นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature) – ตอนที่ 50 รู้ใจโดยไม่ต้องพูด

นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature)

ตอนที่ 50 – รู้ใจโดยไม่ต้องพูด

 

หลิวเต๋อจู้นั่งอยู่บนพื้นอย่างมึนงง

เจิ้งหย่วนตงเห็นหลิวเต๋อจู้ไม่พูดไม่จาก็หันหน้าเดินไปหา MPV สีดำที่พลิกข้าง เขาเด้งมีดสีแดงกล่ำออกมาจากแขน โบกมือฟันรถจนขาด

ตัวรถเหล็กกล้าคล้ายกับเป็นเทียนที่เจอกับมีดร้อน หลอมเหลวลงไปดื้อ ๆ

ระหว่างดำเนินการ ทางด้านหลังมีออฟโร้ดสีดำอีกหลายคันเข้ามาล้อม ลู่หยวนกระโดดลงจากรถคันหนึ่ง “บอส คิดไม่ถึงว่ายังจะเป็นตำแหน่งลงมือที่คุณคาดเดาเอาไว้จริง ๆ ด้วย”

เจิ้งหย่วนตงมองดูสี่คนที่สลบอยู่ในรถ MPV เขาพยักหน้าเบา ๆ ให้ลู่หยวน “หลิวเหวินชิน ซินชิวเจ๋อ ชุยเฉียง หวงห้ามอี้ ล้วนเป็นคนที่ลงทะเบียนเอาไว้ ดูท่าหลิวเหวินชินจะประสานพวกเขาเข้าด้วยกัน เรียกคนมาลากรถ เอาตัวไปให้เร็วที่สุด”

จากคำพูดของผู้รับผิดชอบคุนหลุนคนนี้คล้ายกับว่ามีความเข้าใจในตัวคนพวกนี้ ถึงขนาดตัดสินได้ว่าใครจึงเป็นตัวการหลัก

“ยังคงเป็นบอสที่เฉลียวฉลาด ตอนเช้าได้ยินว่าพวกเขาหายตัวไปจากเมืองอู่ก็รู้ว่าพวกเขาเล็งมาที่หลิวเต๋อจู้” ลู่หยวนตอบรับ “เพียงแต่คนพวกนี้ก็ช่างขวัญกล้าจริง ๆ อยู่ที่แผ่นดินใหญ่ยังกล้าทำเรื่องพรรค์นี้เหรอ”

เจิ้งหย่วนตงกล่าวว่า “คนบางคนอยู่ที่โลกภายในมาระยะหนึ่ง ระเบียบสังคมอันวุ่นวายที่นั่นทำให้กำลังขวัญของพวกเขาเปลี่ยนไปใหญ่โตขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนสิ่งที่พวกเราต้องทำก็คือให้พวกเขาเข้าใจว่าระเบียบสังคมของโลกภายนอกจะท้าทายไม่ได้ อย่างน้อยในอาณาเขตของพวกเราน่ะไม่ได้”

“อืม” ลู่หยวนพยักหน้า “ระยะนี้คนประเภทนี้ยิ่งมายิ่งมาก บางทีพวกเราจะสามารถดูดซับนักท่องเวลามากกว่านี้ไหมครับ”

เจิ้งหย่วนตงส่ายหน้า “ความสำคัญของความบริสุทธิ์และความยึดมั่นขององค์กรเหนือกว่าความแข็งแกร่งมาก อย่างน้อยความแข็งแกร่งที่ได้รับจากการขยายตัวอย่างมืดบอดก็ไม่ใช่สิ่งที่คุนหลุนควรจะไล่เสาะหา”

ความจริงก็เป็นอย่างที่ชิ่งเฉินระแวง ตอนที่นักท่องเวลาสำคัญอย่างหลิวเต๋อจู้ปรากฏตัวแต่คุนหลุนกลับไม่ได้ปรากฏตัวเป็นสิ่งที่ผิดปกติมาก

อย่างน้อยที่สุดก็ต้องมาถามไถ่สักหน่อย

แต่คุนหลุนไม่ได้ทำอย่างนี้เลย

ตอนที่พวกเขาได้รับข่าวก็ตระหนักถึงความสำคัญของหลิวเต๋อจู้แล้ว แถมเจิ้งหย่วนตงก็ตระหนักด้วยว่าจะต้องมีนักท่องเวลาคนอื่นเล็งใส่หลิวเต๋อจู้

หลี่ซูถงเป็นผู้ใด

เป็นผู้นำยุคปัจจุบันขององค์กรอัศวิน เป็นคนที่หลี่ตงเจ๋อแห่งชมรมเหิงก็ยังเรียกขานว่าบอส คิดจะเข้าใกล้คนเช่นนี้ที่โลกภายในมันยากขนาดไหน ยากดุจปีนขึ้นสวรรค์

ขอเพียงเป็นคนที่มีความเข้าใจต่อโลกภายในและหลี่ซูถงสักหน่อย เกรงว่าล้วนจะรู้คุณค่าของหลิวเต๋อจู้

ดังนั้น เจิ้งหย่วนตงเคลื่อนพลสายลับไปรอบ ๆ โรงเรียนเป็นอันดับแรก แล้วก็จัดเตรียมกำลังคนตามเส้นทางกลับบ้านของหลิวเต๋อจู้ สุดท้ายรอคอยมาเฟียกลุ่มนี้

ขณะนี้สมาชิกคุนหลุนคนหนึ่งกำลังตรวจสอบว่าเด็กหนุ่มได้รับบาดเจ็บตรงไหน

เจิ้งหย่วนตงถามว่า “เขาได้รับบาดเจ็บไหม”

สมาชิกคุนหลุนตอบว่า “แขน ขาขวา หน้าด้านขวา มีบาดแผล แต่ไม่สาหัส”

“งั้นก็ดี” เจิ้งหย่วนตงมองไปทางหลิวเต๋อจู้ “ไม่ต้องกลัว คืนนี้พวกเรามาปกป้องคุณโดยเฉพาะ ต่อไปพวกเราก็จะสังเกตข้อมูลการเดินทางเข้าออกอย่างเข้มงวด ถ้ามีเรื่องผิดปกติยังจะดำเนินการคุ้มครองคุณ 24 ชั่วโมง”

หลิวเต๋อจู้เอ่ยอย่างแตกตื่นว่า “ขอบคุณครับ!”

เจิ้งหย่วนตงพยักหน้า “ไม่ต้องเกรงใจ ตัวคุณเองให้ดีที่สุดก็ต้องระวังตัวหน่อย มีเรื่องผิดปกติก็โทรหาพวกเราทันที เบอร์โทรศัพท์ก่อนหน้านี้ก็ให้คุณไปแล้ว”

พูดจบ เจิ้งหย่วนตงขึ้นรถออฟโร้ดคันหนึ่งไปโดยไม่เหลียวหน้ากลับมา

ถัดจากนั้น รถลากมาแล้ว รถตำรวจมาแล้ว ทั้งหมดล้วนจัดการสถานที่เกิดเหตุ

หลิวเต๋อจู้มองดูท้ายรถออฟโร้ดที่ไปไกลแล้วอย่างอึ้ง ๆ ไปกันอย่างนี้เลย?!

อีกฝ่ายไม่ได้ถามสิ่งอื่น แล้วก็ไม่ได้เชิญชวนตนเอง มันเป็นเพราะอะไร

ในที่ห่างไกล บนรถออฟโร้ดสีดำที่กำลังมุ่งหน้าไปยังศูนย์บัญชาการคุนหลุน เจิ่งหย่วนตงจู่ ๆ ถามลู่หยวนว่า “คุณรู้สึกไหมว่ามันประหลาดอยู่บ้าง”

“ประหลาดยังไงครับบอส” ลู่หยวนถาม

“นักเรียนคนนี้ความกล้าหาญสักนิดก็ไม่มี แล้วก็ขาดความตื่นตัวขั้นพื้นฐานที่สุด คนประเภทนี้จะสามารถถูกหลี่ซูถงเห็นความสำคัญได้เหรอ” เจิ้งหย่วนตงเอ่ยอย่างรู้สึกชอบกล

“บางทีหลี่ซูถงอาจจะไม่ได้เห็นความสำคัญของเขาเลยรึเปล่าครับ” ลู่หยวนลองเชิง

“ไม่นะ ตามที่เจี่ยนเซิงว่ามา แม้แต่ผู้เหนือมนุษย์ยังรับใช้นักท่องเวลาเร้นลับคนนั้น งั้นอีกฝ่ายก็จะต้องได้รับความสำคัญจากหลี่ซูถงแล้ว” เจิ้งหย่วนตงส่ายหน้า “ผมระแวงว่าในเรือนจำหมายเลข 18 มีนักท่องเวลาคนที่สาม แต่นี่ก็ไม่ตรงกับข้อมูลที่พวกเราได้รับอีก ดูไปอีกเถอะ ไม่ช้าก็เร็วต้องมีคำตอบ”

“บอส คุณไม่เตรียมที่จะดูดซับหลิวเต๋อจู้เข้าคุณหลุนเหรอครับ” ลู่หยวนถาม

เจิ้งหย่วนตงลดกระจกหน้าต่างจุดบุหรี่ กล่าวช้า ๆ ว่า “เขาไม่ไหว”

ลู่หยวนคล้ายจะคิดอะไรขึ้นมาได้ “จริงสิบอส ทางเหอจินชิวเสนอให้จัดประชุมเดือนหน้า……”

เจิ้งหย่วนคงส่ายหน้า “ปล่อยเรื่องนี้ไปก่อน”

……

22 นาฬิกา ชิ่งเฉินเริ่มการฝึกซ้อมด้วยตนเองในบ้านตัวเอง เขาถึงขนาดขยายเวลาการฝึกซ้อมออกไปอีกหนึ่งชั่วโมง

แต่ว่ามีจุดหนึ่งที่ไม่เหมือนกันก็คือ สิ่งที่เขากินในเรือนจำมันเป็นเนื้อวัวไข่ไก่ กินได้ไม่อั้น

กลับถึงโลกภายนอกก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว……กินไม่ไหว

ขณะนี้ทองคำที่เขาเอากลับมาจากโลกภายในซ่อนอยู่ที่ใต้เตียง ชิ่งเฉินรู้สึกว่าตนเองจะต้องคิดหนทางเปลี่ยนทองคำไปเป็นเงินสด ไม่อย่างนั้นตนเองจ่ายค่าอาหารไม่ไหวเลย

ตอนที่เขากำลังเหงื่อแตกพลั่ก ๆ หน้าประตูจู่ ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

เขาลุกขึ้นไปเปิดประตู เห็นหลี่ถงอวิ๋นถือจานกับข้าวหนึ่งจาน ชิ่งเฉินถึงขนาดสามารถได้กลิ่นหอมของกุยช่ายและไข่ไก่ข้างใน

หลี่ถงอวิ๋นเอ่ยอย่างน่าเอ็นดูว่า “พี่ชิ่งเฉิน นี่เป็นของที่แม่หนูเพิ่งผัดเสร็จ แม่ให้หนูส่งให้พี่”

“ขอบใจ” ครั้งนี้ชิ่งเฉินไม่เกรงใจอีกแล้ว

ตอนที่หลี่ถงอวิ๋นหมุนตัวขึ้นบันได ชิ่งเฉินถามว่า “ที่จริงเธอฉลาดมากเลยใช่รึเปล่า เธอรู้ว่าฉันกำลังพูดอะไร”

หลี่ถงอวิ๋นหมุนตัวมาช้า ๆ เธอสวมชุดกระโปรงแดงสลับขาว ยิ้มหวานให้ชิ่งเฉินถามว่า “พี่ชิ่งเฉินก็เป็นนักท่องเวลาใช่รึเปล่า”

“หลักฐานล่ะ” ชิ่งเฉินถามยิ้ม ๆ

หลี่ถงอวิ๋นลดเสียงลงต่ำกล่าวว่า “เพราะวันนั้นที่แม่ตีพ่อ หลังจากพี่พาหนูเข้าห้องเคยซ่อนอยู่หลังม่านแอบสังเกตคนของคุนหลุน พี่เคยเห็นพวกเขา แล้วยังหลบซ่อนจากพวกเขา”

ชิ่งเฉินยิ้ม ตั้งแต่ที่เขาตระหนักว่าหลี่ถงอวิ๋นไม่ได้ธรรมดาขนาดนั้นก็รู้ว่าตนเองจะต้องปิดเด็กหญิงเล็ก ๆ คนนี้ไม่ได้ รายละเอียดได้เปิดโปงตนเองแล้ว

ไม่ใช่เขาโง่ ทว่าก่อนหน้านี้เขาไม่ได้ตระหนักว่าเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่เติบโตในครอบครัวสามัญจะมีจิตใจที่เติบใหญ่และเฉลียวฉลาด

ใครมันจะว่างไประแวงเด็กตัวเล็ก ๆ ทั้งที่ไม่มีเรื่องมีราวกันล่ะ

แต่ว่าตนเองรู้ตัวตนโลกภายในของอีกฝ่ายแล้ว อีกฝ่ายกลับหาตนเองพบได้ยากมาก

คนสองคนหนึ่งใหญ่หนึ่งเล็กสบตากันยิ้มออกมา เหมือนกับว่าทำข้อตกลงประการหนึ่งลุล่วง รู้ใจโดยไม่ต้องพูด

 

………………………………….

 

ตอนที่ 51 – นักเรียนย้ายเข้า

นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature)

นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature)

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท