การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ – ตอนที่ 46 อิเรีย

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~

ตอนที่ 46 อิเรีย

 

「 …นายพูดจริงเหรอราส ที่บอกว่าจะไม่กลับบ้านเกิดน่ะ? 」

 

 

 

「ใช่แล้วฉันจะไม่กลับไปที่หมู่บ้าน ยิ่งไปกว่านั้น ฉันจำเป็นต้องแข็งแกร่งขึ้นด้วย!」

 

พอเห็นใบหน้าของเพื่อนสมัยเด็กพูดออกมาด้วยสีหน้าที่จริงจัง อิเรียก็อดไม่ได้ที่จะขึ้นเสียงใส่เขา

 

 

「ยิ่งไปกว่านั้นงั้นเหรอ! หมู่บ้านของเรากำลังเกิดโรคระบาดขึ้นนะ ครอบครัวของพวกเราก็อยู่ที่นั่นนายเข้าใจใช่ไหม?!」

 

 

ว่าแล้วร่างของราสก็ผงะจนถอยไปเพราะน้ำเสียงของอิเรีย

 

 

การที่เขาก้มหน้าลงเล็กน้อยน่าจะเป็นข้อพิสูจน์ว่าเขารู้สึกผิดกับคำพูดและการกระทำของตัวเองก่อนหน้านี้

 

พออิเรียเห็นแบบนั้นเธอก็พูดกับราสอีกครั้งเพื่อให้เขาเข้าใจสิ่งที่เธอต้องการ

 

แต่ก่อนที่เธอจะได้พูด ก็มีเงาสีแดงเข้ามาแทรกทั้งสองไว้

 

นั่นคือก็มิโรสลาฟ

 

「ใจเย็นหน่อยสิอิเรีย ถึงที่นั่นจะเกิดโรคระบาดขึ้น แต่สาเหตุของโรคพวกเขาก็เจอกันแล้ว ยารักษาก็กำลังอยู่ในขั้นตอนการผลิต ราสก็คงจะรู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้วเขาเลยตัดสินใจว่าไม่จำเป็นต้องรีบกลับไปในทันทีไงล่ะ」

 

 

 

「แต่แค่มียารักษาแล้วก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเหยื่อจากโรคระบาดนี้สักหน่อยนี่」

 

 

อิเรียจ้องไปยังมิโรสลาฟด้วยดวงตาที่เฉียบคม

 

เมื่อเร็วๆ นี้อิเรียมีความรู้สึกที่ไม่ค่อยพอใจในตัวมิโรสลาฟเท่าใดนัก

 

สาเหตุก็ไม่ใช่อะไรเสียนอกจากเรื่องของราส

 

 

 

ราสเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดหลังจากเขาเสียลูนามาเรียให้โซระไปจากการดวล ในฐานะคนที่ไม่เคยพบกับความพ่ายแพ้มากขนาดนี้มาก่อน แถมประสบการณ์ครั้งแรกของเขาก็ดันหนักหนาเกินจะรับได้ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหากเขาจะยังก้าวข้ามเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ไหว

 

 

การจ้องมองอย่างเย็นชาและการเยาะเย้ยของคนภายในกิลด์ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน

 

 

อิเรียพบว่าเขาเพิ่มการดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ถึงเธอจะพยายามเข้าไปเตือนเพื่อดึงสติเขา แต่มิโรสลาฟก็มักจะเป็นคเข้ามาขัดขวางเธอเสมอ

 

 

 

มิโรสลาฟไม่ได้โทษความอ่อนแอของราส เธอคอยรับฟังคำบ่นของเขาและเอาใจเขาเหมือนเป็นเด็กคนหนึ่ง

 

จากมุมของอิเรียแล้ว มิโรสลาฟตอนนี้ไม่ต่างกับพี่เลี้ยงเด็กน้อยเลย

 

ถึงเด็กจะมีความสุขแต่มันก็ไม่ดีต่อพัฒนาการของเด็กเลย เพื่อที่จะให้เด็กโตมาอย่างแข็งแกร่ง เธอควรจะแย่งขนมของเด็กมา แต่มิโรสลาฟกลับทำตรงกันข้าม

 

 

พออิเรียจี้จุดนี้ไป มิโรสลาฟก็จะยิ้มและตอบกลับประมาณว่า ราสเขาเจอเรื่องลำบากมาเยอะเลยนี่นา

 

ด้วยเหตุนี้เองความสัมพันธ์ของพวกเธอช่วงนี้เลยไม่ค่อยดีนัก

 

 

ในเวลานี้เองก็ดันมาเกิดโรคระบาดในอาณาจักรคานาเรียเข้า

 

ต้นตอของโรคนั้นเริ่มขึ้นมาจากแหล่งน้ำที่มาจากแม่น้ำเคลซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักของที่ตรงมาจากป่าปีทิส ซึ่งมีราชาแห่งงูปรากฏตัวขึ้น

 

อันที่จริงโรคดังกล่าวมันก็ไม่ได้มาจากบาซิลิสก์โดยตรง แต่เป็นเพราะฟุไคที่เกิดขึ้นมาพร้อมกับบาซิลิสก์

 

หากฟุไคกลืนกินป่าไป แหล่งน้ำในป่าก็ย่อมได้รับผลกระทบไม่ต่างกัน

 

 

แถมการจะไปจำกัดวงความเสียหายที่เกิดขึ้นในป่าลึกก็ไม่ใช่เรื่องง่ายซะด้วย นั่นจึงทำให้หมู่บ้านที่ติดอยู่กับแม่น้ำหลายแห่ง เกิดโรคระบาดขึ้นจากการใช้น้ำเหล่านี้

 

และหนึ่งในหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบก็คือหมู้บ้านของราสและอิเรีย

 

 

อิเรียเลยอดไม่ได้ที่จะเปิดปากพูดออกมาด้วยความโกรธต่อมิโรสลาฟและราสที่อยู่ด้านหลังของเธอ

 

 

「เธอไม่คิดบ้างเหรอว่า ถึงยารักษาจะสร้างออกมาสำเร็จ แต่ปริมาณของมันจะพอรักษาทุกคนหรือดปล่า ยิ่งไปกว่านั้นถึงผู้ป่วยจะได้รับยารักษาแล้วแต่พวกเขาก็จำเป็นต้องใช้เวลาในการพักฟื้น แล้วระหว่างนั้นล่ะ ใครจะช่วยดูแลพวกเขา ทั้งการออกไปทำไร่เอย การปกป้องหมู่บ้านที่อาจจะโดนพวกโจรหรือสัตว์อสูรโจมตีอีก」

 

 

 

「นั่นสินะ เรื่องแบบนี้ก็อาจจะเกิดขึ้นได้」

 

「 ใช่ไหมล่ะ! นั่นเลยเป็นเหตุผลที่พวกเราต้องรีบกลับไปยังไงล่ะ ราสนายไม่ห่วงคนที่บ้านบ้างหรือไง?!」

 

 

 

「ก็ต้องเป็นห่วงสิ!」

 

 

 

「งั้นเราก็รีบกลับไปกันเถอะ!」

 

 

 

「แต่ยังไงฉันก็กลับไปตอนนี้ไม่ได้!」

 

 

ครั้งนี้เป็นอิเรียที่ถูกราสตะโกนกลับมาด้วยเสียงอันดังลั่นแทน

 

 

ถึงเธอจะเคยเห็นราสตะโกนออกมาด้วยอารมณ์ที่หลากหลายในอดีต แต่เขาก็ไม่เคยตะโกนมันใส่หน้าคนอื่นเลย หรืออย่างน้อยเขาก็ไม่เคยทำแบบนี้กับอิเรียมาก่อน ไม่ว่าจะตอนนี้หรือตอนที่พวกเธอยังเด็ก

 

 

ขณะที่เธอมองไปยังราสที่พ่นลมหายใจออกมาหนักหน่วง เธอก็เผลอขมวดคิ้ว

 

 

 

 

「..ทำไมล่ะ…ทำไมถึงไม่ยอมกลับไปกัน? 」

 

「ฉันตัดสินใจแล้ว! ฉันจะไม่มีทางออกจากเมืองอิชกะไปโดยทิ้งลูน่าไว้ข้างหลังแน่ นอกจากนั้นฉันเป็นแค่ไอ้โง่ที่เอาสมาชิกปาร์ตี้ตัวเองไปพนันเลยนะเธอก็เห็นคนพวกนั้นพูดกันแล้วนี่ แถมถ้าฉันออกไปมันก็เหมือนกับฉันวิ่งหนีโซระเลยไม่ใช่เหรอ!」

 

 

「ด้วยเรื่องแบบนี้เนี่ยนะ…ตะ-แต่ครั้งนี้มันไม่ได้เกี่ยวกับโซระสักหน่อยนี่ พวกเราจำเป็นต้องกลับบ้านเกิดเพราะโรคระบาดต่างหาก ไม่มีใครคิดว่านายวิ่งหนีจากเขาหรอ-」

 

 

ก่อนที่อิเรียจะพูดจนจบประโยค มิโรสลาฟก็เข้ามาขัดเธออีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน

 

 

「จะพูดแบบนั้นก็ไม่ได้หรอกนะ คิดดูสิว่าหมอนั่นทำอะไรไปแล้วบ้างทั้งจับไวเวิร์น สร้างแคลนและสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองด้วยการจัดการกริฟฟอนกับสกิลล่าอีก ข่าวลือที่ได้จากกิลด์ดูเหมือนหมอนั่นจะร่วมมือกับสหภาพในการจัดการกับบาซิลิสก์และสร้างยารักษาโรคระบาดขึ้นมาอีก ด้วยความสำเร็จขนาดนี้หากราสหนีออกจากเมืองไป เรื่องราวหลังจากนี้มันจะคนละเรื่องกันเลยนะ…」

 

 

ราสที่ได้ยินก็กัดริมฝีปากของตัวเอง

 

จากนั้นจอมเวทสาวผมแดงก็พูดต่อ

 

 

 

「หมอนั่นก็คงจะรู้ดีว่าพวกเราอยากจะได้ตัวลูน่าคืนขนาดไหน ฉันว่าหมอนั่นไม่น่าจะปล่อยโอกาสที่ดีในการกำจัดพวกเราออกไปหรอก ก็เหมือนที่ราสบอกฉันว่าพวกเราไม่ควรเปิดช่องให้หมอนั่นได้ใช้นะ」

 

 

 

「ก็อย่างที่ว่าแหละ อิเรีย」

 

 

ราสพูดและพยักหน้าให้มิโรสลาฟที่พูดแทนใจของเขาไปหมดแล้ว

 

 

「พวกเราเลยไม่สามารถออกไปตอนนี้ได้ แถมที่หมู่บ้านคุณป้าซาร่าก็อยู่ใช่ไหมล่ะ ฉันว่าหากเป็นคุณป้าละก็น่าจะรับมือกับเรื่องที่เกิดขึ้นได้ไม่ยากหรอก」

 

 

「..รับมือได้ แค่แม่คนเดียวเนี่ยนะ ทำไมนายถึงคิดว่าเธอจะรับมือกับผู้ป่วยทั้งหมู่บ้านได้กันล่ะ ไม่มีอะไรยืนยันด้วยว่าเธอจะไม่ติดโรคไปด้วยเสียหน่อย?!」

 

 

ข้อมูลที่เธอได้มานั้นมาจากพ่อค้าที่เธอไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ซึ่งอ้างว่าตนเดินทางไปที่หมู่บ้านของเธอมา

 

จากที่เขาบอกดูเหมือนแม่ของเธอ ซาร่าจะยังไม่เป็นอะไรในตอนที่เขาออกหมู่บ้านมา แต่มันก็มีโอกาสที่แม่ของเธอจะป่วยได้หลังจากนั้นเช่นกัน

 

 

 

ถึงอิเรียพยายามจะบอกถึงจุดนี้ ราสก็ยังคงมองโลกในแง่ดีว่าจะไม่เป็นไร…ไม่สิบางทีเขาแค่อาจจะรั้นเฉยๆ ก็ได้

 

「ไม่เป็นไรหรอกน่า คุณป้าซาร่ามีเลเวลสูงกว่าพวกเราอีก แถมเธอยังใช้เวทรักษาได้ด้วย ดังนั้นเธอไม่มีทางติดโรคได้ง่ายๆ หรอก นอกจากนี้ทางกิลด์ก็มอบเควสที่น่าสนใจให้พวกเราด้วย คุณพาร์เฟทบอกว่าชนชั้นสูงคนหนึ่งต้องการร่างของกริฟฟอนมาประดับคฤหาสน์ แต่ปาร์ตี้ก่อนหน้านี้ดันทำภารกิจดังกล่าวไม่ได้ เธอก็เลยเลือกให้พวกเราทำแทน นี่ถือเป็นโอกาสของดาบฮายาบูสะในการกอบกู้ชื่อเสียงและสร้างเส้นสายกับชนชั้นสูงเลยนะ แถมเราอาจจะมีโอกาสเข้าถึงยารักษาก่-」

 

 

 

「ราส!」

 

 

อิเรียจ้องราสด้วยความโกรธและตะโกนออกมาเมื่อเขาพูดเหมือนพวกคนคิดน้อย

 

ไหล่ของราสถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียง

 

「 ในขณะที่แม่ของฉันกำลังรับมือกับโรคระบาดเพียงลำพัง นายกลับเลือกที่จะไปสู้กับกริฟฟอนที่ไม่รู้จะเอาชนะได้ไหมเนี่ยนะ ครอบครัวและเพื่อนของพวกเรากำลังตกอยู่ในอันตรายอยู่นะนายเข้าใจไหม นี่มันไม่ใช่เวลาที่พวกเราจะมาเสี่ยงโชคนะ!」

 

 

 

 

「แต่ถ้าเราทำสำเร็จ ยารักษาก็-」

 

 

 

「ถ้าเราทำสำเร็จ?! นี่นายคิดว่าเราจะจัดการกริฟฟอนได้ทั้งที่ไม่มีลูน่าด้วยเหรอ」

 

 

 

「ระ-เราต้องทำได้สิ! ขนาดโซระยังจัดการมันได้ตัวคนเดียวเลย กับพวกเราที่ร่วมมือกันก็ต้องชนะได้อยู่แล้ว!」

 

 

「ลองคิดดูนะ ถ้าพวกเราไปกันจริง อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลา 4 วันเพื่อไปถึงเขาสกิม แล้วก็ต้องใช้อีก 2 ไม่สิ 3 วันเพื่อไปถึงยอดเขาที่พวกมันอาศัยอยู่ จากนั้นคิดว่าเราต้องใช้เวลาในการจัดการแล้วนำร่างมันกลับมาอีกกี่วันกันล่ะ?!」

 

 

 

「เอ่อ…」

 

 

「แล้วจากนั้นเราก็ต้องใช้เวลาอีกสักเดือนได้มั้งถึงยาจะไปถึงหมู่บ้าน อย่างช้าสุดก็สองเดือน ทีนี้นายมั่นใจได้หรือเปล่าล่ะว่าคนที่หมู่บ้านจะยังปลอดภัยกันดีอยู่? 」

 

 

 

「กะ-ก็ไม่ได้หรอกแต่….ยังไงฉันก็หนีไปตอนนี้ไม่ได้!!」

 

 

เมื่ออิเรียเห็นแล้วว่าราสยังไงก็ไม่มีทางออกจากเมืองอิชกะไป เธอก็รู้สึกโกรธและอยากจะกรีดร้องออกมา

 

 

วินาทีนั้นเอง มิโรสลาฟก็นำมือของเธอไปวางบนไหล่อิเรีย

 

 

 

「ใจเย็นลงก่อนอิเรีย ฉันรู้ว่าเธอเป็นห่วงแม่ แต่การขึ้นเสียงไปมาไม่ได้ด้วยแก้ปัญหาอะไรนะ」

 

 

 

「แต่ว่า!」

 

 

 

「ฉันเข้าใจๆ โรคระบาดมันก็ต้องแข่งกับเวลาด้วยนี่นะ ถ้างั้นฉันมีอะไรจะเสนอ」

 

 

 

「…เสนอเหรอ? 」

 

 

「ใช่ อย่างแรกก็คือให้เธอกลับไปที่หมู่บ้านก่อน แม่ของเธอก็น่าจะสบายใจขึ้นด้วยถ้าเห็นเธอปลอดภัย นอกจากนั้นเธอยังสามารถช่วยแม่ของเธอด้วยเวทรักษาอีก จริงสิเรื่องยารักษาเดี๋ยวทางฉันจะใช้เส้นสายของตระกูลซัลซ่าหายาให้เธอเอง หากแม่ของเธอเกิดป่วยขึ้นจริงอย่างน้อยเราก็น่าจะเลี่ยงผลลัพธ์ที่เลวร้ายสุดได้」

 

 

「จะเป็นไปได้เหรอ? ฉันได้ยินมาว่าตอนนี้ถึงจะมีเงินมากขนาดไหนก็ใช่ว่าจะหายารักษาได้ง่ายๆ นี่」

 

「เดี๋ยวฉันจะหาทางทำอะไรสักอย่างเอง ถึงเวลาที่ฉันจะเก็บเกี่ยวผลของการลงทุนใดอดีตได้สักที แล้วก็ราส」

 

 

 

「วะ-ว่าไง? 」

 

 

「ภารกิจในการกำจัดกริฟฟอนที่นายได้มาน่ะ ฉันคิดว่าเราจะทำมันไปด้วยเลยน่าจะดี」

 

 

พอมิโรสลาฟพูดออกมา ทั้งอิเรียและราสต่างก็มองเธอเหมือนไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่พูด

 

แล้วราสก็รีบเปิดปากพูด

 

 

「 ว่าไงนะ แค่เราสองคนเหรอ? 」

 

 

「ไม่หรอก ทำแบบนั้นก็เหมือนฆ่าตัวตายชัดๆ สิ่งนี้มันไม่เหมือนโรคระบาดสักหน่อย แถมการกำจัดกริฟฟอนก็ไม่มีเวลากำหนดชัดเจนด้วย ไว้เดี๋ยวเราเปิดหาสมาชิกชั่วคราวก็ได้ ฉันพอจะมีแผนแล้วด้วย…แต่ไว้ค่อยคุยกันทีหลัง สำหรับตอนนี้ การได้ยารักษามาถือว่าเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด อิเรียทางเธอก็รีบเตรียมตัวให้เสร็จโดยเร็วเลยก็แล้วกัน」

 

จากนั้นอิเรียก็หันหน้าไปหาราสก่อนจะจ้องมองเขา

 

 

ราสที่เห็นก็เหมือนจะไม่อยากสบสายตากับเธอในตอนนี้ จึงได้หันหน้าหนีไป

 

 

 

…อิเรียก็ได้แค่ถอนหายใจก่อนจะหันไปหามิโรสลาฟ

 

 

 

「เอาเถอะ งั้นฉันฝากด้วยละกันนะมิโร」

 

 

 

「ไว้ใจได้เลย」

 

หลังจากมิโรสลาฟตอบกลับ อิเรียก็ลุกจากเก้าอี้แล้วออกจากห้องไป

 

เธอเชื่อว่าหากเธอยังอยู่ที่นี่ต่อคงจะคุมอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่แน่

 

และก็เพราะเหตุนี้เอง เธอจึงไม่รู้ว่ามิโรสลาฟจะพูดอะไรกับราสต่อ

 

 

 

「นี่มิโร….ฉันว่าบางทีฉันน่าจะกลับไปที่หมู่บ้านดีกว่าไหม…ไม่สิฉันว่ายังไงก็ควรกลับดูสภาพอิเรียที่โกรธตอนนี้สิ」

 

 

「ที่นายพูดก็ใช่หรอก จากมุมนี้เธอก็คงมองว่านายเป็นพวกไร้หัวใจแน่ ทางฉันก็จะไม่ห้ามนายหรอกนะแต่ว่า…」

 

 

「 แต่ว่า…แต่ว่าอะไรเหรอ? 」

 

 

「เรื่องของโซระน่ะสิ หมอนั่นต้องกระจายข่าวลือแย่ๆ เกี่ยวกับนายแน่ นอกจากนั้นหากเราทิ้งภารกิจที่ได้รับมาแล้วกลับหมู่บ้านไป ในกรณีที่เลวร้ายสุดเราอาจจะมีปัญหากับชนชั้นสูงผู้ว่าจ้างก็ได้」

 

 

 

「งั้นฉันควรจะปฏิเสธภารกิจก่อ-」

 

 

「มันเป็นภารกิจมาจากชนชั้นสูงนะ ด้วยนิสัยของคุณพาร์เฟทเธอคงจะบอกไปว่าเราต้องรับภารกิจนี้แน่ให้ผู้ว่าจ้างฟังแล้ว หากเราเกิดไปปฏิเสธเอาทีหลัง อีกฝ่ายก็คงไม่ยิ้มรับละยอมปล่อยเราแน่ สุดท้ายแทนที่จะได้ยารักษาฉันว่าพวกเขาอาจจะมาขัดขวางเราด้วยก็ได้」

 

 

 

「…อึก…นี่แปลว่าฉันคิดน้อยไปสินะ」

 

 

「ฉันเข้าใจนะว่านายรู้สึกยังไงราส พอนายได้ยินถึงความสำเร็จของหมอนั่น นายก็เลยอยากจะทำตามใช่ไหมล่ะ ทั้งการจับไวเวิร์น สังหารกริฟฟอนกับสกิลล่าทุกอย่างมันน่าเหลือเชื่อจริงๆ แถมชื่อแคลนอย่างดาบควันโลหิตก็ชื่อคล้ายกับชื่อปาร์ตี้ของเราด้วย…เป็นคนที่น่ารำคาญเสียจริง」

 

 

「นั่นสินะ แถมลูน่าก็กลายเป็นสมาชิกแคลนนั่นด้วย นอกจากนั้นผู้หญิงที่ชื่อชีลคงจะต้องทุกข์ทรมานอยู่แน่ๆ …!」

 

 

「ก็ต้องใช่อยู่แล้ว พวกเรามาหาทางปลดปล่อยทั้งคู่เถอะ และคนที่จะทำมันให้สำเร็จได้ก็คือนายเท่านั้นราส นั่นเลยเป็นเหตุผลที่พวกเราละทิ้งภารกิจกริฟฟอนไปไม่ได้ การที่นายจะเลือกไม่กลับหมู่บ้านไปตอนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องผิดหรอก ไม่ต้องห่วงอีกไม่นานอิเรียก็จะเข้าใจเอง ที่เธอหัวเสียตอนนี้ก็เพราะเป็นห่วงแม่ตัวเองเท่านั้นแหละ」

 

 

 

「…จริงเหรอ? เธอจะเข้าใจสิ่งที่ฉันทำสินะ」

 

 

「แน่นอน ฉันมั่นใจว่าเธอต้องเข้าใจ เพราะแบบนี้นายก็ควรจะยึดมั่นในสิ่งที่ตัวเองตัดสินใจเถอะ เดี๋ยวทุกอย่างก็จะออกมาดีเองในตอนจบ…」

 

——–

Note 1 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ ผมแปะไว้ใต้เม้นของเพจนะครับ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~

Status: Ongoing
ตระกูลมิตสึรุกิได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่สำคัญในการปกป้องประตูปีศาจจากองค์จักรพรรดิ โซระ มิตสึรุกิ ผู้เกิดมาเป็นลูกชายคนโตของตระกูล กำลังตั้งตารอพิธีตัดสินในปีที่เขาอายุครบ13ปี การทดสอบที่จำเป็นต้องเอาชนะให้ได้เพื่อเรียนรู้วิชาดาบเดียวมายาซึ่งสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นภายในตระกูลมิตสึรุกิ พี่น้องของเขาทั้งหมดนั้นต่างก็ผ่านบททดสอบดังกล่าว จะเหลือก็เพียงโซระ บัดนี้พ่อ น้องชาย คู่หมั้น และญาติของเขาก็ต่างจับจ้องไปยังโซระที่จะเริ่มทดสอบกันอย่างเคร่งขรึม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน