเยี่ยหว่านว่า “แม่เยี่ย” เป็นการแซะว่าเยี่ยหว่านจู้จี้เหมือนคุณแม่น่ะค่ะ
ตอนที่ 9 – ฝันร้าย