ตอนที่ 116 – โจมตีแคมป์
“วางใจเถอะ พอเจอกับอันตราย ผมกับนักเรียนผมล้วนจะลงมือช่วยเหลือ” หลี่ซูถงสัญญากับฉินเฉิง
ฉินถงได้ยินคำพูดนี้ สำรวจมองชิ่งเฉินเงียบ ๆ เห็นแค่เด็กหนุ่มที่ผอม ๆ สูง ๆ ถึงใบหน้าจะหนักแน่นแต่ผิวขาวละเอียด ไม่เหมือนกับคนประเภทที่เคยฆ่าคนเลย
ตรงกันข้าม เด็กหนุ่มประเภทนี้น่าจะอยู่ในสถานที่อย่างมหาวิทยาลัยชิงเหออันขึ้นชื่อในเมืองหมายเลข 10 มากกว่า
ชิ่งเฉินมองหลี่ซูถงอย่างตะลึงงัน เขายังนึกว่าครูตัวเองจะไม่ยุ่งกับเรื่องชาวบ้านจำพวกนี้เสียอีก
หลี่ซูถงเห็นใบหน้าของมีความกังขาจึงลดเสียงลงกล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ฉันไม่ลงมือเพราะกลัวจะทำให้คนอื่นแตกตื่น ตอนนี้พวกเขาไม่รู้ว่าฉันเป็นใคร ลงมือไปย่อมจะไม่เป็นไรแล้ว การลงมือของอาจารย์มู่เกี่ยวอะไรกับฉันหลี่ซูถงล่ะ”
จนกระทั่ง ณ ขณะนี้ ชิ่งเฉินถึงได้เข้าใจในที่สุดว่าทำไมหลินเสี่ยวเสี้ยวพูดว่าทุกคนเกือบจะลืมกันไปหมดแล้วว่าบอสคนนี้เคยเอาแต่ใจขนาดไหน
ขณะนี้ฉินเฉิงฉีกยิ้มจนแก้มปริ ระยะห่างของทั้งสองฝ่ายที่ใกล้ชิดเข้ามายังไม่ต้องพูดถึง ถ้าในทีมล่ามียอดฝีมือแรงก์ C ร่วมทางได้ นั่นจะปลอดภัยมากมายจริง ๆ
ชิ่งเฉินไปช่วยตั้งเต้นท์ทางด้านข้าง ฉินอี่อี่มองเขาแล้วกล่าวว่า “คุณไม่ต้องทำหรอก”
ชิ่งเฉินพิงต้นไม้ที่อยู่ข้าง ๆ ถามอย่างสงบนิ่งว่า “ตัวที่พวกคุณอยากจับครั้งนี้คือเหยี่ยวชิงซานเหรอ”
“เจ้าตัวนั้นพวกเราจับไม่ไหวหรอก” ฉินอี่อี่กล่าว “พวกเราอยากจับเหยี่ยวนกเขาชนิดหนึ่ง เทียบกับเหยี่ยวชิงซานแล้วเล็กกว่ามาก ๆ สมัยนี้ไม่มีนักล่าที่กล้าไปจับเหยี่ยวชิงซานแล้ว เจ้านั่นมีแค่ ‘สถานที่แห่งนั้น’ ถึงจะมี ข้างนอกหาไม่เจอ”
ฉินอี่อี่มองชิ่งเฉิน “อีกเดี๋ยวฉันช่วยคุณทายาบนเท้านะ วางใจเถอะ ฉันไม่รังเกียจคุณ ก่อนหน้านี้ตอนที่พ่อฉันได้รับบาดเจ็บล้วนเป็นฉันกับแม่ที่ช่วยเขาดูแลบาดแผล พ่อฉันบอกว่าฉันจิตใจละเอียดอ่อน สายตาก็ดีกว่าแม่ฉัน บาดแผลที่ดูแลสะอาดเอี่ยม”
“ไม่ต้อง” ชิ่งเฉินส่ายหน้า
เวลานี้ฉินอี่อี่ตั้งเต้นท์เสร็จแล้ว เงยหน้าเตรียมจะกลับไปข้างกองไฟ ก่อนจะไปเธอลดเสียงลงกล่าวว่า “ฉันเห็นคุณนอนข้างนอกตลอดเลย วันสองวันคุณยังสามารถฝืนทน หนึ่งสัปดาห์ก็ไม่ไหวแล้วล่ะ บนพื้นหนาวเกินไป หลังจากนี้เต้นท์ของฉันให้คุณใช้ ฉันจะไปเบียดกับพี่สาวฉัน”
“เอ่อ อันนี้ก็ไม่ต้อง ผมนอนข้างนอกไม่มีปัญหา” ชิ่งเฉินรีบปฏิเสธ
“แล้วแต่คุณเถอะ ยังไงฉันก็ไม่นอน เต้นท์ฉันก็จะให้มันว่างไป” ฉินอี่อี่พูดจบก็เดินไปเลย
เด็กสาวชาวป่าตรงไปตรงมา ก็อย่างที่เธอให้แอปเปิ้ลกับชิ่งเฉินก็ยัดใส่มือเด็กหนุ่มตรง ๆ ไม่ยอมให้เด็กหนุ่มปฏิเสธเลย
ชิ่งเฉินเดิมยังอยากจะพูดอะไร แต่ในขณะนี้ ในช่องว่างระหว่างต้นไม้ในป่าไม้มีแสงสว่างวูบผ่าน
เด็กหนุ่มค้นพบความผิดปกติในป่าไม้ แต่เขาไม่ได้ทำปฏิกิริยาอันใดออกมา ถึงขนาดไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นดู
ยามราตรี ฉินอี่อี่มุดเข้าเต้นท์ของพี่สาวไปตั้งนานแล้ว ในเต้นท์เล็ก ๆ ยังมีเสียงหัวเราะสนุกสนานดังออกมา ไม่รู้ว่าทั้งสองคนคุยอะไรกัน
หลี่ซูถงเห็นชิ่งเฉินยังไม่มีความตั้งใจจะไปที่เต้นท์ของฉินอี่อี่จึงถามว่า “ทำไม มีที่ให้นอนไม่ดีเหรอ”
ชิ่งเฉินส่ายหน้า “ไม่อยากติดค้างน้ำใจคนอื่นส่งเดชครับ”
“โง่เขลา” หลี่ซูถงส่ายหน้ากล่าว “เธออย่าบังคับให้ฉันทุบเธอสลบแล้วโยนเข้าไปเลยนะ ออกจากบ้านมาอยู่ข้างนอกเรื่องมากขนาดนี้ได้ที่ไหน ไปเร็ว ๆ เลย”
ชิ่งเฉินมองครูที่อยู่เบื้องหน้าอย่างปากอ้าตาค้าง ครึ่งค่อนวันก็ยังไม่ได้พูดอะไรออกมา
เขาไม่สงสัยเลยสักนิดว่าครูคนนี้ของตัวเองสามารถทำเรื่องอย่างทุบเขาสลบโยนเข้าเต้นท์ได้จริง ๆ!
“ครูครับ เมื่อกี้ตอนผมไปตั้งเต้นท์บังเอิญเห็นว่ามีแสงสะท้อนอยู่ในป่าไม้ ผมสงสัยว่ามีคนใช้กล้องส่องทางไกลแอบจับสังเกตผม” ชิ่งเฉินคิดแล้วกล่าวว่า “ผมรู้สึกว่ามันทะแม่ง ๆ อยู่นะ”
เวลานี้ หลี่ซูถงกล่าวอย่างสงบนิ่งว่า “ไปอยู่ในเต้นท์เถอะ คืนนี้ครูอยากมอบบทเรียนที่หนึ่งของป่านี้กับเธอ”
……
ตอนที่ชิ่งเฉินมุดเข้าเต้นท์ พบเห็นด้วยความตื่นตะลึงว่าบนผ้ากันชื้นยังวางช็อกโกแลตเอาไว้สองก้อนด้วย เขารู้ว่านี่เป็นสิ่งที่นักล่าพกมาเติมพลังงานเมื่อออกไปข้างนอก แต่ถูกฉินอี่อี่แอบหยิบมาให้ตนเอง
เขานอนลงบนผ้าปูโดยไม่ได้หลับ เคี้ยวช็อกโกแลตอย่างละเอียด
ชิ่งเฉินรู้ว่าคืนนี้จะมีเรื่องเกิดขึ้น แต่เขาไม่ได้ไม่นอนเพราะหวาดกลัว
มีหลี่ซูถงอยู่ ถึงตอนนี้จะอยู่ที่สถานที่ต้องห้ามเขาก็จะไม่เป็นไร
เขาแค่อยากรู้ว่าคืนนี้สรุปว่าจะเกิดอะไรขึ้น
นับถอยหลัง 70:00:00
ตี 2
เงาสั่นไหวในป่าไม้ เสียงแสกสากของใบไม้ คล้ายกับมีอะไรถูกลมพัดกวนขึ้นมา
บนท้องฟ้า จันทร์เสี้ยวขาวเผือด อากาศใสกระจ่างจนเหมือนกับจะสามารถใช้ตาเปล่ามองเห็นหลุมอุกกาบาตบนดวงจันทร์เลย
แสงจันทร์ฉายลงบนพื้นโลก ส่องทะลุป่าไม้พรมลงบนพื้น
ในแสงเงาที่ถักทอเข้าด้วยกันนี้ มีคนดึงลูกเลื่อนปืนเบา ๆ
ทันใดนั้น เมฆดำเคลื่อนผ่านท้องฟ้า ประดุจเมืองอันขมุกขมัวบินกดบนอากาศ
“อย่าขยับ ฉันจะออกไปดู” ชายชราฉินเฉิงบอกกับภรรยาที่อยู่ข้างกาย
ชายชราฉินเฉิงได้ยินเสียงเคลื่อนไหวเลือนราง เขาหยิบปืนพกที่ข้างหมอนมุดออกจากเต้นท์เงียบ ๆ
แต่ศีรษะเขาเพิ่งมุดออกจากเต้นท์ก็ถูกคนใช้มีดจ่อลำคอแล้ว
ฉินเฉิงหันหน้าไปดู ถึงกับเป็นจางถงต้านมองตนเองอย่างยิ้มแย้ม “ชู่ อย่าพูด พวกเราแค่ค่อนข้างสนใจบ้านเขยคนนั้นของแก อยากดูว่าบนตัวคนใหญ่คนโตในเมืองมีสิ่งของที่มีค่ารึเปล่า ก่อนหน้านี้รีบร้อนเกินไปไม่ได้ดูชัด ๆ บนตัวเขามีอวัยวะจักรกลไหม ประเภทนาโนอัลลอยน่ะ”
ฉินเฉิงส่ายหน้า “ผมไม่รู้ จางถงต้าน พวกเราร่วมมือกันมานานขนาดนี้แล้ว คุณอย่าฉีกกฎเลย ถ้าคุณก่อกวน ผมจะเอาเรื่องนี้ไปบอกกับบอสคุณตามจริงนะ”
“ไม่ต้องเอาบอสมาข่มฉัน ตอนนี้เขามีเรื่องที่สำคัญกว่า” จางถงต้านยิ้ม รอยย่นบนหน้าเขาเหมือนกับธรณีสัณฐานแปลกประหลาดหลังถูกลมกร่อน “คนใหญ่คนโตที่สามารถแจกเทพสายฟ้าง่าย ๆ ถ้าบนตัวมีอวัยวะจักรกลจะต้องมีค่ามากเลยปะ เลิกพูด ฆ่าพวกเขาสองคนแล้วพวกเราก็จะไป ก็ไม่ต้องเสียดายไป ลูกสาวคนรองบ้านแกดูดีขนาดนี้ ไม่ต้องห่วงเรื่องการหาผู้ชายในป่าหรอก ถ้าหาไม่ได้จริง ๆ ให้ฉันมาเป็นเมียน้อยก็ไม่เลว”
ฉินเฉิงโกรธแค้นเสียจนเส้นเลือดบนหน้าผากเต้นตุ้บ ๆ จู่ ๆ เขาหันหลังและตะโกนออกไปในเวลาเดียวกันว่า “ระวัง ศัตรูบุก!”
ไม่ใช่ว่าเขาอยากเตือนชิ่งเฉินกับหลี่ซูถงมากมายขนาดนั้น ทว่าเขารู้นิสัยใจคอของจางถงต้าน คนคนนี้เหมือนหมาไนหมาป่า ในเมื่อเลือกจะฉีกกฎก็จะไม่ให้ทุก ๆ คนในแคมป์จากไป
ตอนที่ฉินเฉิงหันหลังจางถงต้านก็แอบร้องว่าแย่แล้ว แขนของเขาออกแรงอยากจะปาดคอ แต่ไม่เคยคิดว่าในคอเสื้อของฉินเฉิงจะเย็บโลหะอัลลอยเอาไว้ข้างใน มีดธรรมดาตัดไม่ขาดเลย!
“เร่งมือเข้า ฆ่าคนเมืองคนนั้นก่อน!” จางถงต้านตะโกนดังลั่น
……………………………………………………..
ตอนที่ 117 – เขาคิดหนี หนีไม่พ้น