การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ – ตอนที่ 109 ลูนามาเรีย 4

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~

ตอนที่ 109 ลูนามาเรีย 4

 

ถ้ำของราชาแมลงวันมีรูปแบบโครงสร้างเป็นแนวตั้ง ซึ่งก้นของมันก็กว้างพอจะใส่คฤหาสน์ขุนนางเข้าไปได้หลายหลังเลย

 

โซระก็มักจะนำเอาอาหารและน้ำไปเก็บไว้ที่นั่น ก่อนจะตั้งเต็นท์ขึ้นมาหลายหลัง แล้วจัดสภาพแวดล้อมให้พร้อมอยู่อาศัย จนทำให้ที่นี่กลายเป็นฐานปฏิบัติการของเขาในป่าทีทิส

 

ตอนนี้ลูนามาเรียกับโซระก็กำลังคุยกันอยู่ในเต็นท์หลังหนึ่ง

 

――ไม่คิดบ้างเหรอคะว่าพลังที่ท่านมีมันไม่ใช่สิ่งที่เผ่าพันธุ์มนุษย์จะมีได้เลย?

 

เธอถามเขาไปอย่างงั้นระหว่างที่พวกเธออยู่กันตามลำพัง ที่เธอเลือกคุยตอนนี้ก็เพราะไม่ต้องการให้ไคลอาได้ยินด้วย

 

ลูนามาเรียสงสัยเรื่องนี้เป็นอย่างมาก และความเป็นไปได้นั้นก็น่าจะเกิดมาจากสภาพแวดล้อมที่มาสเตอร์ของเธออาศัยอยู่

 

 

รังมังกร ประตูปีศาจ อนิม่า มายาดาบเดียว ตระกูลมิตสึรุกิ

 

หลายอย่างเธอก็พอรู้แต่ก็มีอีกหลายอย่างที่เธอไม่รู้และพอเธอนำทุกอย่างมาเชื่อมโยงกัน สิ่งที่อยู่ในหัวของเธอก็มีเพียงแค่ภาพที่น่าสะพรึงกลัวและบิดเบี้ยว

 

ไม่ว่าจะเป็นรังมังกรหรือประตูปีศาจ สิ่งเหล่านั้นก็มักจะนำพาความบิดเบี้ยวมาสู่พืชและสิ่งมีชีวิตไม่ต่างอะไรกับพิษร้าย ดังนั้นมันจึงไม่มีเหตุผลใดที่มันจะยกเว้นให้กับมนุษย์เท่านั้นเลย

 

บางทีพวกที่อยู่บนเกาะอสูรยักษ์อาจจะถูกพลังพวกนี้กลืนกินไปแล้วก็ได้ ตั้งแต่ 300 ปีก่อนที่ประตูปีศาจปรากฏขึ้น มันเป็นไปไม่ได้เลยสักนิดที่พวกเขาจะไม่ได้รับผลกระทบจากมัน

 

 

หากให้พูดกันตามตรง ลูนามาเรียมองว่าผลของพวกมันก็คือสิ่งที่เรียกว่าอนิม่า

 

แม้เธอจะได้รับข้อมูลแบบสรุปมาจากโซระเกี่ยวกับอนิม่าว่ามันคือตัวตนอีกตัวตนหนึ่งในจิตใจของมนุษย์ จิตวิญญาณอีกหนึ่งดวง การรับรู้ถึงมันและควบคุมมันเอาไว้คือแก่นของมายาดาบเดียว แถมลูนามาเรียก็เป็นคนสัมผัสถึงมังกรในตัวโซระด้วยตัวเองก่อนจะรับรู้ว่านั่นคืออนิม่าของเขา

 

โซระทำการอธิบายเรื่องพวกนี้ให้เธอฟังและเหมือนเขาจะไม่ได้สงสัยอะไรในตัวตนของพวกมันเลย แต่สำหรับเธอยิ่งฟังมากเท่าไหร่เธอก็ยิ่งทำใจเชื่อได้ยาก ที่มนุษย์จะสามารถได้รับพลังของมังกรมาได้เพียงเพราะเป็นผู้ใช้ศาสตร์มายาดาบเดียว

 

แต่สุดท้ายโซระก็มีพลังอย่างที่ว่าจริงๆ แถม 3 คนจากเกาะก็มีพลังเช่นเดียวกับเขา ยิ่งไปกว่านั้นคนที่เกาะอีกจำนวนมากก็มีพลังดังกล่าวไม่ต่างกันด้วย

 

 

กระทั่งภาคีอัศวินมังกรของอาณาจักรคานาเรีย ยังไม่สามารถรับมือกับนักรบที่ถูกเรียกว่าธงทั้ง 8 แห่งผืนป่าได้เลยสักนิด เกาะอสูรยักษ์ผลิตนักรบที่มีพลังขนาดนั้นออกมาได้จริงงั้นหรือ

 

 

หากไม่เรียกว่ามันผิดปกติเกินไปแล้วจะให้เรียกว่าอะไรได้อีกกัน?

 

ไม่ว่ามายาดาบเดียวจะยอดเยี่ยมสักเพียงใดแต่มันก็ไม่ได้อธิบายถึงสิ่งผิดปกติพวกนี้ได้เลย นอกจากนี้ดูเหมือนว่าหากเข้าถึงอนิม่าได้มากยิ่งขึ้นและปลุกพลังของมันให้ตื่นขึ้นไปได้อีกระดับ ของแบบนี้เธอไม่เคยได้ยินมาเลยสักครั้งในชีวิต

 

เธอจึงมองว่าเหตุผลที่มายาดาบเดียวสามารถเข้าถึงสิ่งที่เรียกว่าอนิม่าได้น่าจะเป็นเพราะประตูปีศาจ

 

บางทีประตูปีศาจอาจจะเป็นรังมังกรเทียมที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยมือมนุษย์ก็ได้ และพวกธงแห่งผืนป่าก็คือเหล่ามนุษย์ที่กลายพันธุ์จากผลของประตูปีศาจ

 

โดยปกติแล้ว หากคนเราสัมผัสได้ถึงสิ่งแปลกปลอมอย่างตัวตนอื่นก็ต้องคิดสิว่ามันอาจจะเป็นเพราะป่วยหรือมีอาการหลอน และถ้าหากสิ่งนี้มันเกิดขึ้นเพียงแค่บนเกาะอสูรยักษ์ พวกเขาก็ต้องคิดบ้างสิว่ามันอาจจะเป็นคำสาปประจำถิ่นก็ได้ แล้วควรรีบอพยพหนีออกมา

 

แต่กลับกันพวกคนบนเกาะได้เปลี่ยนสิ่งที่ควรเรียกว่าเป็นคำสาปให้กลายมาเป็นพลัง ผ่านสำนักมายาดาบเดียว สุดท้ายมันก็ทำให้สิ่งนั้นกลายเป็นสิ่งที่ควรเคารพบูชาหาใช่การรังเกียจ

 

คำสาปได้กลายเป็นพร พวกคนบนเกาะรวมตัวกันด้วยความเชื่อเช่นกัน และสร้างรากฐานพลังต่อสู้ที่ท่วมท้นขึ้นสำเร็จ

 

และภายใต้รากฐานพวกนั้นตระกูลมิตสึรุกิคือผู้ที่ครอบครองพลังอันสุดน่าสะพรึงกลัวเอาไว้

 

 

แถมตอนนี้โซระก็กำลังจะเข้าต่อสู้กับขุมกำลังที่ครองพลังเหล่านี้มากว่า 300 ปี ถึงจะเป็นการหาเรื่องจากทางฝั่งนั้นก่อน แต่ตระกูลมิตสึรุกิก็คงไม่สนใจที่มาและไม่ลังเลที่จะตอบโต้กลับอีกครั้งแน่

 

ลูนามาเรียรู้สึกว่า ถึงจะเตือนโซระไปอีกสักกี่ครั้งเขาก็คงไม่ฟัง แต่สุดท้ายเธอก็ต้องพยายามเตือนเขาต่อไปอยู่ดี

 

มันไม่ใช่เพราะเธอกังวลว่าภัยอันตรายอาจจะลามมาถึงตัวเธอที่ใกล้ชิดกับโซระด้วย แต่เป็นเพราะเธอห่วงความปลอดภัยของโซระจริงๆ

 

ลูนามาเรียอยู่กับโซระก็เพื่อชดใช้บาปของเธอ ด้วยเหตุนี้เธอจึงอุทิศตนมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ตอนนี้ความรู้สึกที่เธอมีต่อโซระมันไม่ใช่ของอย่างการชดใช้หรืออุทิศตนอะไรอีกแล้ว

 

ถ้าถามว่าเธอมั่นใจได้อย่างไร มันก็เป็นเพราะทุกครั้งที่เธอคิดว่าโซระถูกฆ่าโดยพวกนักฆ่าจากเกาะ ความเจ็บปวดที่หัวใจของเธอก็บีบหน้าอกของเธอเอาไว้แน่น หากความรู้สึกของเธอที่มีต่อโซระเป็นเพียงแค่การชดใช้หรืออุทิศตน เธอคงไม่เจ็บปวดขนาดนี้หรอก

 

ลูนามาเรียรับรู้ได้ถึงความรู้สึกจริงๆ ภายในใจเธอเป็นอย่างดี แม้ก่อนหน้านี้จะยังไม่ชัด แต่ตอนนี้เธอมั่นใจแล้ว

 

พูดกันตามตรงมันก็อดทำให้เธอสับสนไม่ได้อยู่เหมือนกัน

 

เผ่าพันธุ์เอลฟ์ที่มีอายุยืนยาวความต้องการเพศตรงข้ามก็น้อยด้วย ขนาดตัวลูนามาเรียเองตลอดช่วงชีวิตของเธอยังไม่เคยรู้สึกทำนองนี้กับใคร เผ่า หรือเพศไหนเลยสักนิด

 

ราสก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นในเรื่องนี้ ที่เธอถูกราสดึงดูดเข้ามาในตอนแรกเริ่มมีเพียงแค่ทัศนคติที่ไม่เย่อหยิ่งของเขา นั่นเลยทำให้เธอตัดสินใจเข้าร่วมดาบฮายาบูสะมากว่า 5 ปี แต่เธอไม่เคยมีความรู้สึกในเชิงชู้สาวกับเขาเลยสักครั้ง แตกต่างจากอิเรียและมิโรสลาฟ

 

ที่ลูนามาเรียตัดสินใจออกมาจากบ้านเกิดของเธออย่างป่าบรรพกาลก็เพื่อแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับโลกภายนอก นอกจากนี้ก็เป็นการเก็บข้อมูลของโลกฝั่งมนุษย์ในฐานะสปายด้วย

 

ก็จริงอยู่ว่าการกระทำของเธอมันก็ไม่ใช่การกระทำแบบสปายโดยสมบูรณ์ สังคมที่สร้างขึ้นโดยมนุษย์ซึ่งมีอายุขัยที่สั้นต้องผ่านการเปลี่ยนแปลงที่น่าปวดหัวในช่วงเวลา 10 – 20 ปีเสมอ หากการเปลี่ยนแปลงมันจำกัดอยู่เฉพาะสังคมมนุษย์ก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก แต่บางครั้งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมันก็กระทบถึงเผ่าพันธุ์อื่นด้วยนี่สิ

 

 

 

ครั้งหนึ่งในอดีต มนุษย์ก็คือเป็นศัตรูกับมนุษย์สัตว์และเอลฟ์ด้วย จนถึงตอนนี้ร่องรอยของความขัดแย้งก็ยังคงสามารถเห็นได้ในบางแห่ง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เอลฟ์ได้ส่งคนของตัวเองมายังฝั่งมนุษย์เพื่อจับตามองการเปลี่ยนแปลงในบทบาททางสังคมของพวกเขาว่าจะมีแนวโน้มเป็นเช่นไร และหากลุ่มที่จะเป็นมิตรกับเผ่าพันธุ์ตัวเองเอาไว้เพื่อส่งเสริมพวกเขา

 

ด้วยเหตุนี้ลูนามาเรียที่เจอกับราสซึ่งไม่ได้มีอคติอะไรกับเอฟล์และมีความสามารถในฐานะนักผจญภัย เธอจึงตัดสินใจเป็นนักผจญภัย แถมการที่เธอเลือกเส้นทางนี้เธอจะสามารถเห็นโลกได้กว้างขึ้น สร้างสัมพันธ์กับมนุษย์ได้มากขึ้นและรวบรวมข้อมูลได้มากขึ้นด้วย

 

อันที่จริงเธอก็สัมผัสความรู้สึกของราสที่ต่อตัวเธอซึ่งมากกว่าเพื่อนธรรมดาได้อยู่หรอก แต่เธอก็ไม่คิดจะสนใจนัก หากราสมีความรู้สึกแบบนั้นกับเธอเพียงแค่คนเดียว บางทีในอนาคตเธออาจจะพร้อมอาศัยอยู่ร่วมกับเขาก็ได้

 

แต่ก็เหมือนกับเอลฟ์คนอื่นๆ ลูนามาเรียมองว่าหากเธอจะเลือกคู่ชีวิตของเธอได้เพียงคนเดียว เธอก็หวังให้คู่ชีวิตของเธอทำเช่นเดียวกัน เธอไม่ได้ต้องการเข้าไปเป็นหนึ่งในคู่ของคนที่เธอเลือก หรือตั้งเงื่อนไขเหมือนมิโรสลาฟอย่างการให้ตัวเองเป็นภรรยาตามกฎหมายเพียงผู้เดียว

 

 

สำหรับลูนามาเรียแล้ว ราสได้พยายามสานสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับหญิงสาวอีก 2 คนนอกจากตัวเธอ นั่นก็คือ อิเรียกับมิโรสลาฟ ซึ่งพวกเธอก็เหมือนจะยอมรับมันเสียด้วย ช่างเป็นเรื่องที่เหนือความเข้าใจของเธอจริงๆ แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกรังเกียจอะไรหรอก จะมีก็เพียงความรู้สึกที่น่าอึดอัดนิดหน่อย นี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งในสาเหตุที่เธอไม่ลังเลที่จะออกจากปาร์ตี้ดาบฮายาบูสะเลยสักนิด

 

แน่นอนว่าเธอไม่ได้มีความรู้สึกพิเศษอะไรกับโซระ ที่เธอหลับนอนกับเขาก็เพราะเขาขอให้เธอทำ มันก็แค่หน้าที่ในฐานะทาสคนหนึ่ง เธอเชื่ออย่างสนิทใจว่าไม่ว่าพวกเธอจะมีอะไรกันมากแค่ไหน ความรู้สึกที่เรียกว่ารักก็ไม่มีทางเกิดขึ้นได้แน่นอน

 

ทว่าสุดท้ายเธอก็ตระหนักได้ว่าเธอพลาดไปเสียแล้ว

 

ในตอนแรกก็มีชีลเข้ามาช่วยเธอในการแบ่งงานกลางคืนของเธอไป จากนั้นอีกไม่นาน มิโรสลาฟก็เป็นอีกหนึ่งคน หากมองดูแล้วนี่มันก็น่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่ทำให้ได้เจอโซระน้อยลง ลูนามาเรียก็ควรจะสบายใจได้สักทีที่ไม่ต้องไปเผชิญกับสภาพแวดล้อมและเรื่องที่เธอไม่ชอบนัก

 

แต่สิ่งที่ก่อเกิดขึ้นมาในใจของเธอกลับไม่ใช่ความโล่งใจ

 

ในตอนนั้นเองที่ลูนามาเรียตระหนักได้ว่า ความรู้สึกของเธอที่มีต่อโซระมันเริ่มเติบโตขึ้นมาในใจของเธอแล้ว เธอเริ่มตระหนักได้ว่าทั้งร่างกายและจิตใจของเธอเริ่มถูกพลังของโซระดูดกลืนเข้าไปทุกที

 

มันคือ ความรัก ความดึงดูด ความเห็นใจ หรืออะไรสักอย่าง เธอพยายามจะยืนยันเรื่องพวกนี้ให้ได้ชัดเจนในสักวันหนึ่ง แต่แล้วพอถึงวันที่ 3 คนจากเกาะเข้ามาโจมตีเธอ เหตุการณ์มอนสเตอร์คลุ้มคลั่ง ไฮดราที่ปรากฏตัวออกมา เธอกลัวที่จะสูญเสียโซระไปเป็นอย่างมาก มันคือความรู้สึกที่เกิดขึ้นมาในใจก่อนที่เธอจะรู้ตัวเสียอีก

 

ลูนามาเรียถอนหายใจออกมาเล็กน้อย จะเกิดอะไรขึ้นกับเธอต่อจากนี้กันนะ แล้วเธอควรจะทำเช่นไรต่อดี ถึงจะเป็นมันสมองที่เฉียบแหลมและชาญฉลาดของเธอก็ยังไม่สามารถหาคำตอบให้กับเรื่องนี้ได้โดยง่าย

 

——–

Note 1 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ ผมแปะไว้ใต้เม้นของเพจนะครับ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~

Status: Ongoing
ตระกูลมิตสึรุกิได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่สำคัญในการปกป้องประตูปีศาจจากองค์จักรพรรดิ โซระ มิตสึรุกิ ผู้เกิดมาเป็นลูกชายคนโตของตระกูล กำลังตั้งตารอพิธีตัดสินในปีที่เขาอายุครบ13ปี การทดสอบที่จำเป็นต้องเอาชนะให้ได้เพื่อเรียนรู้วิชาดาบเดียวมายาซึ่งสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นภายในตระกูลมิตสึรุกิ พี่น้องของเขาทั้งหมดนั้นต่างก็ผ่านบททดสอบดังกล่าว จะเหลือก็เพียงโซระ บัดนี้พ่อ น้องชาย คู่หมั้น และญาติของเขาก็ต่างจับจ้องไปยังโซระที่จะเริ่มทดสอบกันอย่างเคร่งขรึม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท