ตอนที่ 93 – การเริ่มต้นใหม่
เวลาตีสองกว่า พวกพ้องของอีกฝ่ายตายไปหมดแล้ว เวลานี้ใครจะโทรศัพท์มาหาคนร้าย
เขาเดินไปข้างรถ ล้วงโทรศัพท์มือถือออกมาจากในกระเป๋าอีกฝ่ายอย่างเบา ๆ กดปุ่มรับสาย
หมายเลขที่แสดงคือ “ผู้โทรที่ไม่ทราบชื่อ”
ตั้งแต่ต้นจนจบ ชิ่งเฉินใช้นิ้วของมืออีกข้างปิดกล้องมือถือตลอด ไม่ให้ใครมีโอกาสถ่ายรูปใบหน้าของตนเองจากโทรศัพท์มือถือเครื่องนี้ ถึงแม้เขาจะยังปิดหน้าอยู่ก็ตาม
ในโทรศัพท์มือถือ อีกฝ่ายไม่ได้พูด เหมือนกับจะรอให้หัวหน้าคนร้ายเปิดปากก่อน
เพียงแต่ชิ่งเฉินที่ปลายสายฝั่งก็นิ่งเงียบตลอด
คนที่อีกปลายสายเกิดปฏิกิริยาขึ้นมา อีกฝ่ายหัวเราะเบา ๆ “พวกเขาตายแล้วถูกไหม”
ชิ่งเฉินไม่ได้พูด
เสียงในโทรศัพท์นั้นหัวเราะต่อแล้วว่า “ในเมื่อพวกเขาตายแล้ว ไม่สู้คุณกับผมมาคุยกัน”
ชิ่งเฉินไม่ได้รีรออีก เขาตัดสายโทรศัพท์ ใช้โค้ทกันลมของหัวหน้าคนร้ายลบรอยนิ้วมือบนโทรศัพท์มือถือแล้วประทับรอยนิ้วมือของอีกฝ่ายลงไป สอดเข้าไปในเสื้อโค้ทกันลมของอีกฝ่ายแล้วจึงเข้าสู่ราตรีมืดมิดช้า ๆ
เขากำลังคิดว่า นี่เป็นแค่คนร้ายที่แม้แต่ผิวหนังไบโอนิกยังซื้อไม่ไหวเจ็ดคนเท่านั้น แต่แทบจะเอาชีวิตเขาไปครึ่งตัวแล้ว
จนกระทั่งชั่วขณะนี้ ชิ่งเฉินจู่ ๆ ตระหนักว่าชีวิตอันน่ามหัศจรรย์นี้ของตนเองเหมือนกับเพิ่งจะเริ่มต้น
……
เหตุเพลิงไหม้บนเขาเหล่าจวินอยู่ในการควบคุมตอนรุ่งสาง โฮมสเตย์ทั้งถนนล้วนกลายเป็นซากปรักหักพังสีเทาดำ
มีนักท่องเที่ยวร้องไห้อยู่บนถนน ยังมีนักท่องเที่ยวนั่งยอง ๆ อยู่ข้างถนน สีหน้าว่างเปล่า
รถออฟโร้ดสีดำเจ็ดคันแล่นฉิวขึ้นเขา สมาชิกคุนหลุนจอดชั่วครู่ตรงสถานที่รถของหัวหน้าคนร้ายเกิดอุบัติเหตุรถชนบนถนนภูเขาก่อน ทิ้งคนหนึ่งคันรถไว้ดำเนินการตรวจสอบโดยละเอียด คนอื่นขึ้นเขาต่อไป
ลู่หยวนมาถึงหน้าประตูรีสอร์ทอวิ๋นซ่าง มองดูอาคารที่ถูกเผาเป็นตอตะโก ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไร
เบื้องหน้าเขาเป็นศพของสมาชิกคุนหลุนสองคน ด้านข้างยังมีศพของคนร้ายหลายคน
ลู่หยวนอดใจไม่ไปมองดูสหายร่วมรบของตนเอง ทว่านั่งยอง ๆ ทำการชันสูตรเบื้องต้นให้คนร้าย
“คนร้ายทั้งหมดเก้าคน คนที่อยู่บนทางด่วนผานซานน่าจะเป็นตัวหัวโจก ในระหว่างหลบหนีถูกคนแทงม้าม พวกเราหาเจอรอยเท้าของคนอื่นบนเขา แต่ว่ามีจุดที่น่าสงสัยคือ ผู้ที่ฆ่าคนเหมือนกับจะไม่ได้สวมรองเท้า”
“พวกเราพบรอยเท้าที่เปื้อนเลือดบนพื้น รอยเลือดเก็บกลับไปเปรียบเทียบ DNA แล้ว”
“แถว ๆ รีสอร์ทมีคนร้ายทั้งหมดแปดคน คนหนึ่งถูกคนหักหัวเข่าในลานจอดรถ แต่คนยังมีชีวิต อีกฝ่ายเห็นได้ชัดว่ามีความสามารถจะฆ่าเขาแต่ไม่ฆ่า เหมือนกับว่าทิ้งเขาไว้ให้พวกเราสอบสวนโดยเฉพาะ”
“คนร้ายเจ็ดคนที่เหลือ มีสามศพถูกเพลิงเผาทำลาย คนหนึ่งถูกปืนยิงสังหาร สามคนที่เหลือล้วนถูกคนแทงม้ามโดยไม่เว้นสักคน ฝีมือแม่นยำอย่างยิ่ง มีความเป็นไปได้มากว่าเป็นมือสังหารมืออาชีพ”
“หัวหน้าทีมลู่ มีนักเรียนพูดว่าบันโส่วกับซานจาก่อนตายได้ช่วยเปิดประตูใหญ่ ไม่อย่างนั้นนักเรียนสี่สิบกว่าคนก็หนีออกมาไม่ได้…… พวกเขาไม่ได้ทำให้คุนหลุนขายหน้า”
ลู่หยวนฟังรายงานของลูกน้องเงียบ ๆ ลมภูเขาหอบหนึ่งพัดมา จมูกของเขาจู่ ๆ แสบร้อนขึ้นมา
ลมพัดหวีดหวิด ก่อกวนขี้เถ้าจนคละคลุ้ง
ลู่หยวนเช็ดถูจมูก ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาอารมณ์อ่อนไหว
เขานั่งยอง ๆ บนพื้นตรวจสอบบาดแผลของคนร้าย ยังมีจุดที่ค้นพบศพซึ่งลูกน้องทำเครื่องหมายเอาไว้
จุดที่ค้นพบศพแรกคือเพื่อนบ้านรีสอร์ทอวิ๋นซ่าง แต่ที่นั้นไม่ใช่จุดเกิดเหตุเลย
สมาชิกคุนหลุนค้นพบรอยเลือดบนถนนนอกประตู ยังมีร่องรอยการลาก
ลู่หยวนกล่าวโดยสงบว่า “น่าเป็นมีคนใช้ความมืดฆ่าเขาบนถนน จากนั้นจึงลากเขาไปที่ลานข้าง ๆ ไฟเผาอาคารไม่ได้ขยายไปถึงในลาน”
ขณะนี้ลู่หยวนดูบาดแผลของคนร้าย ในใจยิ่งเกิดความตื่นตะลึง
ลูกน้องวิเคราะห์ได้ไม่ผิดสักนิด คนร้ายพวกนี้ล้วนถูกเขาโจมตีจุดชีวิตในท่าเดียว
อีกฝ่าย ไม่ว่าจะการแทงมีดจากด้านหลังหรือว่าแทงมีดจากด้านหน้า ปลายมีดนั้นสุดท้ายแล้วล้วนแทงทะลุม้ามอย่างแม่นยำ
“ประหลาด ทำไมแทงแต่ม้าม” ลู่หยวนกังขาอยู่บ้าง “หรือว่ามีอาการเสพติดหรือว่าความเคยชินโดยเฉพาะอะไร”
เขาติดตามจุดที่ลูกน้องทำเครื่องหมายไว้ เดินตลอดทางไปจนถึงด้านหลังของลาน
ที่นี่น่าจะเป็นจุดเกิดเหตุที่สอง ผู้ที่ฆ่าคนเก็บคนร้ายคนที่สองที่นี่ จากนั้นเข้าไปในลาน
ลู่หยวนถามว่า “นักเรียนพวกนั้นว่ายังไง”
ลูกน้องกล่าวว่า “มีสามคนได้รับบาดเจ็บหนัก มีสองคนชื่อหูเสี่ยวหนิวกับจางเทียนเจินถูกคนร้ายยิงเข้าช่องท้อง แต่ดีที่ยิงถูกแค่ลำไส้ ตอนนี้ส่งลงเขาไปผ่าตัดแล้ว สามารถรักษาชีวิตได้แน่”
ลูกน้องรายงานต่อว่า “ยังมีหนึ่งคนชื่อหวังอวิ๋น แต่อาการบาดเจ็บของเด็กสาวคนนี้ประหลาดมาก ตามที่เธอพูดคือถูกคนร้ายที่ปิดบังใบหน้าคนหนึ่งยิงใส่ขาทั้งคู่ สุดท้ายถูกนักเรียนที่ชื่อหนานเกิงเฉินลากออกจากรีสอร์ท ไม่งั้นก็โดนเผาตายอยู่ข้างในแล้ว”
ลู่หยวนขมวดคิ้ว “ปิดหน้า”
“อืม” ลูกน้องพยักหน้า “ผมสงสัยว่าคนคนนี้ไม่ใช่คนร้าย ทว่าเป็นคนคนนั้นที่ฆ่าคนร้ายทิ้ง”
“ไม่ต้องสงสัย เป็นเขาแน่ ๆ อีกอย่างคุณจับสังเกตหวังอวิ๋นคนนั้นเอาไว้ เธอมีปัญหา คนที่ช่วยพวกเราฆ่าคนร้ายคนนั้นจะไม่ยิงใส่เธอสองนัดอย่างไร้เหตุไร้ผล” ลู่หยวนกล่าว “จริงสิ หนานเกิงเฉินคนนั้นทำไมอยู่ในรีสอร์ท”
“เห็นบอกว่าถูกคนร้ายดึงเข้ารีสอร์ทไปทำมิดีมิร้าย” ลูกน้องอธิบาย “แต่ผมเห็นเขาเสื้อผ้าเรียบร้อย ไม่ได้เหมือนกับเกิดเรื่องขึ้น”
“งั้นเขาน่าจะเห็นผู้ที่ฆ่าคน ผู้ที่ฆ่าคนอาจจะช่วยชีวิตเขาเป็นทางผ่าน” ลู่หยวนวิเคราะห์ “ถามอะไรออกมาได้ไหม”
ลูกน้องตอบว่า “เขาบอกแล้ว ผู้ที่ฆ่าคนสูงน่าจะประมาณ 176 เท้าเปล่า หางตามีตีนกาจาง ๆ เหมือนจะสามสิบกว่าปี”
ลู่หยวนพยักหน้า “งั้นหาตามขอบเขตนี้ไปก่อนชั่วคราว หนานเกิงเฉินเป็นพยานคนแรก คำรายงานของเขาน่าเชื่อถือที่สุด”
คนทั้งหมดกลับมาถึงข้างหน้า ตรงสถานที่ที่จัดวางศพ
ลู่หยวนมองดูถนนที่หักพังครุ่นคิดอย่างจริงจัง คนร้ายเก้าคนตายไปแปดคน สองคนถูกยิงตาย หนึ่งคนคุกเข่าอยู่ที่ลานจอดรถ สองคนถูกสหายทีมคุนหลุนฆ่า
สี่คนที่เหลือล้วนตายจากม้ามแตก หรือก็คือ อีกฝ่ายลงมือสี่ครั้ง แถมยังล้วนประสบผล
คนประเภทนี้อันตรายมาก……แต่จู่ ๆ ลู่หยวนไม่อยากจะตามสืบขึ้นมานิดหน่อยแล้ว เพราะว่าคนคนนี้แก้แค้นให้เพื่อนร่วมทีมแทนเขา
บนเส้นทางไล่ล่านั้น เหล่าสมาชิกทีมคุนหลุนค้นพบรอยเท้าเลือดนับไม่ถ้วน เขาจินตนาการได้ยากมากว่าอีกฝ่ายหอบหิ้วพลังใจอย่างไร อาศัยความเลือดเดือดทั้งตัวฆ่าคนร้ายไปทีละคน
ลู่หยวนมองดูศพอื่น ๆ แวบหนึ่ง จู่ ๆ ค้นพบรายละเอียดหนึ่ง “มีแค่คนร้ายคนนี้ที่หน้าประตูที่บนตัวขาดวิทยุสื่อสาร เขาน่าจะเป็นคนที่ตายคนแรกสุด…… ในสถานที่เกิดเหตุไม่ได้ค้นพบวิทยุสื่อสารที่ตกอยู่เครื่องอื่น ดังนั้น วิทยุสื่อสารที่หายไปน่าจะยังอยู่บนตัวผู้ที่ฆ่าคนคนนั้น”
วินาทีถัดมา ลู่หยวนจู่ ๆ หยิบวิทยุสื่อสารบนตัวคนร้ายอีกคนขึ้นมา เขาสูดลมหายใจเข้าลึก จากนั้นกดปุ่มสื่อสาร “สวัสดีครับ ผมคือลู่หยวนของคุนหลุน”
แต่ว่า ในลมภูเขาไม่มีคนตอบเขา
……
ตอนที่ 94 – ดูแลตัวเอง