การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ – ตอนที่ 248 ความคิดของแต่ละคน

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~

ตอนที่ 248 ความคิดของแต่ละคน

 

 

เมื่อ 300 ปีก่อน ตระกูลมิตสึรุกิได้สร้างปราการขึ้นมาด้วยกัน 2 แห่งเพื่อทำการปกป้องประตูปีศาจ

 

ปราการแรกมีไว้เพื่อป้องกันผู้ที่จะพยายามเข้าไปยังประตูปีศาจจากฝั่งเมืองชูโตะ ส่วนอีกปราการมีไว้เพื่อป้องกันสิ่งที่จะออกมาจากทางประตูปีศาจป้อมปราการนันเท็น

 

ทั้งสองเป็นปราการที่คอยป้องกันเหล่าคิจินซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจากนักบุญดาบในอดีต

 

 

ตลอด 300 ปีที่ผ่านมา ปราการทั้งสองก็ไม่เคยถูกทะลวงได้มาก่อนเลยสักครั้ง และเหล่าตระกูลมิตสึรุกิก็ปกป้องมันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

 

 

 

ทว่าเหตุการที่เกิดขึ้นเมื่อคราวก่อน รูขนาดใหญ่ที่เกิดบนกำแพงของเมืองชูโตะ มันหมายถึงความอัปยศอดสูสำหรับตระกูลมิตสึรุกิ แม้ว่าในท้ายที่สุดความพ่ายแพ้ก็จะตกเป็นของฝั่งคิจิน ไม่มีพลเรือนทั่วไปได้รับบาดเจ็บหรือล้มตาย อำนาจทางการทหารก็ไม่ได้ลดน้อยลงจากเหตุการณ์นั้นเลยสักนิด

 

อย่างน้อยนั่นก็คือสิ่งที่โกซุ ชิมะคิดแต่หากมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกคราวหน้าเขาก็คงจะต้องหาทางทำอะไรสักอย่างเพื่อไม่ให้เรื่องนี้ซ้ำรอย

 

 

ขณะนี้ตัวโกซุเองก็กำลังอยู่กับอดีตนักรบแห่งฝืนป่าภายในห้องห้องหนึ่งของป้อมปราการนันเท็น

 

 

 

เขาคืออดีตหัวหน้าหน่วยที่มีอายุมากกว่าโกซุถึง 20 ไม่สิ 30 ปี มอร์แกน สกายชิพ โกซุทำการก้มหัวเคารพอีกฝ่ายก่อนจะพูด

 

 

 

 

「ไม่ได้พบกันนานเลยนะครับ ผู้เฒ่ามอร์แกน」

 

 

 

「นั่นสิ ท่านชิบะ ยังไงข้าก็ต้องขอโทษที่มารบกวนกะทันหันแบบนี้นะ」

 

 

มอร์แกนพูดก่อนจะก้มคำนับโกซุอย่างสุภาพแม้อีกฝ่ายจะอายุน้อยกว่าตน

 

 

 

 

มอร์แกนนั้นเป็นถึงผู้นำตระกูลสกายชิพอันทรงเกียรติที่ติดตามนักบุญดาบมาตั้งแต่รุนแรก อีกทั้งครั้งหนึ่งเขายังเคยเป็นถึงหัวหน้าหน่วยธงที่ 6 แต่เขาก็ไม่ได้มีความผยองหรือเย่อหยิ่งในอำนาจนั้นเลยสักนิด กลับกันเขากลับแสดงท่าทางเป็นมิตรออกมาให้เห็นชัดเจน

 

ถึงอายุจะเกิน 60 จนเกือบจะเข้าเลข 7 ไปแล้ว แต่น้ำเสียงของเขาก็ยังคงสงบนิ่งผ่อนคลายดูไม่หวั่นไหวต่อสิ่งใด

 

 

 

จากนั้นมอร์แกนก็เงยหน้าขึ้นมาพูดกับโกซุด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

 

 

 

「อันที่จริงข้ามีเรื่องอยากจะถามท่านชิบะเสียหน่อย คราวนี้คงต้องขอรบกวนเวลาท่านเสียหน่อยแล้ว」

 

 

 

