ตอนที่ 140 การต้อนรับ
ในที่สุดผมก็เดินทางมาถึงเมืองหลวงโฮรัสของอาณาจักรคานาเรียสักที ก่อนที่ปลายทางในเมืองนั้นจะเป็นคฤหาสน์ของดยุกดรากูนอท
ทิวทัศน์ของเมืองหลวงซึ่งท้องถนนถูกจัดวางเป็นพื้นลายตารางก็ยังคงมีชีวิตชีวาไม่ต่างกับที่มาคราวก่อน ทว่าพวกนักบวช บิวะโฮชิที่ผมเคยเห็นก่อนหน้านี้ได้หายไปซะเกือบหมดแล้ว
ตอนนี้ขนาดตัวพวกเขาเองก็คงจะไม่มีเวลามาเล่นดนตรีอะไรให้ใครฟังหรอก นับประสาอะไรกับพวกที่จะยอมจ่ายเงินเพื่อฟังกัน
เมื่อคิดแบบนั้น ก็มองไปรอบๆ อีกครั้ง ผู้คนภายในเมืองต่างวิ่งพลุกพล่านกันไปมาด้วยความเร่งรีบและวุ่นวาย แต่ก็มีแรงใจกันทุกคน นั่นอาจจะเป็นอิทธิพลของงานแต่งงานที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้…น่าจะใช่นะ
ในขณะที่กำลังคิดอะไรไปเรื่อย ผมก็เดินทางมาถึงคฤหาสน์ที่คุ้นและแสนโอ่อ่า
คฤหาสน์ของดยุกดรากูนอทนี่ช่างยิ่งใหญ่เหมือนเคย หากได้มองดูไกลๆ จากประตูก็จะรู้ได้เลยว่ามันไม่ได้ด้อยไปกว่าที่อยู่ของพวกราชวงศ์เลย
เดี๋ยวนะ จะว่าไปหากผมมาหาดยุกดรากูนอทแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเลย แค่พูดขอโทษที่อยู่ดีๆ ก็มาโดยไม่ได้บอกก่อนมันจะจบหรือเหรอ ก็จริงว่าผมเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะอัศวินมังกรและดราก้อนสเลเยอร์――แต่ส่วนตัวแล้วผมก็ไม่ใช่คนของอาณาจักรนี้จริงๆ เสียด้วย แถมยังมีข่าวลือเสียๆ หายๆ อย่างดราก้อนสเลเยอร์จอมปลอมอีก――ผมจะไม่แปลกใจเลยหากไปที่ประตูแล้วพวกทหารยามไล่ผมออกมา เพราะใช่ว่าทุกคนภายในคฤหาสน์จะคุ้นหน้าผมเสียหน่อย
ก็จริงว่าดยุกดรากูนอทกับสองสาวมาช่วยยืนยันให้ก็คงจะผ่านไปอย่างสะดวก ทว่าหากมองดูสถานการณ์ภายในอาณาจักรตอนนี้ดยุกกับแอสทริดไม่น่าจะอยู่ที่คฤหาสน์แน่ๆ ดังนั้นก็เหลือแต่ลูกสาวคนที่ 2 อย่างคลอเดียสินะ――แต่พวกข้ารับใช้ในบ้านจะยอมให้คุณหนูสุดที่รักของพวกเขาซึ่งกำลังฟื้นตัวจากอาการป่วยออกมาพบคนแปลกหน้าหรือเปล่านี่สิ หากผมเป็นพวกเขาผมก็คงจะไล่คนที่มาขอพบซึ่งสภาพมอมแมมกลับไปเหมือนกัน จริงสิตั้งแต่ออกจากเกาะผมยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำเลยนะเออ
「เห้อ…ถ้าเป็นแบบนี้ ก็ไม่มีทางเลือกนอกจากหวังให้พวกคนที่เฝ้าประตูรู้จักเราก็แล้วกัน――หือ? 」
ขณะที่ผมกำลังเดินไปเกือบถึงหน้าคฤหาสน์ของดยุก ผมก็สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวที่ประตูทางเข้า
เมื่อมองไปก็เห็นว่ามีร่างเล็กๆ วิ่งออกมาจากคฤหาสน์ก่อนจะคุยกับยามที่เฝ้าประตูเหมือนถามอะไรสักอย่าง ส่วนทางยามเฝ้าประตูก็ส่ายหัวไปมาด้วยความสับสน
ดูจากสีหน้าแล้วก็ไม่ได้ดูตึงเครียดอะไรกัน ก็คงจะไม่ใช่เรื่องทำนองมีผู้บุกรุกแน่――แต่อย่างน้อยก็เป็นโอกาสที่ดีสำหรับผม เพราะคนที่อยู่ตรงหน้าเป็นคนที่ผมคุ้นเคย
เธอคือลูกสาวของดยุก คลอเดีย ดรากูนอท
ผมก็เลยตั้งใจจะเดินเข้าไปหาเธอก่อนเธอจะเดินกลับเข้าไปในคฤหาสน์ ทว่ากลับเป็นทาคลอเดียที่หันมาทางผมราวกับได้ยินเสียงที่เงียบงันจากตัวผม
สายตาของพวกเราได้ประสานกัน ทางคลอเดียเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ
และใช้เวลาเพียงไม่นานความประหลาดใจนั้นก็กลับกลายเป็นรอยยิ้ม
「คุณโซระ!!」
คลอเดียวิ่งมาหาผมด้วยเสียงที่ดังลั่น กระโปรงยาวที่เธอสวมอยู่ไม่ได้เหมาะกับการวิ่งเลยสักนิด แต่เธอก็ไม่ได้สนใจและวิ่งมาอย่างเต็มกำลัง ราวกับร่างกายนั้นไม่เคยถูกสาปมาก่อน
คลอเดียวิ่งมาถึงตัวผมโดยไม่มีเวลาได้พักหายใจเลยด้วยซ้ำ ก่อนจะจับมือของผมเอาไว้โดยไม่ปล่อยโอกาสได้ผมได้พูดอะไรก่อนเลย
「ว้าว ว่าแล้วเชียว โซระซังจริงๆ ด้วย! ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ ทางนี้คลอเดียเองค่ะ! ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือตลอดช่วงที่ผ่านมานะคะ」
น้ำเสียงที่ไพเราะเสนาะหู กับกลิ่นหอมราวกับน้ำหอมอ่อนๆ ที่โชยมาจากร่าง หรือจะเป็นกลิ่นของเธอจริงๆ กันนะ ไม่รู้สิ
เธอมองมาที่ผมด้วยดวงตาสีม่วงที่เป็นประกายและเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา แก้มของเธอก็มีเลือดฝาดดูสุขภาพดี
ร่องรอยแห่งความอ่อนแอที่คอยกัดกิดร่างของคลอเดียไม่เหลือให้เห็นแล้ว เสน่ห์ดั้งเดิมของเจ้าหญิงทอมบอยได้กลับมาอีกครั้ง พอได้เห็นความน่ารักและความร่างเริงของเด็กสาวคนนี้แล้วก็บอกได้คำเดียวว่ามันน่ารักยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
พอเห็นแบบนี้แล้วก็อดชื่นชมที่เธออดทนมาได้ขนาดนี้ไม่ไหวจริงๆ
「ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ท่านคลอเดียสวยขึ้นมากเลยนี่นา」
「……คะ? 」
พอได้ยินแบบนั้น คลอเดียก็จ้องมายังผมด้วยสีหน้าที่เหมือนตกตะลึง ไม่นานนักแก้มสีขาวของลูกสาวดยุกก็พลันเปลี่ยนไปเป็นสีแดง
เมื่อเห็นภาพตรงหน้าเป็นแบบนั้น ผมก็รู้ตัวในทันทีว่าพลาดไปเสียแล้ว
ไปบอกคนที่ไม่ได้เจอกันมาสักพักว่าสวยขึ้นแบบนี้มันก็แปลกจริงๆ นั่นแหละ ทำไมผมถึงไม่บอกว่า อาการดูดีขึ้นเยอะเลยแทนกันนะ ให้ตายสิเผลอพูดความรู้สึกในใจออกไปแทนซะงั้น
「อ๊ะ ขอโทษด้วยนะ ที่เผลอพูดอะไรหยาบคายออกไป」
ผมรีบก้มหัวขอโทษ ส่วนทางคลอเดียที่ได้สติกลับมาก็ส่ายหน้าไปมา
「ม-ไม่เป็นไรหรอก ขอบคุณนะ! พอดีรู้สึกดีใจมากไปหน่อยที่ได้รับคำชมจากคุณโซระก็เท่านั้นเอง…!」
คลอเดียที่หน้าแดงไปถึงใบหู ก้มหน้าตอบผม
ทางผมกับคลอเดียก็เผลอตัวพูดอะไรแปลกๆ กันออกมา เลยทำให้บรรยากาศรอบตัวตอนนี้เต็มไปด้วยความเงียบงัน เพราะไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนกันต่อดี
…ไม่ได้สิๆ ผมที่สร้างบรรยากาศแปลกๆ นี้ขึ้นมาต้องเป็นฝ่ายจัดการมัน ในฐานะผู้ที่โตกว่าเธอแล้วผมยิ่งต้องหาทางทำอะไรสักอย่าง
「จ-จะว่าไปแล้ว ท่านคอลเดีย ออกมาข้างนอกคฤหาสน์แบบนี้ด้วยเรื่องอะไรกันเหรอ? 」
「อ๋อ เห็นด้วยเหรอคะ? 」
「ก็ระดับหนึ่งน่ะ เพราะผมเห็นท่านทำอะไรสักอย่างอยู่ที่หน้าประตู ก็เลยคิดว่ากำลังต้องการหรือตามหาอะไรบางอย่างอยู่หรือเปล่านะ….」
พอผมบอกไปแบบนั้น ทางคลอเดียก็พยักหน้าให้
「แบบนี้นี่เอง นั่นสินะคะ พอดีว่าเหมือนสัมผัสได้ว่าคุณโซระอยู่แถวๆ นี้ก็เลยออกมาดูค่ะ」
「….เอ๋ งั้นก็แปลว่าท่านเดาได้ว่าฉันจะมาหาอยู่ก่อนแล้วเหรอ? 」
ก็อย่างที่ผมได้บอกไปก่อนหน้านี้ ผมเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้มีการแจ้งให้ทางดยุกทราบมาก่อน ดังนั้นหากไม่ใช่คลอเดียถูกปลุกพลังอย่างการหยั่งรู้ล่วงหน้าก็คงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะรู้ถึงการมาเยือนอย่างกะทันหันของผม
คลอเดียที่เห็นท่าทางของผมแปลกไปก็อธิบายให้ผมฟัง
แล้วก็ได้ความว่าตอนแรกคลอเดียก็อยู่กับคลาเร็น ซึ่งคลาเร็นที่ว่าเป็นไวเวิร์นประจำตัวของคลอเดีย
ทีนี้ระหว่างที่เธอกำลังพูดคุยกันทางคลาเร็นก็แสดงท่าทางตื่นตระหนกออกมาหลังจากมองออกไปนอกคฤหาสน์
「ท่าทางของเด็กคนนั้นคือมีอาการตัวสั่น หางม้วนขึ้น เอาหัวราบกับพื้น ทำตัวให้ต่ำที่สุด」
「นั่นมันอาการที่เกิดตอนกลัวอะไรสุดๆ ไม่ใช่เหรอ? 」
ผมไม่เห็นจะจำได้เลยว่าไปทำให้คลาเร็นกลัวตอนไหน…ไม่สิจะว่าไปรอบก่อนที่ผมมาคฤหาสน์นี้ พวกไวเวิร์นที่อยู่ในคอกของท่านดยุกก็เหมือนจะพยายามหลบหน้าผมด้วยนี่นา
ตอนนั้นผมคิดว่าพวกมันไม่ได้กลัวผม แต่เป็นคราว โซราสไวเวิร์นครามที่ผมพามาด้วย ดูท่าจะคิดผิดไปซะแล้วสิ บางทีคลาเร็นเองก็อาจจะสัมผัสได้ถึงมังกรภายในตัวของผมไม่ต่างอะไรกับที่คราว โซราสรู้สึก
ขณะที่ผมกำลังคิดเรื่องนี้อยู่ทางคลอเดียก็พูดต่อ
「มันก็เลยน่าแปลกค่ะ เพราะปกติแล้วคลาเร็นไม่เคยจะกลัวอะไรเลยแท้ๆ ดังนั้นเมื่อนึกย้อนกลับไป ก็มีเพียงครั้งเดียวที่เด็กคนนี้แสดงปฏิกิริยาแบบนี้ออกมา นั่นก็คือตอนที่เจอกับคุณโซระ ดังนั้นฉันก็เลยคิดว่าคุณโซระอาจจะอยู่แถวๆ นี้ก็ได้ค่ะ ก็เลยลองออกมาหาดู」
「แบบนี้นี่เอง…แต่ให้พูดกันตามตรงมันก็ช่วยฉันได้เยอะเลย เพราะตอนแรกแอบกลัวว่าจะได้รับการต้อนรับไหม หากอยู่ดีๆ โผล่มา ก็ได้ท่านคลอเดียช่วยเอาไว้จริงๆ 」
「ได้รับการต้อนรับ งั้นเหรอคะ?」
คลอเดียกะพริบตาไปมาด้วยความประหลาดใจพอได้ยินคำตอบของผม
ก่อนที่จะพูดต่อด้วยแก้มที่บวมป่อง
「คุณโซระคะ นี่คุณกำลังจะบอกว่าตระกูลดรากูนอทของเราจะอกตัญญู ถึงขนาดขับไล่ผู้มีพระคุณกลับไปเฉยๆ เลยเหรอคะ? 」
「ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย ก็แบบไม่ใช่ว่าทุกคนในคฤหาสน์จะรู้จักหน้าของผมหมดนี่ ดังนั้นสำหรับคนที่ไม่รู้แล้ว ผมก็ไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่าคนธรรมดาทั่วไป ก็เลยคิดว่าอาจจะถูกไล่ออกมาหรือเปล่าน่ะ」
「คุณโซระ」
「ครับ」
「ฝ่าบาทได้พระราชทานยศอัศวินมังกรครามให้ท่านแท้ๆ นอกจากนี้ท่านยังเป็นผู้สังหารตัวการเบื้องหลังเหตุวุ่นวายภายในเมืองหลวงด้วย ไหนจะเป็นคนยุติเหตุมอนสเตอร์คลั่งซึ่งสะเทือนไปทั่วอาณาจักร และยังเป็นคนสังหารมังกรพิษร้ายในตำนานนั่นอีก ฉันว่าท่านไม่สามารถเรียกตัวเองว่าเป็นคนธรรมดาทั่วไปได้หรอกนะคะ」
「……」
คลอเดียพูดต่อโดยไม่ได้เลยสักนิด
「ตอนนี้คงไม่มีใครในอาณาจักรนาคาเรียไม่รู้จักชื่อของคุณโซระหรอกคะ อย่างน้อยก็ไม่ใช่กับคนภายในตระกูลดรากูนอทแน่นอน แค่คุณเอ่ยชื่อของตัวเองฉันก็มั่นใจเลยค่ะว่า พวกเขาพร้อมที่จะพาคนที่รู้จักใบหน้าของคุณมาตรวจสอบ ดังนั้นไม่มีทางที่พวกเขาจะขับไล่ท่านออกมาหรอกค่ะ」
งั้นก็มาจัดการอะไรให้มันถูกต้องใหม่แล้วกันนะคะ
คลอเดียยิ้มออกมาขณะพูดแบบนั้น จากนั้นเธอก็ปล่อยมือที่กุมผมอยู่แล้วจับชายกระโปรงของตัวเองขึ้นมาเล็กน้อยอย่างเป็นธรรมชาติ――
「สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับคุณโซระ ดราก้อนสเลเยอร์สู่ตระกูลดรากูนอทของพวกเราค่ะ」
ก่อนจะโค้งคำนับผมด้วยท่าทีท่าสง่างาม
——–
Note 1 : มาเพื่อโดนเทศน์แท้ๆ
Note 2 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ ผมแปะไว้ใต้เม้นของเพจนะครับ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code