ตอนที่ 187.1 พ่อและลูกชาย
จักรพรรดินั่งพึมพำ ก่อนจะหลับตาลงและเอนตัวพิงบัลลังก์ ก่อนจะค่อยๆ ระลึกถึงเรื่องราวในอดีต
ทว่าในวินาทีต่อมาเขาก็ต้องถูกดึงกลับมาจากห้วงแห่งความคิดเพราะเสียงเปิดประตูที่ดังลั่น
ชายวัยกลางคนที่สีหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยความทะเยอทะยานได้เดินเข้ามาหาจักรพรรดิพร้อมกับเสียงรองเท้าเหล็กที่กระทบพื้น
สีฟ้าจากดวงตาที่เรียวยาว คิ้วโค้งได้รูปที่หญิงสาวต่างอิจฉา จมูกที่ตั้งสง่าราวกับถูกสลักโดยช่างฝีมือระดับปรมาจารย์ แขนขาที่ยาว ย่างก้าวที่สมบูรณ์แบบ รอยยิ้มที่แสนเย่อหยิ่งบนใบหน้าราวกับบอกว่าทุกสิ่งภายในวังนี้คือของตน
จักรพรรดิที่เห็นก็ทำได้เพียงขมวดคิ้วกับการปรากฏตัวของเขา
「เจ้าต้องการสิ่งใดกันริชาร์ด」
「การที่ลูกชายจะเดินทางมาหาพ่อของตนต้องมีธุระด้วยหรือ? แบบนั้นมันคงชวนให้รู้สึกเศร้าน่าดู」
รัชทายาทริชาร์ดคิ้วตกและแสดงสีหน้าที่เศร้าหมองออกมา ทว่าจักรพรรดิกลับไม่สนใจต่อท่าทีนั้นเลย
「เจ้าเป็นเด็กที่น่าภูมิใจทั้งในด้านบู้หรือบุ๋น ทว่าน่าเสียดายที่เจ้ากลับไม่มีพรสวรรค์ด้านการแสดงนะ」
พอได้ยินแบบนั้นริชาร์ดก็เอามือลูบใบหน้าของตัวเอง ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้ากลับมาเป็นปกติแล้วหัวเราะออกมาอย่างสนุกสนาน
「ฮ่าๆๆ ก็ท่าจะเป็นแบบนั้น บทบาทของคนเป็นพ่อที่ห่วงใยลูกน่าจะมีแค่ชิออนคนเดียวที่ครอบครองได้ละสิน้า คงจะไปทำในสิ่งที่ชิออนทำได้คนเดียวก็ไม่ไหว」
「ทำเป็นพูดไป ยังไงเจ้าก็เป็นเพียงลูกคนเดียวของข้าที่สามารถทำหน้าที่ในฐานะรัชทายาทได้」
เป็นครั้งแรกที่จักรพรรดิพูดโดยแฝงการเหน็บแนมลงไปในน้ำเสียงด้วย
「พาราดิส คาร์เนเลียส อาเซอร์ไรท์ มิตสึรุกิ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนก็ต่างสนับสนุนเจ้าทั้งนั้น จะกล่าวว่าตำแหน่งจักรพรรดิองค์ต่อไปคือเจ้าก็ไม่แปลก แทนที่จะมาเสียเวลาตรงนี้ สู้ให้เจ้าไปสานสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพวกเขาจะดีกว่านะ」
「ข้าก็เชื่ออยู่แล้วว่าคำพูดของท่านพ่อถูกต้องและมีเหตุผลเสมอ บัลลังก์ยังไงก็ควรจะเป็นของรัชทายาทเช่นข้า ตรรกะแสนง่ายดายที่เด็กยังเข้าใจ แต่น่าเสียดายที่พวกโง่เง่าบางกลุ่มกลับหันหลังให้เรื่องเช่นนี้ พวกที่คิดว่าหากหมากบนกระดานมันพลิกขึ้นมา พวกเขาจะได้รับผลกำไรที่มากมายมหาศาล」
ริชาร์ดหรี่ตาก่อนจะมองไปยังพ่อของตนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์
「เพื่อกำจัดปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เท่าที่จะเป็นไปได้ ข้าก็เลยอยากจะขอให้ท่านพ่อช่วยเหลือข้าให้อะไรมันง่ายขึ้นสักหน่อย」
