การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ – ตอนที่ 180 ผู้ส่งสารจากประตูปีศาจ

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~

ตอนที่ 180 ผู้ส่งสารจากประตูปีศาจ

 

「มาสเตอร์ เหนื่อยหน่อยนะคะวันนี้」

 

ภายในห้องพักรับรองของกลุ่มการค้าซัลซ่า สาขาเมืองหลวง มิโรสลาฟได้ก้มหัวต้อนรับการกลับมาของผม

 

เนื่องจากการพูดคุยกับเจ้าหญิงเสร็จเร็วกว่าที่คิดไว้ ผมก็เลยออกมาจากวังแล้วมุ่งหน้าไปยังกลุ่มการค้าซัลซ่า เพื่อทำตามแผนที่วางไว้ก่อนหน้านี้ นั่นคือการเตรียมชุดพิธีการซึ่งเป็นของซัลซ่า

 

นอกจากนี้ผมก็คุยกับคลอเดียเรื่องชุดแล้วด้วย สรุปคือก็จะมีดราก้อนสเลเยอร์และบุตรสาวของดยุกดรากูนอทเป็นผู้สวมโฆษณาให้

 

พอทางหัวหน้ากลุ่มการค้าได้ยินเข้าก็ดีใจราวกับคิดว่าเป็นเพียงความฝัน จากนั้นเขาก็ให้การต้อนรับผมเป็นอย่างดี――สาเกราคาแพงจำนวนมากได้วางเรียงรายตรงหน้าผม โดยมีพี่สาวสุดสวยมาประกบซ้ายขวา

 

เขายิ้มออกมาอย่างเจ้าเลห์ขณะให้การต้อนรับผม จากนั้นผมก็ได้พูดคุยกับเขาอย่างไม่เป็นทางการนิดหน่อยก่อน ผมจะแยกตัวออกมา

 

「ว่าแต่ผลออกมาเป็นอย่างไรบ้างคะ? 」

 

 

 

「ก็ถือว่าดีพอสมควรเลย จริงสิตอนแรกฉันว่าอยากจะซื้อคทาเวทกับเสื้อคลุมใหม่ให้เธอสักหน่อย แต่พอมาคิดดูเอาไว้ไปเดินดูด้วยกันน่าจะดีกว่า」

 

 

「เรื่องนั้น…ขอบพระคุณมากค่ะ เป็นเกียรติจริงๆ ที่มาสเตอร์ให้การยอมรับผลงานของฉันแล้ว」

 

 

มิโรสลาฟตอบกลับหลังพยายามลบความสับสนออกไปจากใบหน้าของเธอ

 

「อันที่จริง ฉันไม่ควรจะได้รับสิ่งพวกนี้ด้วยซ้ำ….เพราะค่าตอบแทนจากคุณมันก็มากมายแล้ว การจะขออะไรไปมากกว่านี้ก็คงจะโลภมากไปหน่อย ยิ่งไปกว่านั้นการได้รับใช้มาสเตอร์มันทำให้ฉันมีความสุขยิ่งกว่าสิ่งใด….ทว่า」

 

 

 

 

พอเห็นท่าทางที่เหมือนจะลังเลของเธอแล้ว ผมก็คิดว่าบางทีมันอาจจะมีอะไรมากกว่าคทาเวทกับผ้าคลุมตามแผนเดิมแน่ๆ

 

 

ก่อนที่มิโรสลาฟจะเงยหน้าขึ้นแล้วจ้องมองมาทางผมด้วยสายตาที่คาดหวังอะไรบางอย่าง

 

 

 

「หากคุณจะยอมให้ฉันได้เห็นแก่ตัวมากกว่านี้สักนิด คืนนี้ขอให้ฉันได้รับใช้คุณได้ไหมคะ…ตั้งแต่ที่คุณกลับมาจากเบลก้า พวกเราก็ไม่โอกาสได้…..」

 

 

 

 

พอเห็นใบหน้าของมิโรสลาฟย้อมเป็นสีแดงฉาน ผมก็เดินเข้าไปสวมกอดเธอโดยไม่พูดอะไรออกมา

 

 

 

ริมฝีปากของจอมเวทสาวส่งเสียงที่เต็มไปด้วยอารมณ์เร่าร้อนออกมา เมื่ออยู่ในอ้อมแขนของผม โดยไม่ได้แสดงอาการต่อต้านใดๆ

 

 

ก็อย่างที่เธอพูด เพราะก่อนหน้านี้ผมไม่ได้เรียกตัวเธอมาใช้เวลาช่วงค่ำคืนด้วยกันเลย เหตุผลก็เพราะอยากสังเกตท่าทางของเธอ ผลที่ได้ก็ออกมาหน้านี้ซะงั้น

 

 

พอเห็นแบบนี้ก็ได้แค่ยิ้มแห้งออกมาเมื่อมองมิโรสลาฟในระยะประชิด เอาเป็นว่านับจากนี้ไปคงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเราแล้วมั้งว่า ปล่อยให้มันเป็นไปตามที่ควรแล้วกัน

 

 

 

――แล้วคงไม่ต้องบอกว่าทำไม ของขวัญ จากหัวหน้ากลุ่มการค้าถึงไม่ได้ถูกส่งมาที่ห้องของผมในคืนนี้ อย่างที่ควรจะเป็น

 

 

 

 

◆◆◆

 

ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเองที่โซระกับมิโรสลาฟกำลังพูดคุยกันในห้องรับรองของกลุ่มการค้าซัลซ่า ในคฤหาสน์เมืองอิชกะ ชีลหูผึ่งและเฝ้ามองดูภายนอกคฤหาสน์ด้วยความระมัดระวัง

 

 

ซูซูเมะที่กำลังคุยกับเธออยู่ ก็เอียงศีรษะด้วยความสงสัย

 

 

 

 

 

「คือว่า คุณชีลเป็นอะไรไปเหรอคะ? 」

 

 

 

「…ซูซูเมะจัง เมื่อกี้เธอได้ยินเสียงกริ่งหน้าประตูไหม? 」

 

 

 

「ม-มันดังขึ้นเหรอคะ? ทำไมฉันไม่เห็นจะได้ยินเลย…」

 

 

ซูซูเมะพูดและพยายามเงี่ยหูฟังเหมือนชีล…แต่เธอก็ไม่ได้ยินอะไรเลย

 

 

 

ตอนนี้ตะวันก็ลับขอบฟ้าไปแล้ว การมากดกริ่งเอาป่านนี้จึงเป็นเรื่องผิดปกติ ซึ่งตีความได้ว่าอาจจะมีเรื่องด่วนเกิดขึ้น ทว่าหากเป็นอย่างนั้นจริงเสียงกริ่งก็น่าจะดังเรื่อยๆ ราวกับเป็นการแสดงถึงความเร่งรีบเพื่อให้คนข้างในออกมา ไม่ใช่การกดแค่ครั้งเดียวแบบนี้

 

 

ด้วยประสาทการรับฟังของชีลแล้ว เธอไม่ได้คิดไปเองแน่ จะคิดว่าเป็นการกดแกล้งก็ไม่ใช่อีกเพราะเป็นที่รู้กันดีในเมืองอิชกะว่าที่แห่งนี้คือบ้านของดราก้อนสเลเยอร์ คงไม่มีคนเสียสติที่ไหนคิดมารบกวนหรอก

 

 

โซระกับมิโรสลาฟก็ไปที่เมืองหลวง อิเรียก็อยู่ที่เบลก้า ลูนามาเรียกับวิสทีเรียก็อยู่ในป่าทีทิส นอกจากชีลกับซูซูเมะแล้ว คนที่อยู่ในคฤหาสน์นี้ก็เหลือแค่นักบวชซาร่ากับพวกเด็กๆ 3 คน

 

 

 

 

ชีลได้รับความไว้วางใจจากโซระ ให้จับตาดูรอบๆ แทนตัวเขาเพื่อความปลอดภัยของคนในนี้ แม้ว่าตัวเธอจะอ่อนแอหากเทียบกับโซระและคนอื่นๆ แต่การฝึกฝนของเธอก็มั่นใจได้ว่าจะไม่พ่ายแพ้ให้กับพวกโจรกระจอกแน่

 

 

 

นอกจากนี้ เธอก็มีซูซูเมะที่ฝึกฝนเวทมนตร์และการต่อสู้ระยะประชิดมาแล้วด้วย ตั้งแต่ที่สู้กับคนบนเกาะพวกเธอพัฒนามาไกลพอสมควร ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะซูซูเมะไม่อยากจะเป็นตัวถ่วงใครอีก

 

 

「หากเป็นแค่พวกแมวจร ก็คงจะดีน้า」

 

 

「ถ้าคุณโซระกับคนอื่นๆ รู้เข้าคงได้หัวเราะใส่แน่ค่ะ แต่ก็หวังว่าจะไม่มีอะไรจริงๆ นั่นแหละ」

 

 

 

 

ทั้งสองได้เดินออกมาจากคฤหาสน์ขณะพูดคุยกัน เพื่อไปดูที่หน้าประตู

 

 

 

จากนั้นพวกเธอก็พบเข้ากับร่างหนึ่งที่นอนแน่นิ่งอยู่หน้าประตู พวกเธอจึงรีบวิ่งเข้าไปดูทันที

 

 

เสื้อผ้าและเส้นผมของเธอเต็มไปด้วยโคลน สภาพเหมือนคนเร่ร่อน แต่พวกเธอก็ไม่ได้เสียความตั้งใจในการวิ่งเข้าไปดูอาการ

 

 

เพราะไม่ว่าจะเปื้อนโคลนมากแค่ไหน แต่เส้นผมสีขาวที่แสนโดดเด่น กิโมโนลายลูกศร กับฮากามะสีแดง…ไม่ผิดแน่

 

ไม่ว่าจะมองอย่างไรเธอคนนั้นก็คือไคลอา เบิร์ช

 

——–

Note 1 : หนีออกมาอิท่าไหนน่ะ

Note 2 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ ผมแปะไว้ใต้เม้นของเพจนะครับ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~

Status: Ongoing
ตระกูลมิตสึรุกิได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่สำคัญในการปกป้องประตูปีศาจจากองค์จักรพรรดิ โซระ มิตสึรุกิ ผู้เกิดมาเป็นลูกชายคนโตของตระกูล กำลังตั้งตารอพิธีตัดสินในปีที่เขาอายุครบ13ปี การทดสอบที่จำเป็นต้องเอาชนะให้ได้เพื่อเรียนรู้วิชาดาบเดียวมายาซึ่งสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นภายในตระกูลมิตสึรุกิ พี่น้องของเขาทั้งหมดนั้นต่างก็ผ่านบททดสอบดังกล่าว จะเหลือก็เพียงโซระ บัดนี้พ่อ น้องชาย คู่หมั้น และญาติของเขาก็ต่างจับจ้องไปยังโซระที่จะเริ่มทดสอบกันอย่างเคร่งขรึม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน