ตอนที่ 226 พิจารณา
「เออซูร่า ฉันว่าจะอยู่ในคิไคอีกสักพักเพื่อสืบเรื่องอะไรเพิ่มหน่อยนะ แล้วเธอล่ะจะตามมาด้วยกันหรือเปล่า? 」
「――เอ๋? 」
「――หือ? 」
พอผมถามเธอไปแบบนั้น เธอกลับทำสีหน้างงงวยซะงั้น
「เป็นอะไรไปเหรอ? 」
「ผมไม่เป็นอะไรหรอก…แค่แบบ…เอ่อ….นายไม่ได้วางแผนจะกลับไปเกาะหลังเจอคลิมเลยหรอกเหรอ? 」
「ถ้ามันไม่เกิดเรื่องขึ้น ฉันก็คงจะทำตามนั้นแหละ แต่พอได้ยินเรื่องของคลิมแล้วมันก็ไม่มีทางเลือกนี่」
ทั้งเรื่องของลัทธิและตระกูลโฮโซที่คลิมบอก เหตุผลที่พ่อของเออซูร่าถูกฆ่าก็พอจะอนุมานได้แล้ว นอกจากนี้เรื่องที่จักรพรรดิเคยบอกเอาไว้เกี่ยวกับเรื่อง 300 ปีก่อนด้วย ความลึกลับมากมายมันซ่อนอยู่ภายในคิไคแห่งนี้แล้วใครจะทนไหว
ส่วนตัวผมก็ไม่ได้มีส่วนได้เสียอะไรกับเหตุการณ์คราวนี้หรอก แต่จะบอกว่าทั้งหมดทั้งมวลมันจะไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ในอดีตผมถูกขับไล่ออกจากตระกูลก็ไม่ได้ด้วยสิ
ยิ่งได้สานสัมพันธ์กับสันตะปาปาโนอาห์หรือลาสคาริสที่เบลก้า ผมก็ยิ่งตระหนักได้ว่าบางอย่างรู้ไว้ก็ดีกว่าไม่รู้จริงๆ
ทางสันตะปาปาก็เคยพูดเอาไว้ด้วยว่าถึงผมจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับตระกูลมิตสึรุกิแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าภายนอกจะมองเป็นแบบนั้นเหมือนกัน นอกจากนี้เรื่องลึกลับอันดำมืดรอบๆ ตระกูลก็อาจจะเป็นอันตรายต่อผมกับพวกพ้องได้ รู้ไว้ก็ไม่เสียหาย
นอกจากนี้ก็มีเรื่องของสองพี่น้องอย่างไคลอากับคลิมอีก
เดิมทีคลิมผู้สูญเสียแขนขวาไปควรจะรับการรักษาต่อที่ชูโตะ หรืออย่างน้อยก็ไม่ใช่สถานที่อันห่างไกลของคิไคที่ไร้ซึ่งสิ่งอำนวยความสะดวก
อย่างไรก็ตามตัวคลิมนั้นรับภารกิจสังหารกษัตริย์อาซึมะมา แล้วก็ล้มเหลวดังนั้นหากเขากลับไปก็ไม่รู้จะได้รับการต้อนรับดีไหม ความเป็นไปได้ที่กิลมอร์จะจัดการกับพวกที่ล้มเหลวในหน้าที่ก็สูงด้วย คงจะปล่อยให้คลิมมันตายไปเฉยๆ แน่
ดังนั้นผมคงไม่สามารถพาคลิมกลับไปที่ชูโตะได้สักพัก คลิมเองก็ไม่ได้คิดจะกลับไปชูโตะด้วยหลังได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นกับพี่สาวเขา ดังนั้นก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องอยู่ที่คิไคต่อ
แถมเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วที่ไคลอาจะเลือกอยู่ดูแลน้องชายของเธอต่อ จะให้ผมกลับอิชกะไปคนเดียวได้ยังไง อย่างน้อยก็คงต้องอยู่ในคิไคแล้วรอจนกว่าคลิมจะหายดีซะก่อน
แล้วดูจากท่าทางของเออซูร่าแล้ว เธอก็น่าอยากจะค้นหาความจริงเบื้องหลังการตายของพ่อเธอในคิไค การอยู่ที่นี่จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับกลุ่ม ทว่าพอเห็นปฏิกิริยาของเออซูร่าแล้วค่อนข้างน่าตกใจเลยแฮะ
「หรือมีเหตุผลอะไรที่เธอตามพวกเราไปด้วยไม่ได้ล่ะ?」
พอผมถามไป เออซูร่าก็ตกใจแล้วรีบโบกมือไปมาปฏิเสธ
「คือ เอ่อ ไม่หรอกๆ แค่รู้สึกแปลกใจน่ะ ผมไม่คิดว่านายจะสนใจเรื่องของตระกูลมิตสึรุกิหรือลัทธิแห่งแสงมากขนาดนี้」
「อ๋อ แบบนี้นี่เอง ก็นั่นแหละนะ จะพูดว่าสนใจก็คงใช่ถึงจะไม่อยากก็เถอะ」
「งั้นเหรอ」
「อื้อ แต่ก็รู้แล้วแน่ๆ ว่าเบื้องหลังของตระกูลน่ะคงจะเต็มไปด้วยกลิ่นโคลนเหม็นเน่า จนไม่อยากแตะต้องแน่ๆ 」
ถ้าถามว่าจำเป็นต้องรู้ไหม ก็รู้ดีกว่าไม่รู้นั่นแหละ
――นอกจากนี้ผมกังวลเกี่ยวกับเออซูร่านิดหน่อยด้วย
หากข้อสงสัยของผมเป็นเรื่องจริง ตระกูลมิตสึรุกิก็จะมีส่วนในการตายของพ่อเธอ สุดท้ายเออซูร่าก็คงต้องถูกบังคับให้เลือกเส้นทางต่อจากนี้แน่
บางทีพ่อของเออซูร่าอาจจะพยายามเปิดโปงความผิดของตระกูลมิตสึรุกิซึ่งมีเอี่ยวกับคิไคก็ได้
สุดท้ายแล้วหากตระกูลมิตสึรุกิคือส่วนหนึ่งของคนที่ฆ๋าพ่อเธอ เธอพร้อมหันดาบใส่ตระกูลมิตสึรุกิไหมนะ
หรือเธอจะเลือกเก็บมันเอาไว้แล้วรับใช้พวกเขาต่อไปเหมือนเดิม
แต่หากดูตามนิสัยของเธอแล้ว อย่างหลังคงเป็นไปไม่ได้แน่ดังนั้นเธอคงจะเลือกเส้นทางแห่งการต่อต้าน ไม่ว่าจะเป็นการเปิดโปงหรือแก้แค้น
ตอนนี้เออซูร่าอยู่ในตำแหน่งของพ่อเธอในอดีตเรียบร้อยแล้ว
ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าชิโกะคนก่อนที่ตายไปจะเลือกทางไหนในตอนจบ แต่เขาก็ถูกฆ่าตายไปแล้วก่อนได้ทำอะไร แล้วการที่เออซูร่าเดินบนเส้นทางนี้ตามพ่อของเธอมีหรือพวกนั้นจะปล่อยเธอไป
ผมก็วางแผนจะใช้เวลาตอนอยู่คิไคคุยเรื่องนี้กับเธอด้วย หากเธอต้องการผมก็สามารถอยู่ช่วยเหลือเธอต่อได้ หรือหากอะไรมันเป็นไปผมก็น่าจะพาไคลอากับเออซูร่ากลับอิชกะไปพร้อมกันด้วย
แน่นอนว่าทุกอย่างที่พูดไปต้องเป็นกรณีที่ตระกูลมิตสึรุกิเกี่ยวข้องกับลัทธิแห่งแสงจริงๆ นอกจากนี้ก็ต้องเคารพความต้องการของเออซูร่าด้วย ดังนั้นจึงไม่มีประโยชน์จะมาคิดมากเอาตอนนี้ เอาเป็นว่าตอนนี้ก็พยายามช่วยเออซูร่าผู้มีพระคุณของผมก่อนละกัน
เมื่อได้รับมาผมก็ต้องตอบแทนไปอย่างเหมาะสม
ก็ไม่รู้ว่าเธออ่านใจของผมได้หรืออะไรนะ แต่ตอนนี้เออซูร่ายิ้มออกมาให้เห็น สวยซะจนผมตกใจเลย
ก่อนที่เธอจะพูดออกมาว่า พร้อมตามพวกผมไป ด้วยน้ำเสียงที่แสนไพเราะ
◆◆◆
พอรู้แล้วว่าตอนนี้จะต้องทำอะไรต่อ คนต่อไปที่ผมต้องไปเจอก็คือโซไซแพทย์ที่ดูแลพวกนากายามะอยู่
「ท่านโซระต้องการจะรู้เรื่องของลัทธิงั้นหรือ」
ผมก็พยักหน้าตอบเขาไป
ตอนนี้สมมติฐานของผมก็คือตระกูลมิตสึรุกิเกี่ยวข้องกับลัทธิจริงๆ ทว่าความสัมพันธ์ของพวกเขานั้นเป็นความลับระดับสูงมาก ดังนั้นการที่ลัทธิซึ่งมีสัมพันธ์เบื้องหน้าอันดีกับพวกคิจิน เรื่องของตระกูลมิตสึรุกิพวกเขาคงไม่รู้แน่
ทางพวกผมซึ่งไม่คุ้นกับคิไคคงจะมีแหล่งข้อมูลที่จำกัด จะให้ไปหาเอาจากบนสุดเลยก็คงยาก ดังนั้นคงต้องเริ่มจากข้างล่างสุด ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป
ดังนั้นผมก็เลยเลือกจะมาหาข้อมูลลัทธิจากคนของนากายามะก่อน
ถึงผมจะอ่านพระคัมภีร์ของลัทธิมาจนหมดแล้วที่ไซโตะ แต่แค่การอ่านเฉยๆ จะแสดงให้เนียนว่าเป็นหนึ่งในผู้ศรัทธาก็คงยาก
ที่ผมเลือกโซไซก็เพราะผมได้ยินว่าเขาคือหนึ่งในผู้ศรัทธาที่เคร่งพอสมควร การเรียนรู้จากเขานี่แหละเหมาะสมที่สุดแล้ว
ทางโซไซก็ตอบรับคำขอของผมอย่างว่าง่าย
ตามที่คลิมบอกนากายามะตอนนี้ถูกอำนาจของลัทธิแพร่กระจายไปหมดแล้ว ตัวโซไซก็เลยเป็นทั้งข้ารับใช้ของนากายามะและผู้ศรัทธาของลัทธิ ก็เรียกว่าอยู่ในตำแหน่งน่าลำบากใจเหมือนกันนะหากต้องเลือกอะไรสักอย่างหนึ่ง แต่ดูท่าทางของเขาตอนนี้แล้วส่วนตัวผมคิดว่าเขาคงไม่เป็นแบบนั้น
「หากท่านอ่านพระคัมภีร์ไปหมดแล้ว ท่านก็คงจะพอเข้าใจลัทธิในเบื้องต้นบ้าง ดังนั้นเรื่องที่ข้าจะเล่าให้ท่านฟังก็คงจะเป็นเรื่องของนักบุญโซเฟีย การที่ลัทธิแห่งแสงและพวกข้าสามารถอยู่ภายในคิไคได้จนถึงปัจจุบันก็คงเป็นเพราะความสำเร็จของท่านผู้นั้นนี่แหละ」
「โซเฟีย อาเซอร์ไรท์สินะ」
「อย่างที่ท่านกล่าว ผู้กล้าหาญที่ปกป้องโลกจากพวกเผ่านพันธุ์ในตำนาน ผู้ผนึกงูร้ายเอาไว้ก่อนจะถูกผลักไสมายังคิไคโดยพวกผู้ทรยศที่แสนน่ารังเกียจอย่างมิตสึรุกิ หญิงสาวผู้เสียสละดึงเทพพระเจ้ามาประทับร่างบนกายเธอเพื่อช่วยเหลือผู้คน หากรู้จักลัทธิก็ไม่มีทางเลยที่จะไม่รู้จักโซเฟีย อาเซอร์ไรท์」
———
Note 1 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ ผมแปะไว้ใต้เม้นของเพจนะครับ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code