การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ – ตอนที่ 57 ค่าตอบแทน

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~

ตอนที่ 57 ค่าตอบแทน

 

「…รู้สึกไม่สบายตัวเลยแฮะ」

 

 

ในเช้าวันรุ่งขึ้น

 

หลังจากที่ผมออกมาจากคฤหาสน์ของดยุกตามลำพัง ผมก็พูดกับตัวเองด้วยเสียงที่แหบพร่าในขณะที่เอามือขวากุมหน้าตัวเองเอาไว้

 

 

 

ผมรู้สึกปวดหัวมาก แถมยังมีอาการคลื่นไส้และเวียนหัวจนเดินตัวตรงไม่ไหว สภาพผิวก็คล้ายกับคนตาย ยามเฝ้าประตูที่เห็นผมเดินผ่านไปก็ยังแสดงสีหน้าเป็นห่วงออกมาเลย

 

หากมันเป็นหวัด ก็คงจะเป็นหวัดที่เลวร้ายสุดๆ เท่าที่ผมเคยเป็น

 

 

 

ปกติแล้วผมควรจะนอนพักผ่อนด้วยความสงบ แต่สภาพร่างกายของผมตอนนี้มันเหมือนจะฉีดออกจากกันจนทำให้ผมนอนแทบไม่ได้เลย

 

 

 

เอาจริงๆ นะ ตอนนี้แค่เดินเฉยๆ ยังเจ็บเลย แต่อย่างน้อยถ้าเทียบกับการต้องนอนอยู่เป็นเตียงแล้วการมาเดินแบบนี้ก็ดีกว่าเป็นไหนๆ

 

 

เพราะงั้นผมก็เลยออกมาจากคฤหาสน์เพื่อเดินไปตามท้องถนนของเมืองหลวง

 

 

 

 

「เฮ้อ…ใครจะไปคิดว่าจะหนักได้ขนาดนี้」

 

 

ส่วนสาเหตุของอาการที่ว่าก็คือผลกระทบที่ได้จากการทดลองถ่ายวิญญาณของผมให้กับลูนามาเรีย

 

ผลการทดลองนั้นเป็นไปได้ด้วยดี

 

จนมันดีเกินไปด้วยซ้ำ

 

เลเวลของลูนามาเรียขึ้นจาก 19 ไป 20

 

 

 

นั่นก็หมายความว่าความสามารถของผมมันสามารถเพิ่มเลเวลของคนอื่นได้ด้วย

 

 

 

ไม่อยากจะคิดว่าหากความลับดังกล่าวมันเผยแพร่สู่สาธารณะจะเกิดความวุ่นวายมากขนาดไหนในสังคม แค่คิดก็ทำให้ผมขนลุกแล้ว

 

นอกจากนี้ผมยังสามารถใช้การกลืนวิญญาณกับเลเวลของผมได้มีประสิทธิภาพขึ้นด้วย ลองคิดดูสิว่าผมสามารถปั๊มเลเวลวนไปโดยไม่รู้จบได้ พอผมให้เลเวลเธอไป ผมก็จะทำการกินวิญญาณเธอเพื่อเพิ่มเลเวลตัวเอง แล้วก็ถ่ายวิญญาณของผมให้เธอวนไปเรื่อยๆ

 

 

โห ถ้าเป็นแบบที่คิดได้ไม่ใช่ว่าผมจะแกร่งสุดๆ ไปเลยนี่… แน่นอนว่าไอ้ที่ว่ามาทั้งหมดมันคือความคิดในหัวผมก่อนที่จะได้ตรวจสอบเลเวลของตัวเอง

 

 

ไหนจะต้องมารับมือกับความเจ็บปวด คลื่นไส้ เวียนหัว ปวดหน้าท้อง ปวดหน้าอก และอื่นๆ อีกมากมายอีก จนรู้สึกว่าทำไปก็ไม่คุ้ม

 

เอาเป็นว่าถึงของพวกนี้จะผลเป็นผลข้างเคียงจากการถ่ายวิญญาณ แต่ความผิดปกติและข้อเสียสุดๆ ของมันก็คือไอ้เลเวลของผมนี่แหละ

 

 

พอผมเปิดดูก็พบว่าเลเวลของผมที่เคยเป็น 8 กลับลดเหลือแค่ 7

 

 

 

เลเวลของผมลดลงเฉยเลย

 

 

 

ครั้งล่าสุดที่ผมอัพเลเวลขึ้นมาก็คือตอนจัดการกับกริฟฟอน

 

 

ถึงผมจะจัดการมนุษย์หมาป่า สกิลล่า กินวิญญาณลูนามาเรียทุกวัน ไหนจะปิดด้วยบาซิลิกส์อีก เลเวลของผมก็ไม่เพิ่มขึ้นเลย

 

 

แต่แค่การถ่ายวิญญาณครั้งเดียวให้กับลูนามาเรีย เลเวลของผมก็ลดได้ในทันที

 

จะว่าไงดีล่ะ วิญญาณที่ผมเก็บเกี่ยวมาจนถึงทุกวันนี้มันสามารถเพิ่มเลเวลของลูนามาเรียได้ตั้ง 1 เลเวลเลยนะ

 

 

คือผมก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะ ถ้าวิญญาณที่เก็บพวกนั้นเสียไปแล้วลูน่าได้เลเวลเพิ่ม แต่เลเวลผมดันลดด้วยนี่สิ รับไม่ได้ชะมัด

 

มันมีที่ไหนกัน ตั้งแต่ผมเกิดมาก็ยังไม่เคยได้ยินเลยว่ามีใครเลเวลลดได้ด้วย นี่มันต้องล้อกันเล่นแล้วแน่ๆ

 

 

 

เอาซะผมอยากจะหาใครสักคนเป็นที่ระบายอารมณ์เลยแฮะ

 

 

 

แต่สุดท้ายก็ไม่รู้จะเอาไปลงกับใครดี…เอาเถอะ ผมก็เป็นคนอยากทดลองเรื่องนี้เองด้วย สงสัยคงได้แต่ต้องโทษตัวเองและเก็บความโมโหไว้

 

 

 

สรุปง่ายๆ ก็คือเลเวลลูนามาเรียเพิ่ม เลเวลของผมลด

 

ผมก็แค่ต้องยอมรับความจริงที่ว่า

 

 

「…ถ้างั้นก็แปลว่าเราน่าจะใช้วิธีนี้ในการช่วยเจ้าหญิงทอมบอยนั้นได้หรือเปล่านะ? 」

 

 

ผมยิ้มออกมาอย่างขมขื่น

 

 

ยิ่งคนที่มีเลเวลสูงมากเท่าไหร่ วิญญาณของพวกเขาก็จะยิ่งอร่อยและบริสุทธิ์ขึ้น นั่นหมายความว่าการอัพเลเวลก็จะส่งผลต่อวิญญาณจริงๆ

 

 

 

คลอเดียอยู่ในสถานการณ์ที่ภาชนะกักเก็บวิญญาณของเธอนั้นไม่มีก้นปิด หากเลเวลของเธอเพิ่มขึ้นมันก็น่าจะทำการปิดหลุมดังกล่าวนั้นได้ไม่ก็มีขนาดเล็กลง

 

หากเป็นไปตามที่ผมคิดก็เหมือนจะเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์สักที ถ้าผมเพิ่มเลเวลให้เธออีกสัก2-3เลเวลสุดท้ายอาการของเธอก็น่าจะฟื้นตัวได้เต็มที่

 

 

แต่ปัญหามันก็อยู่ตรงที่ว่า สุดท้ายแล้วเลเวลของผมอาจจะลดลงเหลือ 4 ไม่ก็ 3 เพื่อเป็นค่าตอบแทน

 

 

 

แต่เสียงกรีดร้องของคลอเดียเมื่อคืนก่อนมันยังคงวนเวียนในหัวผม

 

 

 

เธอต้องต่อสู้กับคำสาปมานับปี

 

 

เด็กสาวคนหนึ่งที่ต้องใช้ชีวิตต่อสู้กับคำสาปด้วยความทรมาน ทั้งที่อายุได้เพียงประมาณ 12-13 ปี แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นเธอก็ไม่เคยยอมแพ้ละอดทนตลอดเวลา

 

หากผมสามารถปกป้องเด็กสาวที่สุดยอดแบบนั้นไม่ให้ต้องหลั่งน้ำตาออกมาได้อีก…จะแค่ 2 หรือ 3 เลเวลก็ถือว่าถูกมากสำหรับค่าตอบแทน!

 

 

 

แถมมันก็คงจะเป็นอีกเรื่องที่ผมสามารถนำไปบอกแม่ของผมได้เมื่อผมมีโอกาสไปเยี่ยมหลุมฝังศพของเธอ เดี๋ยวยังไงผมก็สามารถไปเก็บเลเวลคืนหลังจบเรื่องได้ด้วย

 

 

สรุปก็คือผมจะทำตามแผนเดิมที่วางไว้ ผมจะแอบเข้าไปหาคลอเดีย แต่ด้วยสภาพของผมที่เดินยังไม่ตรงตอนนี้

 

ก็ไม่รู้ว่าจะสามารถถ่ายวิญญาณให้เธอไหวไหม บางทีมันอาจจะล้มเหลวด้วยก็ได้

 

 

 

ดังนั้นคงต้องรีบพักฟื้นให้หายโดยเร็ว

 

พอผมออกมาจากที่คฤหาสน์ ผมก็มุ่งหน้าไปในเมืองเพื่อจะหาโพชั่นจากร้านขายของและรับการรักษาที่วิหาร

 

…อ้อใช่ บอกผลเลยแล้วกันนะว่าไอ้ทั้งสองอย่างไม่ได้ผลเลย

 

 

เห็นได้ชัดว่าอาการของผมเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยโพชั่นหรืออย่างอื่น ก็หมายความว่าผมจำเป็นต้องฟื้นตัวตามธรรมชาติแทน

 

 

 

ผมถอนหายใจออกมา แล้วได้แต่คิดว่าคงช่วยไม่ได้

 

 

ในขณะนั้นเองผมก็ได้ยินเสียงพิณดังขึ้นมาจากที่ไหนสักแห่ง ก่อนจะเดินตรงกลับไปยังคฤหาสน์ของดยุก

 

 

◆◆◆

 

 

 

「เอ่อ…ก่อนที่ท่านคลอเดียจะล้มลงไปเหรอคะ? 」

 

 

「ใช่ ลูนามาเรียบอกฉันว่าได้ยินเสียงอะไรแปลกๆ น่ะ แล้วทางเธอล่ะได้ยินอะไรบ้างไหม? 」

 

 

ผมเข้าไปถามชีลหลังจากเดินกลับมาถึงที่พัก

 

 

ตอนแรกผมก็อยากจะถามเธอตั้งแต่เมื่อวานอยู่หรอก แต่ก็ทำไม่ได้เพราะผลการทดลองถ่ายวิญญาณ

 

 

ชีลก็ขมวดคิ้วขณะนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน

 

 

「เป็นตอนก่อนที่จานจะแตกใช่ไหมคะ..จริงสิ จะว่าไปฉันเหมือนได้ยินเสียงร้องค่ะ」

 

 

 

「เสียงร้อง? 」

 

 

「ใช่ค่ะ คิดว่าเป็นเสียงของผู้หญิงด้วย เอ่อ เนื่องจากว่ามนุษย์สัตว์ที่หูที่ดีฉันก็เลยมักจะได้ยินเสียงเพื่อนบ้านรอบๆ ไม่ก็คนตามท้องถนนค่ะ ยิ่งหากเป็นเสียงแหลมสูงของผู้หญิงหรือทารกจะได้ยินชัดเจนเลยแม้จะเป็นเสียงที่ผ่านมาตามสายลมก็ตาม……」

 

 

มันก็เลยเป็นสาเหตุที่เธอไม่ได้สนใจอะไรเสียงนั้นเป็นพิเศษ ชีลกล่าวขอโทษออกมา

 

 

ผมก็ไม่รู้ทำไมหรอก แต่เธอดูเหมือนจะเสียใจที่ไม่ได้รายงานข้อมูลสำคัญให้ผมทราบ

 

 

แน่นอนว่าผมก็ไม่ได้กะจะตำหนิอะไรเธอหรอก ก็เลยบอกเธอไปว่าไม่ต้องกังวล

 

 

 

หากเป็นเสียงร้องไห้ธรรมดา ผมก็คงไม่คิดว่ามีอะไรต้องกังวลหรอก แต่เพราะลูนามาเรียดันรู้สึกแปลกๆ ในจังหวะนั้นเหมือนกัน แถมจากนั้นคลอเดียก็กรีดร้องออกมาเลยด้วย

 

 

หากมันเกิดเหตุการณ์หลายๆ อย่างซ้อนทับกันแบบนี้ ก็คงจะเมินเรื่องเสียงของหญิงสาวที่ชีลว่าไม่ได้แล้วด้วย

 

 

ครั้งหนึ่งผมก็เคยไปจัดการพวกแบนชีที่สุสานของเมืองอิชกะมาก่อนด้วย โดยลักษณะการโจมตีของพวกมันก็จะเป็นเสียงร้องนี่แหละ

 

อาจจะเป็นไปได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับคลอเดียอาจจะมีสาเหตุมาจากสิ่งนี้

 

 

 

แต่ถ้าหากคลอเดียเจ็บปวดเพราะพวกแบนชีจริง มันก็น่าแปลกนะว่าทำไมมันถึงไม่ส่งผลอะไรกับพวกผมเลย

 

 

 

ถึงจะยังตัดสินไม่ได้ว่าเกิดจากพวกมันจริงไหม แต่อย่างน้อยก็ควรไปตรวจสอบสักหน่อย

 

 

 

เหนือสิ่งอื่นใดจากอาการที่ผมเห็น ก็คงพูดได้ไม่เต็มปากว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับพวกมนตร์ดำหรือภูตผีปีศาจเลย

 

 

พอคิดได้แบบนี้ผมก็ตัดสินใจว่าจะลองไปดูที่สุสานทางเหนือของเมืองหลวงสักหน่อย เพราะตรงนั้นก็เป็นที่ฝังเหล่าบรรพบุรุษของตระกูลดรากูนอทด้วย แม่ของแอสทริดและคลอเดียก็หลับใหลอยู่ที่นั่นเช่นกัน

 

 

 

แถมมันคงจะเป็นสถานที่ที่เหมาะสุดๆ เลยหากใครสักคนจะร่ายคำสาปใส่ตระกูลดยุก

 

———

Note 1 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ ผมแปะไว้ใต้เม้นของเพจนะครับ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

 

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~

Status: Ongoing
ตระกูลมิตสึรุกิได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่สำคัญในการปกป้องประตูปีศาจจากองค์จักรพรรดิ โซระ มิตสึรุกิ ผู้เกิดมาเป็นลูกชายคนโตของตระกูล กำลังตั้งตารอพิธีตัดสินในปีที่เขาอายุครบ13ปี การทดสอบที่จำเป็นต้องเอาชนะให้ได้เพื่อเรียนรู้วิชาดาบเดียวมายาซึ่งสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นภายในตระกูลมิตสึรุกิ พี่น้องของเขาทั้งหมดนั้นต่างก็ผ่านบททดสอบดังกล่าว จะเหลือก็เพียงโซระ บัดนี้พ่อ น้องชาย คู่หมั้น และญาติของเขาก็ต่างจับจ้องไปยังโซระที่จะเริ่มทดสอบกันอย่างเคร่งขรึม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท