ตอนที่ 29 ลูนามาเรีย 2
「เยี่ยมไปเลยราส! ทีนี้พวกเราก็หลอกไอ้เจ้าคนขี้ขลาดนั่นได้สักที แถมยังเลือกสถานที่เชือดมันได้อีก!」
มิโรสลาฟทำการชมราสด้วยรอยยิ้มแห่งความพึงพอใจซึ่งปรากฏอยู่บนใบหน้าของเธอ
กลับกันราสก็เกาแก้มก่อนจะยิ้มให้เธอแบบงุ่มง่าม
「ขอโทษทีนะมิโร พอแสดงไปได้ครึ่งทางฉันก็ลืมเรื่องที่ซ้อมกับเธอไว้ซะหมดเลย…ที่เผลอเล่นนอกบทไปก็เพราะฉันโกรธหมอนั่นจริงๆ นั่นแหละ」
「ฮิฮิ ไม่เป็นไรหรอกนายเป็นคนแบบนั้นอยู่แล้วนี่ ฉันมั่นใจเลยว่าหมอนั่นต้องกำลังระแวงอยู่แน่ๆ ทีนี้พวกเราก็จะได้ปลดปล่อยซีลออกจากเงื้อมมือของมันสักที นี่เป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของนายเลยนะ」
หลังจากมิโรสลาฟพูดจบเธอก็เข้าไปจับมือของราสเอาไว้ก่อนจะยิ้มออกมา
ทางราสก็ได้แต่ยิ้มเขินๆ
ส่วนทางลูนามาเรียก็ได้แต่จ้องมองพวกเขาด้วยความมึนงง
พอสายตาของเธอไปสบเข้ากับมิโรสลาฟ มิโรสลาฟก็หันมามองที่เธอก่อนจะพูด
「แต่เกินคาดมากเลยนะที่หมอนั่นเลือกลูน่าแทนที่จะเป็นฉัน ต้องขอโทษจริงๆ นะลูน่า 」
「นั่นมันก็…」
「แต่ทุกอย่างก็ถือว่าออกมาดีแล้วนี่เนอะ!」
มิโรสลาฟพูดออกมาด้วยเสียงอันดังก้องจนกลบเสียงของลูนามาเรียที่กำลังจะพูดอะไรออกมาไปเสียหมด
「ไม่มีทางที่ราสจะแพ้ไอ้คนแบบนั้นได้หรอก ราสเลเวลถึง 16 เลยนะ กับไอ้หมอนั่นที่เลเวลแค่ 1 ต่อให้นายจะเมาเละเทะแค่ไหนก็คงไม่แพ้มันหรอก ถึงนายจะรู้สึกไม่สบายใจเพราะเงื่อนไขที่ตกต้องไปเป็นทาส แต่เชื่อเถอะราส พวกเราต้องการให้นายทำแบบนั้นจริงๆ 」
จากนั้นมิโรสลาฟก็ก้มหัวของเธอลง
ทางราสก็เลยหันไปพยักหน้าให้กับลูนามาเรียเหมือนต้องการปัดเป่าความไม่สบายใจของเธอทิ้งไป
「ก็เหมือนที่มิโรบอก ฉันไม่มีทางแพ้ให้กับคนแบบนั้นที่ทำร้ายทาสไร้ทางสู้หรอก ถึงฉันจะไม่ได้ตั้งใจใช้เธอเป็นของเดิมพันก็เถอะ แต่อย่างน้อยก็อยากได้รับความยินยอมจากเธอก่อน ฉันอยากจะช่วยชีลคนนั้น ดังนั้นได้โปรดให้ความร่วมมือด้วยเถอะ!」
ถึงราสจะไม่ทำท่าขอร้องสุดตัวแบบนี้ เขาก็มั่นใจอยู่แล้วว่าลูน่าคงไม่ปฏิเสธคำขอของเขาหรอก
เพราะตัวเขามั่นใจในชัยชนะของตนและเชื่อว่าสหายของเขาก็ย่อมเชื่อมั่นในตัวเขาเช่นกัน พวกเขาคงจะไม่ปฏิเสธตนได้หรอก
แต่ทว่าลูนามาเรียกลับไม่ได้พยักหน้าตอบกลับเขาไป เพราะเธอไม่สามารถทำเช่นนั้นได้จริงๆ
เธอคือผู้ที่สัมผัสได้ถึงพลังลึกลับที่ซ่อนอยู่ภายในตัวของโซระได้มากกว่าใคร
ทั้งที่เธอพบเขาเป็นเมื่อไม่นานมานี้เอง แต่พอเวลาผ่านไปเพียงครู่เดียวเขากลับแข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่าตอนนั้นไปอีกมากโข
ถึงเธอจะเตรียมใจมาแล้วว่าหากเป็นครั้งนี้ ร่างกายของเธอคงจะไม่แข็งทื่อเหมือนกับก่อนหน้านี้ แต่ความกดดันที่เธอได้รับก็ยังคงมีเช่นเดิม
ถ้าหากถามเธอว่าราสสามารถเอาชนะโซระได้ไหม เธอก็คงจะต้องส่ายหัว
พอราสเห็นความผิดปกติของลูนามาเรียราวกับว่าเธอกำลังสงสัยในความสามารถของเขา ราสก็เหมือนจะพูดอะไรบางอย่างออกมาด้วยอารมณ์ไม่พอใจ
แต่คนที่เข้ามาหยุดเอาไว้ก็คืออิเรียที่เงียบมาตั้งแต่เมื่อกี้
「หยุดเถอะราส พวกเราทุกคนก็รู้ดีอยู่แล้วว่าใครทำอะไรกันได้บ้างไม่ใช่หรือไง แต่มันไม่ง่ายหรอกนะที่จะให้ใครสักคนยอมรับชะตากรรมว่าตนกลายเป็นของรางวัลสำหรับผู้ชนะ ลูน่าจะลังเลก็ไม่แปลกหรอก」
「นะ-นั่นสินะ ฉันขอโทษด้วย พอดีฉันคิดมากเกินไปหน่อยน่ะ」
「แต่มันก็แปลกจริงๆ นั่นแหละ」
「ทำไมเหรอ? 」
「ทั้งที่นายก็เลเวลตั้ง 16 ส่วนอีกฝ่ายเลเวลแค่ 1 ถ้าสู้กันยังไงนายก็ต้องชนะอยู่แล้ว เรื่องนั้นโซระก็น่าจะรู้ดี แต่ทำไมเขาถึงยังยอมรับการประลองที่ตัวเองเสียเปรียบแบบนี้ด้วยล่ะ? 」
「ถ้าถามว่าทำไม…บางทีเขาอาจจะคิดว่าตัวเองอาจจะเอาชนะก็ได้ใช่ไหมล่ะ? 」
「นั่นแหละที่ฉันอยากจะบอก ทำไมเขาถึงคิดว่าตัวเองจะชนะได้กันล่ะ ทางเราที่เลือกการประลองก็เพราะว่ารู้ว่าต้องชนะได้แน่ แต่กับโซระเราไม่รู้เลยนะว่าเขามั่นใจเพราะอะไร เขาหายหน้าไปตั้งสองเดือนหลังเรื่องราชาแมลงวันจากข้อมูลที่ได้มาดูเหมือนเขาจะไปเที่ยวแถวจักรวรรดิ ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าเขาอาจจะได้รับพลังแปลกๆ มาจากที่นั่นก็ได้」
ราสขมวดคิ้วก่อนจะครุ่นคิดถึงสิ่งที่อิเรียพูด
ตรงจุดนี้เอง ลูนามาเรียเลยเห็นโอกาสที่จะพูดความคิดของตนให้สหายของเธอได้ฟังเป็นครั้งแรก
「ราสเกี่ยวกับเรื่องที่อิเรียพูดไปน่ะ…」
「มันทำไมเหรอ ลูน่า? 」
「ถึงจะเป็นเพียงสัญชาตญาณของฉันในฐานะผู้ใช้สปิริตเลยไม่มีหลักฐานอะไรชัดเจนแต่…โซระในตอนนี้น่ะแตกต่างไปจากในอดีตค่ะ」
「แตกต่างเหรอ? 」
「ค่ะ ฉันเกรงว่าเขาน่าจะไม่ใช่เลเวล 1 อีกต่อไปแล้ว ความรู้สึกของฉันตอนนี้คือเขาได้รับพลังที่ตัวเขาเมื่อก่อนไม่สามารถเทียบได้เลย น่าจะตั้งแต่ตอนราชาแมลงวันแล้วค่ะ」
เธอไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับมังกรที่เธอเห็น เพราะเธอไม่อยากเสียความน่าเชื่อถือไป นั่นเลยเป็นเหตุผลที่เธอต้องอธิบายสถานการณ์ที่เธอเห็นภายในตัวของโซระแบบนี้แทน
รอยย่นระหว่างคิ้วของราสลึกขึ้นกว่าเดิมหลังจากที่เขาได้ยินคำพูดของเธอ
ในจังหวะนั้นมิโรสลาฟเลยเป็นคนเข้ามาพูดกับเขา
「ราส ไม่มีอะไรต้องกังวลหรอกน่า」
「มิโร? 」
「
จะเลเวลอัพมาแล้วยังไงกันล่ะ ถึงจะใช้เวลาตลอด 2 เดือนเอาแต่ล่ามอนสเตอร์ เลเวลสูงสุดที่ทำได้ก็คงจะ 3 ไม่ก็ 4 ซึ่งนั่นก็เป็นขีดจำกัดทั่วไปที่คนทำได้กันอยู่แล้ว ถึงจะบอกว่าพลังเพิ่มขึ้นมาถึงสองเท่าจากในอดีต แต่ถ้าเทียบกับนายยังไงก็แค่เด็กหัดเดินหรือเปล่า」
มิโรสลาฟพยายามอธิบายถึงความจริงนี้ให้เขาฟัง
