ตอนที่ 73 – อัดมัน!
ลู่หยวนวิ่งอย่างบ้าคลั่ง เขาเหมือนจะเกาะกุมจุดที่เป็นกุญแจสำคัญที่สุดในความมืดเอาไว้ได้ เจ็บปวดแต่กลับตื่นเต้น
เขาก้มหน้ามองแวบหนึ่ง ค้นพบว่าบนต้นขาของตนเองก็กำลังเลือดไหลโชก ในกล้ามเนื้อยังมีเศษเหล็กชิ้นเล็กฝังอยู่
ที่แท้เขาก็ได้รับบาดเจ็บ
ตอนที่เขากระโผลกกระเผลกกลับไปที่ประตูหน้าพอดีเห็นรถ MPV หนึ่งคันค่อย ๆ ขับมาที่ประตูทางเข้าของตึกหมายเลข 12
ตามคาด
ในเงามืดของทางเดินกำลังมีคนร้ายสี่คนอุ้มถุงกระสอบสีดำเดินออกมาโดยสงบ ถุงกระสอบนั้นคล้ายจะหนักมาก แม้แต่เส้นใยสังเคราะห์ยังถูกดึงจนผิดรูป
คนร้ายที่นำหน้าในสี่คนมองไปทางลู่หยวนอย่างเย็นชา อีกฝ่ายคล้ายจะประหลาดใจอยู่บ้างที่ลู่หยวนสามารถมีปฏิกิริยาไวขนาดนี้ แต่ไม่ได้แคร์เลย
พวกเขาโยนถุงกระสอบสีดำเข้าไปในรถ เข้าไปนั่งในเบาะท้ายของรถ MPV ตามลำดับ
หนึ่งคนในนั้นอยู่ในรถ คว้าปืนอันเย็นเยียบหนึ่งกระบอกจากหลังเอวมาเล็งใส่ลู่หยวน
กล้ามเนื้อใต้เท้าของลู่หยวนระเบิดพลังมหาศาลอย่างกะทันหัน ถึงกับย้อนทวนแรงเฉื่อยดั้งเดิมของตนเอง!
เห็นเพียงว่าตัวเขาทั้งคนเคลื่อนไปข้างหน้าทางขวา ถึงกับคาดการณ์วิถีกระสุนของอีกฝ่ายล่วงหน้า หลบกระสุนนัดแรก!
คนไม่สามารถเร็วไปกว่าลูกกระสุน แต่สามารถเร็วกว่าความเคลื่อนไหวของปากกระบอกปืน!
รองเท้าผ้าใบของลู่หยวนฉีกขาดในพริบตา นิ้วเท้าล้วนโผล่ออกมา
เขากลับไม่สนไม่แคร์ ตะโกนสุดแรงว่า “เสี่ยวอิง ชนแม่งให้ผมเลย!”
จากนั้น กระโดดขึ้นไป
สุดปลายถนนมีเสียงเครื่องยนต์ดังสนั่น รถแท็กซี่หนึ่งคันจู่ ๆ ดริฟออกมา เสี่ยวอิงนั่งอยู่ในรถเหยียบคันเร่งถึงขีดจำกัด
รถแท็กซี่ที่ท้ายรถยังส่ายด้วยแรงเฉื่อย ลู่หยวนที่แยกเขี้ยวกางเล็บโถมใส่คนร้ายกลางอากาศ ถ้ากดปุ่มหยุดช่วงเวลาขณะนี้ไว้ จะต้องมีความหมายน่าจดจำแน่ ๆ
ก็เหมือนกับฉากเลือดสาดชั่วขณะหนึ่งในชีวิตคน
วินาทีถัดมา รถแท็กซี่ชนเข้าใส่ด้านหน้าของรถ MPV สีดำอย่างเต็มแรง เสี่ยวอิงศีรษะกระแทกพวงมาลัยจนสลบ
คนร้ายที่ถือปืนคนนั้นอึ้งไป
รอจนเขาหันหน้ากลับมาอีกทีก็เห็นร่างของลู่หยวนที่กระโดดขึ้นกะทันหันเข้ามาประชิดแล้ว พุ่งชนร่างของตนเองอย่างกับลูกปืนใหญ่!
ก่อนที่จะสลบไป เขายังถึงขนาดได้ยินเสียงกระดูกหักด้วย
บนรถ มีคนร้ายคิดจะกระโดดลงรถมาช่วยเหลือ ผลคือถึงกับถูกลู่หยวนที่ตะเกียกตะกายขึ้นมาเตะกลับไป
ตัวของคนร้ายถูกลูกเตะนี้ยิงกลับไป กระแทกอีกฝั่งหนึ่งของรถอย่างแรง
พริบตาถัดมา คนทุกคนในเขตที่พักล้วนได้ยินเสียงโกรธแค้นของลู่หยวนว่า “อัดแม่ง!”
……
ในสถานที่ซึ่งลู่หยวนและพวกมองไม่เห็น ชิ่งเฉินสังเกตดูนอกหน้าต่างอย่างเงียบ ๆ ผ่านช่องว่างของผ้าม่านมาโดยตลอด
เขาใคร่ครวญอย่างลับ ๆ ว่าที่แท้ลู่หยวนก็เป็นผู้เหนือมนุษย์
ขณะนี้ เขาเห็นสมาชิกคุนหลุนล้อมเข้ามา สุดท้ายคนร้ายล้วนถูกกุมตัว
ลู่หยวนได้รับบาดเจ็บ ถูกรถฉุกเฉินเอาตัวไปแล้ว แถมยังพาพวกหูเสี่ยวหนิว, จางเทียนเจินไปด้วย
หูเสี่ยวหนิวและพวกไม่ได้มีรอยแผลที่เห็นได้ชัดอะไร เหมือนว่าแค่ถูกตีสลบเท่านั้น
สถานที่ไม่น้อยในเขตที่พักถูกกั้นเป็นเขตหวงห้าม มีเจ้าหน้าที่มืออาชีพตรวจสอบทุกซอกมุม ดูว่ายังมีระเบิดที่คนร้ายทิ้งเอาไว้หรือไม่
นี่เป็นอาชญากรรมที่เลวร้ายอย่างยิ่งยวด ผู้ต้องสงสัยถูกจับสี่คน ยังมีห้าคนที่ไม่รู้ร่องรอย
เรื่องนี้ก็ทำให้พวกชิ่งเฉินตระหนักอย่างเต็มที่ว่าองค์กรชั่วนี้เจ้าเล่ห์ยิ่งกว่าที่จินตนาการเอาไว้
ห่างกันไกลกับพวกนักเลงหัวไม้ทั่วไป
ถึงแม้ค่าพลังโจมตีส่วนบุคคลของอีกฝ่ายไม่ได้สูง แต่อีกฝ่ายมีองค์กรมีปฏิบัติการก่ออาชญากรรมที่วางแผนล่วงหน้า
แน่นอนว่าชิ่งเฉินระแวงว่าในผู้หลบหนีห้าคนที่เหลือจะต้องมีบุคคลที่ค่าพลังโจมตีค่อนข้างสูง
ชิ่งเฉินหันกลับมามองเจียงเสวี่ย, หลี่ถงอวิ๋น ยิ้มเอ่ยว่า “เอาล่ะ ไม่เป็นไรแล้ว แต่ตอนนี้พวกเราไม่สามารถออกไป ยังไงสงบใจกินข้าวกันเถอะ”
เจียงเสวี่ยมองเด็กหนุ่มที่อยู่เบื้องหน้า “ขอบคุณนะ ถ้าไม่มีคุณ ฉันกับเสี่ยวอวิ๋นอาจจะเกิดเรื่องไปแล้ว…… ฉันไปอุ่นกับข้าวก่อนนะ”
หลังจากที่เจียงเสวี่ยทำกับข้าวเสร็จในตอนแรก ทั้งสามคนล้วนไม่กล้ากินมาโดยตลอด จนถึงขนาดที่ว่าตอนนี้ล้วนเย็นชืดหมดแล้ว
ในห้องนั่งเล่น หลี่ถงอวิ๋นมองชิ่งเฉิน รู้สึกตลอดเลยว่าพี่ชายคนนี้ไม่เหมือนกับคนอื่น ๆ เกินไปแล้ว ไม่ว่าที่ไหนเมื่อไหร่ อีกฝ่ายเหมือนจะสามารถเปลี่ยนของเน่าเสียเป็นสิ่งอัศจรรย์ได้หมด
“พี่ชิ่งเฉิน พี่เรียกคุนหลุนมาได้ยังไงเหรอคะ” หลี่ถงอวิ๋นกระพริบตาปริบ ๆ
“สัญญาณถูกบล็อกไปแล้ว ฉันจะเรียกยังไงล่ะ” ชิ่งเฉินยิ้ม เขารู้ว่าวันนี้ตนเองดูเหมือนเปิดเผยรายละเอียดเยอะมาก คนอื่นอาจจะเดาไม่ได้อะไร แต่บางทีหลี่ถงอวิ๋นไม่ช้าก็เร็วจะสามารถมองทะลุรายละเอียดแล้วเดาข้อมูลวงในบางอย่างออก
แต่ว่าชิ่งเฉินเหมือนจะไม่ปฏิเสธการถูกเด็กหญิงรู้ความลับส่วนหนึ่งเลย
เขาแตะศีรษะของเด็กหญิง “ยังกลัวอยู่ไหม”
“ยังนิดหน่อย” หลี่ถงอวิ๋นถามว่า “พี่ชิ่งเฉิน หนูรู้ว่าพี่ไม่อยากถูกคนค้นพบตัวตน แต่ถ้าหนูอยู่ที่โลกภายในเจอกับอันตราย พี่จะมาช่วยหนูไหม”
ชิ่งเฉินคิดแล้วตอบว่า “ช่วย”
หลี่ถงอวิ๋นพยักหน้าอย่างพึงพอใจเต็มที่ แต่เธอกระซิบเสียงค่อยขึ้นมาอีกทันทีว่า “ไม่เปิดเผยตัวตนให้คนอื่นก็ช่างเถอะ แม้แต่หนูก็ปิดบังมันเกินไปนะ หนูเป็นแค่เด็กตัวเล็ก ๆ เด็กตัวเล็ก ๆ จะสามารถมีจิตใจชั่วร้ายอะไรได้ล่ะคะ”
ชิ่งเฉินยิ้มโดยไม่ตอบคำถามนี้
นักล่าระดับสูงจะใช้รูปแบบของเหยื่อปรากฏตัวเสมอ
เจียงเสวี่ยยืนอยู่ในห้องครัว นิ้วมือยังสั่นเทาเล็กน้อย
ถ้าหลี่ถงอวิ๋นปิดโทรทัศน์กะทันหัน
ถ้าชิ่งเฉินไม่ได้เตือนให้เจียงเสวี่ยผัดกับข้าวต่อ
พวกเขาก็จะเกิดเรื่อง
เจียงเสวี่ยถืออาหารร้อน ๆ กลับมา ไม่รู้เพราะอะไร คุณน้าผู้อ่อนโยนคนนี้เหมือนจะไม่ได้กลัวจนเกินไปแล้ว บนใบหน้ากลับเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “กินข้าว ๆ น่าเสียดายที่เธอสองคนยังเด็กดื่มเหล้าไม่ได้ ไม่งั้นน่าจะเปิดเบียร์สักขวดฉลองที่พ้นภัยพิบัติได้ชีวิตใหม่จริง ๆ เสี่ยวเฉินร้ายกาจเกินไปแล้ว!”
หลี่ถงอวิ๋นกล่าวอย่างร่วมวงครึกครื้นว่า “พี่ชิ่งเฉินอายุไม่น้อยแล้วนะ เขาดื่มได้!”
ชิ่งเฉินคีบกับข้าวเข้าปาก สีหน้าพิกล
เจียงเสวี่ยเห็นท่าทางนี้ของเขาก็รีบคีบไข่หนึ่งชิ้นใส่ปาก ผลคือวินาทีถัดมาก็รู้แล้วว่าเกิดเรื่องอะไร
ตอนที่ผัดกับข้าวกลัวเกินไป ลืมใส่เกลือ
เธอหน้าแดงพูดไม่ออก ชิ่งเฉินรีบกล่าวว่า “ตอนนั้นกลัวก็ปกตินะครับ ตอนนั้นผมก็กลัว”
หลี่ถงอวิ๋นพึมพำเสียงเบาอยู่ด้านข้างว่า “พี่กลัวกะผีน่ะสิ”
กับข้าวไม่ถูกปากไม่ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศ กลับจะคึกคักยิ่งขึ้น
…………………………………
ตอนที่ 74 – ความจริง