「ท่านมีเรื่องต้องการจะถามข้างั้นหรือ? ทางข้าก็ไม่ติดอะไรที่จะตอบนะครับ แต่ขอทราบได้หรือไม่ว่าเป็นเรื่องอะไรกัน?」

 

 

「มันเกี่ยวกับท่าทางของท่านเมื่อไม่นานมานี้นั่นแหละ รู้สึกว่าท่านจะปล่อยผ่านตระกูลเบิร์ชมากเกินไปหรือเปล่า」

 

 

 

 

พอโกซุได้ยินแบบนี้ เขาก็ขมวดคิ้วทันที

 

 

จากนั้นมอร์แกนก็เริ่มพูดต่อ

 

 

「ท่านก็คงทราบดีท่านชิบะ เรื่องของไคลอาที่ทำการหลบหนีออกเกาะไปเมื่อไม่นานนี้」

 

 

 

「ครับ เรื่องนั้นข้าทราบดี」

 

「ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนมันก็คือแผนของตระกูลเบิร์ชที่นำพาไคลอาและคลิมไปสู่ความตาย แม้ว่าพวกเขาจะเป็นบุตรบุญธรรมของตระกูลเบิร์ชก็จริง แต่อีกมุมหนึ่งเขาก็เป็นคนของธงแห่งผืนป่าที่รับใช้ตระกูลมิตสึรุกิ ถึงกิลมอร์จะเป็นพ่อบุญธรรมของพวกเขาก็ไม่มีสิทธิ์จะมาชี้เป็นตายได้ตามใจอยากหรอกนะ」

 

 

 

 

มอร์แกนพูดออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว

 

 

 

ก็จริงว่ามอร์แกนกับกิลมอร์นั้นไม่ได้ถูกกันเนื่องจากเรื่องราวในอดีต แต่เหตุการณ์ในครั้งนี้ถึงไม่มีปัจจัยนั้นเข้ามาเกี่ยวข้องมันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะมองข้ามไปได้อยู่ดี

 

 

 

 

「จากที่ท่านชูยะพูด เขาเดาว่าเหตุการณ์ทั้งหมดในคราวนี้น่าจะเป็นแผนใช้ทั้งสองในการล่อท่านโซระ――ซึ่งเป็นอดีตผู้สืบทอดตระกูลกลับมายังเกาะ ซึ่งตัวข้าก็คิดแบบเดียวกัน」

 

 

 

หลังเหตุการณ์บุกโจมตีเมืองชูโตะเมื่อไม่นานมานี้ ก็ได้เกิดเสียงภายในตระกูลมิตสึรุกิขึ้นมาเป็นอย่างมากเกี่ยวกับการพิจารณาถึงความสามารถของโซระอีกครั้ง แม้จะยังเป็นแค่กลุ่มก้อนเล็กๆแต่ก็ใช่ว่าจะมองข้ามได้

 

 

 

หากโซระกลับมายังมิตสึรุกิจริง ก็คงจะมีหลายคนลงความเห็นว่าเขาคู่ควรจะกลับมาเป็นผู้สืบทอดตระกูลอีกครั้ง ซึ่งทางรากุนะกับตระกูลเบิร์ชคงขำกันไม่ออกแน่

 

 

 

「ด้วยเหตุนี้กิลมอร์จึงเลือกใช้ประโยชน์จากความปรารถของท่านโซระที่อยากจะช่วยไคลอา และส่งพวกเขาไปตายที่คิไคโดยไม่ต้องทำให้มือตัวเองสกปรกนอกจากนี้ ไอ้เจ้านั่นยังเลือกเออซูร่าติดตามไปด้วยในฐานะผู้ดูแล มองยังไงก็คงจะอยากจัดการสายเลือดอุตการ์ซ่าทิ้งให้หมดแล้วผูกขาดตำแหน่งเสาหลักเอาไว้กับตัวเองเป็นแน่」

 

 

 

「…บางทีมันก็คงจะเป็นอย่างที่ท่านว่า」

 

 

โกซุเห็นด้วยกับคำพูดของอีกฝ่าย

 

 

มอร์แกนส่ายหน้าไปมาราวกับรังเกียจ แน่นอนว่าไม่ใช่โกซุที่อยู่ตรงหน้าของเขา

 

 

「มันก็ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับกิลมอร์ผู้ขับเคลื่อนด้วยความทะเยอทะยานหรอก คนอย่างเขามีเล่ห์กลนับร้อยไว้คอยจัดการผู้ต่อต้านตนเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจอยู่แล้ว แต่เรื่องในคราวนี้ มันชักจะออกนอกหน้าเกินไปหน่อยแล้ว ชีวิตของหนุ่มสาวไม่ควรจะมาสูญเสียไปเพราะความทะเยอทะยานของเขาเลย นี่ท่านชิบะ อะไรกันที่ทำให้ท่านผู้นำยังเลือกจะเก็บกิลมอร์เอาไว้?」

 

 

 

โกซุไม่สามารถตอบคำถามของอีกฝ่ายได้

 

 

 

สิ่งที่มอร์แกนถามโกซุเองก็สงสัยเหมือนกัน แม้เขาจะถามผู้นำตระกูลไปหลายครั้งเกี่ยวกับความตั้งใจจริงของอีกฝ่าย แต่ชิกิบุก็ไม่เคยให้คำตอบกลับมาเลยสักครั้ง

 

 

ดังนั้นก็มีเพียงต้องเค้นความคิดเอาเอง โกซุตอบกลับมอร์แกน

 

 

「ข้าขอตอบด้วยความสัตย์จริงว่าข้าเองก็ไม่ทราบถึงความคิดของท่านผู้นำ ทว่าเหตุการณ์คราวนี้ข้าได้ยินมาว่า ความคิดแรกเริ่มเป็นของหัวหน้าหน่วยที่ 1 ซึ่งแนะนำให้กับท่านกิลมอร์อีกทีครับ」

 

 

 

「หัวหน้าหน่วย――ท่านไดรอาทน่ะหรือ?」

 

 

 

พอได้ยินแบบนี้ดวงตาทั้งสองของมอร์แกนก็เบิกกว้างขึ้น ก็จะขมวดคิ้ว

 

 

 

「มันชักจะซับซ้อนขึ้นไปทุกทีแล้วสิ ท่านไดรอาทแม้จะเย็นชาแต่นิสัยก็ไม่ได้เหมือนกับพ่อของเขา เขาไม่ใช่พวกใจแคบหรือคิดแค้นทะเยอทะยานจนไม่สนสิ่งใด ข้าไม่อยากจะเชื่อจริงๆว่าคนแบบนั้นจะเสนอแผนการที่ต้องสังเวยพี่น้องของตน」

 

 

「นั่นสิครับ ดังนั้นข้าจึงสงสัยว่าอาจจะมีผู้ที่ส่งต่อแผนการนี้ให้กับหัวหน้าหน่วยที่ 1 หรือเปล่า」

 

 

「อื้ม…ท่านจะบอกว่ามีคพยายามโน้มน้าวกิลมอร์ผ่านท่านไดรอาทสินะ ก็จริงว่าทางนั้นมีคนมากหน้าหลายตา แต่ท่านไดรอาทก็ไม่ใช่พวกจะฟังเสียงของคนอื่นโดยไม่คิดพิจารณาอะไรเลยนี่ แล้วมันจะมีใครกันที่สามารถชักจูงเขาได้ขนาดนั้น?」

 

 

มอร์แกนกอดอกคิด

 

 

 

แล้วก็เป็นอีกครั้งที่โกซุไม่สามารถตอบอะไรกลับมอร์แกนไปได้เพราะไม่มีหลักฐานชัดเจนว่ามีใครอยู่เบื้องหลังจริงไหม

 

 

ทว่าหากเป็นแบบนั้นจริง มันก็พอจะมีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวที่ผุดขึ้นมา

 

 

 ――หากเป็นผู้นำตระกูลที่สามารถสั่งการทุกหน่วยได้ ข้อสงสัยทั้งหมดก็จะคลี่คลาย

 

หากเขาได้รับคำสั่งจากท่านผู้นำ ก็ไม่แปลกใจเลยที่ไดรอาทจะเอาเรื่องนี้ไปบอกต่อกับกิลมอร์ เช่นเดียวกับการอนุญาตให้กิลมอร์เคลื่อนไหวตามที่ตัวเองอยาก เพราะสุดท้ายมันก็เป็นชิกิบุนั่นแหละที่ชักจูงให้กิลมอร์เคลื่อนไหว เขาจึงไม่มีเหตุผลต้องหยุด

 

 

นอกจากนี้มันก็เกือบจะครบเดือนแล้วนับตั้งแต่ที่โซระกับคนอื่นๆเข้าไปในประตูปีศาจ ช่วงเวลาดังกล่าวนี้มีนักรบแห่งผืนป่าจำนวนมากที่ได้ขอให้ชิกิบุคำสั่งให้ออกค้นหาหรือช่วยเหลือ ไคลอา โซระ คลิม เออซูร่า ไม่เพียงแค่โกซุเท่านั้นแต่รวมไปถึงชูยะ หัวหน้าของเออซูร่า รองหัวหน้าหน่วยที่ 5 ของไคลอา รองหัวหน้าหน่วยที่ 7 ของคลิม ตลอดจนถึงหลายชายของมอร์แกนอย่างซิดนีย์ รากุนะ อายากะ ซาอิ ซึ่งเป็นเหล่ารุ่นทองก็ออกมาตามหาเพื่อนของตนด้วย

 

ทว่าชิกิบุกลับปฏิเสธคำร้องเหล่านั้นทิ้งทั้งหมด

 

พวกธงแห่งผืนป่าหลายคนเลยอดสับสนไม่ได้ว่าทำไมผู้นำตระกูลถึงเลือกเช่นนั้น ราวกับว่าเชื่อฟังตระกูลเบิร์ชไปเสียหมด แต่หากมองกลับว่านั่นคือแผนการของชิกิบุ ก็จะสามารถอธิบายได้ว่าการที่โซระกับคนอื่นๆยังอยู่ในคิไคคือแผนของเขา เขาจึงไม่มีทางจะส่งความช่วยเหลือเข้าไป

 

 

ทีนี้ปัญหามันก็จะมาอยู่ที่เป้าหมายของชิกิบุในการนำพวกโซระกับคนอื่นๆเข้าไปในคิไค แน่นอนว่าโกซุก็พอจะเดาๆไว้บ้างแล้ว

 

 

――เพื่อฝึกฝนนายน้อย หากเป็นไปตามที่โกซุคิด เขาก็พอจะเข้าใจถึงเหตุและผลของชิกิบุ

 

พลังของโซระที่เอาชนะได้แม้กระทั่งพวกเผ่าพันธุ์ในตำนานด้วยตัวคนเดียวถึงจะยกมาทั้งทวีปก็หาไม่ได้ง่ายๆหรอก ยิ่งไปกว่านั้นหากต้องการจะพัฒนาพลังให้สูงขึ้น ก็ไม่มีวิธีใดจะเร็วไปกว่าการส่งเข้าคิไคอีกแล้ว

 

อย่างไรก็ตาม ไม่มีทางเลยที่โซระในตอนนี้จะเชื่อฟังชิกิบุหรือโกซุ แผนการใช้2พี่น้องเบิร์ชเลยกำเนิดขึ้น

 

 

 

ส่วนการที่เลือกส่งเออซูร่าไปนั้น ก็น่าจะเพราะอยากให้เธอเป็นคนนำทางภายในคิไค เพราะชิกิบุต้องการฝึกฝนโซระไม่ใช่ส่งเขาไปตย ดังนั้นการเลือกเออซูร่าที่อยู่ในคิไคมานานพอสมควรก็สมเหตุสมผลดี

 

 

ชิกิบุไม่เลือกจะทำอะไรเลยสักนิด แม้จะเป็นตอนที่โซระต่อสู้กับคิจินอย่างโดกะซึ่งอยู่ไม่ไกลจากป้อมปราการนันเท็น ถึงในมุมของโกซุพวกคิจินจะไม่ใช่สิ่งใดเสียนอกจากภัยคุกคามก็ตาม ในเวลานั้นหากพวกเขาเคลื่อนไหวธงทั้ง 8 ก็น่าจะไม่สามารถช่วยเหลือการพัฒนาของโซระได้

 

ทั้งที่มีกฏเหล็กของตระกูลอย่างการสังหารพวกคิจินอยู่แท้ๆ ถึงจะรู้แบบนั้นชิกิบุก็เลือกจะไม่เคลื่อนไหว มองจากมุมไหนมันก็คือการอยากจะให้โซระพัฒนาตัวเองชัดๆ นั่นคือสิ่งที่โกซุคิด

 

 

อย่างไรก็ตามที่ว่ามามันก็ปราศจากหลักฐาน นอกจากนี้ถึงจะมีหลักฐานอะไรโผล่มาก็ไม่มีความหมายอยู่ดี เพราะท้ายที่สุดโกซุจะเลือกจะไม่ขัดต่อเจตนารมของชิกิบุ

 

 

 

มอร์แกนกับโกซุมองหน้ากันด้วยสีหน้าที่ดูลำบากใจ จากนั้นไม่นานมอร์แกนก็ถอนหายใจออกมาดังๆราวกับอยากระบายความรู้สึกที่แน่นอยู่ในอก

 

 

 

 

「แล้วเจ้ารู้หรือเปล่าว่า ชิคุต้องการจะลาออกจากตำแหน่งแล้ว」

 

 

 

 

ชิคุนั้นเป็น 1 ใน 4 เสาหลักของตระกูลที่มีหน้าที่ในด้านวิศวกรรมก่อสร้าง โยธา ควบคุมน้ำท่วม สำหรับโกซุซึ่งเป็นชิบะแล้ว ก็กล่าวได้ว่าอีกฝ่ายคือคนระดับเดียวกัน

 

 

ดวงตาของโกซุเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ

 

 

 

 

「ท่านชิคุน่ะเหรอครับ? เรื่องนี้ข้าไม่ทราบมาก่อนเลย」

 

 

 

「เขาก็อายุปาเข้าไป 60 แล้ว เห็นว่ากำลังคิดจะส่งไม้ต่อให้ท่านผู้นำพิจารณาคนเหมาะสมน่ะ โดยเขาตั้งใจจะลาออกตอนที่ซ่อมแซมกำแพงของชูโตะเสร็จเสียก่อน ในฐานะชิคุแล้วการที่ปล่อยให้กำแพงเปิดโล่งเช่นนั้นคงจะคิดว่าเป็นความรับผิดชอบในตัวไม่น้อย」

 

 

 

「นั่นเป็นเพราะศัตรูแข็งแกร่งต่างหากครับ ไม่ใช่ความผิดของท่านชิคุเลยสักนิด」

 

 

โกซุพูด หากจะคิดหาตัวคนที่ต้องรับผิดชอบแล้วก็ควรจะเป็นโกซุซึ่งครองตำแหน่งชิมะ ที่ดูแลกองทัพมากกว่า

 

 

เมื่อโกซุพูดไปแบบนั้น มอร์แกนก็พยักหน้ารับด้วยความเศร้าหมอง

 

 

 

「ข้าเองก็พูดไปแล้ว แต่อีกฝ่ายตัดสินใจแล้วนี่สิ ก็ไม่รู้หรอกนะว่าคนสืบทอดต่อไปจะเป็นใคร แต่มอร์แกนคงหาทางผลักดันคนตระกูลเบิร์ชเข้าเสียบแทนแน่  ไม่ใช่แค่นั้นเขาอาจจะเล็งท่านชิบะด้วยก็ได้ หากขนาดชิคุยังต้องลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ ท่านชิบะที่มีส่วนในการรับผิดชอบเองก็คงจะหลบพ้นได้อยากนะ」

 

 

 

「ข้าเองก็คิดเช่นนั้นครับ หากเป็นคนอย่างกิลมอร์」

 

 

「ท่านชิมะ ท่านควรจะคิดให้หนักกว่านี้นะ หากชิคุและชิบะถูกแทนที่ด้วยคนของกิลมอร์เสียหมด ก็หมายความว่าเสาหลักทั้ง 4 ตกอยู่ภายใต้ตระกูลเบิร์ช เรื่องแบบนั้นแม้จะเป็นในอดีตของตระกูลมิตสึรุกิก็ไม่เคยเกิดขึ้นเลยสักครั้ง」

 

 

 

เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายร้อนใจขนาดไหน

 

 

เป็นเรื่องที่รู้กันอยู่แล้วว่าทำไมมอร์แกนถึงต้องหนักใจขนาดนี้ กิลมอร์นั้นเป็นพวกทะเยอทะยาน ดังนั้นเขาคงไม่จบอยู่ที่ตระกูลมิตสึรุกิแน่นอน ถึงตระกูลมิตสึรุกิจะออกข้อบัญญัติว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับโลกภายนอกและไม่ยอมให้โลกภายนอกเข้ามายุ่งเกี่ยวก็ตาม แต่คนอย่างกิลมอร์นั้นคงต้องการจะฝ่าฝืนสิ่งนี้เป็นแน่

 

หรือก็คือกิลมอร์น่าจะกำลังวางแผนทำสงครามโดยใช้พลังของพวกนักรบแห่งผืนป่า การกระทำเช่นนั้นเขาจะสามารถยกระดับของตระกูลมิตสึรุกิภายในจักรวรรดิขึ้นมาได้ และหากปล่อยให้เป็นแบบนั้นต่อไป นักรบแห่งผืนป่าก็จะกลายเป็นเครื่องมือในการสนับสนุนพลังทางการทหารเพื่อตัวกิลมอร์ ยิ่งมอร์แกนคิดเท่าใดเขาก็ยิ่งกังวล

 

 

 

 

「ได้ยินว่าทางตระกูลเบิร์ชกับตระกูลควิสทัสมีประชุมลับๆกันด้วย」

 

 

 

「ตระกูลควิสทัส….หรือว่า เซน่อนงั้นหรือ」

 

 

 

 

เซน่อนที่โกซุพูดถึงก็คือหัวหน้าหน่วยของธงที่ 3 นั่นเอง

 

เซน่อน ควิสทัสเป็นนักรบแห่งผืนป่าที่เข้ามาในปีเดียวกันกับโกซุนอกจากนี้เขายังเป็นผู้ดูแลของรากุนะอีกด้วย แม้ว่าตระกูลควิสทัสจะกำเนิดมาไม่ได้นานประวัติศาสตร์ยังมีไม่มาก แต่ชื่อเสียงด้านการทหารก็เรียกว่าสูงพอสมควร จนได้รับการยกย่องว่ามีฝีมือเป็นลำดับที่ 4 ของเหล่านักรบแห่งผืนป่า รองลงมาจาก ไดรอาท ชูยะ โกซุ

 

 

บุคคลที่มีความกล้าหาญและภาคภูมิใจในเกียรติของตนไม่น้อยไปกว่าโกซุ แถมมีหลักครั้งที่เขามองโกซุด้วยความท้าทาย

 

รากุนะเองก็สนิทสนมกับเซน่อนเป็นอย่างมากหากรากุนะได้เป็นผู้นำตระกูลคนใหม่มันก็เกือบจะแน่นอนแล้วว่าเขาจะเลือกเซน่อนให้รับตำแห่งชิบะคนใหม่ตัวโกซุก็ใช่ว่าจะคิดหวงแหนตำแหน่งชิบะดังนั้นเขาจึงไม่รังเกียจที่จะถอยออกมานอกจากนี้เขาก็เข้าใจดีว่ารากุนะไม่ใช่พวกหน้ามืดตามัวจะเลือกใครก็ได้มาในตำแหน่งนั้นโดยปราศจากฝีมือ

ทว่าเซน่อนก็เหมือนจะรอให้ถึงเวลานั้นไม่ไหวแล้วบางทีเขาอาจจะคิดว่าตัวโกซุพยายามจะดันโซระกลับเข้ามาอีกครั้งก็ได้เขาจึงพยายามเคลื่อนไหวเพื่อตัวรากุนะอย่างเห็นได้ชัดมากกว่าเดิม

 

แล้วมอร์แกนก็พูดต่อ

 

「ก็จริงว่าเซน่อนไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบของกิลมอร์นักแต่เนื่องจากเขาก็เป็นคนที่สนับสนุนท่านรากุนะดังนั้นตระกูลเบิร์ชก็คงจะไม่บ่นอะไรชิคุคนต่อไปก็คงจะเป็นของตระกูลเบิร์ชชิบะคนต่อไปก็ของควิสทัสบางทีพวกเขาอาจจะตกลงกันไว้แบบนั้นก็ได้ถ้า4เสาหลักต่างสนับสนุนท่านรากุนะแล้วถึงท่านโซระจะกลับมาจริงอำนาจในการต่อรองก็คงน้อยเต็มที」

 

「ข้าเข้าใจที่ท่านจะพูดแล้วทว่าหากเซน่อนอยากจะเป็นชิบะเขาก็ต้องลาออกจากหัวหน้าหน่วยตรงจุดนี้ท่านคิดว่าอย่างไร」

 

มีเพียง4เสาหลักหัวหน้าและรองหัวหน้าหน่วยของแต่ละธงเท่านั้นที่มีสิทธิ์เสียงภายในห้องประชุมของมิตสึรุกิดังนั้นการควบตำแหน่งจึงไม่มีทางเกิดขึ้นได้เป็นอันขาด

 

ก็อย่างที่โกซุบอกหากเซน่อนกลายเป็นชิบะตำแหน่งหัวหน้าหน่วยธงที่3ก็จะว่าง

 

มอร์แกนก็พยักหน้าและพูดต่อ

 

「เมื่อถึงตอนนั้นข้ามองว่าลูเซียสที่เป็นรองหัวหน้าหน่วยจะรับตำแหน่งแทนและท่านรากุนะก็จะเข้าเสียบตำแหน่งรองหัวหน้าหน่วยที่ว่างต่อก็จริงว่าลูเซียสอาจจะยังเด็กไปบ้างแต่ด้วยฝีมือของเขาที่ได้มากจากผู้เป็นพ่อแล้วก็คงไม่มีใครคัดค้านหัวหน้าหน่วยคนอื่นๆก็คงคิดเหมือนกันส่วนท่านรากุนะที่ขึ้นมาเป็นลำดับ4ของธงที่3ได้ก่อนจะอายุ20ปีนั้นการจะรับตำแหน่งรองหัวหน้าหน่วยก็คงสามารถยอมรับได้」

 

มีเงื่อนไขอยู่หลายประการสำหรับคนที่จะมาเป็นรองหัวหน้าหน่วยของธงแห่งผืนป่าซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการเชี่ยวชาญ1ใน8กระบวนท่าลับให้ได้เสียก่อน

 

การที่เซน่อนและกิลมอร์เคลื่อนไหวแบบนี้บางทีรากุนะอาจจะเชี่ยวชาญในศาสตร์ลับแล้วอย่างน้อย1อย่าง

 

ก็ได้ยินมาอยู่หรอกว่าเขาบาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้กับเทพปีศาจเมื่อคราวก่อนด้วยเหตุนั้นเขาคงจะฝึกฝนอย่างบ้าคลั่งทันทีหลังหายดีเป็นแน่

 

พรสวรรค์ของรากุนะเองก็อยู่อันดับสูงอยู่แล้วในบรรดารุ่นทองหากใช้ความขมขื่นที่พ่ายแพ้มาผลักดันก็เป็นไปได้อยู่เหมือนกันที่จะผลักดันตัวเองจนถึงศาสตร์ลับได้

 

――ระหว่างที่มอร์แกนคิดอยู่นั้นก็ได้มองไปยังข้างหลังของเขาซึ่งก็คือประตูห้องก่อนเขาจะเลิกคิ้วขึ้แล้วเปิดปากพูด

 

「ข้างนอกส่งเสียงดังกันน่าดูอาจจะเกิดอะไรขึ้นก็เป็นได้」

 

「คงอย่างที่ท่านว่าครับ」

 

โกซุยืนขึ้นและมองออกไปนอกหน้าต่างก่อนจะพบว่าพวกนักรบแห่งผืนป่าได้ส่งเสียงดังกันออกมาเต็มไปหมดคนที่ประจำอยู่ปราการนันเท็นนั้นคือพวกระดับสูงทั้งสิ้นการที่พวกเขาส่งเสียงเอะอะกันมากขนาดนี้ไม่บอกก็รู้ว่าผิดปกติ

 

เพื่อตรวจสอบสถานการณ์โกซุจึงต้องหยุดการพูดคุยกับมอร์แกนและออกจากห้องไปเมื่อเดือนก่อนกองทัพพวกคิจินนับพันก็ปรากฏตัวบริเวณทางตะวันออกของป้อมเสียด้วยส่วนทางที่พวกโซระจากไปนั้นคือตะวันออกแล้วจนถึงตอนนี้พวกมันก็ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรเป็นพิเศษการที่ผ่านมาแล้วกว่า1เดือนอาจจะเป็นสัญญาณที่พวกมันเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้งก็ได้

 

ทว่าก่อนที่โกซุจะได้ออกจากห้องไปก็เกิดเสียงเคาะประตูห้องของเขาเสียก่อน

 

หลังจากเคาะเสร็จก็มีคนของธงแห่งผืนป่าผมสีน้ำเงินเข้มผิวสีแทนเปิดเข้ามาภายในห้องก่อนจะมองไปยังโกซุและมอร์แกนแล้วยิ้มออกมา

 

「ชิมะแล้วก็ผู้เฒ่ามอร์แกนอยู่ด้วยกันพอดีเลยดีจริงๆจะได้ไม่เสียเวลา」

 

「ท่านชูยะเหมือนจะเกิดเรื่องข้างนอกขึ้นสินะครับ」

 

「ก็อย่างที่พวกท่านคิดมันก็มีเรื่องจริงๆนั่นแหละแถมยังเป็นเรื่องใหญ่เสียจนคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรใหญ่ไปกว่านี้ได้อีกแล้วเนี่ยสินี่ท่านผู้เฒ่าท่านคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นกันหากตระกูลมิตสึรุกิถูกแบ่งเป็น 2 ฝั่ง」

 

 

 

 

「ว่าไงนะ?!」

 

 

พอมอร์แกนได้ยินแบบนั้น เขากับโกซุก็มองหน้ากัน

 

 

ชูยะนั้นเป็นคนที่สงบนิ่งและจริงจังกับชีวิต แม้บางครั้งเขาจะเหมือนคนขี้เล่นแต่เขาก็ไม่เคยพูดจาอะไรไร้สาระกับคนที่เขาเคารพ ยิ่งเรื่องแบบนี้เขายิ่งไม่มีทางพูดเล่นออกมาเลย

 

การที่ชูยะพูดแบบนี้ก็อาจจะบอกได้ว่าสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นนี้อาจจะนำพาไปสู่สิ่งนั้นได้

 

 

จากนั้นชูยะก็เริ่มพูดเรื่องที่ใหญ่โตซึ่งเขาเห็นมากับตา

 

「อดีตว่าที่ผู้นำตระกูลคนถัดไปได้ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านตะวันออกของป้อม ――ยิ่งไปกว่านั้นเขายังพาเด็กหนุ่มที่เป็นคิจินซึ่งอ้างว่าเป็นคนของนากายามะทูตแห่งเหล่าคิจินมาพร้อมกันด้วยครับ」

 

—–

Note 1 : กลับออกจากถ้ำมาละครับ บทใหม่น่าจะบันเทิงละ

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~

Status: Ongoing
ตระกูลมิตสึรุกิได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่สำคัญในการปกป้องประตูปีศาจจากองค์จักรพรรดิ โซระ มิตสึรุกิ ผู้เกิดมาเป็นลูกชายคนโตของตระกูล กำลังตั้งตารอพิธีตัดสินในปีที่เขาอายุครบ13ปี การทดสอบที่จำเป็นต้องเอาชนะให้ได้เพื่อเรียนรู้วิชาดาบเดียวมายาซึ่งสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นภายในตระกูลมิตสึรุกิ พี่น้องของเขาทั้งหมดนั้นต่างก็ผ่านบททดสอบดังกล่าว จะเหลือก็เพียงโซระ บัดนี้พ่อ น้องชาย คู่หมั้น และญาติของเขาก็ต่างจับจ้องไปยังโซระที่จะเริ่มทดสอบกันอย่างเคร่งขรึม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน