บทที่ 69 เพื่อนเก่าของยุ่นหลิง
เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฝูงชนรู้สึกผิดหวังเมื่อพวกเขาเริ่มแยกย้ายกันไป
“ท่านรู้จักเขาเหรอ นายน้อย”? เจ้าเขี้ยวหิมะถามขณะที่มันเดินมาอยู่ข้างๆ ลูกราชสีห์ราชาที่ซ่อนตัวอยู่ข้างหลังมันตลอดเวลาแสดงตัวออกมาในขณะที่มันเดินตามพ่อของมัน
“รู้จักเขางั้นเหรอ”? ยุ่นหลิงพึมพำแล้วนึกถึงเรื่องในอดีต
…
ยุ่นหลิงวัยเจ็ดขวบกำลังเดินไปตามทางเดินอย่างร่าเริง เขากำลังจะไปหากับเพื่อนๆของเขา และเล่นกับพวกเขาข้างนอกหลังจากที่เครียดกับการเรียนฝึกฝนกับพ่อของเขา
“นายน้อย” คนรับใช้หญิงโค้งคำนับเมื่อเห็นยุ่นหลิงออกไปข้างนอก
ยุ่นหลิงเห็นเธอและพยักหน้าให้เธอ
นับตั้งแต่ที่เขาจำความได้ ยุ่นหลิงสังเกตเห็นว่าคนรับใช้ทั้งหมดที่เขาพบมักจะหยุดสิ่งที่พวกเขาทำและคำนับเขา แม้แต่พวกพ้องของเขา เมื่อเห็นเขา ก็ยังต้องแสดงความเคารพต่อเขา ไม่ว่าพวกจะอยู่ภายนอกหรือภายในบ้าน
ถ้าเขาต้องการที่จะพูดกับใครก็ตาม คนเหล่านั้นจะมองด้วยสายตาที่หวาดระแวงเกรงกลัว เขาสงสัยว่าทำไมต้องมองเขาแบบนั้นด้วย? ดูเหมือนหลายๆคนจะชอบเขา แล้วสายตาที่ไม่พอใจพวกนั้นคืออะไร?
เขาส่ายหัว และพยายามจะไม่คิดมาก เขายังคงเดินไปเรื่อยๆ และคิดว่าเขาและเพื่อนๆ จะเล่นอะไรกันวันนี้?
เมื่อเขาออกไปนอกบริเวณที่อยู่อาศัยของตระกูล ยุ่นหลิงเห็นเพื่อนของเขาที่รออยู่ฝั่งตรงข้ามประตูทางเข้าตระกูล
“เจ้ามาช้านะ!” เพื่อนของเขาพูดด้วยสีหน้าโกรธจัด แม้ว่าเขาจะมีสีหน้าที่โกรธ แต่ยุ่นหลิงก็รู้ว่าเพื่อนของเขาแค่แกล้งทำและไม่ได้โกรธเขาจริงๆ
ยุ่นหลิงลูบหัวขณะที่เขาหัวเราะอย่างเขินอาย “ขอโทษด้วย วันนี้การฝึกของท่านพ่อยาวกว่าปกตินิดหน่อย แล้วคนอื่นๆไปไหนล่ะ เหลายู่ตง?”
…
“เพื่อนเก่าของข้าน่ะ” ยุ่นหลิงพูดนิ่งๆ เหลายู่ตงเป็นหนึ่งในเพื่อนของเขาตอนที่เขายังเป็นเด็ก พวกเขาเคยสนิทสนมกันจนกระทั่งยุ่นหลิงตัดสินใจเลิกเป็นเพื่อนกับเขา
เมื่อเห็นว่านายน้อยของเขาไม่ได้คิดจะพูดอะไรอีก เจ้าเขี้ยวหิมะก็คิดว่าเขาคงไม่ต้องการจะพูดถึงเรื่องนี้อีก ดังนั้นมันจึงตัดสินใจที่จะไม่ถามต่อ ไม่ใช่ว่ามันอยากรู้เรื่องทั้งหมด มันแค่อยากรู้นิดหน่อยเท่านั้น
“ฮืม?”
แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะแยกย้ายกันไปแล้ว แต่ก็ยังมีบางคนยืนอยู่รอบๆ ขณะที่มองดูพวกเขา
“พวกเจ้ามองอะไร”? ยุ่นหลิงถามขณะที่เขาจ้องมองไปที่คนเหล่านั้น
พวกเขาทั้งหมดรีบสลายตัวทันทีที่ยุ่นหลิงถาม พวกเขาอยากมุงดูเฉยๆแต่ไม่ได้อยากเรื่องเรื่องกับนายน้อยคนนี้
มันไม่คุ้มค่าพอที่จะเอาชีวิตของพวกเขามาเสี่ยง
ยุ่นหลิงเพียงแค่ถามนิ่งๆใส่พวกเขา คนเหล่านั้นก็รีบหนีไปอย่างขี้ขลาด แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นเขาต้องยอมรับว่าคนเหล่านี้ฉลาดพอที่จะไม่ยุ่งกับเขา ต่างจากบางคนที่ยังคงถูกเค้าทุบตีจนฟกช้ำไปทั้งร่างกายแต่ไม่รู้จักจำ
“ข้าจะกลับเข้าไปข้างในแล้วนะ แล้วเจ้าล่ะ?” ยุ่นหลิงหันไปหาจิ้งจอกและถาม
“ข้าจะอยู่ที่นี่” จิ้งจอกพูด
เขาพยักหน้าเมื่อได้ยินคำตอบของมัน และเดินกลับไปที่ร้านขายขนมที่ลูกสาวของเขาและเด็กคนอื่นๆรออยู่
“ท่านพ่อเกิดอะไรขึ้น”? ยุ่นเซี่ยถามพ่อของเธออย่างกังวลเมื่อเขาเข้ามาข้างใน เธอเห็นว่าตอนนี้มีคนมากมายอยู่ข้างนอก ต้องมีบางอย่างที่สำคัญเกิดขึ้น
“ไม่มีอะไรหรอกเซี่ยๆ แค่พวกงี่เง่าน่ะพ่อไล่พวกมันไปแล้ว” ยุ่นหลิงให้ความมั่นใจกับเธอ
ยุ่นเซี่ยโล่งใจอย่างเห็นได้ชัดเมื่อได้ยินแบบนั้น เด็กคนอื่นๆก็เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เด็กชายคนนั้นก็ยังไม่แน่ใจ เขาเอาแต่คิดว่าคนพวกนั้นมาตามพวกเขาหรือไม่
ยุ่นหลิงเห็นความกังวลบนใบหน้าของเด็กคนนั้นและนึกถึง เหลายู่ตงผู้ชายคนนั้นอาจจะซักถามน้องชายคนเล็กของเขาเกี่ยวกับเรื่องราวทั้งหมดที่นำไปสู่สถานการณ์ก่อนหน้านี้ จากนั้นก็คงจะรู้ว่าเขากับลูกสาวกำลังช่วยเด็กๆเหล่านี้ เมื่อรู้แบบนั้น เหลายู่ตงก็อาจจะส่งคนมารังควาญเด็กๆและครอบควัรของเด็กเหล่านี้อีก
เขาแน่ใจว่าเหลายู่ตงเป็นคนแบบนั้น นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ยุ่นหลิงเห็นเขาทำเรื่องแบบนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่สงสัยเลยเขาจะทำแบบนั้น เขาเคยเห็นเหลายู่ตงฆ่าคนบริสุทธิ์ในตอนกลางวันแสกๆ ด้วยซ้ำ ตอนที่พวกเขายังเป็นเด็ก แน่นอน ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขาเพราะอิทธิพลของครอบครัวเขา ครอบครัวของชายที่ถูกฆ่านั้นได้แต่โศกเศร้าและทำอะไรเหลายู่ตงไม่ได้
ไม่มีความยุติธรรมสำหรับผู้อ่อนแอในโลกนี้ เฉพาะผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่มีสิทธิ์เช่นนั้น
“เจ้าหนุ่ม” ยุ่นหลิงเรียกเด็กชายคนนั้น
“ครับท่าน?”
ยุ่นหลิงถอนหายใจขณะที่เขาลูบไปหลังหัวของเด็กคนนั้น ปัญหาทั้งหมดนี้เริ่มต้นขึ้นเพราะยุ่นเซี่ยตัดสินใจช่วยพวกเขา บางทีถ้าลูกสาวของเขาไม่ช่วยพวกเขา ทุกอย่างก็จะจบลงด้วยการถูกทุบตี แล้วทั้งสองฝ่ายก็จะลืมมันไปในที่สุด ถึงแม้จะเกิดขึ้นอีกแต่ก็ไม่มีผลกับครอบครัวของเด็กเหล่านี้แน่ๆ
อย่างไรก็ตาม เพราะการที่ยุ่นเซี่ยเข้าไปห้าม ทุกอย่างจึงกลายเป็นเรื่องที่วุ่นวายขึ้น ตอนนี้ แม้แต่เหลายู่ตงก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย และการที่เขาเกี่ยวพันกับเรื่องแบบนี้มันอาจทำให้ต้องใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวง
“ดูเหมือนเจ้าจะฉลาดที่สุดในกลุ่มนะ ดังนั้นเจ้าไปบอกเพื่อนๆของเจ้าว่า ให้ครอบครัวของเจ้าและเพื่อนๆของเจ้านั้นเข้ามาอยู่ที่ตระกูลยุ่นซะ” ยุ่นหลิงสั่งเด็กชายคนนั้น
เขาถอนหายใจอีกครั้ง
เขาทำแบบนี้ก็เพื่อลูกสาวของเขา
“ยุ่นเซี่ย ไปเอาสร้อยคอของลูกกันเถอะ นี่มันก็เกือบสองชั่วโมงแล้ว” ยุ่นหลิงพูดกับลูกสาวของเขา
“รอแปปนะท่านพ่อ…” ยุ่นเซี่ยพูดขณะที่เธอคว้าแหวนเก็บของที่พ่อมอบให้เธอ ทำให้ยุ่นหลิงรู้สึกสงสัย
ยุ่นหลิงเลิกคิ้วมองเธอ
เมื่อเห็นสีหน้าที่สงสัยจากพ่อของเธอ ยุ่นเซี่ยก็บอกพ่อของเธอว่า “หนูจะเอาของเล่นของหนูแบ่งให้กับพวกเขา!”