การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ – ตอนที่ 169 ทำลายล้าง

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~

ตอนที่ 169 ทำลายล้าง

 

 

วิสทีเรียก็มั่นใจว่าตัวเองพอจะรับรู้ถึงความแข็งแกร่งของมนุษย์ที่ชื่อว่าโซระ

 

แม้ว่าเธอจะถูกปีศาจร้ายสิงสู่ แต่ความทรงจำที่ถูกอีกฝ่ายกระทำก็ยังชัดเจน

 

 

วิสทีเรียก็มองว่าตัวเองไม่ใช่พวกกระจอกอะไร แต่เธอก็ไม่สามารถเอาชนะปาซูซุได้―― ดังนั้นเธอจึงเคารพในความกล้าหาญและความแข็งแกร่งของเขาที่ทำให้มันพ่ายแพ้อย่างง่ายดาย

 

 

 

แต่ตอนนี้เธอรู้สึกว่าตัวเองยังเข้าใจมันน้อยนิดเหลือเกิน สิ่งที่เธอเห็นในตอนนั้นมันเป็นเพียงแค่ยอดของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น

 

 

 

――ผืนทะเลทรายสั่นสะเทือน

 

 

 

มานาของโซระกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ที่เขาใช้สิ่งที่เรียกว่าอาภรณ์วิญญาณ แล้วกระโดดลงจากหลังของไวเวิร์นไป

 

 

วิสทีเรียกำลังจ้องมองพลังอันยิ่งใหญ่ที่แผ่ออกมาจากร่างของชายหนุ่ม ซึ่งยืนอยู่ข้างล่างอย่างมั่นคงราวกับป้อมปราการ แม้จะมีพวกมอนสเตอร์จำนวนมากโถมเข้ามา

 

 

ตอนนี้ถึงสปิริตจะไม่ได้มีมากเมื่อเทียบกับแอนดร้าบ้านเกิดของเธอ แต่อย่างน้อยก็ยังพอจะมีให้เห็นบ้างและสิ่งที่เธอเห็นคือเหล่าสปิริตเหมือนกำลังพยายามจะหลบหนีออกจากโซระ

 

 

ซิลฟ์สปิริตลม โนมสปิริตดิน ซาลาแมนดอร์สปิริตไฟ ต่างก็กรีดร้องออกมาเมื่อได้สัมผัสกับพลังงานที่ท่วมท้นซึ่งผิดแปลกไปจากปกติ

 

 

ร่างกายของเธอเองก็แข็งทื่อเมื่อได้ยิงเสียงกรีดร้องของพวกสปิริต ไม่สิบางทีอาจจะเป็นเสียงกรีดร้องในใจของเธอเองด้วยก็ได้

 

 

มันเป็นพลังมหาศาลเอาเสียตอนที่ใช้กับปาซูซุเทียบไม่ได้เลยสักนิด จนทำให้เธอรู้ว่าพลังที่เขาใช้ตอนนั้นคือการออมมือให้กับเธอมากขนาดไหน

 

 

เขาสามารถรักษาร่างของเขาให้เหมือนมนุษย์ได้เช่นไรกันเมื่อมีพลังแบบนี้อยู่ เธอนึกไปถึงเรื่องที่คุยกันตอนนั้น

 

 

โซระปลดปล่อยพลังของเขาออกมาโดยที่ไม่ได้สนใจความรู้สึกของวิสทีเรีย――ไม่สิบางทีเขาก็อาจจะรู้แต่แค่ไม่คิดจะสน

 

 

 

 

「มายาสังหาร คลื่นน้ำอัคคี」

 

 

หลังสิ้นเสียงนั้นคลื่นเปลวเพลิงก็ถูกปลดปล่อยออกมาจากอาภรณ์วิญญาณ เปลวเพลิงได้พวยพุ่งไปทั่วทะเลทรายจนเกิดความร้อนอย่างน่าเหลือเชื่อ

 

 

 

อากาศอันหนาวเหน็บยามค่ำคืนถูกแทนที่ด้วยความร้อน ความร้อนแรงของมันมากเสียจนแม้แต่เม็ดทรายในทะเลทรายก็ยังหลอมละลายได้ และสิ่งนั้นก็กำลังพวยพุ่งไปใส่เหล่ามอนสเตอร์

 

 

 

ระยะห่างของทั้งสองฝ่ายเข้ามาถึงจุดปะทะกันแล้ว

 

 

เหล่ามอนสเตอร์ได้ถูกแผดเผาเสียจนราบเป็นหน้ากลองในพริบตา แซนลิซาร์ดที่ปกป้องตัวเองด้วยผิวชั้นนอกที่หนา มดคาตาลานที่ห่อหุ้มร่างไว้ด้วยเปลือกแข็งยิ่งกว่าเหล็ก แมงป่องทองที่หลอกล่อมนุษย์ด้วยเปลือกนอกที่เหมือนกับทองคำและมอนสเตอร์อีกมากมาย พวกมันถูกแผดเผาไปในชั่วพริบตาจนไม่เหลือแม้แต่ซาก

 

 

 