「เจ้าอยากให้ข้าสละบัลลังก์เสียตอนนี้เลยไหมล่ะ? 」
「จะเป็นไปได้เช่นไรกัน! ในฐานะลูกของท่านและในฐานะข้าราชบริพาร ข้าไม่อาจหมิ่นเกียรติของท่านได้หรอก ทว่าท่านพ่อก็คงทราบดีถึงข่าวลือที่มันแพร่ออกไปทั้งในและนอกวังช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หากไม่ดำเนินการใดๆ กับเรื่องนี้ก็อาจจะมีคนบางพวกคาดเดาว่าเป็นเรื่องจริงและมองว่าท่านพ่อหมายจะเปลี่ยนลำดับการสืบทอดอำนาจภายในวังเมื่อชิออนโตขึ้น หากปล่อยให้คนพวกนี้วางแผนใช้ประโยชน์จากความดีของชินออนต่อไป――」
หรือก็คือเขาต้องการจัดการเรื่องข่าวลือให้หมดสิ้น
เสียงของริชาร์ดสื่อเช่นนั้น
「หากปล่อยให้มันค้างคาเช่นนี้พี่น้องร่วมสายเลือดอาจจะต้องมาหลั่งเลือดกันเองก็ได้ ดังนั้นข้าก็เลยอยากจะขอให้ท่านพ่อช่วยในส่วนนี้เช่นการลดสถานะของชิออน หากแก้ไขตรงจุดนี้ได้ก็จะไม่มีช่องว่างให้พวกโง่เง่ากระทำอะไรแปลกๆ 」
การลดสถานะในที่นี้ก็คือการ ก้าวลงจากตำแหน่งของราชวงศ์ไปสู่ตำแหน่งข้าราชบริพารธรรมดา
แน่นอนว่าหากพวกเขาไม่ใช่สมาชิกของราชวงศ์อีกต่อไปแล้ว สิทธิ์ในการสืบทอดบัลลังก์ก็จะหายไปด้วย และผู้ที่ถูกลดสถานะไปเป็นเพียงขุนนางข้าราชบริพารก็ไม่สามารถกลับมาเป็นสมาชิกของราชวงศ์ได้ด้วย
ในจักรวรรดิแห่งนี้ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่จะลดสถานะไปเป็นขุนนาง เพราะมันช่วยในการป้องกันความสับสนในการสืบทอดบัลลังก์ อย่างตระกูลดยุกพาราดิสเองที่ในอดีตต้นตระกูลก็เป็นถึงพี่ชายของจักรรพดิองค์ที่ 2 แห่งจักรวรรดิ แต่ก็เลือกจะลดสถานะของตนเองและปกครองดินแดนพาราดิสเท่านั้น
อมาเดอุสที่ 2 เองก็เคยมีช่วงเวลาอยากลำบากในการสืบทอดบัลลังก์ ดังนั้นเขาจึงช่วยจัดการเรื่องนี้ให้กับริชาร์ดไปนานมากแล้ว เห็นได้จากพี่น้องของริชาร์ดที่มีอายุใกล้เคียงกันทุกคน ต่างก็ถูกลดสถานะไปตั้งแต่ยังเด็ก
――ทว่าตอนนี้อมาเดอุสกลับไม่ได้ทำอะไรที่ส่งผลกระทบต่อเจ้าชายชิออนเลย
มันจึงไม่สามารถปฏิเสธข้อเท็จจริงที่เกิดรอยร้าวในการสืบทอดบัลลังก์ขึ้นไม่ได้ ความเป็นไปได้ที่ริชาร์ดพูดนั่นถึงจะเป็นจากความคิดของเขาแต่ก็มีเหตุผล
จักรพรรดิที่ฟังก็ทำได้แค่เงียบไม่ตอบอะไรกลับไป
ก็จริงว่าอมาเดอุสที่ 2 ไม่ได้หมายจะตัดสิทธิ์ของริชาร์ด ตัวเลือกในการลดสถานะของชิออนเขาก็เคยนำมาคิดอยู่หลายครั้ง
ทว่า สาเหตุที่ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ เพราะจักรพรรดิมองว่านโยบายทางการทหารของริชาร์ดมันสุดโต่งไป การหลั่งเลือดจะต้องเกิดขึ้นอีกมากแน่หากเขาได้ครองทวีปนี้
เมื่อครั้งที่จักรพรรดิยังเยาว์วัย เขาเองก็ได้แสวงหาดินแดนและขยายอำนาจด้วยความโลภ เพื่อนบ้านของเขาก็ต่างรู้ถึงความโหดร้ายของเขาดี ดังนั้นหากริชาร์ดเดินตามรอยเขาไม่สิหนักยิ่งกว่าเขา ทั่วทั้งทวีปคงได้ลุกเป็นไฟ――พอคิดได้แบบนั้น เขาก็อดห่วงไม่ได้ว่าตนคิดถูกแล้วจริงหรือที่จะฝากจักรวรรดิไว้กับริชาร์ด
จริงว่าตอนนี้อมาเดอุสที่ 2 ยังสามารถควบคุมการกระทำของริชาร์ดได้ ทางริชาร์ดเองก็รับฟังเขาแต่โดยดี
แต่หากวันใดริชาร์ดได้ครองบัลลังก์คำพูดของคนเป็นพ่อคงไม่อาจส่งถึงแน่ และเขาน่าจะถูกริชาร์ดจัดการอย่างเบ็ดเสร็จก่อนจะเข้าควบคุมจักรวรรดิ
เหตุผลที่เขาสามารถพูดได้เพราะในอดีตเขาก็กระทำเช่นนั้นกับพ่อของตน
สำหรับตัวเขาแล้วเขาก็ไม่ได้คิดมากอะไรหรอก เพราะมันก็แค่ผลของการกระทำที่ตนก่อในอดีตหรือที่เรียกว่ากรรม
ทว่าเขากังวลถึงความเกลียดชังมันจะมุ่งไปยังชิออนด้วย มันไม่มีอะไรเป็นหลักประกันเสียหน่อยว่าหากตนหายไปเขาจะหยุด หรือถึงชิออนจะถูกลดสถานะไปแล้วมันจะปลอดภัย
นอกจากนี้การลดสถานะของชิออนมันอาจจะก่อให้เกิดความขัดแย้งในส่วนต่างๆ ของจักรวรรดิด้วย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเผชิญหน้ากันระหว่างขุนนางทางตะวันออกที่สนับสนุนชิออนและขุนนางส่วนกลางที่นำโดย 3 ตระกูลหลักคงได้ทวีความรุนแรงขึ้นแน่
จริงอยู่ที่อำนาจของขุนนางส่วนกลางนั้นมีมากมาย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าไฟแห่งความขัดแย้งก้อนเล็กๆ จะไม่ขยายใหญ่ขึ้นจนสามารถเผาไหม้ได้ทั้งจักรวรรดิ การที่ริชาร์ดได้เสียงจากส่วนกลางจนหมดสิ้น กลุ่มทางตะวันออกคงได้ใช้ชิออนเป็นสัญลักษณ์ในการปลุกระดมแน่
ในฐานะจักรพรรดิแล้ว เขาก็เลยอยากจะหาทางออกสำหรับปัญหานี้ให้ได้ก่อนสละบัลลังก์ เขาจึงเลือกจะอยู่ต่อแม้จะอายุปูนนี้แล้วก็ตาม
แต่เวลาของเขามันก็เหลือน้อยไปทุกที ยิ่งเขาแก่ตัวขึ้น ริชาร์ดก็จะมีอำนาจในการกดดันให้เขาสละบัลลังก์มากขึ้นไปอีก
มันเป็นสิ่งที่อมาเดอุสที่ 2 ทำกับพ่อของตนเช่นกัน
――จักรพรรดิได้ถอนหายใจออกมาเล็กน้อยโดยไม่ให้ลูกชายตนสังเกตเห็น
โถงประชุมถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบ ก่อนที่ริชาร์ดจะเป็นฝ่ายเปิดปากพูดอีกรอบ
「จะว่าไปท่านพ่อ ข้าได้ยินว่าท่านเชิญคนแปลกหน้าเข้ามาในวังด้วยนี่」
ริชาร์ดเป็นฝ่ายยอมถอยไปก่อน เพราะเขายังไม่มีความตั้งใจจะเผชิญหน้าอย่างเด็ดขาดกับพ่อของตนในตอนนี้
ทว่าคำถามดังกล่าวมันก็เป็นเหมือนการกดดันและอยากจะรู้ถึงความตั้งใจของคนเป็นพ่อ
เมื่อเทียบกันแล้วจักรรพรรดิในวัยชราใกล้ลาโลกกับรัชทายาทที่อยู่ในช่วงวัยกลางคน เหล่าข้าราชบริพารทั้งหลายก็คงจะให้ค่ากับรัชทายาทมากกว่า
ในฐานะจักรพรรดิแล้วก็ไม่มีสิทธิ์ไปต่อว่าอะไรพวกเขาได้ว่าเป็นพวกคิดไม่ซื่อ จริงอยู่ว่าเขาเองก็ไม่ชอบนัก แต่หากมองถึงอนาคตของจักรวรรดิ มันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ความภักดีจะเอนเอียงไปฝ่ายนั้นแล้ว
จักรพรรดิได้ตอบคำถามของลูกชาย
「คนแปลกหน้าอะไรกันทั้งที่เจ้าก็รู้อยู่แล้วว่าเขาคือผู้ส่งสารของซากุยะและเป็นลูกชายคนโตของมิตสึรุกิ」
「ฮ่าๆ อย่างที่คิด ท่านพ่อเองก็จับตาดูข้าอยู่สินะ」
ริชาร์ดยิ้มออกมาก่อนจะหรี่ตาลงเล็กน้อย
「แต่ข้าก็ไม่รู้หรอกนะว่าท่านพ่อกับเขาคุยอะไรกัน จากที่ได้ยินมิตสึรุกิ โซระถูกเนรเทศออกจากเกาะอสูรยักษ์เพราะไร้พรสวรรค์ ทว่าตอนนี้เขากลับกลายเป็นดราก้อนสเลเยอร์แห่งอาณาจักรคานาเรีย ก็ไม่รู้ว่าข้าคิดไปเองไหม การที่ซากุยะเลือกเขาเป็นคนส่งสารด้วยสถานะของเขาแล้ว ไม่ใช่ว่าท่านพ่อคิดจะให้เขาเป็นคนคุ้มกันของชิออนหรอกนะ? 」
「ไม่หรอก โซระไม่ได้มีความตั้งใจจะรับใช้ประเทศของเราเลยสักนิด ไม่สิพวกเราไม่มีสิทธิ์ด้วยซ้ำ เพราะสำหรับโซระแล้ว จักรวรรดิที่สาปคู่หมั้นของเขาอย่างคลอเดียซึ่งเป็นบุตรสาวแห่งดยุกคงไม่ใช่สิ่งที่เขาชอบนัก」
จักรพรรดิจ้องมองไปยังริชาร์ด
ริชาร์ดซึ่งเป็นผู้นำแผนการในครั้งนี้ ก็พูดออกมาด้วยอาการเกร็งเล็กน้อยก่อนจะสบสายตาพ่อของตน
「ท่านพ่อ ก็อย่างที่ข้าได้รายงานไป ก็จริงอยู่ว่าข้าสั่งการแผนต่างๆ ผ่านตระกูลเบิร์ช ทว่าเป้าหมายของข้าไม่ใช่การสาปบุตรสาวดยุก สิ่งที่ข้าต้องการมีเพียงกำจัดเสี้ยนหนามที่ขัดขวางการแต่งงานของซากุยะ ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นมันมาจากการตัดสินใจโดยพลการของเจ้าจอมเวทนั่นเท่านั้น ไม่ใช่สิ่งที่ข้าหรือมิตสึรุกิตั้งใจให้เป็น」
「แต่จากที่เห็นดูเหมือนเจ้าจะรู้อยู่แล้ว แต่ก็ปล่อยเลยตามเลยนะ」
「การกล่าวหากันลอยๆ แบบนั้นอาจจะเกินไปหน่อยนะท่านพ่อ แต่ถึงเรื่องที่ท่านพ่อพูดจะเป็นความจริงแล้วมันจะมีปัญหาอะไรกันเล่า? 」
พอพูดจบริชาร์ดก็หัวเราะออกมา
「ข้าก็ไม่ได้อยากจะให้คนบริสุทธิ์โดนหางเลขไปด้วยหรอก ทว่าขนาดท่านพ่อเองถึงแม้จะเป็นเด็กท่านพ่อก็ยังไม่ลังเลที่จะสังหารเลยนี่ หากว่านั่นคือผลประโยชน์ของชาติ? 」
「……คึ」
「ใช่ไหมล่ะ นอกจากนี้เพราะเราทำพลาดในส่วนนี้ไป พอถึงงานแต่งของซากุยะทางเราก็ให้สัญญาว่าจะช่วยเหลืออาณาจักรคานาเรียเต็มที่ในการฟื้นฟูเลยนะ ทางนั้นเองก็ยอมรับแต่โดยดี แน่นอนว่าทางดยุกเหมือนจะเข้าไปโวยวายอยู่พักหนึ่งกับกษัตริย์ของทางนั้น แต่สำหรับทั้ง 2 ประเทศการจะขุดเรื่องนี้ขึ้นมาพูดก็คงไม่ได้ประโยชน์อะไร――」
ริชาร์ดหยุดพูดชั่วคราวก่อนจะเปลี่ยนน้ำเสียงแล้วถามพ่อของตนต่อ
「หรือจะบอกว่าโซระเป็นพวกโง่เง่าที่ไม่เข้าใจถึงเรื่องพวกนี้เลย? 」
「ไม่หรอก โซระไม่ได้พูดอะไรเรื่องคำสาปนั้น แต่เป็นข้าเองก็ถามเขา」
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร แต่หากมันเกิดจากจักรวรรดิ จักรพรรดิก็ต้องรับผิดชอบตามหน้าที่
จักรพรรดิไม่ได้พูดถึงการที่ริชาร์ดเป็นตัวตั้งตัวตี หลังจากเขาแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องคำสาปนั่นแล้ว เขาก็ถามโซระว่าคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้
ถึงโซระจะไม่ได้พูดเรื่องนี้ออกมา แต่ภายในใจเขาอาจจะกำลังโกรธแค้นอยู่มากเลยก็ได้ ถึงอย่างไรก็ตามนี่ก็เป็นโอกาสดีที่จะได้รู้ถึงตัวตนของมนุษย์ที่ชื่อว่าโซระ
พอจักรพรรดิถามไป โซระก็ตอบกลับมาอย่างใจเย็น
แน่นอนว่าเขารู้ว่าเป็นแผนการของจักรวรรดิ จากข้อมูลที่ได้ก็พอจะทราบว่าการกระทำของจินโบนั้นเป็นการกระทำโดยพลการ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าผู้ออกคำสั่งจะไม่ต้องรับผิดชอบ
ทว่าตัวเขานั้นไม่ได้มีสิทธิ์ในการจะตำหนิเรื่องราวทั้งหมด สิ่งที่เขาทำมีเพียงปรากฏตัวในตอนท้ายและเหวี่ยงดาบไม่กี่ที หากคนที่จะตำหนิเรื่องทั้งหมดนี้ได้ก็คงจะเป็นคลอเดียผู้ทุกข์ทรมานมาแรมปีกับครอบครัวของเธออย่างดยุกดรากูนอทและแอสทริดที่ช่วยเหลือดูแลคลอเดียอย่างสุดกำลัง
นอกจากนี้การที่ทั้ง 3 หยุดต่อความยาวสาวความยืดกับจักรวรรดิกก็คงรู้ดีอยู่แล้วว่าการทำเช่นนั้น มีแต่จะสร้างความบาดหมางให้กับทั้ง 2 ประเทศมากกว่าเก่า หากตระกูลดยุกที่คอยค้ำจุนประเทศเช่นเขาจะกลายเป็นชนวนขัดแข้งเป็นไปได้เขาก็ย่อมเลือกจะเลี่ยง
คนของตระกูลนั้นในฐานะขุนนางแห่งอาณาจักรแล้ว ความสงบสุขของอาณาจักรย่อมสำคัญกว่าความขุ่นเคืองใจภายในของพวกเขา ตั้งแต่ที่เขาเลือกจะรับคลอเดียมาอยู่ด้วยกันเขาก็ถือว่ากลายเป็นสมาชิกของตระกูลดยุกไปแล้ว หากเขาปล่อยความโกรธออกมาแล้วต่อว่าจักรวรรดิ มันก็จะเป็นการเหยียบย่ำจำนงของทั้ง 3 คนได้
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เขาไม่คิดจะว่ากล่าวอะไรกับจักรวรรดิอีก ตราบใดที่จักรวรรดิไม่ไปยุ่งกับคลอเดียหรือคนของตระกูล….
คำพูดสุดท้ายของโซระผ่านดวงตาที่ดูว่างเปล่านั้นมันทำคนระดับจักรพรรดิถึงกลับสั่นสะท้าน
ทั้งที่มันไม่ใช่การข่มขู่ สิ่งที่โซระพูดก็แค่ข้อเท็จจริง จักรพรรดิเองก็เข้าใจดี
ทว่าสายตาที่จ้องมองมา มันมืดมนราวกับได้จ้องมองเข้าไปยังบ่อน้ำลึกที่มืดมิด มันบ่งบอกได้ถึงสิ่งที่อยู่ภายในใจเขามากกว่าคำพูดเป็นพันๆ คำ
——–
Note 1 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ ผมแปะไว้ใต้เม้นของเพจนะครับ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code