「ไอ้คนที่เอาแต่เก็บสมุนไพรมาหลายปี เมื่อเทียบกับนายที่ฝ่าฟันอันตรายในฐานะนักผจญภัยมาน่ะ ไม่ใช่แค่เรื่องเลเวลหรอกนะที่ต่าง ประสบการณ์การต่อสู้ก็เหมือนกัน ช่องว่างนั้นมันไม่มีทางถูกย่นลงมาได้โดยใช้เวลาแค่ 2 เดือนหรอก」
「นั่นสินะ ที่เธอพูดมันก็จริง!」
「นอกจากนี้ฉันว่า ฉันเจอเงื่อนงำที่หมอนั่นคิดว่าจะเอาชนะนายได้ตามที่อิเรียบอกแล้วด้วย」
「จริงเหรอ?!」
「แน่นอนสิ จำสภาพของหมอนั่นล่าสุดได้หรือเปล่า อย่างหมอนั่นจะไปเอาเงินมาจากไหนถึง 30 เหรียญทองในการซื้อชีลกันล่ะ แถมก่อนหน้านี้อีกหมอนั่นมีเงินถึงขั้นเรียกตัวนักบวชให้มาใช้ 『จับเท็จ』ได้เลยนะ ถ้าเอาตามความคิดฉันนะ ฉันว่าหมอนั่นต้องไปขโมยเอาสมบัติจากพวกนักผจญภัยที่ตายอยู่ในถ้ำของราชาแมลงวันแน่ๆ ก่อนจะนำมันไปขายเพื่อทำเงิน」
พอได้ยินเรื่องที่มิโรสลาฟพูด อิเรียก็พึมพำอะไรบางอย่างออกมาเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้
「…พอพูดถึงเรื่องนั้น ดูเหมือนเขาจะเอาตราประจำตัวของพวกนักผจญภัยบางคนกลับมาคืนที่กิลด์ด้วยนี่นา」
「ใช่ไหมล่ะ หมอนั่นมันเอาตราประจำตัวกลับมาคืนให้กับกิลด์…ส่วนเงินกับของก็คงจะฮุบเอาไว้คนเดียว ถ้าไม่ทำแบบนั้น คนโง่แบบหมอนั่นคงไม่มีปัญญาไปพักโรงแรมแถมยังให้ทิปได้แบบนั้นหรอก」
「นั่นสิ จะว่าไปฉันก็เห็นดาบที่เอวของเขาด้วย ลักษณะของมันดูไม่คุ้นตาเอาเสียเลย」
「ก็คงจะเป็นผลที่หมอนั่นขายสมบัติของคนที่ตายไปแล้วนั่นแหละ ไม่มีคำอธิบายอื่นที่ฟังขึ้นไปมากกว่านี้อีกแล้ว เหตุผลที่ไปที่จักรวรรดิก็เพื่อขายสิ่งของที่ไม่สามารถขายได้ในอิชกะยังไงล่ะ พอได้เงินมาหมอนั่นก็ไปซื้ออาวุธและทาสด้วยความผยอง ตอนนี้ก็คงจะเอาไปอวดกับคนอื่นหมดแล้วมั้ง เห็นได้ชัดเลยจากการเลือกพักโรงแรมที่ตัวเองโดนเตะออกไปก่อนหน้านี้」
「นี่สินะคือโอกาสที่เขาคิดว่าจะชนะพวกเราได้ตามที่อิเรียบอกตอนแรก…」
「พนันได้เลยว่าที่สำคัญจริงๆ ก็คือดาบตรงเอวหมอนั่น ฮ่าๆ เหมือนกับเด็กน้อยที่ไม่เคยจับดาบมาก่อนแล้วพ่อแม่ซื้อดาบไม้มาให้เล่นเลยแฮะ ไม่มีอะไรจะอธิบายไปได้ดีกว่านี้แล้ว」
หลังจากคลายความกังวลของอิเรียและลูนามาเรียได้ มิโรสลาฟก็กลับไปคุยกับราสอีกครั้ง
เธอเอื้อมมือไปจับที่แก้มของเขาเบาๆ
ถึงจะมีชั่วขณะหนึ่งที่ลูนามาเรียคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติไป แต่เธอก็เลือกที่จะสรุปว่าเธอคิดมากไปเอง
「ราส หน้าที่ของผู้ใหญ่ก็คือการสอนบทเรียนให้กับเด็กที่ไม่ดีนะ มันคือความรับผิดชอบของผู้ที่เลเวลสูงกว่าในการสอนพวกมือใหม่กำลังอัพเลเวลขึ้นมาได้ แสดงให้โซระได้เห็นซะ ว่านักผจญภัยที่แท้จริงเป็นเช่นไร จากนั้นก็มาช่วยผู้หญิงที่น่าสงสารคนนั้นกัน…」
——–
Note 1 : เหลี่ยมทุกดอก บอกปาร์ตี้เดียวกัน
Note 2 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ สามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code