มันคือการชำระล้างด้วยเปลวเพลิงจนทำให้ร่างทุกร่างระเหยหายไป

 

 

 

สายลมร้อนได้พัดมาถึงทางวิสทีเรีย ในขณะเดียวกันสายลมนั้นก็ได้แผดเผาผิวของเธอไปด้วย กลิ่นเหม็นไหม้ที่สุดเกินจะพรรณนาได้โชยมาแตะจมูกเธอ วิสทีเรียรู้ว่านี่คือกลิ่นของพวกมอนสเตอร์ที่ถูกไฟเผา

 

 

ชีวิตมากมายได้ระเหยหายไปในอากาศ อาจจะเป็นหลายสิบ ไม่สิหลายร้อย ไม่ก็หลายพัน คลื่นของพวกมอนสเตอร์มันโถมเข้ามาจนทำให้คาดเดาได้ยาก แต่กลิ่นเผาไหม้ของมันก็ทำให้วิสทีเรียซึ่งเป็นหัวหน้าผู้พิทักษ์แอนดร้าเกิดอาการคลื่นไส้ออกมาอย่างช่วยไม่ได้

 

 

 

 

 

 

――ทว่า ถึงจะรับการโจมตีนี้เข้าไปคลื่นมอนสเตอร์ก็ไม่ได้มีทีท่าจะหยุดลง

 

 

จากชื่อเทคนิคที่โซระใช้ มันคือการสร้างคลื่นเปลวเพลิงออกมาแผดเผาฝูงมอนสเตอร์จนราบพลังทำลายล้างของมันไม่เป็นที่สงสัย แต่มันก็ไม่มากพอจะกำจัดศัตรูที่มีอยู่ตรงหน้าให้หมดได้

 

 

 

พวกมอนสเตอร์ที่อยู่นอกบริเวณอาณาเขตการโจมตีก็ยังโถมเข้ามาโดยไม่ได้รู้สึกเกรงกลัว

 

เมื่อเห็นแบบนั้นวิสทีเรียก็เลยพยายามจะเรียกสปิริตมาเพื่อช่วยเหลือโซระ

 

 

จากนั้นโซระก็ยกมือขึ้นมาปรามเหมือนไม่อยากให้วิสทีเรียเข้ามายุ่ง

 

เธอคิดว่าโซระจะใช้เทคนิคเดิม――ทว่าเมื่อเห็นการตั้งท่าของโซระก็ทำให้รู้ว่าเธอคิดผิด

 

 

 

สายลมกำลังหมุนวนไปมารอบๆ เขา

 

 

 

มันคือดาบแห่งสายลมที่ใช้ฟาดฟันปีกทั้ง 4 ของปาซูซุในเบลก้า แต่ความรุนแรงของสายลมนั้นมันมากกว่าเป็นเท่าตัว ไม่สิ 10 เท่าตัวด้วยซ้ำซึ่งศูนย์กลางของสายลมคลั่งก็คือตัวโซระ

 

 

สายลมค่อยๆ ขยายตัวขึ้นและดึงเอาคลื่นเปลวเพลิงที่หลงเหลืออยู่เข้าไป จนตอนนี้เริ่มก่อตัวกลายเป็นพายุพวยพุ่งไปบนท้องฟ้า

 

วิสทีเรียใช้มือซ้ายขึ้นมาปกป้องดวงตาจากฝุ่นที่ฟุ้งขึ้น มันเป็นพลังที่แสนน่าสะพรึงกลัวเสียจนวิสทีเรียคิดว่าตัวเองอาจจะปลิวไปได้ทุกเมื่อ

 

 

เมื่อเธอมองขึ้นไปตามทิศของสายลมที่ลอยขึ้นไป เธอก็เห็นว่าคลื่นวังวนพายุกำลังก่อตัวขึ้นด้านบน ในสายตาของผู้ใช้สปิริต เธอเห็นสปิริตแห่งสายลมกำลังพยายามหลบหนีออกจากบริเวณนี้ ทั้งที่เป้าหมายของพายุไม่ใช่พวกสปิริตแท้ๆ

 

 

 

「….นั่นมัน อะไรกัน」

 

 

วิสทีเรียเผลอพูดออกมา

 

 

แต่เสียงพูดของเธอมันก็ช่างแผ่วเบาเสียจนโดนพายุกลบไปเสียแล้ว

 

「มันคือสิ่งที่ฉันได้รู้ตอนขี่คราว โซราสน่ะ รู้หรือเปล่าว่าถึงจะร้อนขนาดไหนแต่บนท้องฟ้าก็ยังหนาวเหน็บ」

 

 

เสียงของโซระพูดขึ้นให้วิสทีเรียได้ยิน ช่างน่าแปลกทั้งที่อยู่ภายในสนามรบที่มีเสียงคำรามของมอนสเตอร์มากมาย แต่เสียงของเขากลับส่งมาถึงเธอได้อย่างน่าอัศจรรย์

 

 

 

「หากยิ่งลอยขึ้นไปสูง ไม่เพียงแค่อากาศจะหนาวเย็น แต่ยังทำให้ไม่สามารถหายใจได้สะดวก ราวกับมีผืนน้ำอันหนาวเหน็บลอยอยู่บนนั้นเลย」

 

 

ที่สุดปลายของท้องฟ้าคือโลกเยือกแข็ง ไม่ว่าจะเป็นนกหรือไวเวิร์นครามก็ไม่สามารถบินท้าทายมันได้

 

 

พอโซระรู้เรื่องนี้เขาก็คิดอะไรบางอย่างได้

 

 

 

 

――หากเอามันปรับมาใช้แล้วปล่อยให้สิ่งนั้นพุ่งลงมากระแทกพื้นล่ะ

 

 

ทันทีที่ได้ยินแบบนั้น วิสทีเรียก็รู้สึกขนลุกขึ้น

 

 

ปากของเธอเปิดๆ ปิดๆ ราวกับต้องการจะพูดอะไรแต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไร ระหว่างที่เธอกำลังสับสน เทคนิคของโซระก็เหมือนจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว

 

 

ลมพายุที่โหมกระหน่ำโพยพุ่งขึ้นไปบนฟ้า ในระดับความสูงที่มนุษย์ได้อาจจะเข้าถึง เศษน้ำแข็งที่พร้อมจะทำลายล้างชีวิตบนโลกใบนี้ก็ได้ร่วงหล่นลงมา

 

 

 

 

「มายาสังหาร――ค้อนน้ำแข็ง」

 

 

 

 

วินาทีต่อมา วิสทีเรียก็ได้เห็นฉากการล่มสลายของผืนดิน

 

 

มวลอากาศเย็นที่จับตัวกันบนท้องฟ้าได้กลายเป็นค้อนขนาดยักษ์พุ่งลงมาโจมตีพวกมอนสเตอร์บนพื้น

 

 

ความใหญ่และพลังทำลายล้างของมัน ไม่ยินยอมให้ผู้ใดสามารถหลบหนีไปได้

 

 

แค่ชั่วพริบตาเดียว มอนเตอร์จำนวนมากที่วิ่งผ่านทะเลทรายคาตาลานก็ถูกบดขยี้เละเป็นชิ้นๆ จนไม่เหลือรูปเดิม

 

 

วิสทีเรียเองก็ได้รับผลกระทบจากแรงกระแทกนั้นจนทำให้ร่างของเธอลอยขึ้น มันคืออิทธิพลของการโจมตี ไม่เพียงแค่พวกมอนสเตอร์แต่ผืนทะเลทรายนี้ก็ได้รับผลกระทบไปด้วย

 

 

มันคือผลพวกจากพลังคิที่รุนแรงของโซระ

 

 

คลื่นกระแทกที่เกิดจากการปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างสวรรค์และโลกกระจายไปทุกทิศทุกทางจนเกิดแรงดันลมมหาศาล และพัดทรายจำนวนมากขึ้นสู่ท้องฟ้า ทรายที่กระจัดกระจายได้ผสมเข้ากับพายุ จนขยายอิทธิพลออกไป กลายเป็นพายุทรายขนาดใหญ่

 

 

หากจะให้อธิบายความแตกต่างระหว่างสิ่งนี้กับพายุทรายปกติก็คงเป็นพายุดังกล่าวมันพร้อมจะแช่แข็งทุกสิ่งที่ถูกมันกลืนกิน มันคือพายุทรายน้ำแข็ง

 

แม้จะมีพวกมอนสเตอร์รอดจากการโจมตีระลอกแรก แต่พวกมันก็จะถูกพายุลูกนี้ตามเก็บกวาดด ฝูงมอนสเตอร์ได้ถูกทำลายล้าง

 

 

 

「…………บ้าไปแล้ว」

 

 

เสียงแห่งความตกตะลึงได้ออกมาจากปากของวิสทีเรีย ราวกับถูกดึงดูด สายตาของวิสทีเรียได้หันมองไปร่างของโซระ

 

 

 

ภาพที่เธอเห็นก็คือ ชายหนุ่มผมสีดำกำลังยืนหัวเราะอย่างมีความสุข….

 

 

 

——–

Note 1 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ ผมแปะไว้ใต้เม้นของเพจนะครับ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~

Status: Ongoing
ตระกูลมิตสึรุกิได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่สำคัญในการปกป้องประตูปีศาจจากองค์จักรพรรดิ โซระ มิตสึรุกิ ผู้เกิดมาเป็นลูกชายคนโตของตระกูล กำลังตั้งตารอพิธีตัดสินในปีที่เขาอายุครบ13ปี การทดสอบที่จำเป็นต้องเอาชนะให้ได้เพื่อเรียนรู้วิชาดาบเดียวมายาซึ่งสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นภายในตระกูลมิตสึรุกิ พี่น้องของเขาทั้งหมดนั้นต่างก็ผ่านบททดสอบดังกล่าว จะเหลือก็เพียงโซระ บัดนี้พ่อ น้องชาย คู่หมั้น และญาติของเขาก็ต่างจับจ้องไปยังโซระที่จะเริ่มทดสอบกันอย่างเคร่งขรึม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน