ตอนที่ 28 – กลับคืนอีกครั้ง
พัศดีจักรกลในเรือนจำหมายเลข 18 แบกศพนักฆ่าพลีชีพสามศพไปแล้ว
ในเรือนจำมีความเงียบสงบ ทุกผู้คนล้วนเงียบงัน
ชิ่งเฉินนั่งอยู่ข้างโต๊ะกินข้าวไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ สีหน้าซีดขาวอยู่บ้าง
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาสัมผัสได้ถึงความหวาดกลัว ความไม่สงบในจิตใจค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นความครั่นเนื้อครั่นตัวบนร่างกาย แม้แต่ข้าวเช้าที่เพิ่งจะกินลงไปก็ย่อยไม่ลงแล้ว
ครูในโรงเรียนสอนเขาว่าอะไรคือฟังก์ชั่น อะไรคือประธานกริยากรรม
พ่อแม่ที่บ้านสอนเขาว่าจะใช้ตะเกียบอย่างไร ซักเสื้อผ้าอย่างไร ดูแลตนเองอย่างไร
แต่ทุกคนล้วนไม่ได้สอนเขาว่าสรุปแล้วอะไรคือความตาย
เรื่องแบบนี้มีเพียงคุณได้เห็นด้วยตาตัวเองจึงจะรู้ว่าชีวิตที่หายไปต่อหน้าต่อตามันน่าตกตะลึงขนาดไหน
หลี่ซูถงมองชิ่งเฉินถามว่า “ครั้งแรกที่เป็นพยานต่อความตายหรือ”
“อืม” ชิ่งเฉินเม้มปากตอบ
“กลัวไหม” หลี่ซูถงถาม
“นิดหน่อยครับ” ชิ่งเฉินพยักหน้า
“เธอรู้ไหม คนทุกคนล้วนมีชีวิตสองครั้ง” หลี่ซูถงยิ้มกล่าว “ชีวิตครั้งที่สองจะเริ่มต้นขึ้นตอนที่เธอตระหนักว่าชีวิตมีเพียงหนึ่งครั้ง”
ตั้งแต่ชั่วขณะนั้น คุณจะเริ่มบอกกับตัวเองถึงความสำคัญของเวลา และตระหนักอย่างชัดเจนว่าตนเองเคยเสียเวลาไปมากน้อยเท่าไหร่แล้ว
ไม่รู้เพราะอะไร เพราะคำพูดอย่างนี้ประโยคเดียว ในใจชิ่งเฉินสงบนิ่งขึ้นมาโดยพลัน
หลี่ซูถงมองเขาถามว่า “นักฆ่าพลีชีพสามคนนี้มีความเป็นไปได้มากว่าพุ่งเป้ามาที่ฉัน ดังนั้นเธอช่วยฉันหาพวกเขาออกมา นับว่าฉันติดค้างน้ำใจเธอหนึ่งที เธอสามารถเอามาแลกเปลี่ยนสิ่งของหนึ่งอย่างที่ฉันนี่ คิดว่าจะแลกอะไร”
ตั้งแต่ที่เริ่มเล่นหมากรุก หลี่ซูถงถามเขามาหลายครั้งแล้วว่าคิดจะแลกอะไร
ชิ่งเฉินกล่าวว่า “ผมอยากได้รายชื่อสมาชิกของกลุ่มการเงินตระกูลหลี่หนึ่งชุด”
“พิลึก” หลี่ซูถงกล่าว “ทำไมเธอไม่แลกหนทางเปลี่ยนเป็นผู้เหนือมนุษย์กับฉัน”
ชิ่งเฉินกล่าวต่อว่า “พอเวลาสุกงอมคุณก็จะมอบให้ผมเอง ไม่ต้องแลก”
รอยยิ้มของหลี่ซูถงยิ่งมายิ่งกว้าง “เธอฉลาดกว่าที่ฉันคิด แล้วก็มีความอดทนยิ่งกว่า เข้าใจถึงการอดออม แต่สิ่งที่เธอพูดไม่ผิดเลย สิ่งของบางอย่างไม่ใช่สิ่งที่จะใช้มาแลกเปลี่ยน เวลามาถึงย่อมจะได้รับเอง ถึงเรื่องที่เธอไม่เคยเห็นเลือดจะทำให้ฉันผิดหวังอยู่บ้าง แต่ฉันมาคิดดูให้ละเอียดแล้ว ถ้าหากเธอเมินเฉยต่อชีวิต ฉันกลับจะรู้สึกไม่น่าสนใจ”
พูดจบ เขาให้หลินเสี่ยวเสี้ยวไปเอารายชื่อสมาชิกตระกูลหลี่มาหนึ่งชุด “ฉันอยากรู้มากเลยว่าเธอต้องการสิ่งของนี้ไปทำอะไร”
“ผมน่าจะไม่ต้องอธิบายวัตถุประสงค์กับคุณสินะครับ?” ชิ่งเฉินถาม
“ช่างเถอะ ๆ ฉันไม่ถามแล้ว” หลี่ซูถงโบกไม้โบกมืออย่างหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ “นี่เป็นการคืนน้ำใจของเธอ เธอคิดจะทำยังไงก็ทำยังงั้น”
……
ตกกลางคืน ชิ่งเฉินรอคอยการนับถอยหลังกลับอยู่ในห้องขัง
เดิมทีเขานึกว่าวันนี้หลินเสี่ยวเสี้ยวยังจะมาทำการทดสอบฝันร้าย ผลคือรอเสียเปล่า
บางทีอีกฝ่ายอาจรู้สึกว่าตนเองไม่ได้ถูกจำกัดจากฝันร้ายแล้ว ดังนั้นทดสอบไปก็ไม่มีประโยชน์
หรือบางที หลี่ซูถงรู้สึกว่าไม่ต้องทดสอบอีกแล้ว
อย่างเลือนราง ชิ่งเฉินสัมผัสได้ว่าระยะทางของตนเองกับเส้นทางของผู้เหนือมนุษย์ยิ่งมายิ่งเข้าใกล้แล้ว
เวลานับถอยหลังยังไม่ถึงเลขศูนย์ เขากลับนอนลงบนเตียงเย็นเฉียบหลับตาลงนอน ไม่เหมือนกับการรอกลับคืนอันตึงเครียดหลายครั้งก่อนหน้านี้ ชิ่งเฉินในขณะนี้หลังจากได้เป็นพยานต่อความตายสภาพจิตใจกลับสงบนิ่งยิ่งขึ้น
ตอนที่เขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก็ได้นอนอยู่ในห้องเล็ก ๆ บนถนนสิงสู่ของตนเองแล้ว เสียงร้องจิ๊บ ๆ ของนกดังมาจากนอกหน้าต่าง ท้องฟ้าก็สว่างแล้ว
เขามองดูลายเส้นสีขาวบนแขน นับถอยหลัง 40:20:21
ดูท่ายังเป็นสองวัน
“กระบวนการทะลุมิติช่างไร้สุ้มเสียง แม้แต่คนที่นอนหลับก็ยังไม่มีทางสะดุ้งตื่น” ชิ่งเฉินแอบครุ่นคิดกับตัวเอง
สิ่งที่ประหลาดคือ ขณะนี้เขาเริ่มตั้งตาคอยที่จะได้ทะลุมิติอีกครั้งหนึ่งแล้ว
เขาสวมเครื่องแบบชุดนักเรียนเตรียมตัวจะออกไป ผลคือเพิ่งเปิดประตูก็เห็นเจียงเสวี่ยกำลังจูงหลี่ถงอวิ๋น
“อรุณสวัสดิ์ครับน้าเจียงเสวี่ย ทะลุมิติครั้งนี้……ไม่เป็นไรนะครับ?” ชิ่งเฉินถาม
“ไม่เป็นไร” เจียงเสวี่ยยิ้มเอ่ย “ฉันกำลังเตรียมจะส่งเสี่ยวอวิ๋นไปโรงเรียน คืนนี้หลังเลิกเรียนแล้วคุณมาที่บ้านนะ ฉันจะซื้อปลากับซี่โครงสักหน่อย ฉลองกัน”
“ฉลองอะไรครับ” ชิ่งเฉินสงสัย
“ตอนค่ำแล้วค่อยพูดเถอะ ถึงเวลาคุณก็จะรู้” เจียงเสวี่ยจากไปพร้อมรอยยิ้ม ทิ้งไว้เพียงชิ่งเฉินที่มีสีหน้าครุ่นคิด
ระหว่างทางชิ่งเฉินเปิดโทรศัพท์มือถือจ้องมองฮอตเสิร์ช ฮอตเสิร์ชหนึ่งอันดึงดูดความสนใจของเขา : ข่าวต่างประเทศรายงานว่า บนเว็บมืดมีคนขายข่าวซึ่งระบุว่าฆ่าผู้ทะลุมิติตายแล้วไม่ได้จะรับสืบทอดโอกาสทะลุมิติมาเลย
ตอนที่ชิ่งเฉินเห็นข่าวนี้ก็ตะลึงไปเลย เพราะเบื้องหลังถ้อยคำสั้น ๆ ไม่กี่คำนี้มันหมายความว่ามีชีวิตหนึ่งชีวิตที่สูญสิ้นไปแล้ว
หรืออาจจะชีวิตมากมาย
ความเป็นจริงมักจะโชกเลือดยิ่งกว่าที่ตัวหนังสือแสดงออกมา
ตอนที่ถึงโรงเรียน เขาก็พบว่าที่ห้องเรียนข้าง ๆ มีคนกลุ่มใหญ่มารวมตัวมุงดูกันอีกแล้ว
ชิ่งเฉินดึงตัวอวี๋จวิ้นอี้กรรมการห้องตัวเองที่กำลังเข้าร่วมความครึกครื้นอยู่วงนอกมาถามว่า “เกิดอะไรขึ้นเหรอ ดูอะไรกันน่ะ”
อวี๋จวิ้นอี้อธิบายว่า “ก่อนหน้านี้ไม่ใช่พูดว่าห้องข้าง ๆ มีผู้ทะลุมิติออกมาคนหนึ่งเหรอ ชื่อหลิวเต๋อจู้ เมื่อกี้เขามาถึงโรงเรียนแล้ว ทุกคนกำลังถามเขาเรื่องของการทะลุมิติไง”
ชิ่งเฉินอึ้งไป เขาคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายถึงกับมาโรงเรียนแล้ว
หมอนี่พอเข้ามาก็ถูกพัศดีจักรกลพาตัวไป ในสองวันที่ทะลุมิติ ชิ่งเฉินไม่ได้พบเห็นอีกฝ่ายอีกเลย
ตามการคาดการณ์ของชิ่งเฉิน อีกฝ่ายน่าจะทำเรื่องพักการเรียนอย่างหวงจี้เซียน แต่คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายตอนนี้กำลังนั่งอยู่ในห้องเรียนเหมือนกับคนที่ไร้เรื่องราว
ขณะนี้ด้านข้างหลิวเต๋อจู้ล้อมเต็มไปด้วยเพื่อนนักเรียน มีคนถามเสียงดังว่า “นายหลังจากทะลุมิติไปแล้วปรากฏตัวขึ้นที่ไหนล่ะ”
“นายทำไมไม่มีอวัยวะจักรกลเลยอะ ฉันเห็นคนเขาที่เป็นผู้ทะลุมิติตั้งเยอะที่มี”
หลิวเต๋อจู้เหมือนถูกถามจนร้อนรนแล้ว “ฉันทะลุมิติจริง ๆ นะ!”
“งั้นนายทำไมไม่มีอวัยวะจักรกลล่ะ”
หลิวเต๋อจู้เกาคอ “ไม่ใช่ว่ายังมีคนตั้งเยอะเหรอที่ไม่มีอวัยวะจักรกล อีกอย่างมีอวัยวะจักรกลก็เป็นเรื่องดีเหรอ จะบอกให้นะ ฉันทะลุมิติไปในคุกหมายเลข 18 เจอหลี่ซูถงแล้ว!”
ในห้องเรียนเงียบสงบลงทันที
……………………………………
ตอนที่ 29 – จริงและหลอก