นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature) – ตอนที่ 88 ศิลปะของการเก็บเกี่ยวชีวิต

นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature)

ตอนที่ 88 – ศิลปะของการเก็บเกี่ยวชีวิต

 

ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้คล้ายจะบ่งบอกกับชิ่งเฉินถึงหลักเหตุผลข้อหนึ่ง : ผลลัพธ์ของการต่อสู้ต้องให้ “อนาคต” ตัดสิน ห้ามใช้ข้อมูลของ “อดีต” มาคำนวณเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นจะทำให้คุณตกเหวลึกที่ไม่อาจฟื้นคืน

เห็นชัด ๆ ว่าที่คุนหลุนสั่งจับกุมเป็นคนร้ายห้าคน บนรถบัสชิ่งเฉินก็เห็นแค่คนร้ายห้าคน แต่ตอนนี้คนที่ขานเลขในวิทยุสื่อสารกลับเป็นแปดคน

มิน่าล่ะอีกฝ่ายถึงควบคุมตัวสมาชิกคุนหลุนสองคนได้ง่ายดายขนาดนี้ ที่แท้ทีมของอีกฝ่ายก็กำลังขยายตัว

บนโลกนี้ คนที่เต็มใจจะเสี่ยงภัยเพื่อเงินทองมีมากมายจริง ๆ

เมื่อวานนี้หลินเสี่ยวเสี้ยวเคยมาหาเขาคุยกันเล่น อีกฝ่ายนั่งยอง ๆ บนเก้าอี้ยิ้มกล่าวว่า “ชิ่งเฉิน คุณกลับโลกภายนอกแล้วจำไว้ว่าห้ามเชื่อใจใครเด็ดขาด เพราะผลประโยชน์จะเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์มากมายเกินไป มนุษย์เป็นพวกหาผลประโยชน์ ห้ามดูแคลนความโลภของมนุษย์ตลอดกาล คุณเดาดูซิ อุปกรณ์สื่อสารสถานีฐานที่คุณกับหลิวเต๋อจู้ใช้อยู่ ใครเป็นคนคิดค้น”

ชิ่งเฉินเดา “สายลับ?”

หลินเสี่ยวเสี้ยวสั่นศีรษะอย่างร่าเริง “ไม่ใช่ นี่คือคนเล่นหุ้นของเมืองหมายเลขหนึ่งสองคนเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกคนคว้าหลักฐานที่ค้าขายโดยใช้ข้อมูลภายในจึงได้คิดค้นขึ้นมาอย่างลับ ๆ คุณดูสิ นี่ก็คืออำนาจของผลประโยชน์ ถึงขนาดส่งเสริมความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี”

ขณะนี้ ชิ่งเฉินจู่ ๆ รู้สึกว่า โลกภายนอกอาจจะมีคนมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ ที่เดินเข้าด้านมืดของโลกใบนี้เพื่อผลประโยชน์

เพราะว่ามีคนมากมายเกินไปที่ต้องการโอกาสนี้มาเปลี่ยนชีวิตตนเอง

เขาเอาวิทยุสื่อสารเก็บเข้ากระเป๋า จากนั้นโบกมือให้เจียงเสวี่ยเดินเข้าสู่ม่านราตรี

เจียงเสวี่ยนั่งยอง ๆ ลงไปกอดหลี่ถงอวิ๋น “เมื่อกี้ตกใจไหม ยังกลัวไหม”

หลี่ถงอวิ๋นคิดดู “เดิมทีค่อนข้างกลัว แต่พี่ชิ่งเฉินลูบหัวหนูก็ไม่กลัวแล้ว”

เด็กหญิงคิดทบทวนถึงการคำนวณและลงมือเมื่อครู่นี้ของชิ่งเฉินในค่ำคืนมืดมิดที่สำเร็จในรวดเดียว เด็กหนุ่มลงมืออย่างหมดจดเบื้องหน้าคนร้ายเหมือนกับกำลังแสดงศิลปะชนิดหนึ่ง

ศิลปะของการเก็บเกี่ยวชีวิต

……

ฝ่าเท้าของมนุษย์น่าจะอ่อนนุ่มที่สุดในบรรดาสัตว์แทบทั้งหมด

อยากจะต่อสู้เท้าเปล่า เรื่องนี้เทียบกับในจินตนาการแล้วยากยิ่งกว่า หินเล็กหนึ่งก้อนบนพื้นก็อาจจะทำให้คนแยกเขี้ยวอย่างเจ็บปวดแล้ว

ถ้าเกิดว่ามีความเป็นไปได้อื่น ชิ่งเฉินไม่คิดจะต่อสู้กับผู้คนด้วยเท้าเปล่าเลย

แต่เขาไม่มีทางเลือก

ชิ่งเฉินนั่งยอง ๆ บนต้นผีผาข้างถนนต้นหนึ่ง อาศัยยอดไม้อันหนาแน่นมาซ่อนตัว ลดเสียงของวิทยุสื่อสารลงจนเบาสุด

กองไฟที่สั่นไหวอยู่ในลาน บางครั้งบางคราวจะสาดแสงทะลุรอยแยกของใบไม้ ส่องบนร่างเขาอย่างกระดำกระด่าง

นี่เป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดที่เขาสามารถเสิร์ชพบในความทรงจำ ยอดไม้ทั้งสูงและยังห่างจากรีสอร์ทอวิ๋นซ่างอยู่ช่วงหนึ่ง

“ในลานมี 6 คน นอกลานน่าจะยังมี 1 คนเฝ้าประตูหลัง” ชิ่งเฉินพึมพำในใจ ตนเองอยากจะจัดการคนเจ็ดคนมันไม่อยู่ในความเป็นจริง โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่คนร้ายล้วนรวมตัวอยู่ด้วยกัน

เขาก้มหน้ามองดูรอยเลือดที่ส้นเท้า ก็ไม่รู้ว่าคืนนี้หลังเหตุการณ์เท้าจะกลายเป็นสภาพอย่างไร

ในลาน หลิวเต๋อจู้นั่งหดตัวอยู่บนพื้นอย่างตื่นกลัว ส่วนคนที่เป็นผู้นำคนร้ายกำลังนั่งยอง ๆ อยู่ตรงหน้าเขา ใช้ปากกระบอกปืนจิ้มหน้าผากเขาไม่รู้ว่ากำลังถามอะไร

คนสี่สิบกว่าคนอยู่รวมกันกอดกันกลม คนร้าย 6 คนในลานควบคุมสภาพแวดล้อมของพวกเขาอย่างเข้มงวด ไม่มีคนมีโอกาสหลบหนี

สิ่งที่ทำให้ชิ่งเฉินเหนือความคาดหมายคือ เขาเห็นสมาชิกคุนหลุนหนึ่งคนกำลังนอนตะแคงบนพื้น หน้าผากของอีกฝ่ายชุ่มไปด้วยเหงื่อ

ปากแผลบนน่องของสมาชิกคุนหลุนสะดุดตาเป็นพิเศษ เลือดยังคงไหลออกมาจากด้านในช้า ๆ ย้อมจนกลายเป็นสีม่วงเข้มบนพื้นซีเมนส์

เพียงแต่ อีกฝ่ายในชั่วขณะนี้ที่เจ็บปวดอย่างนี้ มือขวายังวางอยู่ข้างกระเป๋ากางเกงของตนเองเงียบ ๆ นิ้วชี้กับนิ้วกลางเคาะสลับอย่างมีจังหวะจะโคน เหมือนกับกำลังส่งข้อความสู่โลกข้างนอก

กึก, กึกกึก

กึก, กึก, กึก……

นิ้วชี้แสดงถึงการเคาะเสียงสั้นที่เร็วมาก นิ้วกลางแสดงถึงการเคาะเสียงยาวที่ช้ามาก

เหมือนกับรหัสมอส แต่ชิ่งเฉินไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังส่งข้อความถึงใคร

พวกพ้องอีกคนของเขาเหรอ

ชิ่งเฉินจดความถี่ในการเคาะของอีกฝ่ายลงไป แล้วหันเหสายตาไปทางลาน

เวลานี้ กลับเห็นคนร้ายคนหนึ่งดึงผมของหวังอวิ๋น ดึงเธอออกจากกลุ่มคน

หวังอวิ๋นถูกลากไปบนพื้น ขาทั้งคู่ดิ้นรนสุดแรง แต่ทว่าสุดท้ายยังถูกลากเข้าไปในรีสอร์ท

เหล่าเพื่อนนักเรียนมองดูฉากนี้อย่างหวาดผวา หูเสี่ยวหนิว, จางเทียนเจินอยากจะลุกขึ้นมาหลายครั้ง แต่ถูกปากกระบอกปืนที่ทั้งดำมืดและเย็นเยียบจี้ให้นั่งยอง ๆ ลงไป

สมาชิกคุนหลุนที่ไม่ได้รับบาดเจ็บคนนั้นโกรธแค้นขึ้นมา แต่ถูกคนร้ายด้านข้างทุบตีที่ท้องอย่างโหดเหี้ยม เขาลงไปนอนขดบนพื้นเหมือนกุ้งอีกครั้ง สูดลมหนาวเข้าปากไม่ส่งเสียงร้องสักนิด

นอกจากนี้ ไม่มีคนกล้าต่อต้านอีก

แต่เวลานี้ใคร ๆ ก็ไม่สามารถใช้คุณธรรมมาต่อว่า การเอาตัวรอดของมนุษย์ตอนที่ตกอยู่ในอันตรายเป็นสัญชาตญาณชนิดหนึ่ง เหล่านักเรียนไม่เคยประสบกับการฝึกอย่างมืออาชีพ ความหวาดกลัวจึงเป็นอารมณ์ที่พวกเขาควรจะมี

เพียงแต่พวกเขาไม่รู้ว่า ตั้งแต่แรกเริ่มคนร้ายก็ไม่ได้ตั้งใจจะปล่อยคนธรรมดาสักคนอยู่แล้ว

ชิ่งเฉินสังเกตดูทุกสิ่งนี้ด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ แต่ไม่ได้ขยับมือเลย

เขารู้สึกว่านี่ไม่สอดคล้องกับตรรกะอยู่บ้าง เพราะคนร้ายเป็นนักรบที่มีการฝึกฝนอย่างเชี่ยวชาญ

เวลาประเภทนี้มาทำเรื่องอย่างนี้ดูจะโง่เง่าเกินไป

แต่เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่มีทางโง่เง่าขนาดนี้

ผ่านไปไม่ทันไร คนร้ายคนนั้นก็เดินออกมาจากในรีสอร์ท เขาตบไหล่ของพวกพ้อง “ตานายแล้ว”

เหล่านักเรียนหลังจากได้ยินประโยคนี้ก็ถดตัวถอยหลังอย่างหวาดกลัวทันที

เห็นเพียงคนร้ายคนนั้นหัวเราะฮี่ ๆ สายตากวาดไปมาอยู่ในกลุ่มคน นักเรียนหญิงพากันก้มหน้าไม่กล้ามองตรง เหมือนกับว่าอย่างนี้ตนเองจะไม่ถูกค้นพบ

แต่ทว่าพริบตาถัดมา สายตาของอีกฝ่ายถึงกับ……หยุดอยู่บนตัวหนานเกิงเฉิน!

คนร้ายผลักดันกลุ่มคนดึงตัวหนานเกิงเฉินที่ผอมแห้งออกมา อยากจะพาเข้าไปในอาคาร

ชิ่งเฉินมองดูฉากนี้อย่างอึ้ง ๆ “……”

ในที่สุดเขาตัดสินบางเรื่องได้แล้ว

ไม่สามารถรออีกต่อไป

เขาถึงขนาดยังไม่รู้ว่าคนอื่นที่ซุ่มประตูหลังอยู่ที่ไหน แต่เขาไม่สามารถรออีกแล้ว

นี่เป็นจังหวะเวลาที่ดีที่สุด

……

รีสอร์ทอวิ๋นซ่างสร้างขึ้นอิงภูเขา ด้านหลังของมันไม่ใช่พื้นราบ ทว่าเป็นต้นไม้กับตัวภูเขาที่ยื่นขยายออกไปด้านบนเฉียง ๆ

คนร้ายคนหนึ่งกำลังพิงประตูหลังเงียบ ๆ สูบบุหรี่

สีแดงของก้นบุหรี่สว่างวูบวาบในค่ำคืน ในความเงียบงันถึงขนาดสามารถได้ยินเสียงซี่ ๆ ของบุหรี่ที่เผาไหม้

ไม่เหมือนกับคนร้ายที่ประตูหน้า เขาถือปืนกล็อก 34 ที่ติดอุปกรณ์เก็บเสียงไว้ในมือแต่แรกแล้ว อย่างนี้จะสามารถตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินได้ทุกเมื่อ

ทันใดนั้น ในความมืดมิดมีเสียงก้อนหินตกลงพื้น

แต่ทว่าปฏิกิริยาอันดับแรกของคนร้ายถึงกับเป็นการมองไปทิศทางตรงข้ามกับเสียง ปากกระบองปืนชี้ไปในทิศทางที่มาของเสียง

ไม่ว่าด้านไหนจะมีคน เขาล้วนสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว นี่เป็นหนทางจัดการที่ถูกต้องที่สุด

ไม่มีคน

กล้ามเนื้อที่ตึงเครียดของเขาผ่อนคลายลงช้า ๆ

คนร้ายโยนก้นบุหรี่ในมือทิ้ง ยกปืนด้วยสายตาสงบนิ่งสอดส่อง อยากจะหาต้นกำเนิดของเสียงหินเมื่อครู่นี้ออกมา

เวลานี้ ในวิทยุสื่อสารส่งเสียงออกมาว่า “นับเลข 1”

“2”

“3”

คนร้ายกดวิทยุสื่อสารกล่าวว่า “4”

วินาทีนี้ พลังสมาธิของเขาอยู่บนวิทยุสื่อสาร พลังสมาธิและพลังการได้ยินก็กระจัดกระจายไปบ้าง

เขาปล่อยวิทยุสื่อสาร ใช้สายตาสอดส่องรอบบริเวณต่อไป

พริบตานั้น ม่านตาของคนร้ายหดอย่างฉับพลัน แต่เขาถูกมือที่เอื้อมมาจากด้านหลังปิดปากไปแล้ว มีดอันเยียบเย็นแทงเข้าจากหลังเอวดั่งสายฟ้า ทะลุม้ามของเขา หยุดอยู่ในถุงลมปอด

ชั่วขณะถัดมา เขาได้ยินว่ามีคนยืนอยู่ด้านหลังเขา กดวิทยุสื่อสารกล่าวว่า “5”

ฝ่ามือข้างนั้นปล่อยอย่างช้า ๆ ในปากคนร้ายกลับได้แต่ส่งเสียงลมอึกอักออกมา

ในวิทยุสื่อสารยังคงขานเลขต่อไป

“6”

“7”

“8”

ไม่มีคนค้นพบว่าพวกพ้องของตนเองตายไปสองคนแล้ว

…………………………..

 

 

ตอนที่ 89 – ความกล้าหาญ

นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature)

นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature)

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท