ตอนที่ 78 – ก่อนปฏิบัติการ
ตอนที่หูเสี่ยวหนิว, หลิวเต๋อจู้กับพวกรวมตัวกัน ชิ่งเฉินนำหน้าพวกเขาไปถึงเขาเหล่าจวินก่อนก้าวหนึ่งแล้ว
ที่นี่คนพลุกพล่าน หลี่ถงอวิ๋นกระโดดลงจากรถก่อน ยืดตัวอยู่บนพื้นที่ว่างของจุดจอดรถ
เป้ใบเล็กที่สะพายอยู่บนหลังของเธอหลวม ๆ คล้ายกับจะร่วงลงไปได้ทุกเมื่อ แต่ไม่ได้ร่วงตั้งแต่ต้นจนจบ เจียงเสวี่ยยิ้มเต็มหน้าเตรียมจะลงรถตามหลังเธอ ทว่าในทันใดนั้น ชิ่งเฉินยื่นมือหนึ่งข้างมาฉุดเธอกลับขึ้นรถบัส
“ทำไมเหรอชิ่งเฉิน” เจียงเสวี่ยถูกชิ่งเฉินดึงจนแทบจะยืนไม่อยู่ เธอหันหน้ามองไปทางใบหน้าด้านข้างของเด็กหนุ่ม แต่กลับค้นพบว่าอีกฝ่ายกำลังมองออกนอกหน้าต่างอย่างไม่ละสายตา
เจียงเสวี่ยเอ่ยอย่างลังเลว่า “มีอันตรายเหรอ”
ชิ่งเฉินจ้องไปข้างนอกเงียบ ๆ ขณะนี้ เขากำลังมองคนห้าคนถือกระเป๋าสีดำลงจากรถ MVP บิวอิคก์สีดำในที่ไม่ห่างไกล
พวกเขาทุกคนล้วนใส่แว่นกันแดด บนเท้าสวมรองเท้าหนังสีดำที่เหมือนกันเป๊ะ
รองเท้าหนังสีดำประเภทนี้เขาเคยเห็น ในลานหมายเลข 4 ถนนสิงสู่ บนเท้าของคนร้ายสี่คน
เหมือนกับเป็นของที่ซื้อเหมาโหลในร้านอุปกรณ์ทหาร
บนรถ ข้างหลังพวกเขามีป้าที่หมดความอดทนแล้ว “พวกคุณจะลงรถรึเปล่า ไม่ลงรถก็หลีกไป”
ชิ่งเฉินทำเป็นหูหนวกต่อสิ่งนี้
จนกระทั่งเขายืนยันว่าห้าคนนั้นเดินเข้าจุดชมวิวแล้วจึงหันไปพูดขอโทษกับผู้โดยสารที่ด้านหลัง
ถ้าหากคนคนหนึ่งจดจำเรื่องราวทุกอย่างในชีวิตได้ งั้นเขาจะไม่เชื่อเรื่องความบังเอิญโดยเด็ดขาด
มีเรื่องราวมากเกินไปที่เกิดขึ้นในนามของความบังเอิญแต่ซ่อนเจตนาแอบแฝงอื่นเอาไว้มากมาย
รองเท้าบู๊ตเหมือนกัน คนห้าคนเหมือนกัน
ชิ่งเฉินจู่ ๆ เหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง แต่ไม่มั่นใจ
อีกฝ่ายไม่ได้มาท่องเที่ยว ไม่มีใครที่แบกหมายจับไว้แล้วยังจะสามารถมาท่องเที่ยวอย่างสบายใจ
ที่เขาเหล่าจวินนี้ ขึ้นเขาลงเขามีเพียงเส้นทางเดียว ถ้าหากพวกเขาถูกคุนหลุนค้นพบที่อยู่ก็หลบหนีได้ยากมาก
อาชญากรที่ฉลาดจริง ๆ จะไม่เอาตนเองมาเสี่ยงอันตรายประเภทนี้ แต่พวกเขายังคงมาแล้ว
จะต้องมาเพื่อนักท่องเวลา
สองวันมานี้ อีกฟากสมุทรมีข่าวออกมาแล้วว่านักท่องเวลาคนหนึ่งเอายาเฉพาะทางต้านมะเร็งชนิดหนึ่งกลับมา ได้รับการพิสูจน์ประสิทธิภาพของตัวยาแล้ว
และยาเฉพาะทางที่นักท่องเวลาเอากลับมาขวดนี้ก็ประมูลออกไปด้วยราคาสูงเสียดฟ้า : สิบล้านดอลล่าร์สหรัฐ
ผู้ซื้อไม่ใช่คนรวยที่กำลังต่อสู้มะเร็ง ทว่าเป็นบริษัทยา ซื้อยาไปเพื่อทำการวิจัยและพัฒนา
อันที่จริงแล้ว ยาเฉพาะทางนี้ไม่ได้เป็นของที่มีเพียงหนึ่งเดียวเลย นักท่องเวลาคนอื่นก็สามารถเอากลับมาเหมือนกัน
ไม่อย่างนั้นยาขวดนี้ขายออกเป็นพันล้านก็ยังเป็นไปได้
วันที่บริษัทยาเจ้านี้ประมูลยาเฉพาะทางไปได้อย่างครึกโครม ราคาหุ้นพุ่งขึ้น 32%
ระหว่างโลกภายนอกและโลกภายในมีมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาล คนรวยซื้อชีวิต บริษัทเทคโนโลยีซื้อเทคโนโลยี ยังมีบริษัทซื้อกิมมิค มีความต้องการต่าง ๆ นานา
และมูลค่าเป็นตัวเงินที่มองเห็นได้นี้ก็ก่อให้เกิดความสนใจเป็นลูกโซ่อย่างมหาศาลตรง ๆ เลย
จะมีคนเต็มใจเสี่ยงอันตรายจากความสิ้นหวังเสมอนั่นล่ะ
ขณะนี้ท้องฟ้าของเขาเหล่าจวินค่อย ๆ มืดลง คลื่นฝูงชนกำลังหลั่งไหลเข้ามา เพียงพริบตาเดียวก็บังตำแหน่งของคนร้ายทั้งหมดไปแล้ว
เมื่อชิ่งเฉินลงจากรถ เจียงเสวี่ยรีบดึงมือน้อย ๆ ของหลี่ถงอวิ๋นแล้วถามว่า “ทำไมเหรอชิ่งเฉิน คุณเห็นอะไร”
บนมือเจียงเสวี่ยยังสวมถุงมือผ้าไหมสีดำหนึ่งคู่เพื่อปกปิดอวัยวะจักรกลของเธอ
“ผมพบเห็นคนห้าคน มีความเป็นไปได้มากว่าจะเป็นผู้ต้องสงสัยห้าคนที่ยังคงหลบหนี” ชิ่งเฉินสังเกตการณ์รอบด้านแล้วกล่าว “แต่ก่อนอื่นสามารถวางใจได้ พวกเขาไม่ได้พุ่งเป้ามาที่คุณเลย ไม่งั้นตอนนี้พวกเราถูกขังอยู่บนรถแล้วล่ะครับ”
เจียงเสวี่ยถามว่า “งั้นทำไงดี พวกเรากลับกันไหม”
“คันที่พวกเรานั่งเป็นรถเที่ยวสุดท้ายแล้ว ตอนนี้ไม่มีรถให้กลับแล้วครับ” ชิ่งเฉินอธิบาย “ก่อนหน้านี้ตอนที่ข่าวรายงานคุณเพียงเปิดเผยที่อยู่ของคุณอย่างไม่ตั้งใจ แต่รูปถ่ายของตัวคุณไม่ได้เปิดเผยออกมา ดังนั้นขณะนี้พวกเราปลอดภัยมาก”
พวกชิ่งเฉินล้วนไม่ใช่คนมีเงินอะไร ดังนั้นสิ่งที่นั่งมาคือรถโดยสารสาธารณะ ส่วนหูเสี่ยวหนิวกับพวกเป็นการเช่ารถตรง ๆ ไม่ถูกจำกัดด้วยเวลาและเที่ยวรถ
หลี่ถงอวิ๋นกล่าวอยู่ด้านข้างว่า “แม่อย่าห่วงเลยค่ะ พวกเราฟังพี่ชิ่งเฉินก็พอ”
ชิ่งเฉินคิดแล้วกล่าวว่า “ไปที่พักกันก่อน พรุ่งนี้ก็อย่าปีนเขาเลย รอหลังพระอาทิตย์ขึ้นก็นั่งรถบัสเที่ยวแรกกลับเมืองลั่ว”
พอถึงบ้านพักที่เจียงเสวี่ยจองไว้ เขาไปเข้าห้องน้ำก่อน ส่งข้อความให้หลิวเต๋อจู้ : วันชาติเจ็ดวันอยู่ในบ้าน ห้ามไปไหนทั้งนั้น
ชิ่งเฉินไม่ได้พูดว่าอย่ามาเขาเหล่าจวิน อย่างนั้นจะเปิดเผยตนเองได้ง่าย แต่ขอเพียงหลิวเต๋อจู้ไม่มา เขาเชื่อว่าหูเสี่ยวหนิวก็น่าจะยกเลิกทริป
เพียงแต่หลิวเต๋อจู้ไม่ได้ตอบเขาเลย
ชิ่งเฉินกลับไปในห้องปิดม่านหน้าต่าง จากนั้นยืนอยู่หลังม่านหน้าต่างเงียบ ๆ จับจ้องโลกข้างนอกอย่างไร้สุ้มเสียง
การยืนนี้ยืนอยู่หลายชั่วโมง ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยสักนิด
เจียงเสวี่ยเห็นเขายืนนานแล้วก็ถามว่า “เสี่ยวเฉิน คุณมาพักหน่อยเถอะ ฉันจะไปจ้องข้างหน้าต่าง”
ชิ่งเฉินส่ายหน้า “คุณไม่รู้ว่าพวกเขาหน้าตาเป็นยังไง น้าเจียงเสวี่ย คุณต้มมาม่าให้ผมกับเสี่ยวอวิ๋นเถอะครับ แล้วก็ช่วยผมเอาเนื้อตากแห้งในกระเป๋าออกมา หิวนิดหน่อยแล้ว”
ในบ้านพักหลังข้าง ๆ มีเสียงหัวเราะสนุกสนานลอยมาแผ่วเบา ยังมีเสียงกลองกับดนตรีดังผสมผสาน
เทียบกับความสุขหลังข้าง ๆ พวกเขาทางนี้ดูจะหนาวเหน็บอยู่บ้าง
หลี่ถงอวิ๋นเคลื่อนเก้าอี้หนึ่งตัวไปยืนข้างหลังชิ่งเฉินเงียบ ๆ ใช้มือน้อย ๆ นวดไหล่และคอของเขาเบา ๆ ช่วยเขาผ่อนคลายความเหนื่อยล้า “พี่ชิ่งเฉินไม่เหนื่อยเหรอ ยังไงก็พักผ่อนสักแป๊บเถอะค่ะ พี่ก็พูดว่าพวกเขาไม่ได้พุ่งมาที่พวกเรา ไม่ต้องเครียดขนาดนี้”
ชิ่งเฉินยังคงส่ายหน้า ไม่มีความคิดจะพักผ่อน “ไม่เป็นไร ฉันยังสามารถทนไหว คนที่ระมัดระวังก็จะปลอดภัยเสมอ”
เจียงเสวี่ยมองแผ่นหลังของเด็กหนุ่ม จู่ ๆ มีความรู้สึกปลอดภัย เธอกล่าวว่า “ยังไง……”
“ชู่!” ชิ่งเฉินขัดคำพูดที่ยังพูดไม่จบของเจียงเสวี่ย
ณ ขณะนี้ เขาเห็นเงาร่างอันคุ้นเคยนั้นนอกหน้าต่าง
เห็นเพียงคนร้ายสองคนมองไปรอบ ๆ อย่างตื่นตัว เดินผ่านหน้าประตูบ้านพักที่พวกชิ่งเฉินอยู่ช้า ๆ
หน้าอกของคนร้ายห้อยวิทยุสื่อสารเอาไว้ คนหนึ่งในนั้นไม่รู้ว่าพูดอะไรใส่วิทยุสื่อสาร สีหน้าเคร่งขรึม
ตอนที่เดิน มือขวาของอีกฝ่ายตกอยู่ที่เอวตลอด
รอจนร่างของสองคนนี้หายลับไปจากหน้าประตูบ้านพัก ชิ่งเฉินก้มหน้าลงมองเวลาบนโทรศัพท์มือถือ 11 นาฬิกา 55 นาที
นับถอยหลัง 00:05:00
ห้านาทีสุดท้าย
ชิ่งเฉินขมวดคิ้ว เหล่าคนร้ายเข้าสู่สภาวะตื่นตัวแล้ว
งั่นเป็นท่วงท่าที่เตรียมพร้อมจะต่อสู้ได้ทุกเมื่อชนิดหนึ่ง
“เป้าหมายของคนร้ายอาจจะเป็นบ้านพักหลังข้าง ๆ พวกเรา” ชิ่งเฉินกล่าว
เจียงเสวี่ยอึ้งไป “รีสอร์ตอวิ๋นซ่าง? ที่นั่นมีคนเยอะมาก พวกเขามีอันตรายแล้ว”
“อืม”
ชิ่งเฉินปล่อยม่านหน้าต่างเดินเข้าห้องน้ำไปดูอุปกรณ์สื่อสาร หลิวเต๋อจู้ถึงกับยังคงไม่ได้ตอบข้อความตนเองทั้งที่ผ่านมาหลายชั่วโมงแล้ว
……………………………….
ตอนที่ 79 – ล่อเสือออกจากเขา