นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature) – ตอนที่ 106 ป่า

นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature)

ตอนที่ 106 – ป่า

 

เมืองหมายเลข 18 กับเมืองหมายเลข 10 อยู่ติดกัน

เมืองสองเมืองที่หมายเลขไม่ได้อยู่ติดกัน ตำแหน่งทางภูมิประเทศกลับอยู่ห่างกันเพียงสองร้อยกว่ากิโลเมตร เป็นเพียงเพราะว่า เมืองเหล่านี้ไม่ได้จัดเรียงตามระดับความสำคัญเลย ทว่าเรียงตามลำดับก่อนหลังของการสร้างเมือง

ถ้าวาดสหพันธรัฐเป็นวงกลมวงหนึ่ง อย่างนั้นวงเมืองที่เมืองหมายเลข 18 กับหมายเลข 10 ก่อขึ้นก็จะเหมือนอยู่ใจกลางวงของวงกลมนี้

ชิ่งเฉินเคยไปหาหลี่ซูถงเพื่อขอแผนที่ของสหพันธรัฐ สามารถพูดได้ว่าแผนที่ของโลกภายนอกกับโลกภายในแทบไม่ต่างกัน มีแค่โซนชายฝั่งที่แตกต่างกันอย่างใหญ่หลวง

ถ้าหากโลกสองโลกนี้เป็นโลกคู่ขนานกันจริง ๆ

อย่างนั้นเปลือกโลกของโลกภายในจะต้องเคยประสบกับการเคลื่อนไหวรุนแรง จึงกลายมาเป็นสภาพอย่างทุกวันนี้

เมืองหมายเลข 18 ตรงกับเมืองลั่ว เมืองหมายเลข 10 ตรงกับเมืองเจิ้ง ไม่ว่าที่โลกภายในหรือโลกภายนอก พวกมันล้วนเป็นดินแดนของภาคกลางมาโดยตลอด

ไม่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ของเมืองท่าชายฝั่ง เมืองอย่างเช่นเมืองหมายเลข 7 ที่ตรงกับเมืองไห่ก็เลยห่างกันไกลกับความรุ่งเรืองของเมืองไห่ของโลกภายนอก

ในสหพันธรัฐ เมืองที่รุ่งเรืองที่สุดคือหมายเลข 18 กับหมายเลข 10

หมายเลข 18 เป็นใจกลางทางเศรษฐกิจ หมายเลข 10 เป็นใจกลางทางการเมือง

หนึ่งตะวันตก หนึ่งตะวันออก ถูกเรียกขานว่าเป็นดาวคู่แห่งสหพันธรัฐ

เส้นที่เชื่อมต่อระหว่างพวกมันคล้ายกับจะตัดแบ่งทิศเหนือกับทิศใต้ของสหพันธรัฐ

นับถอยหลัง 96:00:00

อีกเที่ยงคืนหนึ่ง

ณ หนึ่งร้อยกว่ากิโลเมตรทางทิศใต้ของเมืองหมายเลข 18 กำลังมีคนสิบกว่าคนล้อมวงผิงไฟอยู่ข้างกองไฟ ในแสงไฟอันไหววูบ ชายแปดหญิงสี่กำลังพูดคุยหัวเราะกัน

เหนือกองไฟมีราวไม้ บนกิ่งไม้แขวนหม้อเหล็กหนึ่งใบ บะหมี่น้ำข้นคลั่กข้างในกำลังเดือดผุด ๆ

มีคนล้วงเนื้อแห้งหนึ่งเส้นออกมาจากในอกเสื้อ แล้วใช้มีดเล็กตัดออกมาหลายชิ้นโยนเข้าไปในหม้อ

นี่เป็นแคมป์ชั่วคราวขนาดเล็กแห่งหนึ่ง

พื้นที่ว่างใกล้ ๆ กับแคมป์ยังตั้งเต็นท์ผ้าใบสีเขียวเข้มเอาไว้เก้าหลัง

ลมยามราตรีแรงมาก มีรถปิคอัพบุโรทั่งสองคันจอดที่ต้นลม ป้องกันแคมป์ชั่วคราวเล็ก ๆ นี้จากลมหนาวอันโหดร้าย

ในกระบะของปิคอัพเหมือนจะมีสินค้าอะไรที่ถูกผ้าใบคลุมเอาไว้ มองไม่เห็นว่าของในสรุปแล้วเป็นสิ่งของอะไร

ข้างกองไฟกองไว้ด้วยก้อนหินกันลม ถึงอย่างนั้น เปลวไฟสีส้มแดงยังคงสั่นไหววูบวาบ

“ครั้งนี้สิ่งของที่นายจ้างอยากจับหาไม่ง่ายนัก พวกเราวนอยู่แถวนี้มาเดือนหนึ่งแล้วก็หาไม่เจอสักตัว” ชายชราที่อยู่ข้างกองไฟคนหนึ่งกล่าวขึ้นมา “ยังไง พวกเราไปริม ๆ “สถานที่แห่งนั้น” เสี่ยงดวงดูไหม ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องเข้าไป  ริม ๆ ก็ไม่ได้อันตรายขนาดนั้น หลายปีก่อนฉันเคยไปมาแล้ว”

ชายชราชื่อฉินเฉิน เป็นผู้นำของทีมนี้

ส่วนคนที่ล้อมรอบกองไฟก็ล้วนมีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดกันหมด

พวกเขาสวมชุดทหารที่ไม่รู้ว่าไปคุ้ยหามาจากที่ใด มีบางคนที่ส่วนข้อศอก, ส่วนหัวเข่า, ส่วนขา, ส่วนก้นยังมีรอยปะ ขนาดก็ไม่พอดีตัวอยู่บ้าง

“พ่อ ราคาที่ผู้ซื้อเสนอมาคุ้มค่าที่พวกเราจะเสี่ยงอันตรายนี้เหรอ” ชายหนุ่มคนหนึ่งถามขึ้น

“แกก็รู้ อีกฝ่ายเสนอมาสองแสน” ชายชราฉินเฉิงใช้มือจักรกลที่ขึ้นสนิมอยู่บ้างของเขามวนบุหรี่ ชั้นเคลือบนาโนบนนิ้วมือล้วนหลุดร่อนเป็นแผ่น ๆ แล้ว “มีเงินก้อนนี้ก็จะสามารถเปลี่ยนอวัยวะจักรกลที่ดีกว่านี้ให้แกกับเสี่ยวอี้ได้ พลังงานอย่างน้อยที่สุดพอให้ใช้ปฏิบัติการหนึ่งครั้ง”

“พ่อ นี่ไม่ใช่สิ่งที่พวกเราต้องการเร่งด่วน ไม่จำเป็นต้องเอาชีวิตไปแลก” ชายหนุ่มกล่าว

“อืม” ชายชราคีบฟืนที่ไหม้ไปครึ่งหนึ่งแล้วออกมาจากในกองไฟ จี้ไปข้าง ๆ ปากจุดบุหรี่ “อีกฝ่ายยังสัญญายาแปลงพันธุกรรมหนึ่งเข็ม, ยาฆ่าเชื้อ BVC หนึ่งกล่อง น้องชายของแกจวนจะถึงวัยผู้ใหญ่แล้ว บ้านพวกเราต้องมีคนหนึ่งที่ไม่ได้พึ่งพาอวัยวะจักรกลขนาดนั้นถึงจะโอเค ฉันอยากจะฉีดยาแปลงพันธุกรรมให้เขา โอกาสหายาก”

พอคำพูดเปล่งออกมา ชายหนุ่มคนนั้นมองไปทางน้องขายที่อยู่ข้างกายตัวเองอย่างตกตะลึง อ้าปากค้างไม่พูดอะไรอีก

หญิงสาววัยกลางคนที่อยู่ข้างฉินเฉิงกล่าวว่า “เสี่ยวถง ลูกก็อย่ารู้สึกนะว่าพ่อลูกลำเอียง ปีนั้นเขาก็อยากจะหาให้ลูกสักเข็ม แต่ถูกคนหลอก”

ชายหนุ่มฉินถงคิดแล้วกล่าวว่า “แม่อย่าคิดมาก ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น ผมมีอวัยวะจักรกลแล้ว น้องชายยังไม่มี ถ้ามียาแปลงพันธุกรรมให้เขาก็เหมาะเลย แถมน้องชายมียาแปลงพันธุกรรมแล้วก็ยิ่งหาเมียได้ง่าย”

ยาแปลงพันธุกรรมเป็นสิ่งที่มีผลข้างเคียง แต่สำหรับครอบครัวยากจนประเภทพวกเขา การเลี้ยงดูครอบครัวจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ผลข้างเคียงไม่อยู่ในขอบเขตการครุ่นคิดแล้ว

ระหว่างที่พูด ในป่าไม้นอกแคมป์จู่ ๆ มีเสียงเหยียบกิ่งไม้แห้งดังขึ้นมา

ชายชราฉินเฉิงล้มหงายหลังใส่กองใบไม้แห้งทันควัน ในชั่วพริบตา เขาล้วงปืนพกหนึ่งกระบอกออกมาจากในอกเสื้อด้วยความเคลื่อนไหวอันแคล่วคล่อง เล็งไปยังที่มาของเสียง

มืออันมั่นคงไม่เหมือนกับคนสูงอายุเลยสักนิด

ส่วนคนอื่นก็ออกไปจากข้างกองไฟอย่างว่องไว แต่ละคนเสาะหาลำต้นไม้มาซ่อนร่างกาย

“สวัสดีครับ ไม่มีเจตนาร้ายครับ”

นอกแคมป์ มีเสียงดังขึ้นมาก่อน

ในป่าไม้ยามค่ำคืน ร่างสองร่างค่อย ๆ เดินออกมา สองคนนี้ล้วนสวมแจ็คเก็ตกันลมสีดำ คนหนึ่งวัยกลางคน คนหนึ่งเด็กหนุ่ม ข้างหลังเด็กหนุ่มยังสะพายเป้ปีนเขาใบเบ้อเร่อ

พวกเขาสองคนรูดซิปของเสื้อขึ้น คอเสื้อที่ตั้งขึ้นปกปิดแก้มไปเกินครึ่ง

ชายกลางคนที่สวมแจ็คเก็ตกันลมยกมือทั้งคู่ยิ้มกล่าวว่า “ผ่านทางครับ เห็นพวกคุณอยู่ที่นี่มีรถสองคันสามารถกันลม ดังนั้นขอยืมสถานที่”

ว่าแล้ว ชายกลางคนมองเด็กหนุ่มข้างกายแวบหนึ่ง

กลับเห็นเด็กหนุ่มล้วงบุหรี่หนึ่งซองออกมาจากกระเป๋าเสื้อผ้า โยนไปถึงข้างกองไฟจากไกล ๆ “ไม่ตกลงก็ไม่เป็นไร บุหรี่ให้พวกคุณ พวกเราไป”

กลับเห็นชายชราฉินเฉิงที่หมอบอยู่กับที่ลังเลครู่สั้น ๆ จากนั้นค่อย ๆ ลุกขึ้นมา ปากกระบอกปืนยังกึ่ง ๆ ชี้ไปยังสองคนเบื้องหน้า “มาจากในเมืองรึ”

“อืม มาจากเมืองหมายเลข 10” ชายกลางคนยิ้มเอ่ย

“จะไปไหน” ชายชราตื่นตัว

“ยังไม่รู้ แค่ออกมาเดินเล่น” ชายกลางคนตอบต่อ

ชายชราชี้ไปยังพื้นที่ว่างห่างไปยี่สิบเมตร “พวกคุณสามารถตั้งแคมป์ที่นั่น แต่ไม่สามารถเข้าใกล้พวกเรา ถ้าอยากยืมสถานที่บุหรี่ซองเดียวไม่พอหรอกนะ มียาไหม”

“มี” เด็กหนุ่มที่สวมแจ็คเก็ตกันลมตอบ ว่าแล้วก็โยนขวดเล็ก ๆ สีขาวหนึ่งขวดไปที่ข้างกองไฟด้วย เหมือนกับว่าเตรียมเอาไว้อยู่แล้ว

นี่เป็นสกุลเงินหลักในป่า

โยนเสร็จ สองคนนี้ไปยังที่ว่างด้านข้าง

ด้านกองไฟ เด็กสาวคนหนึ่งมองเด็กหนุ่มที่สวมแจ็คเก็ตกันลมคนนั้น ลดเสียงลงกล่าวกับฉินถงที่อยู่ข้างกายว่า “พี่ เด็กหนุ่มนั่นหน้าตาดีมากเลย”

ฉินถงเหลือบมองเงาหลังของเด็กหนุ่มแวบหนึ่ง “แจ็คเก็ตกันลมนั่นปิดหน้าไปเกินครึ่งเลยนะ เธอก็รู้สึกว่าเขาหน้าตาดีแล้วเหรอ”

เด็กสาวกล่าวว่า “คนบางคนไม่ดูหน้าทั้งหน้าก็สามารถประเมินได้แล้วว่าหน้าตาดีมากนะ”

“คิดเยอะขนาดนี้ให้มันน้อย ๆ หน่อย” ฉินถงเพิ่มฟืนสองท่อนเข้าไปในกองไฟ “เธอเห็นแจ็คเก็ตกันลมบนตัวอีกฝ่ายไหม แค่แจ็คเก็ตกันลมสองตัวนี้ก็สามารถแลกกับอวัยวะจักรกลสองชิ้นบนตัวพี่ได้แล้ว คนประเภทนี้มาป่าเรียกว่าท่องเที่ยว พวกเราอยู่ป่าเรียกว่าเอาชีวิตรอด เดิมทีก็เป็นคนที่อยู่คนละโลกอยู่แล้ว”

เด็กสาวเม้มปาก “ฉันไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย”

“พี่ห่วงว่าเธอจะถูกลูกคนรวยประเภทนี้ล่อลวงน่ะสิ” ชายหนุ่มกล่าวอย่างเป็นจริงเป็นจัง “คนมีเงินที่อยู่ 3 เขตบนพวกนั้นไม่มีสักคนเป็นของดี”

“โอเค ๆ รู้แล้วน่า” เด้กสาวเอ่ยอย่างหมดความอดทน

ตอนที่พูด สายตาของเธอยังคงมองไปทางเด็กหนุ่มจากที่ไกล ๆ

……………………………………

 

เปิดตัวผู้สมัครนางเอกหมายเลข 3

ความจริงตอนนี้ต้นฉบับเฉลยแล้วว่าใครเข้าวิน แต่อีกนานๆๆๆๆๆ เลยล่ะค่ะ

 

 

 

ตอนที่ 107 – ชายกลางคนกับเด็กหนุ่ม

นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature)

นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature)

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท