การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ – ตอนที่ 220 ฮามิซุฮานะมิซุ

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~

ตอนที่ 220 ฮามิซุฮานะมิซุ

 

 

พืชที่เรียกกันว่าดอกฮิกันบานะนั้นมีลักษณะที่แสนแปลกประหลาด

 

ปกติแล้วพืชจะมีวงจรการเติบโตโดยงอกออกมาจากเมล็ด และขยายกิ่งก้านดอกใบ จนสุดท้ายก็ออกผล

 

แน่นอนว่าพืชทุกชนิดก้ไม่ได้เป็นแบบนั้นไปเสียหมด ลักษณะการเติบโตของแต่ละชนิดก็ต่างกันออกไปบ้าง ทว่าก็เป็นที่ทราบกันดีว่าฮิกันบานะนั้นมีลักษณะที่พิเศษในบรรดาเหล่าพืชทั้งหลาย

 

 

ลักษณะที่ว่าก็คือ ดอกไม้นี้จะบานก่อนที่ใบของมันจะโต และเมือใบของมันเติบโตดอกไม้ก็จะร่วงโรย จนเป็นที่กล่าวถึงกันว่าเมื่อเห็นดอกก็คงไม่เห็นใบ เมื่อเห็นใบก็คงไม่มีทางได้เห็นดอก ฮามิซุฮานะมิซุเลยกลายเป็นอีกชื่อหนึ่งที่เรียกกันเมื่อคนเห็นถึงลักษณะของมัน

 

ไรกะที่เป็นอนิม่าของเออซูร่านั้นก็คือร่างอวตารของดอกฮิกันบานะ ดังนั้นอาภรณ์แห่งความว่างเปล่าจึงได้รับอิทธิพลมาจากลักษณะของดอกฮิกันบานะอย่างเลี่ยงไม่ได้

 

 

 

โดยปกติแล้วพืชนั้นจะเติบโตโดยการกักเก็บสารอาหารจากแสงแดดผ่านใบแล้วจึงสร้างดอกให้บานออกมาตามจำนวนสารอาหารที่เก็บได้

 

 

ทว่าสำหรับฮิกันบานะแล้วลำดับของมันจะสลับกัน ดอกไม้ชนิดนี้จะบานก่อนแล้วค่อยสร้างใบขึ้นมา

 

 

ดังนั้นการโจมตีด้วยอาภรณ์แห่งความว่างเปล่าของเออซูร่าจึงถอดแบบมาจากการเติบโตอันมีเอกลักษณ์นี้

 

หรือก็คือมันเป็นความสามารถที่จะเกิดผลได้ก็ต่อเมื่อถูกฟาดฟันก่อนที่จะทำการฟาดฟัน นั่นคือลักษณะการทำงานของอาภรณ์แห่งความว่างเปล่าของเธอ

 

 

เป็นไปตามที่อูรุยคิด การโจมตีของเธอนั้นจะไม่สนใจพลังป้องกันของศัตรู ทว่ามันก็ไม่ใช่สิ่งที่จะใช้ได้อย่างไร้ข้อจำกัด

 

 

 

ราคาของการโจมตีแต่ละครั้งก็คือเลือดที่หลั่งรินของผู้ใช้ ซึ่งก็เป็นไปตามตำนานที่เล่าขานของมันว่าฮิกันบานะนั้นจะเติบโตโดยการดื่มเลือดของคนตาย ไรกะเองก็เช่นกัน มันทำการดื่มเลือดของผู้ใช้เพื่อปลดปล่อยการโจมตี

 

 

โดยปริมาณเลือดที่ไรกะต้องการในการโจมตีแต่ละครั้งนั้นก็มากกว่า 20% ของเลือดในร่างกายผู้ใช้ ซึ่งก็ถือว่าร้ายแรงมากสำหรับร่างกายมนุษย์

 

 

แม้ว่าเออซูร่าจะเป็นนักรบแห่งผืนป่า แต่สุดท้ายร่างกายเธอก็คือมนุษย์ หากสูญเสียเลือดปริมาณมากในช่วงระยะเวลาสั้นๆเธอก็ตายได้ การที่เธองัดเอาอาภรณ์แห่งความว่างเปล่าออกมาใช้ก็ไม่ต่างอะไรกับเธอลงหลุมไปแล้วครึ่งตัว หากเลวร้ายสุดๆเธอก็คงจะตายไปเลย แถมถึงโชคดีรอดมาได้มันก็ยากที่จะสู้ต่อในสภาพแบบนั้น นอกจากนี้หากเลือกจะใช้มันต่ออีกครั้งก็คงมีแค่ความตายของเธอที่รออยู่

 

 

 

สำหรับเออซูร่าแล้วอาภรณ์แห่งความว่างเปล่าจึงเป็นไพ่ตายใบสุดท้ายของเธอจริงๆ

 

และด้วยระยะการโจมตีที่มีขีดจำกัด บวกกับพลังทำลายล้างและความแม่นยำด้วยแล้ว เออซูร่าก็เลยตัดสินใจรับการโจมตีของอูรุยไว้ด้วยร่างของเธอเองเพราะหากเป็นระยะนี้ถึงอีกฝ่ายจะถอยออกไปเธอก็มั่นใจว่าจะยังสามารถฟันอีกฝ่ายโดน

 

 

 

มันคือดาบที่ปลดปล่อยออกมาโดยหมายจะสังหารศัตรูของพ่อให้แหลกสลายไป

 

 

 

 

 ――แต่สุดท้ายมันก็ไม่สามารถฆ่าอีกฝ่ายได้

 

 

เลือดได้ไหลออกมาจากปากของเธอ

 

 

 

ดวงตาของเธอเห็นเพียงแค่ชายสวมหน้ากากคิจินคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาหาเธอ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าถึงจะโดนการโจมตีของเธอไปอีกฝ่ายก็ยังไม่เข้าขั้นที่เรียกว่าสาหัส

 

 

 

เออซูร่าทำได้เพียงกัดฟันด้วยความเจ็บใจ หากการเผชิญหน้าของเธอเกิดขึ้นในอีกสัก 2 – 3 ปีนับจากนี้ เธอมั่นใจว่าเธอคงสามารถทะลวงหัวใจของอีกฝ่ายได้ไปแล้ว แต่ก็น่าเสียดายที่เออซูร่าในตอนนี้ไม่มีฝีมือมากพอจะทำเช่นนั้น

 

ในขณะเดียวกันก็เหมือนอีกฝ่ายจะเคลื่อนไหวแปลกๆ

 

 

ดูท่าเขายังจะระวังการโจมตีระลอกถัดไปของเธอ จังหวะการก้าวเท้าของเขาจึงมีความระมัดระวัง ทว่าเออซูร่าก็ไม่เหลือพลังพอจะใช้ประโยชน์จากการกระทำนั้นแล้ว ดวงตาของเธอพร่ามัวเข้าไปทุกทีราวกับมีหมอกหนามาปกคลุม มันหนักจนนึกว่ามาตุ้มมาถ่วงเอาไว้ ความเจ็บปวดที่ทิ่มแทงร่างของเธอราวกับมีเหล็กร้อนเสียบอยู่ สิ่งเดียวที่เธอทำได้คือยืนประคองร่างตัวเองไว้ขณะกำอาภรณ์วิญญาณเอาไว้แน่น

 

 

เออซูร่ายืนนิ่งและไม่ได้พูดอะไร ใบหน้าของเธอซีดมาก ร่างกายก็เริ่มสั่น จนทำให้ศัตรูเริ่มตระหนักแล้วว่าตัวเธอสูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไปแล้ว

 

 

ชายสวมหน้ากากคิจินจึงพูดขึ้นเป็นครั้งแรก ก็ไม่รู้ว่าเพราะวางใจแล้วว่าตัวเองเป็นฝ่ายชนะหรืออยากจะถามอะไรก่อนที่จะสังหารเธอ

 

 

 

「ช่างเป็นดาบที่วิเศษจริงๆ นักรบแห่งผืนป่าเอ๋ย ข้ามีชื่อว่าอูรุย อันที่จริงข้าก็อยากจะรู้ชื่อของเจ้าเอาไว้เหมือนกันนะ หรือถ้ามีอะไรสั่งเสียก็จงพูดมา ข้าจะนำสารนั้นไปส่งให้ถึงปลายทางเอง」

 

 

เสียงของเขายังดูสงบนิ่ง แม้เขาจะได้รับบาดเจ็บแต่ก็ไม่หนักเท่าเออซูร่า หรืออย่างน้อยนั่นก็คือสิ่งที่เออซูร่าคิด

 

 

ช่างเป็นการพูดที่ดูมีเกียรติสมกับเป็นนักรบ ทักษะดาบของเขาก็ควรจะถูกขนานนามว่าเป็นถึงระดับปรมาจารย์ หากเป็นตอนปกติเออซูร่าคงกล่าวชมเขาด้วยความเคารพไปแล้วแม้อีกฝ่ายจะเป็นศัตรู

 

ทว่าคนที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้คือศัตรูของพ่อเธอ ตอนแรกเธอก็คิดจะเมินเฉย แต่ด้วยจิตสุดท้ายมันจึงกระตุ้นให้เธอพูดขึ้นอีกครั้ง

 

 

 

 

「..ผมเออซูร่า อุตการ์ซ่า เป็นลูกสาวของอุลริช อุตการ์ซ่าคนที่แกเคยฆ่าในอดีต」

 

 

 

 

ด้วยคำพูดนั้นได้สร้างความประหลาดใจให้กับอีกฝ่าย นักดาบที่เรียกตัวเองว่าอูรุยได้ยืนนิ่ง บรรยากาศแห่งความประหลาดใจและสับสนหลุดลอดออกมาจากหลังหน้ากากคิจินนั้น

 

 

จากนั้นก็มีเสียงตอบกลับของอีกฝ่าย

 

 

「――แบบนี้นี่เอง ตอนนั้นเจ้ายังเป็นเพียงเด็กน้อยนี่นะ เอาสิหากข้าคนนี้คือศัตรูของพ่อเจ้าที่เจ้าใช้เวลากว่าหลายปีในการฝึกฝนเพื่อแก้แค้น มันก็สมเหตุสมผลแล้วที่เจ้าจะทำเช่นนี้ แม้ปลายทางจะมีความตายของเจ้ารออยู่ก็ตาม」

 

 

 

「แกยอมรับแล้วสินะว่าใช่」

 

 

「ก็อย่างที่เจ้าพูด ในเมื่อเจ้ารู้แล้วว่าตัวข้าคือศัตรูของพ่อเจ้าแล้วเจ้ายังเลือกจะเดินตามรอยของเขาอีก อย่างน้อยสุดท้ายนี้ข้าก็จะขอเป็นคนส่งเจ้าไปหาพ่อของเจ้าเอง」

 

 

เมื่อได้ยินแบบนั้น เออซูร่าก็รู้ถึงความตั้งใจของอีกฝ่ายแล้ว อูรุยเองก็ไม่ได้คิดจะพูดอะไรต่อ

 

 

 

เพียงชั่วพริบตาเดียว อูรุยก็เคลื่อนไหวเข้ามาถึงตัวเธอ

 

จังหวะการก้าวเท้าเข้ามาและการฟันแทบจะเป็นช่วงเวลาเดียวกัน คมดาบสังหารได้ปรากฏอยู่ตรงหน้าเธอ ความตายที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้เกาะกินร่างของเธอเอาไว้หมดแล้ว

 

 

หากเธอกระพริบตาเพียงสักครั้ง ตอนลืมตาขึ้นมามันคงจะเป็นตอนที่หัวกับร่างของเธอแยกออกจากกัน ตัวเธอเองก็พยายามจะสวนกลับไปเหมือนกัน แต่ร่างกายของเธอมันไม่ของฟังเลยสักนิด

 

 

――ดังนั้น สุดท้ายนี้อย่างน้อยเธอก็เลือกที่จะไม่ละสายตาไปจากศัตรูจนถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิต

 

 

นั่นคือสิ่งที่เธอคิดและเลือกจะทำ

 

 

แต่ในจังหวัดนั้นเอง เพื่อนร่วมรุ่นในชุมคลุมสีดำก็ก้าวเข้ามาขวางระหว่างตัวเธอกับอูรุย

 

———

Note 1 : บังไคโกงนะ แต่เงื่อนไขระทมแถมยังเก่งไม่พอจะใช้ให้one shotได้ ทำให้รู้เลยว่าโกซุมันเก่งจริงๆแต่โอ๋โซระเกินไปหน่อย

Note 2 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ ผมแปะไว้ใต้เม้นของเพจนะครับ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~

Status: Ongoing
ตระกูลมิตสึรุกิได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่สำคัญในการปกป้องประตูปีศาจจากองค์จักรพรรดิ โซระ มิตสึรุกิ ผู้เกิดมาเป็นลูกชายคนโตของตระกูล กำลังตั้งตารอพิธีตัดสินในปีที่เขาอายุครบ13ปี การทดสอบที่จำเป็นต้องเอาชนะให้ได้เพื่อเรียนรู้วิชาดาบเดียวมายาซึ่งสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นภายในตระกูลมิตสึรุกิ พี่น้องของเขาทั้งหมดนั้นต่างก็ผ่านบททดสอบดังกล่าว จะเหลือก็เพียงโซระ บัดนี้พ่อ น้องชาย คู่หมั้น และญาติของเขาก็ต่างจับจ้องไปยังโซระที่จะเริ่มทดสอบกันอย่างเคร่งขรึม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน