บทที่ 71 ผู้เชี่ยวชาญในตระกูลยุ่น
มีผู้คนมากมายมารวมตัวกันในห้องประชุมของตระกูลยุ่นแม้ว่าสถานที่แห่งนี้จะมีผู้คนหลายสิบคน แต่ภายในห้องกลับเงียบสงัดและเต็มไปด้วยบรรยากาศที่ตึงเครียด คนทั่วไปที่เดินผ่านบริเวณนี้จะรู้สึกได้ถึงแรงกดดันบางอย่าง แรงกดดันที่รุนแรงที่กลุ่มคนเหล่านี้เปล่งออกมา สามารถบอกได้เลยว่าพวกเขาทั้งหมดไม่ใช่คนปกติทั่วไป
กลุ่มคนเหล่านี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญระดับสูงและผู้อาวุโสที่สุดของตระกูลยุ่น ปกติพวกเขาจะอยู่อย่างสันโดษและจะมารวมตัวกันก็ต่อเมื่อหัวหน้าตระกูลต้องการตัวหรือเมื่อมีเหตุการณ์สำคัญเกี่ยวกับตระกูลยุ่น
อย่างไรก็ตามวันนี้ บุคคลสำคัญเหล่านี้ทั้งหมดถูกเรียกโดยบุตรชายของยุ่นซาน ซึ่งก็คือยุ่นหลิง
ยี่สิบแปดคน นั่นคือจำนวนผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดที่มารวมกันในห้องนี้ ทุกคนนั่งไขว่ห้าง โดยวางแขนทั้งสองข้างของเขาลงบนโต๊ะ พวกเขาทั้งหมดกำลังรอคนที่เรียกพวกเขามารวมตัวกันในวันนี้
ทันใดนั้น ประตูห้องประชุมก็เปิดออก เผยให้เห็นชายหน้าตาสวยงามที่พวกเขาคุ้นเคยไม่มากก็น้อย
นั่นก็คือยุ่นหลิง
“ทุกๆท่าน ข้าขอบคุณทุกท่านที่มาในวันนี้” ยุ่นหลิงกล่าวขณะมุ่งหน้าไปด้านหน้าสุดของห้อง
แม้ว่าเขาจะมาถึงแล้ว ทุกคนก็ยังคงนิ่งเงียบขณะที่จ้องมองไปที่เขา ยุ่นหลิงอดไม่ได้ที่จะโน้มขอบคุณ ตามที่คาดไว้จากผู้เชี่ยวชาญของตระกูล พวกเขาทั้งหมดมีระเบียบวินัย ถ้าเป็นคนรุ่นเดียวกันกับเขาก็คงจะเป็นห้องที่มีเสียงวุ่นวายน่าดู
ขณะเดียวกันชายชราที่มีแผลเป็นที่สยดสยองมากมายทำให้ใบหน้าเสียรูปไป เขาเป็นหนึ่งในคนที่นั่งใกล้ยุ่นหลิงที่สุด
เขากระแอมออกมาเล็กน้อยเพื่อให้ได้รับความสนใจ
“มีอะไรหรือ ผู้อาวุโสยุ่นหมิงหยวน?” ยุ่นหลิงถามเขาด้วยรอยยิ้มอันน่ารื่นรมย์
ยุ่นหมิงยวนพูดด้วยน้ำเสียงที่หยาบกระด้างว่า “นายน้อย ไม่ว่าเจ้าจะเรียกพวกเรามาเพื่ออะไรก็ตาม มันคงคุ้มค่ากับการที่พวกข้าสละเวลามาใช่หรือไม่”?
หลังจากได้ยินแบบนั้น ยุ่นหลิงก็สังเกตเห็นคนอื่นๆ พวกเขาอาจไม่ได้พูดอะไร แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดมีความคิดเดียวกับยุ่นหมิงหยวน เขาเห็นสีหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด ไม่มีใครอยากอยู่ที่นี่ เหตุผลเดียวที่เขาสามารถเรียกพวกมันมาที่นี่ได้ก็เพราะความช่วยเหลือของพ่อและปู่ของเขา หากไม่มีพวกเขา กลุ่มคนเหล่านี้ก็จะไม่ปรากฏตัวเลย
แต่ถึงอย่างนั้นแม้ปู่ของเขาจะทำตัวงี่เง่าเป็นเด็กเกือบตลอดเวลา แต่ก็เป็นคนเดียวที่ได้รับความเคารพจากบุคคลเหล่านี้อย่างเต็มที่
เขาต้องชื่นชมปู่ของเขาในเรื่องนี้
“ข้าเข้าใจท่านยุ่นหมิงหยวน ท่านไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้น สิ่งที่ข้ากำลังจะบอกท่านจะคุ้มค่าแก่เวลาของท่านอย่างแน่นอน” ยุ่นหลิงตอบโดยไม่ต้องคิด
ยุ่นหมิงหยวนไม่พูดอะไรและเงียบไป
“เอาให้พวกเขาได้เลย” ยุ่นหลิงมองไปทางประตูที่ปิดและสั่ง
เพียงไม่กี่วินาที ประตูก็เปิดออกเมื่อคนใช้ของตระกูลยุ่นเข้ามาในห้อง พวกเขาทั้งหมดถือหีบที่เต็มไปด้วยม้วนกระดาษ ขณะที่พวกเขาวางม้วนกระดาษหนึ่งม้วนไว้ด้านหน้าผู้เชี่ยวชาญแต่ละคนจากตระกูลของพวกเขาอย่างเรียบร้อย
“นี่น่ะเหรอ”? ผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งของตระกูลถามในขณะที่เขาหยิบม้วนกระดาษที่อยู่หน้าเขา
ยุ่นหลิงไม่ตอบอะไรเขา เขาสังเกตทุกคนอย่างละเอียดขณะที่คนรับใช้ยื่นม้วนกระดาษวางต่อหน้าผู้อาวุโสและผู้เชี่ยวชาญทีละคนๆ
เมื่อวานนี้ หลังจากที่เขาออกไปกับยุ่นเซี่ยและคนอื่นๆ เสร็จแล้ว เขาใช้เวลาทั้งวันเขียน กระบวนท่าเทพสายฟ้าเหิน ลงในม้วนกระดาษเหล่านี้ มันคงเร็วกว่านี้มากถ้าเขาขอให้มีคนมาช่วยแต่เขากลับไม่ทำ เขากลัวว่าคนที่ช่วยเขาอาจจะทำผิดพลาด แม้จะเพียงนิดเดียวก็อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ผิดเพี้ยนของกระบวนท่าได้ แค่คัดลอกกระบวนท่าให้สมบูรณ์แบบก็ยากมากๆแล้ว แล้วการดัดแปลงกระบวนท่าอย่างที่ยุ่นหยี่บอกมันจะยากขนาดไหนกัน?
นั่นคือเหตุผลที่ยุ่นหลิงเขียนกระบวนท่าลงบนม้วนกระดาษทุกอันด้วยตัวเอง เขาต้องการให้เหล่าผู้เชี่ยวชาญนี้ได้เห็นกระบวนท่าเทพสายฟ้าเหินอย่างถูกต้อง
เมื่อเขาเห็นว่าคนรับใช้ได้แจกม้วนกระดาษเสร็จแล้ว ยุ่นหลิงก็เริ่มพูด “เหล่าผู้เชี่ยวชาญและผู้อาวุโส ม้วนกระดาษนั้นบรรจุหนึ่งในกระบวนท่าอันล้ำค่าของนิกายเทพเจ้าสายฟ้า กระบวนท่าเทพสายฟ้าเหิน เป็นสุดยอดกระบวนท่าการเคลื่อนไหวร่างกายที่ดีที่สุดในโลกพสุธานี้”
ผู้เชี่ยวชาญและผู้อาวุโสที่สงบนิ่งมาตลอด ได้แสดงสีหน้าประหลาดใจหลังจากได้ยินสิ่งที่ยุ่นหลิงพูด
“แม้ว่ากระบวนท่าเทพสายฟ้าเหินนั้นจะเป็นท่าที่ดี แต่ไม่ใช่ทุกคนในตระกูลของเราที่สามารถใช้มันได้ มีข้อเสียหลายประการสำหรับกระบวนท่านี้ มันเป็นอันตรายต่อคนในตระกูลของเราหากพวกเขาต้องการที่จะใช้มัน” ยุ่นหลิงหยุดพูดขณะที่เขามองตาแต่ละคน “ข้าแน่ใจว่าพวกท่านสามารถใช้กระบวนท่านี้ได้โดยไม่มีอันตรายใดๆ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญใน ขอบเขตราชันต์เทวลิขิตและ ขอบเขตราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ พวกท่านทุกคนสามารถลบล้างต่อข้อเสียเหล่านี้ได้จากขอบเขตการฝึกตนระดับสูงของพวกท่าน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ข้าต้องการจะทำคือ ข้าจะถ่ายทอดกระบวนท่านี้ให้กับคนที่ข้าไว้ใจในตระกูล”
“เจ้าต้องการให้พวกข้าทำอะไรกันแน่”?
ยุ่นหลิงยิ้มเมื่อได้ยินคำถามนั้น
“พวกท่านทุกคนเป็นบุคคลที่น่านับถือใน ขอบเขตราชันต์เทวลิขิต และ ขอบเขตราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ แต่ว่าแม้ผู้เชี่ยวชาญที่ยอดเยี่ยมเช่นพวกท่านก็ยังต้องการที่จะฝึกใช้กระบวนท่านี้ที่เป็นกระบวนท่าเคลื่อนไหวที่ดีที่สุดบนโลกพสุธานี้ แล้วใครบ้างที่ไม่อยากจะได้รับการฝึกใช้กระบวนท่านี้”?
แม้แต่ยุ่นหลิงที่มีพื้นฐานทางกระบวนท่าชั้นสูงก็ยังตื่นเต้นเมื่อเห็นเหวินไป่ชิใช้กระบวนท่าชั้นยอดนี้ ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น พ่อและปู่ของเขาก็ยังตื่นเต้นกับกระบวนท่านี้ด้วย ไม่จำเป็นต้องพูดถึงคนเหล่านี้
“ข้าจะสอนการใช้กระบวนท่าเทพสายฟ้าเหินให้พวกท่านโดยมีเพียงเงื่อนไขเดียว”
“เงื่อนไข?”
“พวกท่านทุกคนต้องร่วมมือและดัดแปลงกระบวนท่านี้เพื่อให้คนอื่นๆในตระกูลของเราสามารถใช้งานได้โดยไม่มีอันตรายใดๆ นั่นเป็นเงื่อนไขเดียวที่ข้ามี” ยุ่นหลิงพูดอย่างแน่วแน่
ยุ่นหมิงหยวน พูดแทรกขึ้น “ดัดแปลงงั้นเรอะ? สิ่งที่เจ้าขอเป็นคำสั่งที่ยากมากนะนายน้อย ถ้ามันง่ายขนาดนั้น นิกายเทพเจ้าสายฟ้าเองก็คงจะดัดแปลงมันมาเป็นเวลานานแล้ว การที่เห็นได้ชัดว่าพวกเขายังดัดแปลงท่าที่พวกเขาขึ้นมาเองยังไม่ได้ แสดงให้เห็นว่ามันยากมากๆที่จะทำแบบนั้น”
“จะทำหรือไม่ทำ? ทำหรือไม่?” ยุ่นหลิงพูดอย่างเย็นชาขณะมองยุ่นหมิงหยวนอย่างไม่เกรงกลัว
ยุ่นหมิงหยวนจ้องมาที่เขาครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มออกมา “ข้าตกลง ข้าจะทำนายน้อย”
“แล้วพวกท่านล่ะ?” ยุ่นหลิงพูดกับคนอื่นๆ ขณะที่เขาจ้องมองไปที่เหล่าพูดอาวุโสและผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ
“พวกข้าจะทำให้ดีที่สุด นายน้อย”