ตอนที่ 23 – แขกไม่ได้รับเชิญ
ในเรือนจำไม่มีความคึกคักตามปกติ ทุกคนไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าสรุปแล้วนี่เป็นคนโง่ประเภทอะไรจึงวิ่งมาที่นี่ตอแยหลี่ซูถง?
พัศดีจักรกลเข้ามาล้อมหลิวเต๋อจู้ ตอนที่พวกมันวิ่ง กลไกไฮดรอลิกในกระดูกโลหะบนตัวส่งเสียงชี่ ๆ ออกมา
หลิวเจ๋อจู้เห็นประบวนทัพนี้แล้วก็ลืมจิตใจอยากมีชื่อเสียงที่เรือนจำหมายเลข 18 ของตัวเองไปเลย
วันนี้เขาเป็นผู้ทะลุมิติชุดที่สอง เป็นครั้งแรกที่มาถึงโลกภายในซึ่งสัตว์ร้ายเหล็กกล้าอาละวาดนี้ จึงถูกเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อหน้าข่มจนหงอไปทันที
เผชิญหน้ากับการสกัดของพัศดีจักรกลและโดรน เพียงแค่สิบกว่าวินาทีเขาก็ถูกคุมตัวไว้อย่างหนาแน่นแล้วคุ้มกันไปยังเขตแดนซึ่งไม่เป็นที่รู้จักนอกลานส่วนรวม
“บอส คุณรู้สึกรึเปล่าว่าช่วงนี้มันประหลาด ๆ” หลินเสี่ยวเสี้ยวนั่งยอง ๆ บนเก้าอี้ใคร่ครวญ “เด็กที่มาวันก่อนก็บ้าไปดื้อ ๆ เลย พูดเมืองลั่ว ๆ อะไรเนี่ย ทำอย่างกับว่าตัวเองเป็นลูกหลานกลุ่มการเงินจริง ๆ วันนี้มีเจ้าโง่อย่างนี้มาอีกหนึ่งคน มาถึงก็ให้ท่านแจกเควส แจกเควสอะไรอะ”
ระหว่างที่พูด หลินเสี่ยวเสี้ยวอดไม่ได้คิดจะยื่นมือออกไปลูบแมวใหญ่บนโต๊ะ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ยื่นมือออกไป แมวใหญ่ก็จ้องมองเขาอย่างเย็นชา เขาเก็บมือกลับมาอย่างขัดเขิน
หลี่ซูถงคิด ๆ แล้วกล่าวว่า “ประหลาดสักหน่อยจริง ๆ”
หลินเสี่ยวเสี้ยวกล่าวอย่างปุบปับว่า “นี่ เจ้าเด็กชิ่งเฉินนั่นล่ะ เมื่อวานลงมากินข้าวไม่ใช่ว่ากระตือรือร้นสุด ๆ เลยเหรอ วันนี้ทำไมไม่เห็นคนแล้วล่ะ”
ในตอนนี้ชิ่งเฉินยังคงเดินอยู่บนทางเดิน เขาไม่ได้ใส่ใจหลิวเต๋อจู้ ทว่าตรงไปยังชั้นหก หาลู่ก่วงอี้ที่ยังเข้าแถวรอลงไปชั้นล่างแล้วสั่งการเสียงต่ำว่า “รอหลังกินข้าวแล้วให้คุณควบคุมตัวคนใหม่ทั้งหมด ถามพวกเขาทีละคนถึงภูมิหลังกับสถานะที่ข้างนอก”
“โอเคครับ” ลู่ก่วงอี้รีบขานรับ
ในความเห็นเขา บอสบ้านตัวเองคาดว่าอยากจะดูว่ายังมีกลุ่มอำนาจอื่นเข้ามาแย่งสิ่งของกับพวกเขาหรือไม่
ทว่าสิ่งที่ชิ่งเฉินคิดคือ ดูว่าในคนใหม่ยังมีผู้ทะลุมิติหลบซ่อนอยู่หรือไม่
ถ้าหากมีผู้ทะลุมิติจริง ๆ งั้นอีกฝ่ายจะต้องไม่มีทางปลอมแปลงตัวตนภายนอกได้
ผู้ที่สามารถอธิบายตัวตนได้อย่างชัดเจนก็คือชนพื้นเมือง อธิบายไม่ชัดจะต้องเป็นผู้ทะลุมิติ
เวลานี้ชิ่งเฉินคิดอะไรขึ้นมาได้ หลังจากลังเลเล็กน้อยก็กล่าวกับลู่ก่วงอี้ว่า “ผมรู้ว่าพิธีรับน้องเป็นธรรมเนียมของพวกคุณ แต่อย่าลงมือหนักเกินไปนะ ทุกคนล้วนไม่ได้สุขสบาย”
ลู่ก่วงอี้อึ้งไปนิด ๆ แล้วตอบรับว่า “ครับ”
ผ่านไปไม่ทันไร เขาก็กลับมารายงานชิ่งเฉินว่า “เจ้านาย สอบเสร็จแล้ว”
ชิ่งเฉินฟังลู่ก่วงอี้แนะนำสถานการณ์ของนักโทษทุกคนอย่างจริงจัง หลังเขายืนยันได้ว่าในเรือนจำไม่มีผู้ทะลุมิติอีกจึงก้าวยาว ๆ ไปนั่งที่โต๊ะรับประทานอาหารตรงข้ามกับหลี่ซูถง “วันนี้ยังจะเล่นหมากรุกไหมครับ”
“ไม่เล่นแล้ว หลายวันนี้ล้วนยังไม่เล่น” หลี่ซูถงคิด ๆ แล้วกล่าวว่า “ฉันมีเรื่องต้องคิด อีกอย่างมีแขกคนหนึ่งจะมา”
“แขก?” ชิ่งเฉินกังขา
หลี่ซูถงยิ้ม “แขกไม่ได้รับเชิญ”
เขากล่าวเสมือนไร้เรื่องราวว่า “เมื่อกี้ผมเห็นชั้นล่างวุ่นวาย เกิดเรื่องอะไรเหรอครับ”
เห็นเพียงว่าบนในหน้าหลี่ซูถงปรากฏความลังเล “ฉันก็ไม่รู้”
ชิ่งเฉินหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ ผู้ทะลุมิติถึงกับทำเอาหลี่ซูถงมึนงงไปเลย
คาดว่าหลี่ซูถงก็พบเจอกับสถานการณ์อย่างนี้เป็นครั้งแรก
ชั่วขณะนี้มีเพียงชิ่งเฉินที่รู้ว่า เจ้าโง่หลิวเต๋อจู้นี่หลังจากดูไกด์ของเหอเสี่ยวเสี่ยวก็ถือเอาหลี่ซูถงเป็น NPC เกมมาฟาร์มเอาจริง ๆ!
นับถอยหลัง 37:00:02 ทางด้านประตูเลื่อนโลหะส่งเสียงครืน ๆ ออกมา ค่อย ๆ ยกตัวขึ้น
ตอนที่ประตูเลื่อนโลหะเปิดกว้างเต็มที่กลับเห็นบุรุษศีรษะโล้นสูงสองเมตรกว่าหนึ่งคนกำลังถูกพัศดีจักรกลสิบกว่าตัวคุ้มกันเข้ามา
รอบ ๆ ตัวพวกมันยังมีโดรน 9 ตัวกำลังปิดกั้นเส้นทางหลบหนีทั้งหมดของบุรุษศีรษะโล้น
ไม่เพียงเท่านี้ ตอนที่คนคนนี้เข้ามา ปืนเมทัลสตอมเหนือเพดานโดมก็มีอยู่หกตัวค่อย ๆ หมุนมา
องศาการหมุนของปืนเมทัลสตอมนี้มีเพียง 90 องศา ไม่ใช่ 360 องศา
ดังนั้นพร้อมกับการเดินเล่นของนักโทษบึกบึนผู้นี้ พอหลุดจากระยะยิงโจมตีของปืนเมทัลสตอมบางส่วนก็จะมีปืนเมทัลสตอมตัวใหม่เข้าสู่สถานะตื่นตัวไม่ขาดตอน
ล็อคเป้าไปที่อีกฝ่ายอย่างเหนียวแน่นตั้งแต่ต้นจนจบ
นี่ยังเป็นครั้งแรกที่ชิ่งเฉินได้เห็นว่ามีคนถูกคุมตัวเดี่ยว ๆ ตอนกลางวัน แล้วก็เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นกำลังพลรักษาความปลอดภัยของเรือนจำหมายเลข 18 เคลื่อนไหวขนานใหญ่เช่นนี้
นักโทษสามพันกว่าคนหันศีรษะมองดูเงียบ ๆ ไม่มีคนพูดจา
ในเรือนจำเกิดเสียงตกกระทบอันใสกังวาน นั่นเป็นเสียงของโซ่ตรวนโลหะระหว่างเท้าทั้งคู่ของบุรุษศีรษะโล้นกระทบกับพื้น
ทั่วทั้งร่างของบุรุษศีรษะโล้นล้วนเป็นผิวหนังสีน้ำตาลแดง บนใบหน้ามีร่องรอยของการกรำแดดตลอดทั้งปี บนผิวหนังที่แขนซึ่งเปิดเผยออกมามีลวดลายสีดำเหมือนโทเท็ม แปลกประหลาดแต่ว่างดงาม
บนร่างของอีกฝ่ายไม่มีส่วนประกอบจักรกล
ก่อนหน้านี้ชิ่งเฉินรู้สึกว่าเยี่ยหว่านสูงใหญ่แข็งแรงพอแล้ว แต่เยี่ยหว่านพอเทียบกับนักโทษคนนี้แทบจะไม่มีความหมาย
หลังจากบุรุษศีรษะโล้นถูกส่งเข้าไปในเรือนจำ พัศดีจักรกลเริ่มค่อย ๆ ถอยไปข้างนอกประตูเลื่อนโลหะ แต่ไม่มีความตั้งใจที่จะปลดโซ่ตรวนโลหะที่ขาให้อีกฝ่ายสักนิดเดียว
แมวใหญ่เปลี่ยนจากท่าทางเกียจคร้านยามปกติ จับจ้องไปที่บุรุษศีรษะโล้นอย่างแน่นิ่งในอ้อมอกของหลี่ซูถง
“หลี่ซูถง!” บุรุษศีรษะโล้นมองมาที่หลี่ซูถง
ชิ่งเฉินก็มองไปทางหลี่ซูถง หลี่ซูถงยิ้มให้เขา “ฉันก็คิดไม่ถึงว่าแขกคนนี้จะตรงไปตรงมาอย่างนี้ เขาเรียกว่ากัวหู่ฉาน เธอก็น่าจะเคยได้ยินมา อีกเดี๋ยวเธอกับเยี่ยหว่านถอยไปข้างหลังหน่อย อย่าได้รับบาดเจ็บ”
เยี่ยหว่านมองชิ่งเฉินทีหนึ่ง สามารถทำให้บอสบ้านตัวเองเอ่ยเตือนเรื่องเล็กน้อยอย่างนี้เป็นพิเศษ ดูท่าระดับความรักชอบที่เจ้านายมีต่อเด็กหนุ่มนี่คาดว่ายังเหนือกว่าตนเองกับหลินเสี่ยวเสี้ยวไปอีก
ณ ตอนนี้ ลู่ก่วงอี้ที่แฝงตัวในหมู่คนมาตลอดมองดูศีรษะโล้นเลี่ยนของกัวหู่ฉานแล้วพึมพำว่า “กัวหู่ฉาน…… เขาก็ถึงกับเข้ามาแล้ว มิน่าล่ะเจ้านายพูดว่า ลงใต้มาแล้วลามะ”
ถึงกับลงตัวพอดี!
“หลังจากเจ้านายเข้ามาก็ไม่ได้หาเงื่อนงำ ทุก ๆ วันจะเล่นหมากรุกกับหลี่ซูถงแล้วก็อ่านหนังสืออย่างกับคนที่ไม่มีธุระปะปัง ที่แท้คือคิดจะรอให้กัวหู่ฉานมาแล้วหลังจากนั้นกวนน้ำให้ขุ่น ถึงเวลาพวกเรานั่งเฉยรอรับผล…… สุดยอด!” จิตใจของลู่ก่วงอี้คึกคักขึ้นมา ตอนนี้ชิ่งเฉินในสายตาของเขาเป็นนักปราชญ์ประเภทที่วางแผนแล้วค่อยเคลื่อนไหวและวางแผนการนับพันลี้ไปซะงั้นแล้ว
……………………………….
พัศดีจักรกลเราไม่ได้เปลี่ยนการแปลจากหุ่นยนต์ผู้คุมไปเองนะคะ แต่ว่าเป็นผู้เขียนที่เปลี่ยนศัพท์จีน ซึ่งเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม
ปืนเมทัลสตอม ก่อนหน้านี้แปลเป็นปืนกลล่ะมั้ง แต่เพิ่งรู้ว่าเป็นชื่อเฉพาะของปืนที่มีอยู่จริง
ตอนที่ 24 – ใจกลางของโลก