ตอนที่ 268 คำกล่าวลา
อายากะค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้ชิกิบุเรื่อยๆ แต่ในขณะที่มือของเธอกำลังจะชักดาบออกมา เธอก็ต้องหยุดการกระทำนั้นเสียก่อน
เธอเลยเปลี่ยนท่าทีเป็นการดึงดาบที่อยู่ในฝักออกจากเอวของเธอแล้ววางมันไว้ข้างๆ ร่างของเธอขณะนั่งลงกับพื้น จากนั้นก็ก้มหัวเคารพชิกิบุที่กำลังหลับใหลอยู่
ไม่นานนักปากของชิกิบุก็ขยับเล็กน้อย
「――อายากะเหรอ」
「ค่ะ ท่านผู้นำ」
「มีอะไร? 」
เธอไม่รู้ว่าชิกิบุตื่นตั้งแต่แรกอยู่แล้วหรือตื่นเพราะเธอเข้ามาในห้อง แต่ไม่ว่าจะแบบไหน เสียงของชิกิบุก็สงบนิ่ง และไม่มีวี่แววของคนที่เหนื่อยล้าจนหมดสภาพเพราะต่อสู้กับโซระเลย
อันที่จริงเสียงของเขาดูเหมือนจะสงบนิ่งยิ่งกว่าตอนที่นั่งบนแท่นผู้นำตระกูลนั่นเสียอีก
ไม่น่าเชื่อจริงๆ ว่าจะเป็นชายผู้ถูกทำลายอนิม่าไป――อายากะคิด ก่อนจะพูดต่อ
「วันนี้ฉันมาขออนุญาตท่านผู้นำในการออกจากตระกูลมิตสึรุกิค่ะ หวังว่าท่านจะเข้าใจและยอมปล่อยฉันไป」
「ย่อมได้ ข้าอนุญาต」
อายากะได้เตรียมใจมาในแบบของเธอแล้ว ทว่าคำพูดของชิกิบุกลับช่างง่ายดาย
ดังนั้นอายากะในตอนนี้จึงไม่ใช่คู่หมั้นของว่าที่ผู้สืบทอดตระกูลมิตสึรุกิอีกรวมไปถึงธงแห่งผืนป่าลำดับที่ 3 แห่งธงที่ 2 อีกต่อไป
「ขอบพระคุณมากค่ะ」
「นี่ก็เพื่อตอบแทนในความภักดีและการอุทิศตนที่มีต่อตระกูลของพวกข้ามาอย่างยาวนาน เจ้าไม่จำเป็นต้องเข้าพิธีปิดผนึกเมื่อออกจากเกาะ จนถึงตอนนี้ขอบคุณมาก」
พิธีปิดผนึกที่ว่าคือสิ่งที่มีไว้ใช้กับธงแห่งผืนป่าซึ่งรับใช้นักบุญดาบ
หากธงแห่งผืนป่าออกจากเกาะโดยไม่ได้รับอนุญาต พวกเขาจะถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏและถูกสังหาร กลับการหากต้องการออกจากเกาะจริงๆ ก็จำเป็นต้องทำลายมือเพื่อไม่ให้ใช้มายาดาบเดียวได้อีกก่อนจะถูกประทับตราเวทมนตร์ไม่ให้เผยข้อมูลของมายาดาบเดียวออกไป
ชิกิบุบอกกับอายากะว่าเธอได้รับการยกเว้น
พออายากะได้ยินแบบนั้น เธอก็ไม่ได้พูดขอบคุณออกมา แต่กลับสงสัยในตัวชิกิบุที่ยังนอนอย่างสงบนิ่ง
「….แน่ใจแล้วเธอค่ะ? ทั้งที่ท่านก็น่าจะรู้ว่าฉันเป็นคนของโจเซย์ (ผู้ชำระล้างโลก) 」
「ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าพยายามจะปลดปล่อยตัวเองออกจากสิ่งนั้น และการที่เจ้าเลือกเป็นธงแห่งผืนป่าก็เพราะแสวงหาพลังดังกล่าว ใช่ไหมล่ะบุตรสาวผู้ถูกเลือกโดยมังกรเอ๋ย」
「……อึก」
อายากะอดไม่ได้ที่จะตกใจ
ยืนยันได้ชัดแล้วว่าชิกิบุรู้ถึงตัวตนของอายากะ แต่ที่หนักกว่าคือเขารู้มาตั้งแต่แรกแล้ว
อายากะจ้องมองไปยังชิกิบุที่นอนอยู่ตรงหน้าเธออีกครั้ง
เขาคือชายผู้ครองตำแหน่งนักดาบที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกมายาวนาน และเป็นเพียงไม่กี่คนที่รู้ถึงความจริงเมื่อ 300 ปีก่อน ในจุดนี้อาจจะกล่าวได้ว่าเขาใกล้ชิดกับโจเซย์――เหล่าคนที่ต้องการชำระล้างมนุษยชาติโดยมังกรมากที่สุดอีกคนหนึ่ง
มองจากจุดนี้ก็กล่าวได้ว่าตระกูลมิตสึรุกิที่นำโดยชิกิบุนั้นเป็นกำลังที่สำคัญสำหรับโจเซย์ในการชำระล้างโลกให้บริสุทธิ์ โซเฟีย อาเซอร์ไรท์ที่เลือกตระกูลมิตสึรุกิและส่งต่อมายาดาบเดียวมาให้ก็เป็นเพราะวัตถุประสงค์นี้ อย่างน้อยนั่นก็คือสิ่งที่อายากะคิดและเธอมองว่าคนของตระกูลอาเซอร์ไรท์ก็น่าจะคิดแบบเดียวกัน
แม้อายากะจะไม่ได้ยืนยันโดยตรง แต่เธอก็เชื่อว่าตระกูลอื่นอย่าง คาร์เนเลียส พาราดิส หรือราชวงษ์ก็มองแบบเดียวกับเธอ
เหตุผลหนึ่งที่ทั้ง 3 ตระกูลพยายามส่งทายาทสายตรงไปยังตระกูลมิตสึรุกิก็เป็นเพราะเหตุนี้ พวกเขาไม่ได้ต้องการจะถูกมังกรกวาดล้างไปพร้อมกับโจเซย์ พวกเขาเพียงต้องการแสดงความจงรักภักดีต่อมังกรเพื่อไม่ให้ตัวเองถูกชำระล้างไปด้วย ก็จริงว่าอาจจะมีบางส่วนอย่างจะสังเวยไปพร้อมกับโลกที่บริสุทธิ์เลย แต่ส่วนใหญ่แล้วก็หวังเพียงเอาชีวิตรอดจนถึงขั้นบางคนวางแผนจะยึดอำนาจโลกใบนี้หลังพิธีชำระล้างเสร็จสิ้น
ดังนั้นการรักษามิตรภาพกับตระกูลมิตสึรุกิจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย
อย่างไรก็ตามมันก็ขึ้นอยู่กับชิกิบุอีกทีว่าจะตอบรับมิตรภาพพวกนั้นไหม
เดิมทีอำนาจของตระกูลมิตสึรุกินั้นก็เป็นอำนาจทางการทหารที่ใช้มายาดาบเดียวซึ่งโดดเด่นแม้ในหมู่กองกำลังของโจเซย์อยูแล้ว และมันยิ่งแข็งแกร่งเด่นชัดกว่าเดิมในสมัยของชิกิบุ
ไม่เพียงแค่ชิกิบุที่เป็นผู้นำตระกูลเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึง 2 สุดยอดผู้คุ้มกันของเขาอีกด้วย แม้จะเป็นหัวหน้าหรือรองหัวหน้าหน่วยธงทั้ง 8 ก็นับว่าแข็งแกร่งเสียยิ่งกว่ายุคก่อนเป็นไหนๆ รุ่นทองที่เธอจบมาก็นับว่าโดดเด่นกันทั้งสิ้น
ด้วยพลังเหล่านี้เองจึงทำให้มีความน่าเชื่อถือและน่าหวั่นเกรงสำหรับโจเซย์มากกว่ายุคอื่น
ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามิตสึรุกิที่นำโดยชิกิบุจะเป็นขุมกำลังยอดเยี่ยมในการชำระล้างโลกให้บริสุทธิ์ แต่ในขณะเดียวกันหากชิกิบุเลือกจะต่อต้านโจเซย์ พลังของมิตสึรุกิก็จะกลายเป็นอุปสรรคอันใหญ่หลวงแทน
กล่าวก็คือโลกใบนี้จะถูกชำระล้างได้โดยง่ายหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับเขา
จนถึงตอนนี้ชิกิบุไม่ได้พยายามแทรงแซงพวกโจเซย์เป็นพิเศษ แต่เขาก็ไม่ได้ให้ความร่วมมืออย่างกระตือรือร้นเช่นเดียวกัน การแสดงออกของเขามีเพียงแค่จะทำหากถูกสั่งมา
ด้วยเหตุนี้จึงมีผู้ติดตามของโจเซย์ไม่น้อยที่สงสัยในใจจริงของชิกิบุ
อันที่จริงอายากะก็ได้รับคำสั่งให้มารับใช้ชิกิบุและมีคำสั่งลับอีกอย่างก็คือทำการสังหารชิกิบุเสียหากเป็นไปได้ เพราะพวกเขาระแวงชิกิบุจริงๆ
สถานการณ์ในปัจจุบันที่ชิกิบุสูญเสียอนิม่าไปแล้วนั้นนับว่าเป็นโอกาสอันดีในการสังหารเขา อย่างน้อยก็เป็นสิ่งที่หัวหน้าของอายากะคิดแน่
ตัวอายากะไม่ได้มีอำนาจตัดสินใจอยู่แล้วว่าจะยอมทำตามคำสั่งนั้นหรือไม่
ทว่าพอเธอได้เผชิญหน้ากับชิกิบุจริงๆ เธอก็พบว่าเป็นไปไม่ได้เลย
――อายากะรู้สึกสั่นไปถึงกระดูกสันหลัง โดยไม่รู้ตัว
ในแง่ความแข็งแกร่งแล้วชิกิบุก่อนหน้านี้ย่อมมีมากกว่า
แต่ถ้าถามว่าเธอกลัวชิกิบุตอนไหนมากกว่ากันก็คงบอกว่าตอนนี้
ชิกิบุที่นั่งอยู่บนที่นั่งผู้นำตระกูลด้วยสีหน้าที่เบื่อหน่ายกับบางสิ่งนั้นน่ากลัวน้อยกว่าชิกิบุที่กำลังนอนพูดอยู่บนฟูกเป็นไหนๆ อายากะเชื่ออย่างหมดใจเลยว่าหากเธอชักดาบออกมา วินาทีต่อมาร่างของเธอได้แยกออกจากกันแน่
ก็จริงว่าหากชิกิบุไม่อนุญาตให้เธอออกจากเกาะหรือจะทำพิธีปิดผนึกเธอก็คงต้องสู้อย่างไม่มีทางเลือก
หลังจากสัญญาณของโซเฟีย อาเซอร์ไรท์ได้หายไป และมังกรเมื่อ 300 ปีก่อนถูกพิชิต อายากะก็ได้รับคำสั่งให้กลับนครศักดิ์สิทธิ์ เธอไม่สามารถทำหน้าที่ในฐานะนักดาบได้อีกแล้ว และเธอก็ต้องกลับไปให้ครบ 32 ด้วย ดังนั้นเธอเลยเตรียมใจสู้มาก่อนแล้ว
อย่างไรก็ตามชิกิบุกลับยอมให้เธอไปแต่โดยดี ดังนั้นเธอจึงไม่ต้องสู้กับชิกิบุ ก็จริงว่าเธอได้รับคำสั่งลับให้ฆ่าเขา แต่ตอนนี้เป็นไปไม่ได้เลยที่เธอจะเอาชนะชิกิบุได้
ว่ากันตามตรงก็มีวิธีการลอบโจมตีโดยอาภรณ์แห่งความว่างเปล่าจากระยะไกล แต่หากทำแบบนั้นถึงจะฆ่าชิกิบุได้ เสียงอันดังสนั่นของการโจมตีก็จะเรียกเหล่าธงแห่งผืนป่าให้มาตามฆ่าเธอแทน
อายากะไม่ได้มีความตั้งใจจะสละชีวิตของเธอเพื่อโจเซย์
เธอเลยเลือกจะไม่ผืนทำอะไรเกินตัว สิ่งที่เธอต้องทำมีเพียงขอบคุณเขาแล้วจากไปเฉยๆ นั่นคือสิ่งที่เธอควรทำ
แต่ปากของเธอก็ช่างไม่รักดี อายากะกลับโพล่งคำถามหนึ่งออกไป
「สุดท้ายนี้ฉันมีเรื่องจะถามค่ะ ท่านมีแผนจะให้โซระทำอะไรกันคะ? 」
ชิกิบุตอบคำถามนั้นอย่างไม่ลังเล
「โซระจะทำอะไรก็เป็นเรื่องของโซระสิ ไม่มีประโยชน์จะมาถามเอากับข้าหรอกนะ」
「…..คงไม่ได้คิดจะขัดขวางการชำระโลกให้บริสุทธิ์โดยการให้โซระผู้ไม่ถูกผูกมัดกับพันธะแห่งมิตสึรุกิในอดีตจัดการแทนหรอกนะคะ? 」
「ข้าก็พูดเรื่องที่ควรพูดไปแล้วนะ」
พอได้ยินแบบนี้อายากะก็หลับตาลงครู่หนึ่งราวกับต้องการจะค้นหาความหมายของคำพูดนั้น
จากนั้นเธอจึงลืมตาและก้มหัวคำนับชิกิบุ แล้วหยิบดาบที่อยู่ข้างๆ ก่อนลุกขึ้นยืน
——-
Note 1 : โฮ่ๆ เอางี้เลยนะ
Note 2 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ ผมแปะไว้ใต้เม้นของเพจนะครับ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code